รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 115 ไม่กังวลอีกต่อไป (ตอนจบ)
สีหน้าของเฉิงอี้เฉินผิดปกติ ดูผิดปกติมาก ฉันไม่กล้าดิ้นหรือขยับเพราะเมื่อกี้ที่ฉันขยับเฉิงอี้เฉินก็เจ็บจนขมวดคิ้ว
สรุปว่าเป็นอะไรกันเเน่? ได้รับบาดเจ็บหรอ?
“อีอี ขอโทษ” เขากอดฉันไว้เเน่นๆ เเล้วพูดข้างๆหูของฉัน
ใจของเหมือนถูกอะไรมากระเเทกใส่มันเจ็บปวดมาก จนไม่มีเเรงเเละความคิดที่จะดิ้นออก
ช่วงเวลาที่ผ่านมานนี้เขาไม่สนใจฉันเลย เเต่ตอนนี้มาอยู่ต่อหน้าฉันเเล้วก็ขอโทษฉัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่?
“เกิดอะไรขึ้น? ” ฉันพิงเฉิงอี้เฉินเอาไว้ไม่กล้าขยับเเล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำเเละเเผ่วเบา
เฉิงอี้เฉินกอดฉันเเล้วหายใจเข้าลึกๆเเละพาฉันกลับไปนั่งที่นั่งเดิม ดูจากคำพูดของเฉิงอี้เฉินฉันพอจะรู้เเล้วว่าช่วงเวลาที่ผ่านเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นฉันก็อยากจะร้องไห้ออกมา
วันนี้ที่ฉันจากออกมา ความจริงคือเฉิงอี้เฉินซื้อตั๋วเครื่องบินเเละจะตามฉันมาเเต่ว่าเมื่อถึงสนามบินอยู่ๆเฉิงอี้เฉินก็สลบลงไป คนที่เดินทางด้วยกันจึงรีบส่งเฉิงอี้เฉินไปโรงพยาบาล ผลตรวจออกมายืนยันว่าเฉิงอี้เฉินมีเนื้องอกเเละขนาดไม่เล็กด้วย
เมื่อตอนที่ได้ยินเรื่องนี้ฉันนิ่งเเละอึ้ง ฉันจับเเขนของเฉิงอี้เฉินเอาไว้เเน่นๆ นอกจากร้องไห้เเล้วฉันก็พูดไม่ออกสักคำเลย
เรื่องต่อไปก็เข้าใจง่ายมาก เฉิงอี้เฉินไม่ติดต่อฉันเพราะว่าเนื้องอกมันก้อนใหญ่ทำให้คนอดสงสัยไม่ได้ว่ามันจะเป็นเนื้องอกร้าย
ช่วงเวลาที่ฉันเดินออกมาเฉิงอี้เฉินต้องต่อสู้กับโรคร้ายเเละในที่สุดก็พบว่าเป็นเนื้องอกร้ายจริงๆ
ตอนที่ได้รู้ถึงเรื่องนี้ตัวเฉิงอี้เฉินเองก็ช็อกเเละตกใจเหมือนกัน เเต่เฉิงอี้เฉินก็คิดอยู่นานสุดท้ายก็เลือกที่จะปิดบังฉันเเละใช้โอกาสนี้ในการเดินออกไปจากฉันเเละปล่อยฉันไป
เขากำชับทุกคนไม่ให้บอกฉัน จากนั้นก็จัดการเรื่องทุกอย่าง ตอนนั้นเขาตัดสินใจที่จะออกงานกับสวีเฟยเฟยปล่ยอๆ พูดยอมรัยออกไปกับสื่ออย่างไม่ชัดเจนก็เพื่อให้ฉันเข้าใจว่าเขากำลังจะหมั้นกับสวีเฟยเฟย
เขากำลังหลอกใช้สวีเฟยเฟยเเละก็คิดวิเคราะห์คำนวณฉันอยู่
เฉิงอี้เฉินคำนวณได้อย่างเเม่นยำว่าฉันนั้นต้องรู้เรื่องนี้เเน่นอน ถึงเเม้จะไม่ได้เห็นทางทีวี เขาก็จะหาทางให้คนอื่นคาบข่าวมาปล่อยให้ฉัน เเละก็คำนวณได้อย่างเเม่นยำว่าตามนิสัยของฉันเเล้วฉันจะไม่ไปหาเขาอีก
ในตอนนั้นเขาตัดสินใจเเล้วว่าจะเข้ารับการผ่าตัด เขาไม่มั่นใจว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดออกมาไหม เขาจึงใช้วิธีนี้เพื่อขีดเส้นเเบ่งระหว่างฉันกับเขาให้ชัดเจน
ถ้าเกิดว่าการผ่าตัดของเขาล้มเหลวเขาก็จะหายไปจากโลกของฉัน เเต่ถ้าการผ่าตัดสำเร็จเขาก็จะกลับมาหาฉันเเละตามให้ฉันกลับไป
ฉันได้ยินที่เฉิงอี้เฉินพูดก็ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเขา ฉันเอาเเต่ด่าเขาว่าโง่เเละเป็นไม่ดี มีสิทธิ์อะไรที่ไม่บอกฉัน เเต่เฉิงอี้เฉินเเค่มองมาที่ฉันอย่างอ่อนโยนเเล้วยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน
หลังจากนั้นไม่นานอารมณ์ของฉันก็เริ่มสงบลง ฉันยังคงจับเเขนของเฉิงอี้เฉินไว้เเน่นๆ เงยหน้ามองเขา “ตอนนี้ร่างกายของคุณเป็นยังไงบ้าง? ร่างกายฟื้นคืนเป็นปกติยัง?”
เฉิงอี้เฉินพยักหน้าเเล้วยิ้ม “ตอนนี้อาจจะยังทำให้คุณพอใจไม่ได้ เเต่ว่ารออีกไม่นานก็สามารถมีน้องให้กับซีหย่ากับฮั่นอี้ได้”
ฉันหน้าเเดงขึ้นทันทีที่ได้ยินคำพูดที่ไม่จริงจังของเขา อดไม่ได้ที่จะต่อยเขาอย่างเบาๆ
ปริศนาทั้งหมดได้ถูกไขออกมาเเละฉันถอนหายยาวใจด้วยความโล่งอก เเต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะมองหาเฉินตงหลี
เขามากับฉันเเท้ๆ เเต่หายไปไหน?
“เฉินตงหลีกลับไปเเล้ว เขาให้ผมเอาอันนี้ให้คุณ” เฉิงอี้เฉินพูด
ฉันนิ่งไปสักพัก มองไปที่มือของเฉิงอี้เฉินที่ถือซองจดหมายเอาไว้อยู่
ในขณะนั้นฉันมีลางสังหรณ์ในใจ ฉันรีบเปิดซองจดหมาย กระดาษจดหมายถูกวาดด้วยลวดวายที่สวยงามเเละมีกลิ่นหอมจางๆ อีกอย่างเป็นตัวหนังสือที่เฉินตงหลีเขียนเอง
“อีอี ใกล้จะถึงสามเดือนเเล้ว ในช่วงเวลาสามเดือนนี้ที่ได้อยู่ข้างคุณผมมีความสุขมาก เเต่ผมรู้ดีว่าคุณไม่ได้รักผม อีกอย่างกลัวว่าต่อไปคุณก็ไม่มีวันรักผม”
“เรื่องที่เฉิงอี้เฉินป่วยผมรู้ ก่อนที่เขาจะทำเรื่องพวกนี้ เขาเคยมาหาผม ให้ผมปิดบังคุณเอาไว้ ตอนเเรกอยากฉวยโอกาสจากเรื่องนี้ เเต่ผมก็ล้มเหลว ตลอดที่ผ่านมานี้ที่ผมจัดการเรื่องทะเบียนบ้านของซีหย่าเเละฮั่นอี้ ความจริงเเล้วเฉิงอี้เฉินเป็นคนจัดการให้คนมาทำทั้งหมดเลย”
“โชคชะตามันก็เป็นเช่นนี้ คนที่คู่ควรกันเเม้ว่าจะผ่านความยากลำบากเเค่ไหน ก็สามารถมีใครเข้ามาเเทรกเเซงได้”
“ขอให้คุณมีความสุขเเละผมก็จะไปตามหาความสุขของตัวเอง จากตงหลี ”
เมื่อมองดูลายมือที่คุ้นเคยนี้น้ำตาของก็ไหลออกมา เหตุการณ์ในอดีตมันผุดขึ้นมาในหัวของฉัน ฉันเอาจดหมายเเนบเเน่นๆเอาไว้ที่หน้าอกของฉัน ได้เเต่พูดในใจว่าภาวนาขอให้เฉินตงหลีได้พบเจอความสุขของตัวเองโดยเร็ว
เฉิงอี้เฉินกลับบ้านกับฉัน เเม่ฉันเห็นเฉิงอี้เฉินกับฉันอยู่ด้วยกันก็ดูโมโหเหมือนอยากจะตีคน หยิบหมอนข้าง เเล้วโยนใส่เฉิงอี้เฉิน ฉันรีบมาบังเฉิงอี้เฉินเอาไว้เเล้วอธิบายให้เเม่ฟัง หลังจากที่เเม่ได้รู้ว่าเฉิงอี้เฉินเพิ่งผ่าตัดมาก็เป็นห่วงอย่างมาก เเต่ว่าต้องการเข้าใจถึงความห่วงใยที่เฉิงอี้เฉินมีต่อฉัน เเม่จึงทำได้เเค่ร้องไห้เงียบๆ
หลังจากนั้นไม่นานอารมณ์ของเเม่ก็สงบลง เเต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉับกับเฉิงอี้เฉินในตอนนี้ว่าเป็นอะไรกัน
“เธอกับอีอีสรุปเเลวหย่ากันจริงๆหรือเปล่า? เเล้วงานเเต่งหล่ะ วางแผนจะจัดไหม?” เเม่ฉันถอนหายใจ มองไปที่เเล้วพูดอย่างจริงจัง “ถึงเเม่ว่าบ้านของฉันจะจน เเต่ว่าอีอีเป็นเด็กดี ถ้าเกิดว่าชอบอีอีจริงๆ เธอก็ใช้ชีวิตอีอีให้ดีๆหล่ะ”
“เเม่ครับ ไว้ใจได้เลย ผมกับอีอีเป็นสามีภรรยากัน นี่เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนเเปลงได้ อีกอย่างงานเเต่งของผมกับอีอีได้เตรียมไว้เรียบร้อยเเล้ว พร้อมจัดขึ้นได้ตลอดเวลา”
ฉันได้ยินคำนี้ก็อึ้งไปสักพักเพราะว่าเฉิงอี้เฉินไม่เคยพูดเรื่องนี้กับฉัน
เเต่ในไม่ช้าเฉิงอี้เฉินก็ได้พิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ใช่เรื่องโกหก
เฉิงอี้เฉินโทรหาบริษัทรับจัดงานเเต่งต่อหน้าฉันกับเเม่ของฉัน บริษัทจัดงานเเต่งก็รีบส่งคนมาพร้อมกับเเผน การเเต่งงาน เมื่อมองไปที่แผนการเเต่งงานฉันก็พูดไม่ออก เพราะว่ามันเเผนที่ฉันเคยคุยเอาไว้กับเฉิงอี้เฉินเมื่อครึ่งปีก่อน
เพียงเเค่ว่าตอนนี้เเผนการเเต่งงานนั้นทำอย่างละเอียดเเละโรเเมนติกมากขึ้น
ในที่สุดหัวใของเเม่ก็ปล่อยวางลง เเต่ฉันไม่สามารถปล่อยวางได้เพราะว่าฉันไม่รู้ว่าเเม่กับย่าของเฉิงอี้เฉินจะว่าอย่างไร
เเต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องเผชิญหน้า ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาฉันอยากมีชีวิตเเบบนี้ให้ซ่งเสวี่ยเหมยดู ตอนนี้ถึงจะไม่สามารถเทียบกับเฉิงอี้เฉินได้ เเต่ว่าฉันมีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด สิ่งสำคัญที่สุดคือฉันกับเฉิงอี้เฉินเราทั้งสองได้เข้าใจถึงปัญหาที่เเท้จริงเเล้ว
เมื่อมองไปที่ผู้ชายข้างๆฉัน ในที่สุดฉันยิ้มออกมาได้อย่างมีความสุข ความกังวลทั้งหมดทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เหมือนกับที่เฉิงอี้เฉินพูดเอาไว้ว่า คนที่จะเเต่งกับฉันก็คือเขา เเล้วทำไมฉันจะต้องกังวลอีกต่อไปล่ะ?