ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 9 อันธพาลผู้แข็งแกร่ง
บทที่ 9 อันธพาลผู้แข็งแกร่ง
บทที่ 9 อันธพาลผู้แข็งแกร่ง
หลังจากถูกชายมีหนวดโยนเข้าไปในมุมโต๊ะไม้ผุพังอีกครั้ง หนิวลี่ก็จัดท่านั่งให้สบาย แล้วเริ่มคิดในใจว่าจะจัดการกับคนร้ายสองคนนี้ได้ยังไง
ใช่แล้ว จัดการ ไม่ใช่หนี
ในเมื่อกล้าลักพาตัวเขา ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน ค่าตัวประกันของเขาแพงมากนะ
เอลฟ์น้อยในแหวนสรรค์สร้างร้องด้วยความโกรธ [พี่ชาย ฆ่าพวกมันเลย พวกมันเป็นคนไม่ดี]
หนิวลี่กลอกตาเซ็ง ๆ เขาก็อยากทำนะ แต่จะใช้อะไรฆ่าล่ะ วารีฟื้นฟูเหรอ?
สามนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ดังมาจากด้านนอกห้องควบคุม
ชายมีหนวดพูดด้วยสีหน้ายินดี “พี่หู่ พวกนั้นทำงานเร็วเหมือนกันนะ เราจะไปเลยไหม?”
พี่หู่มีสีหน้าหนักใจ ก่อนจะตอบกลับ “ไปเลยสิ ฉันว่าตอนนี้ทั้งเมืองเอชคงวุ่นวายไปหมดแล้ว ถ้าไม่รีบไป คงหนีไม่รอดแน่”
“ได้” ชายมีหนวดตะโกนขึ้น แล้วหันไปมองหนิวลี่ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
หนิวลี่รู้สึกหนาวยะเยือก ไม่รอให้ชายมีหนวดเดินมาลากตัว ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาเอง
ชายมีหนวดชะงักไปครู่หนึ่ง ลูบเคราพลางพูดอย่างร่าเริง “เด็กหนุ่มนี่ว่านอนสอนง่ายดีนะ น่ารักจริง ๆ”
หนิวลี่สบถในใจ ‘น่ารักบ้านแกสิ ไอ้เกย์’
“เอาละ นายนำทาง ให้เด็กคนนี้เดินตรงกลาง ฉันจะเดินตามหลัง” พี่หู่พูด
ชายมีหนวดไม่ได้แหย่หนิวลี่อีก เขาหันหลังเตะประตูให้เปิดแล้วเดินออกไป
ทั้งสามเดินต่อกันออกจากโรงงานไปที่รถออฟโรดคันใหม่เอี่ยมที่จอดอยู่หน้าโรงงาน
ตำรวจร่างใหญ่กระโดดลงจากรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จ้องมองชายมีหนวดด้วยสายตาเย็นชา
“เฮ้ รูปร่างนายเหมือนฉันเลย ไม่ชอบเลย ไม่ชอบสักนิด” ชายมีหนวดพูดเย้าแหย่อย่างไม่พอใจ
“ฮึ อย่าเพิ่งดีใจไป ฉันจะจับพวกแกได้แน่” ตำรวจร่างใหญ่พูดจบก็มองไปที่พี่หู่พลางหรี่ตา “คราวนี้แกเผยจุดอ่อนแล้วนะ”
พี่หู่ทำหน้านิ่ง เงียบไปครู่หนึ่ง “ถ้าฉันบอกว่าประธานบริษัทเหม่ยเซี่ย เจียงเจิ้นหนาน ไม่ได้ถูกฉันฆ่า พวกแกจะเชื่อไหม?”
แน่นอนว่าตำรวจร่างใหญ่ไม่เชื่อ เขาทำเพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชา
“ช่างเถอะ พวกแกกฎหมาย แต่ตาบอดไปหมดแล้ว” พี่หู่ส่ายหน้าพึมพำ ก่อนจะเดินไปที่รถออฟโรด
พี่หู่ยัดหนิวลี่เข้าไปนั่งเบาะหลังแล้วตามขึ้นไปนั่งประกบ ส่วนชายมีหนวดก็ขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับ แล้วหันไปทำความเคารพตำรวจร่างใหญ่ที่อยู่นอกหน้าต่างด้วยท่าทางของลูกเสือ ก่อนจะยิ้มเย้ยหยัน “ตอนฉันเรียนอยู่ ฉันเคยเป็นลูกเสือนะ สวัสดีครับคุณลุงตำรวจ”
รถออฟโรดสตาร์ตเครื่อง หมุนรถกลับ แล้วขับออกจากโรงงานอย่างรวดเร็ว
ตำรวจร่างใหญ่หันไปมองรองผู้บัญชาการวัยกลางคนด้วยสีหน้าหม่นหมอง “ท่านรอง เราจะปล่อยให้พวกมันไปแบบนี้เลยเหรอครับ ปล่อยอาชญากรไป เราจะไปรายงานผู้นำได้ยังไง?”
รองผู้บัญชาการวัยกลางคนยิ่งทำหน้าหม่นหมองกว่าเดิม จ้องมองตำรวจร่างใหญ่อย่างไม่พอใจ พลางคิดในใจว่า ‘นายเป็นหัวหน้าหรือฉันเป็นหัวหน้ากันแน่’
“หัวหน้าเฉิน ระวังคำพูดของคุณหน่อย นี่ผมปล่อยอาชญากรหนีไปเหรอ? ผมกำลังปกป้องตัวประกันต่างหาก ตอนนี้ผมขอสั่งให้คุณติดตามอาชญากรอย่างใกล้ชิด ต้องให้แน่ใจว่าพวกเขาหนีไม่พ้นสายตาเรา” รองผู้บัญชาการวัยกลางคนสั่งอย่างเคร่งขรึม
ตำรวจร่างใหญ่รู้สึกอึดอัด แต่ผู้ใหญ่สั่งมา ก็ได้แต่ตอบรับคำสั่ง แล้วนำทีมตำรวจวิ่งออกจากโรงงานไปขึ้นรถตำรวจอย่างรวดเร็ว
เมื่อลูกน้องลับตาไป รองผู้บัญชาการวัยกลางคนจึงหยิบวิทยุสื่อสารสั่งการเป็นชุด ให้เฝ้าระวังถนนทุกสาย โดยเฉพาะรถออฟโรดป้ายทะเบียน H1414 อย่างเข้มงวด
หนิวลี่นั่งอยู่ในรถออฟโรดที่สั่นสะเทือน มองชายมีหนวดขับรถเข้าตรอกนั้นออกซอยนี้ อดชื่นชมไม่ได้ว่าพวกอาชญากรเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญในการก่ออาชญากรรมสูง มีแผนรับมือการปิดถนนของตำรวจอย่างชำนาญ
หลังจากรถวิ่งไปได้สักพัก พี่หู่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเบอร์หนึ่ง
เสียงรอสายดังขึ้นสองสามครั้ง แล้วโทรศัพท์ก็เชื่อมต่อ
[ฮัลโหล หลี่เซียงพูดสาย!]
พี่หู่ไม่พูดอะไร เพียงแต่แนบโทรศัพท์ไว้ข้างหู ดวงตาของเขาสั่นไหว
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเสียงทุ้มก็ดังขึ้น [พี่หู่ใช่ไหม?]
พี่หู่ถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย ก่อนจะพูดเรียบ ๆ “เตาปาวางแผนดีจริง ๆ”
ปลายสายเงียบอีกครั้ง
[พี่หู่ ฉันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้]
“จริงเหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลก ๆ”
[ฉันจะให้คำตอบพี่เอง]
พูดจบ ปลายสายก็วางหูไปก่อน
หนิวลี่มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อย่างไร้คำพูด ในใจรู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย
เหมือนบทสนทนาตามมาตรฐานของเจ้าพ่อมาเฟียในโทรทัศน์เลย ทุกคำพูดกระชับ แต่มีเนื้อหาสาระมากมาย
“พี่หู่ หลี่เตาปามันไม่ยอมรับเหรอ?” ชายมีหนวดที่กำลังขับรถถามขึ้นประโยคหนึ่ง
พี่หู่ยังคงส่ายหัว “เรื่องนี้ประหลาดมาก ต้องมีคนอยุ่เบื้องหลังแน่นอน”
“เฮอะ เบื้องหลังบ้าบออะไร ต้องเป็นไอ้หลี่เตาปานั่นแน่ ๆ ฉันเห็นมันขวางหูขวางตามานานแล้ว ครั้งนี้ต้องเป็นฝีมือมันจัดฉากแน่”
พี่หู่ไม่ตอบ เขาหลับตาลง เอนหลังพิงเบาะพักผ่อน
รถออฟโรดแล่นอย่างรวดเร็ว เลี้ยวซ้ายทีขวาทีจนหนิวลี่ที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มาสิบกว่าปีก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้ว
ทันใดนั้น รถออฟโรดก็จอดลงที่หน้าตรอกเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ชายมีหนวดหันหลังมาพูดกับพี่หู่ “พี่หู่ พี่ลงรถตรงนี้แล้วกัน เดี๋ยวโหวจื่อจะมารับพี่”
“อืม ระวังตัวหน่อยล่ะ” พี่หู่ลืมตาขึ้นพลางพยักหน้า ก่อนจะมองหนิวลี่แวบหนึ่งและพูดเสียงเรียบ “จัดการให้เรียบร้อย”
“เข้าใจแล้ว” ชายมีหนวดหัวเราะแหะ ๆ ส่งสายตาหื่นกามมองหนิวลี่แวบหนึ่ง
พี่หู่ลงจากรถ หายตัวไปในฝูงชน
หนิวลี่รู้สึกว่าแรงกดดันบนตัวเบาลงเล็กน้อย พี่หู่คนนั้นทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก จนแทบจะหายใจไม่ออก
แต่ชายมีหนวดนี่ นอกจากจ่อปืนใส่เขาแล้ว ยังต้องการล่วงละเมิดเขาอีก ไอ้เกย์เฮงซวย
“หนุ่มน้อย พวกเราไปหาที่เล่นสนุก ๆ กันเถอะ” ชายมีหนวดยิ้มแปลก ๆ แล้วหักพวงมาลัย มุ่งหน้าเข้าไปในตรอกเล็กอีกสายหนึ่งอย่างรวดเร็ว
[พี่ชาย ต้องฆ่ามันให้ได้ มันเป็นคนไม่ดี] เตียวเสี้ยนตะโกนจนเสียงแหบในแหวนสรรค์สร้าง ความตื่นเต้นบนใบหน้าของเธอไม่ได้ลดลงเลย
หนิวลี่ไร้คำพูด ในที่สุดก็ตอบกลับไปประโยคหนึ่ง ‘พี่ก็กำลังคิดหาทางอยู่ แต่ตัวเขาใหญ่กว่าพี่มาก พี่ชายคงสู้มันไม่ได้หรอก’
[ไม่ต้องกลัว พวกเรามีเวทมนตร์! ใช้เวทมนตร์จัดการมันเลย] เตียวเสี้ยนได้ยินหนิวลี่ตอบกลับมา ดวงตาก็เป็นประกายทันที มือน้อย ๆ โบกไปมาอย่างดุเดือด
‘เวทมนตร์? แต่ฉันก็มีแค่วารีฟื้นฟูนะ เตียวเสี้ยน เธอมีเวทมนตร์โจมตีอะไรอีกไหม? ระดับเริ่มต้นก็ยังดี’ หนิวลี่ถาม
[มีสิ พี่ช่างโง่จริง ๆ เลย เอลฟ์อย่างเตียวเสี้ยนจะมีแค่เวทพื้นฟูได้ยังไง เตียวเสี้ยนมีเวทมนตร์เยอะแยะเลยละ] เตียวเสี้ยนพูดอย่างไม่พอใจพร้อมทั้งดูถูกหนิวลี่
‘จริงเหรอ งั้นเธอมีเวทอะไรอีกล่ะ?’ หนิวลี่ตาเป็นประกายวาววับ
[ก็มีดวายุ กระสุนเพลิง อ้อ มีเวทธรรมชาติระดับต้นด้วย เวทเร่งการเติบโตของพืช] เอลฟ์น้อยอธิบายอย่างตื่นเต้น
‘งั้นรออะไรอยู่ล่ะ รีบสอนพี่เร็วเข้า’ ใบหน้าของหนิวลี่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ตื่นเต้นจนไม่อยู่กับร่องกับรอย
ชายมีหนวดที่กำลังขับรถมองเห็นสีหน้าของหนิวลี่ผ่านกระจกมองหลัง รู้สึกแปลก ๆ ในใจ หรือว่าเด็กคนนี้จะมีรสนิยมเหมือนกับเขา เป็นชายรักชายเหมือนกัน!