สือเสี่ยวหรันตั้งใจทำหน้าลึกลับพูด: “จริงๆ แล้วเนี่ย ก็ไม่ใช่ความลับอะไร ก็แค่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเล็กๆ น้อยๆ ของประธานเฉิน”
เย่เสวี่ยจู๋พยักหน้า เผยให้เห็นความสนใจอย่างมากในแววตา
สือเสี่ยวหรันจิ้มๆ ที่ใบหน้าของเธอ แกล้งเธอ: “เสวี่ยจู่~ คิดไม่ถึงเลยนะว่าเธอจะขี้เมาท์ขนาดนี้!”
เย่เสวี่จู๋ตระหนักได้ทันทีว่าตัวเองแสดงออกชัดเจนเกินไป ถ้าเปลี่ยนเป็นความลับของคนอื่นๆ บางทีเธออาจจะไม่อยากฟัง แต่ที่เกี่ยวกับเฉินซิงเหย้า ไม่รู้เพราะอะไร เธอก็จะให้ความสนใจมาก
สือเสี่ยวหรันเลิกคิ้วหัวเราะ กดเสียงต่ำพูดข้างหูเย่เสวี่ยจู๋: “ฉันได้ยินหัวหน้าของเราบอกว่า คุณหนูของตระกูลเจียงกำลังตามจีบประธานเฉินของเราอยู่! เธอรู้ไหมว่าตระกูลเจียงเป็นใครมาจากไหน? ร่ำรวยมีอำนาจ มีภูมิหลังทั้งด้านธุรกิจและทางการเมือง!”
เย่เสวี่ยจู๋นึกถึงเมื่อคืนที่บ้านตระกูลเฉินทันที จากที่ได้ยินเจียงซินเหยาลูกสาวคนเดียวของตระกูลเจียงจากปากคุณนายใหญ่เมิ่งหรูฮวา แต่คุณนายใหญ่บอกว่าเจียงซินเหยากับคุณชายใหญ่ของตระกูลมีความสัมพันธ์รักใคร่กันไม่ใช่เหรอ? ทำไมกลายเป็นกับเฉินซิงเหย้าล่ะ?
“คุณหนูตระกูลเจียง คือเจียงซินเหยาเหรอ? ” เย่เสวี่ยจู่พูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจ
สือเสี่ยวหรัน “เสวี่ยจู๋ เธอรู้จักเจียงซินเหยาด้วย?”
เย่เสวี่ยจู่แสร้งทำเป็นนิ่ง โกหกกลับไป “คุณหนูแบบนี้ฉันจะรู้จักได้ยังไง? แค่เคยได้ยินคนอื่นพูดถึง!”
สือเสี่ยวหรันก็ไม่สงสัย ผงกหัวอย่างแรง: “เธอนั่นเอง! เป็นเธอนั่นเอง! เจียงซินเหยามีชื่อเสียงมากที่หนานเฉิง ทุกคนบอกว่าใครก็ตามที่แต่งงานกับเธอก็จะเป็นทายาทของตระกูลเจียง! ที่หนานเฉิงมีคุณชายคนไหนบ้างที่ไม่อยากแต่งงานกับเธอ? ความมั่งคั่งของตระกูลเจียงนั้นร่ำรวยเทียบเท่าประเทศ! แม้แต่ตระกูลของประธานเฉินพวกเขายังเทียบไม่ได้แม้แต่หนึ่งในสิบของตระกูลเธอ! ”
เรื่องนี้ เย่เสวี่ยจู๋ก็เคยได้ยินมา ต่างว่ากันว่าคุณหนูตระกูลเจียงจะเป็นสะใภ้แสนล้านในอนาคต หากใครแต่งงานกับเธอ ก็จะร่ำรวยมั่งคั่งมากใช้ไม่หวั่นไม่ไหว
แต่เจียงซินเหยาเป็นคู่กับคุณชายใหญ่ตระกูลเฉินไม่ใช่เหรอ? แล้วเกี่ยวอะไรกับเฉินซิงเหย้า?
สื่อเสี่ยวหรันหัวเราะอย่างคาดเดาไม่ได้: “ฉะนั้นฉันถึงบอกว่าประธานเฉินของเรามีมหาเสน่ห์ไง! คุณหนูตระกูลเจียงยังชอบเขาเลย! ฉันได้ยินหัวหน้าพูดว่า มีงานเลี้ยงเข้าสังคมเมื่อคืนนี้ เจียงซินเหยาก็ไป ยังช่วยประธานเฉินอีกด้วย แนะนำความสัมพันธ์ให้เขารู้จักมากมาย แต่หลังจากจบเรื่อง เฉินซิงเหย้าก็ไม่ได้ขอบเจียงซินเหยาแต่อย่างใด คนเขารอเกือบทั้งคืนก็เพื่อต้องการรอให้เขาไปส่งเธอกลับบ้านหลังจากเข้าสังคมเสร็จ ใครจะรู้ประธานเฉินตาขาวนี่ หลังจากงานเลี้ยงจบเขาก็รีบบอกว่าเขามีเรื่องด่วนที่ต้องรีบกลับบ้านซะงั้น เจียงซินเหยาถามเขาว่ามีเรื่องด่วนอะไร เขาก็บอกว่าจะกลับบ้านไปกินโจ๊ก!”
พูดถึงตรงนี้ สือเสี่ยวหรันก็หัวเราก๊ากออกมา “เธอว่านี่มันตลกไหม? หัวหน้ายังแอบบอกฉันอีกว่า ตอนที่เจียงซินเหยาได้ยินว่าประธานเฉินบอกว่าจะกลับบ้านไปกินโจ๊ก หน้าซีดเลย! เธอว่าประธานเฉินของเราเป็นผู้ชายที่อายุยี่สิบสามสิบปีแล้ว ทำไมยังชอบกินโจ๊กที่คุณแม่ทำอีกนะ! ฉันตลกจะแย่! เสวี่ยจู๋เธอว่าไหม?”
เย่เสวี่ยจู๋ฟังอย่างเหม่อลอย เป็นเวลานานก็ยังไม่ตอบสนอง หลังจากโดนสือเสี่ยวหรันชนเธอด้วยศอก จึงพูดอย่างงงๆ : “ใช่ ดูแปลกคนจริงๆ ……”
สือเสี่ยวหรันหัวเราะอย่างโอเวอร์มากขึ้น: “ใช่เลยใช่เลย ไม่เคยเห็นคนอะไรแปลกๆ อายุปูนนี้แล้วยังต้องดื่มโจ๊ก ประธานเฉินก็คือหนุ่มรูปงามที่แปลกคน! ไม่สนใจผู้หญิงที่ผู้ชายทั่วทั้งหนานเฉิงต้องการจีบ เขากลับอยากได้โจ๊กถ้วยหนึ่ง!”
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน ลิฟต์ก็มาถึง เข้าไปในลิฟต์ เย่เสวี่ยจู๋ถอนหายใจอย่างอึดอัด ก็ยังรู้สึกว่าหายใจยาก
ต้องเป็นเพราะมีคนอยู่ในลิฟต์มากเกินไปอากาศไม่ถ่ายเท เย่เสวี่ยจู่คิดแบบนั้น
แต่พอออกจากลิฟต์แล้ว กลับไปที่ห้องทำงานแผนกวิศวกรรม เธอยังรู้สึกว่ามีก้อนหินติดอยู่ที่หน้าอกของเธอ ไม่ว่ายังไงก็หายใจลำบาก
เย่เสวี่ยจู๋ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทั้งเช้า เธอเดาว่าสักพักเฉินซิงเหย้าก็จะมาหาเรื่องตัวเอง แต่ผ่านไปทั้งเช้าแล้ว เฉินซิงเหย้าก็ยังไม่ปรากฏตัว
เพื่อนร่วมงานในบริษัทบอกว่าวันนี้ประธานเฉินไม่ได้มาที่บริษัท นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่ผ่านมาเว้นแต่เฉินซิงเหย้าจะออกไปทำธุระข้างนอก ไม่อย่างงั้นจะมาสแกนบัตรที่บริษัททุกเช้า จัดการเรื่องต่างๆ เสร็จแล้วค่อยออกไป แต่เช้าวันนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาปรากฏที่บริษัทเลยด้วยซ้ำ
หัวหน้าแผนกวิศวกรรมนำแผนผังไปที่ห้องทำงานของเขาเคาะประตูหลายครั้ง ก็ยังไม่มีการตอบกลับ พอกลับมาก็ยังทำหน้างงอยู่ในห้องทำงานและตะโกนลั่น “แปลกแล้ว ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนประธานดื่มเยอะเช้าวันนี้ตื่นไม่ไหวนะ?”
เย่เสวี่ยจู๋อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง คิดในใจเกิดเรื่องอะไรกับเฉินซิงเหย้าแล้วจริงๆ หรือเปล่า?
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ ในเธอจึงไม่อยู่กับการทำงาน จัดทำแผนผังการตรวจสอบทางวิศวกรรม ผิดติดต่อกันหลายจุด หัวหน้าก็ไม่ไว้หน้าวิพากษ์วิจารณ์เธอที่ไม่ตั้งใจทำงานอย่างจริงจังต่อหน้าทุกคน เย่เสวี่ยจู่ทำได้เพียงต้องยอมรับคำวิจารณ์
หลังจากกินข้าวมื้อเที่ยงถึงตอนบ่าย หัวหน้าก็ส่งเย่เสวี่ยจู๋ทำธุระในสถานที่ไซต์งานก่อสร้าง เย่เสวี่ยจู๋รับงานนี้โดยไม่มีบ่น ใครทำให้เธอทำผิดพลาดแม้แต่ขั้นพื้นฐานที่สุดในการตรวจสอบทางวิศวกรรมล่ะ?
แม้ว่าช่วงนี้อากาศจะเย็นลงเรื่อยๆ แต่แดดก็ยังคงแรงอยู่ในตอนบ่าย เย่เสวี่ยจู๋เดินออกจากอาคารสำนักงานพร้อมกับแผนผังกองโต หลังจากเดินไปได้ไม่นานหน้าผากก็มีเหงื่อออกเล็กน้อย
เมื่อเดินไปถึงประตูอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท เธอเห็นรถลินคอล์นในเวอร์ชันที่ขยายยาวออกไป จากนั้นก็เห็นคนที่นั่งตรงที่นั่งหลังรถลินคอล์นคือเฉินซิงเหย้า
เขามีรูปร่างสูง ขณะนั่งก็มีสรีระที่ยึดตรง ตามองตรงไปข้างหน้า จอดอยู่หน้าตึกบริษัท คิดว่าคงกำลังรอรองประธานบริษัทอีกคน เย่เสวี่ยจู๋จ้องไปที่ชายที่นั่งอยู่ด้านหลัง เฉินซิงเหย้ายังคงหันข้างให้กับเธอ ไม่ได้รู้สึกถึงสายตาของเธอที่กำลังมองอยู่ ไม่ได้หันกลับไป ไม่กะพริบตาเลยด้วยซ้ำ
เย่เสวี่ยจู๋ยืนอยู่ตรงนั้นและจ้องมองเขาอย่างเหม่อลอยสักพัก จากนั้นก็เดินไปที่สถานีขนส่งพร้อมกับแผนผัง
ระหว่างไปที่เดินไปข้างหน้า เธอแอบคิด ดูสิ นี่ก็คือระยะระหว่างเธอกับเขา เขายังคงนั่งอยู่ในรถอย่างสูงส่ง ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือตอนนี้ เขาก็ยังคงเป็นคนที่สูงส่งที่ไม่อาจเอื้อมถึง ส่วนเธอนั้น ยังคงเดินอยู่บนถนน นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน เปลี่ยนนั่งรถบัส พวกเขาเป็นคนจากสองโลกที่แตกต่างกัน
คุณนายเฉินพูดไม่ผิดเลย เธอไม่เหมาะสมกับเขา เธอกับเฉินซิงเหย้าเป็นคนในชนชั้นที่ต่างกัน แม้ว่าจะฝืนเดินเคียงข้างกัน ไม่มีทางงมีความสุขอย่างแน่นอน
เฉินซิงเหย้าคุณชายผู้เป็นที่รักและโชคดีคนนี้ ก็ควรไปหาผู้หญิงอย่างเจียงซินเหยา ภูมิหลังครอบครัวที่ดีโดดเด่น การศึกษาก็ดี รูปร่างก็ดีขนาดนั้น หาเขาคบกับตัวเองแล้ว นั่นก็เป็นแค่ความรู้สึกชั่ววูบ ไม่มีวันยืนยาว
สำหรับเรื่องเหล่านี้ จริงๆ แล้วเย่เสวี่ยจู๋ก็เข้าใจชัดเจนดีตั้งนานแล้ว เธอกับเฉินซิงเหย้าไม่มีทางมีความสุขเลย คำที่เรียกว่า “ความสุข” เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นกับคู่รักสักคู่ในโลก หนึ่งเดียวที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นกับเยว่เสวี่ยจู๋และเฉินซิงเหย้า นั่นเป็นเพราะระหว่างพวกเขา ไม่ถือว่าเป็นแม้แต่คนรัก อย่างมากพวกเขาก็เป็นได้แค่เพื่อนนอน
สิ่งที่เรียกว่าเพื่อนนอนนี้ ปกติแล้วเล่นเสร็จก็คือเสร็จ จะมีใครคิดจริงจังล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น เย่เสวี่ยจู๋รู้สึกว่า ในสายตาของเฉินซิงเหย้าตัวเองเป็นไม่ได้แม้แต่เพื่อนนอน เพื่อนนอนคือคน แต่คิดว่าเฉินซิงเหย้าไม่ได้ถือว่าเธอเป็นคน คิดว่าเขาน่าจะคิดว่าตัวเองเป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่ง สัตว์ตัวหนึ่งที่ไม่มีศักดิ์ศรี
MANGA DISCUSSION