รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 90 ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม
ในคืนนี้ฉันได้ค้างอยู่ที่บ้านของเฉิงอี้เฉิน เราสองคนเป็นเพื่อนบ้านกันเรื่องเดินกลับบ้านเพียงแค่ไม่กี่นาที แต่หลังจากที่ถูกเฉิงอี้เฉินได้ขื่นใจแล้วกลับบ้านไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ยกแขนชี้ไปที่หัวก็ไม่มีแรง
ร่างกายเหนื่อยแต่ใจรู้สึกพอใจมาก เมื่อฉันถูกเฉิงอี้เฉินกอดฉันให้อยู่ในอ้อมแขน ฉันรู้สึกถึงเวลาครึ่งปีกว่านี้ในที่สุดพื้นที่ว่างในใจก็มีของเข้ามาเติมให้เต็มแล้ว
คืนที่มืดมัว ตื่นตอนเช้าตรู่ก็ได้เห็นเฉิงอี้เฉินนอนอยู่ข้างฉันก็ได้เคลิบเคริ้มไป ทั้งยังรู้สึกถึงความแสนหวานชัดเจน
ในระยะครึ่งปีกว่าฉันได้ฝันเห็นเฉิงอี้เฉินจนนับไม่ถ้วน แต่พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าไม่มีใคร ตอนนี้พอที่จะได้เห็นเขาจริงๆ ฉันรู้สึกพึงพใจมาก
ฉันบังคับมือไม้ได้ อยากจะลูบไปที่ริมฝีปากโค้งของเฉิงอี้เฉิน เสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ก็ตรงเวลาได้ดังขึ้นฉันได้รีบปิดเสียงนาฬิกาปลุกที่โทรศัพท์ ดูเวลาที่แสดงอยู่ข้างบนในใจก็”กูตุง”ทันที
เมื่อวานที่ฉันออกมาไม่ได้บอกพี่จางกับพี่หลิวว่าจะไม่กลับบ้าน ตอนนี้ฉันค้างคืนไม่กลับ พวกเธอต้องเป็นห่วงแน่
อีกทั้งทั้งคืนฉันไม่ได้ดูแลฮั่นอี้กับซีหย่า ไม่รู้พวกเขาตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
ฉันเป็นห่วงลูกทั้งสอง ได้ค่อยๆวางเท้าลงจากเตียง
ฉันคิดไว้ไม่อยากทำให้เฉิงอี้เฉินตื่น แต่คิดไม่ถึงว่าเฉิงอี้เฉินนอนหลับตื้นแบบนี้ ฉันขยับเขาก็ตื่น
“คุณจะไปไหน?”เขาคว้ามือฉัน อาจจะเพราะพึ่งตื่นนอน เสียงของเขาแหบแห้ง ทั้งบ่งบอกถึงความตื่นเต้น
“ฉันกลับบ้านไปดูซีหย่ากับฮั่นอี้ ไม่เจอพวกเขามาทั้งคืนแล้ว คุณนอนต่อเถอะ” ฉันจัดระเบียบเสื้อ ในใจเต็มไปด้วยตัวลูกๆแล้ว
ตั้งแต่ที่คลอดพวกเขาถึงตอนนี้ ฉันไม่เคยห่างพวกเขานานขนาดนี้ รู้สึกกังวลเล็กน้อย
“ผมจะไปกับคุณนะ”เฉิงอี้เฉินรีบพลิกตัวขึ้นจากเตียง ฉันอึ้งสักพัก ก็หันไปพยักหน้าให้เขา
ยังไงเฉินอี้เฉิงก็เป็นพ่อของลูก สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยมีอิทธิพลต่อบุคคลอย่างมาก ก็เหมือนฉันจากครอบครัวเล็กแวดล้อมไม่ดี ดังนั้นฉันอ่อนแอมาก ฉันต้องการพิสูจน์ความสามารถตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นเคารพตัวเองมาก อีกทั้งเพราะรู้ว่าครอบครัวตัวเองไม่ดีเท่าใคร ดังนั้นอดไม่ได้ที่จะโทษตัวเอง
เฉิงอี้เฉินเองก็เป็นแบบนี้ เขาได้อยู่สภาพแวดล้อมที่ดีอยู่เสมอ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปสนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง
สังเกตได้ว่าพวกนี้ถ้าไม่ทุนไม่ถึงก็จะมาพูดถึงไม่ได้ คนที่เกิดมาได้ยืนอยู่ยอดเจดีย์ทองจำเป็นต้องแคร์คนอื่นหรอ?
ก็เหมือนเฉิงอี้เฉิน เขาชินกับการที่คนอื่นเอาใจเขา ชินกับคนอื่นที่คอยระมัดระมังเขา เขาไม่ได้ดูถูกน้ำใจคนอื่น ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเหนือชั้นของคนระดับสูง แต่ว่ารูปแบบชีวิตเขาได้ลึกเข้าไปถึงกระดูกแล้ว ไม่ใช่เลบที่จะเปลี่ยนแปลงในคราวเดียวได้
ความเข้ากันของฉันกับเฉิงอี้เฉินพอที่จะเดินมาถึงจุดที่ทำให้คนยากที่คาดถึง ฉันก็ชัดเจน ระหว่างพวกเรายังมีทางให้เดินอีกไกล ต้องการอยู่ด้วยกันไปชั่วนิรันด์ก็ต้องปรับตัวเข้ากัน กระบวนการนี้อาจจะยาก ฉันไม่มีทางที่ถอยหลัง
หลักจากนั้น ฉันได้ลองแล้ว ฉันไม่มีทางลืมเขาได้จริงๆ ยิ่งไม่มีทางที่จะไม่รักเขา
ป้าหวังเห็นฉันสายตาก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ในตาก็มีน้ำตาคลอ “อีอี มาทานข้าวเช้า ฉันทำของที่เธอชอบด้วย”
ใจฉันอบอุ่นขึ้น ถึงแม้เมื่อวานเฉิงอี้เฉินบอกว่าอีกเดี๋ยวจะลงมา แต่ว่าถูกเขาขืนใจเหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ก็ไม่ได้ลงมากินข้าวเลย มันยากที่ป้าหวังเมือวานได้ทำกับข้าวไว้ ทำให้น้ำใจเธอเสียเปล่า
ฉันทำไม่ได้ที่จะปฏิเสธ แต่ก็คิดถึงลูกๆ “ฉันกลับไปดูลูกๆก่อน อีกเดี๋ยวกลับมาทานได้ไหม?
“งั้น ฉันไปดูเด็กๆด้วยได้ไหม?”ตาป้าหวังวาวขึ้น มองฉันอย่างคาดหวัง
ฉันก็ได้ยิ้มแล้วพยักหน้า ป้าหวังก็รีบถอดผ้ากันเปื้อน “เธอรอสักครู่นะ รอฉันสองนาที…”
เขาทั้งพูดทั้งวิ้นไปห้อง ฉันมองการกระทำของเขาอย่างแปลกใจ ได้เห็นป้าหวังได้หิ้วถุงใหญ่ใส่ของเดินออกมา
“นี้คือของที่ฉันกับคุณชายได้ซื้อไว้ให้เด็กๆ คุณชายได้คิดว่าจะเอาไปส่งให้คุณ ก็กลัวว่าคุณเห็นเขาก็จะโกรธ…”ป้าหวังมองฉันแล้วพูด ฉันอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เงยหน้ามองเฉิงอี้เฉิน เห็นหน้าเขาเริ่มแดงกล่ำอย่างบอกไม่ถูก
มองเขาเป็นอย่างนี้ก็ได้แอบยิ้มมุมปาก จริงๆไม่ได้คิดว่าเฉิงอี้เฉินจะซื้อของให้ลูกเยอะขนาดนี้ โทษฉันที่คิดตลอดว่าเฉิงอี้เฉินไม่สนใจลูกทั้งสอง
ดูในถุงช็อปปิ้งมีของเล่นของชายหญิงเต็มไปหมด ใจฉันก็ได้อ่อนนุ่มขึ้นมากทันที
นี้คือความประทับใจของผู้ชายที่มีอำนาจแข็งแกรงคาดไม่ถึงว่าจะมีด้านที่อบอุ่น เขาทั้งยังเป็นห่วงฉันเห็นเขาแล้วจะโกรธ ดังนั้นก็ไม่กล้าที่จะไปบ้านฉันตลอด…..
“รีบไปเถอะ”เฉิงอี้เฉินโอบกอดเอวฉันกลับหลังแล้วเดิน ฉันพยักหน้ารีบเดินออกไป
ตึกทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก เดินมาสองสามนาทีก็ถึงแล้ว ฉันกดรหัสผ่านเปิดประตู พอเปิดประตูพี่จางก็ได้เดินมา
“อีอี เธอกลับมาแล้ว เมื่อคืนเธอ….”พี่จางพูด สายตาก็ได้มองไปที่เฉิงอี้เฉินที่อยู่ข้างฉัน คำหลังจากนั้นก็ไม่ได้ถามต่อ ก็รู้เองทันทีว่าฉันไปที่ไหนมา
ฉันรู้สึกเคอะเขิน แก้มก็ร้อนขึ้นหน่อยๆ “ฮั่นอี้กับซีหย่าเป็นยังไงบ้าง?ไม่ร้องนะ?”
“ไม่ พี่หลิวกำลังป้อนนมให้พวกเขาอยู่”
“ฉันขึ้นไปดูพวกเขา”ฉันเปลี่ยนรองเท้า เรียกป้าหวังกับเฉิงอี้เฉินเข้าบ้าน แล้วได้เดินขึ้นไปชั้นบน
เห็นลูกๆกำลังใช้ขวดนมกินท่าทางอร่อย ฉันก็อดยิ้มไม่ได้
“ป้าหวัง นี้คือฮั่นอี้ นี้คือซีหย่า”ฉันยิ้มและแนะนำให้ป้าหวังรู้ ป้าหวังเห็นเด็กทั้งสองก็ชอบยิ้มไม่หุบ ก็ได้พยักหน้า
“อึม ฉันรู้ ฉันรู้….”เขาเอ่ยปาก สายตาที่มองดูที่เด็กๆไม่ละสายตา “เด็กทั้งสองหน้าเหมือนกับคุณชายมาก”
“อึม”ฉันตอบ ในใจเหมือนเป็นความสุขที่ไม่เคยมีมาก่อน
แต่ก่อนดูลูกทังสองหน้าเหมือนเฉิงอี้เฉิน อารมณ์ฉันก็สับสนมาก เพราะว่าเห็นพวกเขาฉันก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเฉิงอี้เฉิน ไม่ก็กังวลว่าต่อไปเฉิงอี้เฉินเห็นเข้าก็เดาได้ว่านี้เป็นลูกของเขา
แต่ว่า เวลานี้ความสัมพันธ์ของฉันมันได้ชัดเจนแล้ว สำหรับเรื่องที่ลูกหน้าเหมือนเฉิงอี้เฉินยอมรับด้วยความยินดี
เฉิงอี้เฉินหน้าตาหล่อเหลา ธรรมดาที่ลูกหน้าตาเหมือนเขาก็เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง
ดูฮั่นอี้กับซีหย่ากินนมเสร็จ ป้าหวังอดที่จะอยากกอดเด็กๆไม่ได้ ฉันได้อุ้มฮั่นอี้วางไว้ที่อ้อมแขนป้าหวัง มองเธอใบหน้าที่เต็มไปด้วยร้อยยิ้มในใจก็คงรักมาก
เพียงแต่กริ่งประตูได้ดังจากข้างล่างขึ้นไป ท่าทีของฉันได้แข็งทื่อไปสักพัก เวลานี้ได้เครียดขึ้นทันที