ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 86 ปฏิกิริยาอันรุนแรงของสำนักมังกรฟ้า
บทที่ 86 ปฏิกิริยาอันรุนแรงของสำนักมังกรฟ้า
ไม่ต้องพูดถึงการตัดสินใจของชายชรา คืนนั้นที่หุบเขาหลงหยาห่างออกไปพันลี้ เมื่อสำนักมังกรฟ้าทราบข่าวการตายของเย่เฉิน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที
เย่เฉินไม่ใช่ศิษย์ธรรมดา เขาเป็นหลานชายของเย่หลานชิง ผู้ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของสำนักมังกรฟ้า
แล้วเย่หลานชิงคือใคร? เขาคือยอดฝีมือที่แข็งที่สุดของสำนักมังกรฟ้ายกเว้นเจ้าสำนักและผู้อาวุโสใหญ่ เป็นเสาหลักของสำนักมังกรฟ้า มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธภพ ไม่มีใครไม่รู้จัก
ลูกชายของเย่หลานชิงเมื่อก่อนเย่อหยิ่ง ท้าทายยอดฝีมือจนสุดท้ายต้องจบชีวิตลงในการประลอง เหลือเพียงเย่เฉินให้เย่หลานชิงเลี้ยงดูมาเพียงลำพัง ปู่หลานรักใคร่กลมเกลียวกันมาก เย่หลานชิงทุ่มเททั้งชีวิตให้กับเย่เฉิน ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้โดยไม่ปิดบัง หวังว่าหลานชายจะเติบใหญ่เป็นมังกรสืบทอดมรดกของเขา เรื่องที่เมืองเอช ครั้งนี้ สำนักมังกรฟ้าคิดว่าเป็นแค่นักฆ่าทั่วไป สำหรับคนในยุทธภพแล้ว เป็นเรื่องง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ เย่หลานชิงจึงให้เย่เฉินไปหาประสบการณ์ด้วย ไม่นึกเลยว่าการไปครั้งนี้จะเป็นการพรากจากกันตลอดกาล
ตอนแรกเย่หลานชิงไม่ยอมเชื่อข่าวที่ได้รับ จนกระทั่งได้รับการยืนยัน เขาก็คำรามด้วยความโกรธสุดขีด
อุตส่าห์เลี้ยงหลานมาจนโต คิดว่าจะมีความสุขในบั้นปลายชีวิต แต่กลับต้องมาเผาศพหลานตัวเอง สายเลือดของตระกูลเย่คงจะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้
เย่หลานชิงปวดร้าวแสนสาหัส สาบานว่าจะต้องล้างแค้นให้ได้
เพื่อปลอบใจเย่หลานชิง สำนักมังกรฟ้าจึงส่งยอดฝีมือจำนวนมากไปยังเมืองเอช ตัดสินใจที่จะให้คำอธิบายกับเย่หลานชิง เพราะเย่หลานชิงมีวรยุทธ์สูงส่ง อย่างน้อยก็ยังสามารถสร้างคุณประโยชน์ให้กับสำนักมังกรฟ้าได้อีกนาน เพื่อเสาหลักคนนี้ ผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักมังกรฟ้าถึงกับนำกำลังคนไปล้างแค้นด้วยตัวเอง
สำนักมังกรฟ้ามัวแต่ปลอบใจเย่หลานชิง จนเผลอมองข้ามคำเตือนของชายชรา คู่ต่อสู้ในครั้งนี้อาจจะเป็นถึงระดับเซียน!
แต่ต่อให้คิดได้ สำนักมังกรฟ้าก็คงเย้ยหยัน เซียนงั้นเหรอ? ล้อเล่นอะไรกัน ยุทธภพจีนแผ่นดินใหญ่ไม่เคยมีเซียนปรากฏมาเป็นร้อยปีแล้ว เมืองเอชธรรมดา ๆ จะมีเซียนโผล่มาได้ยังไง? นี่มันตบหน้าบรรดาสํานักใหญ่ในยุทธภพชัด ๆ อย่าลืมว่าปัจจุบัน บรรดาบุคคลระดับปรมาจารย์ของแต่ละสำนักก็แค่ก้าวสู่ระดับเซียนแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น ยังห่างไกลจากเซียนที่แท้จริงอยู่มาก
นอกจากสำนักมังกรฟ้าแล้ว สำนักอื่น ๆ ที่ได้รับแจ้งจากชายชราต่างตกตะลึง เซียนงั้นเหรอ! ช่างเป็นคำที่ห่างไกลเหลือเกิน
ส่วนใหญ่เชื่อในคำพูดของชายชรา เพราะชายชราเป็นที่รู้จักในเรื่องวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลมในหมู่คนรุ่นเก่า
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสำนักบู๊ตึ้ง สำนักเส้าหลิน สำนักง้อไบ๊ สำนักฮั้วซาน สำนักหลินเจียงหนาน สำนักจิ๋วเจียง รวมถึงหน่วยรบพิเศษของประเทศ ต่างก็เริ่มเคลื่อนไหว
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อชื่อเสียงของเซียน ถ้าเป็นเซียนจริง ๆ ทุกคนคงมีแผนการในใจแล้ว
ในขณะที่หนิวลี่ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้สร้างความวุ่นวายไปทั่วยุทธภพ เขากำลังพาเอลฟ์ตัวน้อยกินอาหารอร่อย ๆ พร้อมกับสั่งให้หลี่เตาปาและคนอื่น ๆ จับตาดูความเคลื่อนไหวของมิยาโมโตะและซันกรุ๊ป ถ้าเป็นไปได้ก็ให้หาเรื่องพวกมัน
มีหนิวลี่ผู้ยิ่งใหญ่อยู่ข้าง ๆ หลี่เตาปาจึงมั่นใจมาก จนลงมืออย่างไม่ปรานี ในเวลาไม่นาน ยุทธภพของเมืองเอชก็สั่นคลอน ทุกคนต่างส่งต่อข้อมูลเดียวกัน
“ซันกรุ๊ปเป็นสายลับที่ญี่ปุ่นส่งมาทำลายประเทศจีน คนญี่ปุ่นในองค์กรล้วนเป็นมือดีจากยากูซ่าญี่ปุ่น คอยลักลอบขนส่งโบราณวัตถุของจีน และทำร้ายผู้หญิงชาวจีน”
ข้อมูลนี้แพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว เกือบทุกคนที่พูดถึงเรื่องนี้ต่างก็ไม่สงสัยในความจริงเลย เพราะภาพลักษณ์ของคนญี่ปุ่นในสายตาคนจีนก็แย่แบบนี้
ดังนั้น ซันกรุ๊ปจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย พนักงานชาวจีนส่วนใหญ่ในบริษัททนแรงกดดันจากกระแสสังคมและข่าวลือจากเพื่อนบ้านไม่ไหวจึงลาออกไป ส่วนพนักงานที่เป็นคนญี่ปุ่นจริง ๆ นั้นไม่กล้าแม้แต่จะออกจากบ้าน
เหตุเกิดเมื่อวันหนึ่ง พนักงานระดับหัวกะทิด้านเทคนิคของซันกรุ๊ปประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหายาก จึงพากันไปเลี้ยงฉลองกันที่โรงแรม แต่หลังงานเลี้ยง พวกเขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อพบตัวอีกครั้ง หนึ่งในนั้นกลายเป็นคนเสียสติไปแล้ว ส่วนอีกสองคนพิการ พวกเขาร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้าตำรวจที่ตามหาตัว เป็นภาพที่น่าเวทนาสลดใจยิ่งนัก
หลังจากนั้น ซันกรุ๊ปก็มีพนักงานหายตัวไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบตัวอีกครั้งก็กลายเป็นคนพิการหรือไม่ก็เสียสติ ทุกคนล้วนถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยม
ที่ร้ายไปกว่านั้น ผู้จัดการหนุ่มรูปหล่อที่ได้รับเลือกให้เป็นหนุ่มโสดในฝันของซันกรุ๊ปประจำปีนี้ ถูกคนรุมทำร้ายในผับจนได้รับบาดเจ็บสาหัส! เมื่อพบตัวเขาก็อยู่ในสภาพที่ไม่เหลือเค้าเดิม!
ถึงตอนนี้ ซันกรุ๊ปยังไม่ได้รับความยุติธรรมจากทางการของเมืองเอช แถมบริษัทยังเริ่มดำเนินกิจการต่อไม่ได้
แผนการอันแยบยลของมิยาโมโตะเกือบจะพังทลายด้วยน้ำมือของประชาชน
แต่วิญญาณความเป็นคนญี่ปุ่นนั้นแฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม มิยาโมโตะจึงโกรธจัดและแจ้งไปยังคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองเอช เรียกร้องให้ส่งตำรวจมาคุ้มครองผลประโยชน์และความปลอดภัยของพนักงานซันกรุ๊ปในประเทศจีน มิฉะนั้นจะร้องเรียนไปยังระดับสูงของจีนผ่านทางสถานทูต!
นี่เป็นการข่มขู่ที่ร้ายกาจ หากเรื่องนี้ถูกนำไปร้องเรียนจริง ๆ คณะกรรมการพรรคคงถูกเปลี่ยนตัวในวันรุ่งขึ้น แถมโอกาสในการเลื่อนขั้นในอนาคตก็คงริบหรี่
ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการพรรคประจำเมืองเอชจึงจำใจต้องส่งตำรวจจำนวนมากไปประจำการรอบ ๆ ซันกรุ๊ป และในเย็นวันเดียวกันนั้นเอง เลขาธิการเหมียวของคณะกรรมการพรรคก็ได้ออกประกาศเตือนประชาชนผ่านทางโทรศัพท์ว่า ห้ามใช้ความรุนแรง! ต้องเคารพกฎหมาย ซันกรุ๊ปอยู่ภายใต้การคุ้มครองของรัฐบาลแล้ว หวังว่าประชาชนจะไม่ก่อความวุ่นวาย
บ้าไปแล้ว นี่มันไม่ใช่การช่วยเหลือซันกรุ๊ปชัด ๆ แต่นี่มันเป็นการบอกพวกมือดีให้รู้ว่าอย่าไปโจมตีซันกรุ๊ปในเวลากลางวันแสก ๆ ให้ล้อมแล้วค่อยตี พวกแกไม่รู้กลยุทธ์ของประธานเหมาหรือไง?
มิยาโมโตะไม่เข้าใจความฉลาดของคนจีน เขายังคงภูมิใจในแผนการอันแยบยลของตัวเอง พร้อมทั้งสั่งให้หลิวเปิ่นสงกดดันรัฐบาลอย่างแนบเนียน และสร้างโอกาสให้กับไตรภาคี
ในเวลานี้ บรรดาผู้นำระดับสูงของเมืองเอชต่างก็รู้แล้วว่าหลิวเปิ่นสงเป็นคนทรยศชาติ ปล่อยให้ไอ้สารเลวแบบนี้ไต่เต้าขึ้นมาเป็นรองนายกเทศมนตรีได้ นับเป็นความอัปยศอย่างยิ่ง
แต่พอนึกดูอีกที การที่หลิวเปิ่นสงก้าวขึ้นสู่อำนาจได้นั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นฝีมือของซันกรุ๊ป ก่อนหน้าที่หลิวเปิ่นสงจะก้าวขึ้นมานั้น เขาเป็นเพียงหัวหน้าฝ่ายเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ภายในเวลาไม่กี่ปี เขากลับสร้างผลงานมากมายจนได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว เมื่อคิดถึงตอนนี้ ผลงานที่เขาได้รับ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทในเครือของซันกรุ๊ปเลยหรือ?
แต่ในตอนนี้ ทุกคนไม่กล้าทำอะไรหลิวเปิ่นสง เพราะเขามีซันกรุ๊ปหนุนหลัง หากกำจัดเขาทันทีเกรงว่าจะเกิดปัญหาใหญ่กว่าเดิม
ดังนั้น รัฐบาลเมืองเอชจึงได้แต่ทนกลืนเลือดตัวเอง ยอมตามใจหลิวเปิ่นสงที่วางท่าโอหัง พร้อมกับสบถด่าบรรพบุรุษของมันไปแปดชั่วอายุคน
เช้าวันรุ่งขึ้น ตำรวจจำนวนมากถูกส่งไปประจำการที่ซันกรุ๊ป พวกเขาคุ้มกันอาคารซันกรุ๊ปอย่างแน่นหนา และควบคุมเส้นทางสายหลักหลายเส้นทางบริเวณใกล้เคียงอย่างเข้มงวด
แต่พวกมือดีที่เห็นภาพทั้งหมดนี้กลับหัวเราะเยาะ พวกเขาไม่ได้รู้สึกหนักใจแม้แต่น้อย
บ่ายวันเดียวกันนั้นเอง สินค้าสำคัญชุดหนึ่งของซันกรุ๊ปก็ถูกขนส่งออกไปนอกเมือง
พวกมือดีที่รู้ข่าวต่างก็ตื่นเต้นและเตรียมตัวกันอย่างขะมักเขม้น
สินค้าถูกขนส่งโดยรถบรรทุกขนาดใหญ่สามคัน เนื่องจากพนักงานชาวจีนลาออกเป็นจำนวนมาก คนขับรถจึงเป็นคนญี่ปุ่นทั้งหมด
ห้าโมงเย็น รถบรรทุกทั้งสามคันแล่นมาถึงทางแยกก่อนถึงทางหลวงพิเศษ อีกไม่ถึงสามร้อยเมตรข้างหน้าคือด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง
แต่ทันใดนั้นเอง รถตู้สีแดงคันหนึ่งก็แล่นมาขวางหน้ารถบรรทุก คนขับรถชาวญี่ปุ่นตะโกนด่าทอด้วยความโกรธ แต่รถตู้ก็ไม่ขยับเขยื้อน คนขับรถโกรธจนเลือดขึ้นหน้า จึงหันไปพูดกับผู้ช่วยข้าง ๆ สองสามคำ ผู้ช่วยจึงเปิดประตูรถลงไป
ในจังหวะนั้นเอง ประตูรถตู้ก็เปิดออก ชายฉกรรจ์หกเจ็ดคนพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว สองคนแรกตะครุบตัวผู้ช่วยคนขับได้ในชั่วพริบตา คนขับรถเห็นดังนั้นก็ตกใจสุดขีด รีบเร่งเครื่องยนต์หวังจะขับรถหนี
แต่เหล่าผู้กล้าที่อยู่บนรถตู้จะยอมให้เขาหนีไปได้อย่างไร พวกเขากระโดดขึ้นไปบนรถอย่างคล่องแคล่ว และเพียงหมัดเดียวก็ทำให้คนขับรถสลบไป
ไม่นานนัก รถบรรทุกทั้งสามคันก็ถูกควบคุมโดยกลุ่มผู้กล้า
แท้จริงแล้ว เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสัญจรที่สำคัญ มีรถยนต์ผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อรถทุกคันเห็นป้าย ‘หน่วยจู่โจมพิฆาตญี่ปุ่น’ ที่ติดอยู่บนรถตู้ ทุกคนก็ยิ้มอย่างรู้กัน จากนั้นก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นและขับรถจากไป
แม้แต่ข้าง ๆ จุดเก็บค่าผ่านทางบนทางด่วนก็มีหน่วยตำรวจจราจรประจำการอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจตรารถยนต์ เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็เพียงแต่กวาดสายตามองแล้วก็เมินเฉย
ความเข้าอกเข้าใจเช่นนี้มีแต่คนในชาติเท่านั้นที่จะมี ทำให้กลุ่มผู้คนที่อยู่บนรถตู้ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว ในไม่ช้า รถบรรทุกทั้งสามคันและรถตู้ก็หายไปตรงทางโค้ง
ไม่นานนัก ซันกรุ๊ปก็ได้รับข่าวการปล้นสินค้า พวกเขาต่างตกตะลึง
ไม่ว่าอย่างไร ซันกรุ๊ปก็ยังคงทำธุรกิจที่ถูกกฎหมาย สินค้าที่ถูกปล้นไปในครั้งนี้มีความสำคัญและมีมูลค่าสูงมาก มิยาโมโตะที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของซันกรุ๊ป เมื่อทราบข่าวก็รีบเดินทางไปยังบริษัทเพื่อตรวจสอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมกันนั้นก็โทรศัพท์ไปหาหลิวเปิ่นสง เพื่อด่าทออย่างรุนแรง
หลิวเปิ่นสงถูกด่าจนเหงื่อท่วมตัว หัวใจเต้นระทึก หลังจากวางสายไปแล้ว เขาก็รีบโทรศัพท์ไปหาหัวหน้าสำนักงานตำรวจประจำเมือง ด่าทออีกฝ่ายด้วยความโกรธเช่นกัน
แต่ดูเหมือนว่าหัวหน้าสำนักงานตำรวจจะใจเย็นกว่ามาก เขาได้รับข่าวจากคณะกรรมการพรรคแล้ว จึงรู้สึกดูถูกหลิวเปิ่นสง ยุคสมัยนี้แล้วยังกล้าทำเรื่องเสี่ยงอันตรายแบบนี้อีกเหรอ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอไง
“อืม ทราบแล้ว เรื่องนี้ทางสำนักงานตำรวจจะดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นใคร มีฐานะอะไร ก็จะถูกลงโทษตามกฎหมาย ตำรวจของเราจะคืนความยุติธรรมให้กับประชาชน! เชิญท่านนายกเทศมนตรีหลิววางใจได้” หัวหน้าสำนักงานตำรวจกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
หลิวเปิ่นสงจึงยิ้มออกมาด้วยความพอใจ “ควรจะเป็นแบบนี้ ซันกรุ๊ปเป็นบริษัทใหญ่ของเมือง มีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของเมืองเอชในอนาคต เรื่องนี้ต้องสืบสวนให้เร็วที่สุด และต้องตามหาสินค้ากลับคืนมาให้ได้”