ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 604 ทานอาหาร
บทที่ 604 ทานอาหาร
……….
บทที่ 604 ทานอาหาร
“จื่อฉี รับโทรศัพท์ด้วย” พี่จ้าวมองชื่อที่โทรเข้ามาพร้อมพบว่าเป็นเจียงอวี่ ขณะนี้จึงเอ่ยปากเร่งสวี่จื่อฉี
ท่าทีของพี่จ้าวที่มีต่ออู๋ฝานและเจียงอวี่ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ในสายตาของเธอ คนหนึ่งคือเป็ดที่เพิ่งเติบโตซึ่งไม่มีเบื้องหลังและรากฐาน ขณะที่อีกคนหนึ่งคือเด็กจากตระกูลที่มั่งคั่ง มีเบื้องหลังและรากฐานอันแข็งแกร่ง ความรู้สึกที่เธอมี คืออู๋ฝานไม่มีทางเทียบกับคนที่มีพื้นเพลึกล้ำอย่างเจียงอวี่ได้
และมันยังเป็นเพราะพี่จ้าวและบริษัทไม่มีสำนักงานอยู่ในเจียงโจว ความรู้และความเข้าใจต่ออู๋ฝานของพวกเขาจึงค่อนข้างขาดแคลน เพราะหากพวกเขารู้จักชายหนุ่มมากกว่านี้ อย่างไรก็ไม่มีทางจะเกิดความคิดเช่นที่เป็นอยู่ตอนนี้อย่างแน่นอน
“ฉันไม่รับค่ะ” สวี่จื่อฉีตอบกลับ
“จื่อฉี อย่าทำตัวเป็นเด็ก นายน้อยเจียงโทรหาเธอก็เพราะมีเรื่องต้องพูดคุย อย่าทำให้ฉันลำบากใจ โรงแรมที่พวกเราอยู่ตอนนี้ก็เป็นกิจการของพวกเขานะ” พี่จ้าวตอบกลับมา
โรงแรมเทียนอวี่คือทรัพย์สินของตระกูลเจียง สวี่จื่อฉีและพี่จ้าวได้รับเชิญมาเจียงโจวก็เพราะตระกูลเจียง ดังนั้นโรงแรมที่ใช้พักจึงได้ทางตระกูลเจียงจัดการดูแลให้
“ฉันไม่อยากรับค่ะ อยากรับก็รับเองสิคะ” หญิงสาวตอบกลับ เพราะเธอไม่มีความประทับใจดี ๆ อะไรกับเจียงอวี่ตั้งแต่แรก ถ้าจะไม่อยากพูดคุยด้วยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ความจริงแล้วตลอดช่วงเวลาสองวันมานี้ เจียงอวี่คอยโทรหาเธอไม่ขาด ทุกครั้งสวี่จื่อฉีจะพูดคุยกับอีกฝ่ายเพียงไม่กี่คำ ก่อนจะวางสายโดยอ้างว่างานยุ่ง แม้เธอจะงานยุ่งจริง ๆ แต่อีกเหตุผลก็คือเธอไม่ต้องการพูดคุยด้วย
โทรศัพท์ยังคงดังอยู่แบบนั้น หญิงสาวยังคงปฏิเสธที่จะรับสายเพราะความโกรธ ส่วนพี่จ้าวก็อับจนทางเลือก มีแต่ต้องคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับสายแทน
“ค่ะนายน้อยเจียง ฉันเองค่ะ ไม่ใช่จื่อฉีค่ะ ตอนนี้เธอติดงานอยู่ มีอะไรฝากฉันบอกต่อรึเปล่าคะ? ต้องการเชิญเธอไปร่วมทานอาหารเหรอคะ? ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจัดเวลาให้นะคะ”
“ฉันไม่มีเวลาค่ะ! แล้วคืนนี้ฉันก็มีเรื่องที่จะต้องทำแล้วด้วย!” หลังได้ยินคำพูดของพี่จ้าว สวี่จื่อฉีจึงอดไม่ได้ที่จะคว้าโทรศัพท์มาตะโกนปฏิเสธเจียงอวี่ที่ปลายสาย
“จื่อฉี ทำไมพูดอะไรแบบนี้!” พี่จ้าวรีบบอก
สวี่จื่อฉีเมินพี่จ้าวและยังคงบอกกับปลายสาย “คนที่รับสายตอนแรกต่างหากที่ว่าง ไม่ใช่ฉัน! ถ้าอยากจะนัดกันขนาดนั้นก็ไปเจอกับเธอค่ะ ฉันมีนัดอื่นแล้ว เท่านี้ วางสายนะคะ!”
เพียงจบคำ เธอก็วางสายไปโดยไม่รอให้เจียงอวี่ตอบอะไร
“นี่… เธอพูดแบบนั้นกับนายน้อยเจียงได้ยังไง!?” พี่จ้าวชี้หน้าสวี่จื่อฉีเพราะโกรธจัด
“แล้วจะให้ฉันพูดอะไรล่ะคะ? คืนนี้ฉันนัดกับอู๋ฝานเอาไว้แล้ว หรือพี่จะบอกว่าไม่รู้กัน?” สวี่จื่อฉีตอบกลับ
ก่อนหน้านี้ต่อให้สวี่จื่อฉีเกลียดขี้หน้าเจียงอวี่แค่ไหน แต่ก็ไม่เคยพูดจาเลวร้ายเช่นเมื่อครู่ เหตุผลหลักก็เพราะตอนนี้เธอกำลังโกรธกับการจัดการของบริษัทและพี่จ้าว เพราะความอัดอั้นดังกล่าว รวมกับที่พี่จ้าวตอบรับนัดหมายทานอาหารกับชายหนุ่ม หญิงสาวจึงไม่อาจสะกดอดกลั้นจนโพล่งตอบออกไปด้วยตัวเองเช่นนั้น
“นัดกับอู๋ฝานเลื่อนออกไปก่อนได้ แค่บอกว่าเธอมีงานแทรกเข้ามาในช่วงเย็น ไว้หลังทานอาหารเสร็จค่อยนัดเขามาร้านคาเฟ่เพื่อพูดคุยเรื่องงานก็ยังไม่สาย” พี่จ้าวตอบกลับมา
พี่จ้าวเอาแต่ดูหมิ่นอู๋ฝานอย่างไม่เห็นแก่หน้าหญิงสาวที่กำลังรู้สึกขอบคุณอีกฝ่าย มันทำให้เธอเดือดดาลจนโต้กลับ “ฉันนัดกับอู๋ฝานเอาไว้แล้ว และฉันก็จะไปตามนัดด้วย ถ้าพี่อยากทานอาหารกับเจียงอวี่ขนาดนั้นก็ไปเองเถอะค่ะ”
จบคำ สวี่จื่อฉีก็คว้ากระเป๋าพร้อมเดินออกไป พี่จ้าวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็เอ่ยขึ้น “เดี๋ยวสิ รอก่อน!”
หากมีเรื่องกับเจียงอวี่ พรุ่งนี้เธอค่อยหาโอกาสอธิบายได้ เพราะถ้าปล่อยสวี่จื่อฉีไปพบเจียงอวี่ด้วยอารมณ์เช่นตอนนี้ เกรงว่าเรื่องราวจะมีแต่ยิ่งแย่ลง ส่วนเรื่องพูดคุยการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์กับอู๋ฝาน พี่จ้าวกังวลยิ่งกว่า หากหญิงสาวไปคนเดียว ใครจะทราบได้ว่าเธอจะลดราคาค่าจ้างโดยไม่ยั้งคิดอีกหรือไม่
พี่จ้าวตามสวี่จื่อฉีออกไปนอกโรงแรม ส่วนที่คนทั้งสองไม่ได้เห็น ล็อบบีของโรงแรมนั้น เจียงอวี่กำลังยืนจ้องคนทั้งสองด้วยสีหน้าดำทะมึนพร้อมแสดงประกายแห่งความโกรธในดวงตาออกมา
‘นังนี่! กล้าดียังไงมาพูดจาแบบนั้นใส่ฉัน? อยากจะไปกินกับคนอื่นแทนที่จะเป็นฉันงั้นเหรอ ฉันอยากจะเห็นนักว่าคืนนี้มันนัดใครเอาไว้!’ เจียงอวี่ครุ่นคิดอยู่ในใจ หลังนิ่งไปสักพัก เขาจึงติดตามสวี่จื่อฉีและพี่จ้าวไป
สวี่จื่อฉีปฏิเสธความหวังดีของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องนี้ทำให้เจียงอวี่ยิ่งไม่ชอบใจ เพราะนับตั้งแต่งานเลี้ยงเมื่อคืน เขาก็อยากจะเดตกับสวี่จื่อฉีมาตลอดและหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่หาข้ออ้างปฏิเสธ มันทำให้เขายิ่งสะสมความไม่พอใจเรื่อยมา วันนี้ตนมารอเธอที่โรงแรม เพื่อที่จะได้ทานอาหารกับอีกฝ่าย แต่สุดท้ายกลับโดนปฏิเสธอีกครั้งหนึ่ง และหากสวี่จื่อฉีติดงานจริง ๆ เขาก็คงพอจะมองข้ามได้ แต่จากท่าทีของเธอที่เหมือนกำลังหวังจะได้พบกับคนที่นัดเอาไว้แล้ว มันยิ่งทำให้เจียงอวี่โกรธแค้นและเดือดดาล
สวี่จื่อฉีและพี่จ้าวไม่ได้ตระหนักว่าเจียงอวี่แอบตามมา หลังขึ้นรถ คนทั้งสองก็มุ่งตรงไปยังสถานที่ที่นัดหมายกับอู๋ฝานเอาไว้
อีกฝั่งหนึ่ง อู๋ฝานเองก็ออกมาแล้วเช่นกัน ทั้งยังค่อนข้างมั่นใจกับการเจรจาในคืนนี้ เพราะผลตอบรับจากอีกฝ่ายค่อนข้างดี อีกทั้งยังมีการเดิมพันเอาไว้ก่อน การเจรจาหารือความร่วมมือครั้งนี้จึงไม่น่าจะมีปัญหาใด ๆ
สถานที่ซึ่งอู๋ฝานและสวี่จื่อฉีตกลงนัดเจอกันเป็นร้านโลกในแหวนสาขาดั้งเดิม ที่นี่เป็นถิ่นของอู๋ฝาน และยังเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในเจียงโจว หากมีการนัดพบและเป็นที่นี่ มันย่อมมากพอจะแสดงออกถึงความจริงใจ
หลังอู๋ฝานมาถึง เขาไม่ได้เร่งร้อนอะไร และขอให้เฉินปิงเหยาจัดห้องส่วนตัวสำหรับใช้งาน ก่อนจะรอสวี่จื่อฉีมาถึงหน้าประตูร้านด้วยตัวเอง
ไม่นานรถของหญิงสาวก็มาถึง คนทั้งสองก้าวเดินลงจากรถ จากนั้นอู๋ฝานก็เข้าไปทักทาย
“คุณหนูสวี่ พี่จ้าว ยินดีต้อนรับครับ” อู๋ฝานเผยยิ้มออกมา
สวี่จื่อฉีฝืนยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เพราะพี่จ้าวตามมาด้วย เธอจึงคิดมาตลอดว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะตนรับปากชายหนุ่มเอาไว้แล้ว ขณะนี้กำลังจะกลืนคำพูดของตัวเอง ในใจจึงรู้สึกว่ากำลังทำผิดจนไม่กล้าสู้หน้า
“เถ้าแก่อู๋สุภาพเกินไปแล้วค่ะ ครั้งแรกที่พวกเรามาถึงเจียงโจวก็ได้ยินชื่อเสียงของร้านโลกในแหวนมาไม่น้อย วันนี้เพราะเถ้าแก่อู๋พวกเราเลยมีโอกาสได้ลิ้มลองค่ะ” พี่จ้าวตอบรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ท่าทีของเธอเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ไร้ซึ่งท่าทีที่เคยดูหมิ่นอู๋ฝานก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
“รับประกันได้ว่าทั้งสองจะกลับบ้านไปพร้อมความพึงพอใจแน่ครับ” อู๋ฝานมองสวี่จื่อฉี จากนั้นก็หันไปทางพี่จ้าวพลางบอก
ท่าทีไม่เป็นธรรมชาติของสวี่จื่อฉีย่อมไม่อาจรอดพ้นสายตาของอู๋ฝาน ทว่าเขาแค่ไม่ทราบว่าเพราะอะไรเธอถึงมีอาการแบบนั้น
คนทั้งสามเดินเข้าไปด้านในร้านพร้อมกัน ภาพนี้เจียงอวี่ที่แอบตามมาย่อมได้เห็น
“ยัยสารเลว! เธอกล้าปฏิเสธนัดเดตของฉันเพราะมาเจอกับอู๋ฝานเหรอ! สวี่จื่อฉี เธอมันเป็นคนไร้ยางอาย! ไว้คอยดูว่าฉันจะจัดการกับคนอย่างเธอยังไง!” ดวงตาของเจียงอวี่แทบจะมีไฟปะทุออกมาอยู่รอมร่อ
เพราะเดิมไม่พอใจอู๋ฝานอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อเห็นสวี่จื่อฉีปฏิเสธตนเองมาเจอกับอู๋ฝาน เขาจึงยิ่งโกรธแค้น ทั้งยังรู้สึกว่าอีกฝ่ายตั้งใจทำแบบนี้เพื่อแย่งชิงทุกสิ่งไปจากตัวเองตั้งแต่วันงาน อีกทั้งปัจจุบันยังเกิดเรื่องนี้ขึ้น มันคิดว่าคนอย่างเขากลั่นแกล้งรังแกยังไงก็ได้งั้นเหรอ?
แต่ก่อนจะได้ล้างแค้นอู๋ฝาน เขาต้องจัดการกับสวี่จื่อฉีซะก่อน!
……….