ม่านตาของเฉิงอี้เฉินหดตัวลงไปทันที ลูกกระเดือกขยับเล็กน้อย เขาผายอกขึ้นเล็กน้อย สุดท้ายก็สะบัดมือฉันออกแล้วก็ก้าวเดินออกไปเลย
ฉันทรุดลงนั่งบนพื้นเหมือนถูกดูดเรี่ยวแรงออกไปจนหมดแล้ว ความเชื่อใจทั้งหมดพังทลายหมด ฉันร้องโฮ่ออกมาอย่างเสียงดัง
นี้เหรอเหตุผลที่เลือกคบกับฉัน? ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน? เธอกับอี้เฉินเป็นอะไรกันแน่
คำถามากมายเกิดขึ้นในหัวสมองฉัน แต่ว่าตอนนี้อี้เฉินเดินออกไปแล้ว ฉันไม่สามารถหาคำตอบได้
“อีอี เธอเป็นอะไร? ร้องไห้ทำไม…….”ป้าหวังน่าจะได้ยินฉันร้องไห้เสียงดังเลยขึ้นตึกมา เขาพยายามพยุงฉันลุกขึ้น
เขาเห็นเศษกระจกที่แตกแล้วบอกฉันว่า “ระวังเศษกระจนนะคะ”
ฉันร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตาย ไม่อยากจะแม้แต่ลุกขึ้นตามที่ป้าหวังพยุง ป้าหวังกลัวฉันโดนเศษบนพื้น เลยไม่กล้าดึงฉันอย่างแรง
“อีอี. ลุกก่อนดีไหม? อย่าทำให้ต้องบาดเจ็บเพราะเศษแก้วเลย”ป้าหวังกุมมือปลอบใจฉันแล้วพูดกับฉัน
ฉันไม่มีอารมณ์จะมาสนใจป้าหวัง หัวสมองมีแต่ภาพที่อี้เฉินจากไป สีหน้าที่เย็นชา อารมณ์หงุดหงิดของเขา
เขาทำไมไม่อธิบายละ? ทำไมไม่อยากให้ฉันรู้? ในใจเขาฉันเป็นตัวอะไรกัน?
คำพูดที่เขาเคยบอกกับฉันเมื่อก่อน เขาบอกจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับฉัน โกหก!!
ใจฉันเหมือนมีมือมาบีบไว้แน่นแน่น เจ็บจนหายใจไม่ออก อี้เฉินโผล่หน้ามาด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ริมฝีปากที่บางของเขา เขาไม่พูดอะไรนอกจากจะอุ้มฉันลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ห้องนอน
อี้เฉินว่างฉันบนเตียงเสร็จกำลังจะเอามือออก แต่ฉันจับอีกมือของเขาไว้แน่ๆ “ผู้หญิงคนนั้นคือใคร เขาเป็นคนอะไรกับนาย”
ฉันแอบกลัวคำตอบเล็กน้อย แต่ก็อดไม่ไหวที่จะฟังคำตอบจากปากเขา
อี้เฉินก็ยังขมวดคิ้วเหมือนเดิม”เธออย่าดื้อได้ไหม ฉันยังมีงานต้องทำ”
“ ฉันไม่ได้ดื้อ!“ฉันตอบกลับด้วยสีหน้าที่เย็นชา
น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด เจ็บปวดเหมือนมีมือมารัดคอฉันไว้ทำให้ฉันให้ใจไม่ออก
“เธอคบกับฉันเพราะหน้าฉันเหมือนผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม? เธอคือคนที่นายชอบใช่ไหม”
“พักผ่อนดีดี”
คำนี้อีกแล้ว!
ฉันโกรธจนอยากตีคน แต่อี้เฉินไม่มีวี่แววจะหยุด เดินออกไปทันที ฉันพยุงตัวเองลุกขึ้นไปตามเขา แต่ป้าหวังดันฉันไว้ก่อน ฉันทำได้เพียงมองเขาเดินลงตึกไป
“อีอี เธอใจเย็นๆ นะ ใจเย็นๆก่อน……”
“ป้าหวัง ป้ารู้จักผู้หญิงในรูป เธอเป็นใครไหม?”ฉันเหมือนจับหญ้าที่จะช่วยชีวิตตัวเองได้ไว้ ป้าหวังตอบกลับอย่าเร่งรีบ
ป้าหวังเคยบอกว่าดูแลอี้เฉินมาตั้งแต่เด็กๆ ดูแลมาโดยตลอด อย่างงั้นเขาก็ต้องรู้เรื่องอี้เฉินสิ
แต่ว่า ป้าหวังมองหน้าฉันแล้วบอกกับฉันอย่างถอนหายใจว่า “ใจเย็นก่อนนะ คุณชายจะอธิบายเรื่องนี้ให้เธอฟังแน่นอนค่ะ ”
สมองฉัน มีเสียง“โห่” ทีหนึ่ง ปล่อยมือไปอย่างหมดเรี่ยวแรง
ป้าหวังรู้ ป้ารู้เรื่อง…..
ดังนั้น รู้ตั้งแต่แรกแล้วเหรอว่าเป้าหมายที่อี้เฉินอยู่กับฉันเพราะอะไร?
แต่ป้าหวังกลับบอกว่าผู้หญิงที่ข้างอี้เฉินมาหลายปีนี้ มีฉันแค่คนเดียว คำว่าหลายปีนี้มันปีไหนกัน! ปีนี้?ปีที่แล้ว? หรือปีที่ผู้หญิงคนนั้นไม่อยู่แล้ว ?
ผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน? มันคือใครกัน!
ฉันบ้าตายเพราะคำถามในสมอง แต่ฉันนึกใครบางคนขึ้นมาได้
ก่อนหน้านี้ จิ้นเหวินเชี่ยนเคยพูดว่าจะพูดเรื่องที่เกี่ยวกับอี้เฉินให้ฉันฟัง อาจเป็นเรื่องนี้หรือเปล่า
ฉันดันป้าหวังออกด้วยแรงสุดเหวี่ยง แล้วก็ก้าวเท้าออกจากที่อย่างรวดเร็ว
“อีอี”
เสียงที่ป้าหวังเรียกฉันดังมาจากข้างหลัง แต่ฉันไม่มีวี่แววที่จะหยุด
ฉันจะไปเจอจิ้นเหวินเชี่ยน ฉันจะรู้ให้ได้ว่ามันเป็นเรื่องอะไรกัน!
ฉันขับรถออกมาด้วยความเร็ว ระหว่างทางก็โทรหาจิ้นเหวินเชี่ยน
“ลั่วอีอี? เธอหาฉัน?”เสียงของจิ้นเหวินเชี่ยนเหมือนกำลังแปลกใจที่ฉันโทรหาเธอ
“ออกมาเจอกันหน่อย ……”เสียงของฉันสั่นเล็กน้อย
“เจอกัน?”เธอดูระแวง”เธอจะทำอะไร”
ฉันสูดลมหายใจเข้า เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง กัดฟันตอบเขา “คุยเรื่องที่เธอตกลงไว้ครั้งก่อน”
“จริงเหรอ!”
“จริงสิ”ฟังน้ำเสียงที่ตื่นเต้นของเธอ ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้น
“ที่ไหน?เวลาไหน?”
ฉันบอกตำแหน่งให้เธอไป จอดรถไว้ข้างทางให้ตัวเองใจเย็นลง
เมื่อจะต้องไปเจอจิ้นเหวินเชี่ยนฉันจะไม่ยอมให้เขาเห็นว่าฉันในสภาพแบบนี้ได้ ไม่งั้นจิ้นเหวินเชี่ยนจะฉวยโอกาสนี้เป็นประโยชน์แน่ๆ อาจไม่บอกเรื่องที่ฉันอยากรู้
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉันมาถึงร้านกาแฟที่นัดกับเธอเอาไว้ ฉันแต่งหน้าบนรถ มองตาที่แดงระรื่นของฉัน ฉันหยิบแว่นตามาขึ้นมาใส่ หากไม่สังเกตดีดีก็ดูไม่ออกว่าฉันร้องไห้มาก่อน
จิ้นเหวินเชี่ยนนั่งอยู่ตรงมุมคนเดียว ฉันเดินเข้าไปนั่งลง เห็นได้ชัดเจนว่างท้องของเธอพองขึ้น และสีหน้าของเธอก็ดูไม่ดีเหมือนก่อน
“ลั่วอีอี ทำไมเธอถึงเปลี่ยนความคิดละ ?”เธอถามฉันด้วยความอยากรู้
ฉันมองเธอแล้วแต่ไม่ตอบเธอ ฉันโบกมือเรียกพนักงานมาตรงนี้
“อยากดื่มอะไรละ ดื่มไปด้วยคุยไปด้วย” ฉันทำเป็นคุยกับเธอด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
จิ้นเหวินเชี่ยนขมวดคิ้วอย่าง งง แต่เพราะพนักงานอยู่เลยไม่เปิดปากพูด
ฉันรอจนกาแฟสองแก้วที่ฉันมาแล้ว คิดว่าจิ้นเหวินเชี่ยนคงรอจนไม่ไหวแล้ว เลยถามเธอไปว่า
“อี้เฉินขอฉันแต่งงานแล้วนะ”ฉันยกมือให้เขาเห็นแหวนในนิ้วฉัน ใจฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที”ฉันตอบตกลงแล้วด้วย”
“อืม ฉันรู้ และเธอยังทิ้งให้เขาอยู่ที่ร้านอาหารคนเดียวด้วย”จิ้นเฟวินเชี่ยนเชยตาใส่ฉัน อยู่ดีดีก็พูดแบบนี้ แต่ฉันก็พอเข้าใจว่าอิจฉาล้วนๆ
ฉันชะงักไปแปบเดียว กำแพงมีหู ประตูมีตาเรื่องมันเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องนี้ถึงแม้ไม่ได้แพร่ไปทั่ว แต่คนที่รู้ก็ใช่ว่าน้อยๆ
ฉันไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ แล้วบอกกับเธออีกว่า “ฉันคิดว่าจะอยู่กับอี้เฉิน ดังนั้นฉันไม่ต้องการให้เธอมากเยาะเย้ยฉันอีก แต่ฉันก็เเอบสงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน”
ฉันถือแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม เพื่อปิดบังการตื่นเต้นของฉัน
จิ้นเหวินเชี่ยนยิ้มเจื่อนๆ”สิ่งที่เธอทำมันไม่พออีกเหรอ?”
“ลั่วอีอี เธอเอาคลิปเสียงไปให้ฉินจวิ้นเฟย และตอนนี้ยังมาพูดว่าจะคุยเรื่องขอตกลง เธอคิดว่าฉันโง่หรือไง!”จิ้นเหวินเชี่ยนเอากาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะสาดใส่หน้าฉัน
มันร้อนจนหน้าฉันแสบไปหมด ยังดีที่ใส่แว่นตาไว้ไม่งั้นอาจโดนตา เวลาที่กาแฟสาดใส่หน้าฉัน ฉันเห็นสีหน้าที่ทุกข์ทรมาน ฉันแอบสะใจแปลๆ
ฉันไม่ได้พูดอะไร ยื่นมือไปเอากระดาษทิชชูมาเช็ดหน้า และถอดแว่นตาลงมาเช็ดให้สะอาด หน้าตาเฉยชาจนน่ากลัว
จิ้นเหวินเชี่ยน มองฉันด้วยสายตากำลังโกรธ แต่อาการของเธอกลับยิ่งอยู่ยิ่งกังวัล
ฉันมาเขาด้วยสายตาเย็นชา “ดังนั้น เธอจะให้ฉันเอาคลิปและเอกสารไปให้เขาว่างั้น?
MANGA DISCUSSION