ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 66 เยือนเยี่ยเยี่ยหลายอีกครั้ง
บทที่ 66 เยือนเยี่ยเยี่ยหลายอีกครั้ง
บทที่ 66 เยือนเยี่ยเยี่ยหลายอีกครั้ง
หลังจากพูดคุยกับหลิงต้านอยู่นาน หนิวลี่ก็ต้องยอมรับความจริง
เขาต้องการพลังงานจำนวนมาก แหวนต้องการพลังงาน ลูกน้องที่เขาจะสร้างขึ้นในอนาคตก็ต้องการพลังงาน แม้แต่ตัวเขาเองก็ต้องการพลังงานในการฝึกฝน!
พลังงาน แม่งเอ๊ย!
แม้จะเจ็บปวด แต่หนิวลี่ก็ต้องแบ่งพลังงานพื้นฐานห้าสิบหน่วยจากคลังพลังงานกว่าร้อยหน่วยที่มีอยู่ไปใช้กับพื้นที่สร้าง เพราะไม่ว่ายังไง พื้นที่สร้างก็เป็นรากฐาน ถ้าพลังงานไม่เพียงพอจนทำให้แหวนพัง คงได้นอนตายตาไม่หลับแน่
หลังจากใช้พลังงานพื้นฐานไปห้าสิบหน่วย เครื่องจักรที่เคยเงียบสงบในพื้นที่สร้างก็ส่งเสียงดัง ‘ติ๊ก ๆ ๆ ๆ’ จากนั้นก็เปล่งประกายมีชีวิตชีวา ราวกับสัตว์ร้ายที่ฟื้นคืนชีพ
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ หลิงต้าน ปัญญาประดิษฐ์นี้ เดิมทีเป็นเพียงทรงกลม แต่ตอนนี้กลับยืดและขยายตัวออก กลายเป็นโลหะรูปร่างคล้ายหุ่นยนต์ลอยได้
“นายท่าน การสร้างพื้นที่ระดับหนึ่งเริ่มทำงานแล้ว ได้รับพลังงานห้าสิบหน่วย สามารถใช้งานในพื้นที่ที่นายท่านอยู่ได้สามสิบวัน! หลังจากสามสิบวัน หากไม่ได้รับการเติมพลังงาน พื้นที่สร้างจะทำลายตัวเอง!”
ทันทีที่หลิงต้านพูดจบ ใบหน้าของหนิวลี่ที่กำลังดีใจก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างที่สุด!
พลังงานห้าสิบหน่วยใช้ได้แค่สามสิบวัน แถมถ้าไม่มีพลังงานก็จะทำลายตัวเอง! นี่มันบังคับให้เขาต้องกังวลเรื่องพลังงานตลอดเวลาเลยนี่หว่า!
แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว สิ่งที่หนิวลี่ทำได้นอกจากตกตะลึงก็คือการสะกดจิตตัวเองซ้ำ ๆ ‘พลังงาน ฉันต้องการพลังงาน!’
เวลาผ่านไปเร็วมาก จนถึงมืด หนิวลี่เก็บเอลฟ์ตัวน้อยและราชันหมาป่าที่เล่นซนจนห้องรกเข้าไปในแหวน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นชุดผู้พิทักษ์! เขาใช้เวทมนตร์บินออกจากโรงแรมชั้นหก บินไปตามหลังคาอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน หนิวลี่ก็มาถึงเยี่ยเยี่ยหลาย เขาเห็นลานหน้าเยี่ยเยี่ยหลายที่ค่อย ๆ คึกคักขึ้นก็ยิ้มอย่างจาง ๆ เก็บผ้าคลุมและผมยาว แล้วเดินไปที่เยี่ยเยี่ยหลายในฐานะคนธรรมดา
แม้จะเดินอย่างสบาย ๆ แต่สัมผัสจิตของหนิวลี่ก็แผ่ไปข้างหน้าแล้ว ทันใดนั้น ชั้นหนึ่งของเยี่ยเยี่ยหลายก็ปรากฏขึ้นในสัมผัสจิตของเขา
เขาจงใจหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดที่ถ่ายภาพด้านหน้าของเขาไว้ แล้วเดินไปที่ลิฟต์ ขณะที่สัมผัสจิตแผ่ขยายขึ้นไป ชั้นสองและชั้นสามต่างก็อยู่ภายใต้การรับรู้ของเขา
“หือ!” ทันใดนั้นสีหน้าของหนิวลี่ก็เปลี่ยนไป
เขาเจอพี่ชายฉางเหมากับไอ้หัวไก่! ตอนนี้พวกมันกำลังทำเรื่องแบบที่พี่ชายฉางเหมาเคยพาเขาไปทำ
พี่ชายฉางเหมาพาเด็กหนุ่มร่างกำยำสองคนมาด้วย แล้วพูดกับไอ้หัวไก่ด้วยสีหน้าเบิกบาน “นี่เป็นของดีเลยนะ ไม่เพียงแต่เป็นพรหมจรรย์ แต่ฉันยังฝึกฝนพวกมันอย่างมืออาชีพมาช่วงหนึ่งแล้ว ไอ้หัวไก่ นายต้องเก็บไว้เป็นเดิมพันนะ”
“อืม ไม่เลว ฝีมือแกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ ฉันคิดว่าอีกไม่นานแกคงขึ้นมาแทนที่ฉันได้แล้ว” ไอ้หัวไก่พยักหน้าอย่างพอใจ
ส่วนฉางเหมาส่ายหน้าอย่างหลอกลวง “ไม่มีทางหรอก สิ่งที่ผมเรียนรู้จากพี่ใหญ่ยังไม่ถึงหนึ่งในร้อย คงไม่กล้าพูดว่าจะขึ้นมาถึงจุดที่พี่ใหญ่เป็นอยู่หรอก แค่ได้เรียนรู้จากพี่ใหญ่สักหนึ่งในสิบ ผมก็พอใจแล้ว”
ฝ่ายหนึ่งมีเรื่องให้ช่วย ฝ่ายหนึ่งก็ชอบรับคำเยินยอ ทั้งสองฝ่ายเสแสร้งพูดคุยกันเล็กน้อย ไอ้หัวไก่ก็พาวัยรุ่นสองคนเดินไปที่กลุ่มวัยรุ่นที่เคาน์เตอร์บาร์ ส่วนฉางเหมาก็เดินทำหน้าเจ้าเล่ห์ไปที่ทางเดินอีกด้านหนึ่ง ไม่นานก็มาถึงเคาน์เตอร์บาร์ฝั่งเด็กสาว
ในกลุ่มเด็กสาวที่เคาน์เตอร์บาร์ ผู้นำเป็นหญิงสาวอายุยี่สิบกว่าปี หน้าตาก็ใช้ได้ รูปร่างเซ็กซี่ เห็นฉางเหมาก็พูดพร้อมรอยยิ้มว่า “พี่ ฉางเหมา อยากจะมาหลอกเงินน้องอีกแล้วเหรอ?”
ฉางเหมาหัวเราะลั่น เดินเข้าไปหยอกล้อกับหญิงสาวคนนั้นพักหนึ่ง จากนั้นก็ได้ยินหญิงสาวคนนั้นพูดว่า “ไอ้คนเจ้าเล่ห์” เขาจึงเลือกเด็กสาวคนหนึ่งจากกลุ่มนั้น พลางยิ้มทะลึ่งแล้วเดินไปที่ทางเดิน
หนิวลี่เดินออกจากลิฟต์ที่ชั้นสาม จิตสัมผัสรับรู้ถึงการกระทำของ ฉางเหมา เขาแค่นเสียงเยาะเย้ย ตอนแรกเกือบจะลืมเรื่องของคนพวกนี้ไปแล้ว แต่พอได้เห็นอีกครั้งในวันนี้ แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยมือที่เคยทำร้ายตัวเองไปได้
เขาติดต่อกับแหวนสรรค์สร้าง ในชั่วพริบตา ยาเม็ดสีแดงเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นในมือของหนิวลี่ มันคือยาปลุกเซ็กซ์ร้ายกาจที่ไอ้หัวไก่เคยเตรียมไว้ให้เขานั่นเอง วันนี้เขาจะใช้มันกับฉางเหมา
หนิวลี่แอบสะกดรอยตามฉางเหมาไปเงียบ ๆ เมื่อเห็นฉางเหมาเดินไปตามทางเดินจนถึงหัวมุม เขาก็หยิบเครื่องดื่มหนึ่งแก้วบนถาดของพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมา แล้วพูดกับหญิงสาวข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้มว่า “คืนนี้พี่จะทำให้เธอมีความสุขจนตายไปเลย”
เด็กสาวคนนั้นก็ผ่านโลกมามาก เธอมองฉางเหมาด้วยหางตา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “หน้าตายละสิไม่ว่า”
หนิวลี่จ้องไปที่เครื่องดื่มแก้วนั้น ในขณะที่ฉางเหมากำลังหยอกล้อกับหญิงสาว เขาก็ใช้นิ้วดีดเบา ๆ พลังลมห่อหุ้มยาเม็ดเล็ก ๆ บินเข้าไปในแก้วเครื่องดื่มของฉางเหมา ในขณะเดียวกัน พลังลมก็กลายเป็นใบมีดลมขนาดเล็ก ฉีกยาเม็ดให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ละลายลงในเครื่องดื่ม
เมื่อเห็นฉางเหมาดื่มเครื่องดื่มหมดแก้ว หนิวลี่ก็จากไปด้วยความพึงพอใจ มุ่งหน้าไปยังชั้นเจ็ด
เป้าหมายในคืนนี้ไม่ใช่การแก้แค้น จัดการกับฉางเหมาเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย การชนะแล้วได้เงินต่างหากคือเรื่องใหญ่
เมื่อมาถึงชั้นเจ็ด เห็นบ่อนคาสิโนที่คึกคักยิ่งกว่าเดิม หนิวลี่ไม่ได้แสดงท่าทางประหลาดใจอะไร เขาหยิบเงินไม่กี่ร้อยที่ติดตัวออกมา แลกเป็นชิปห้าร้อย ในขณะที่พนักงานเสิร์ฟก็มองเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม
นี่คือเงินทุนทั้งหมดของเขา
หนิวลี่ไม่สนใจสายตาของคนอื่น เขาเดินเล่นไปรอบ ๆ บ่อนด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้เพิ่งจะเลยหนึ่งทุ่มไปหน่อย อีกสิบนาทีกว่า ๆ ก็จะถึงสองทุ่มแล้ว
หนิวลี่เป็นแขกที่ถูกเชิญมา และผู้พิทักษ์ก็ต้องการชื่อเสียง แน่นอนว่าเขาไม่สามารถทำตัวเป็นมือใหม่ได้ ในเมื่อนัดกันสองทุ่ม เขาก็จะไปปรากฏตัวตอนสองทุ่ม ตอนนี้ใช้เวลานี้ หาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เลี้ยงตัวเองกับเจ้ากินจุสองตัวเป็นวิธีที่ดีที่สุด
บ่อนคาสิโนที่ชั้นเจ็ดมีรูปแบบการพนันมากมาย หนิวลี่มองไปรอบ ๆ ไม่ได้เลือกเล่นลูกเต๋าแบบครั้งที่แล้ว แต่ไปหยุดที่วงล้อขนาดใหญ่
นี่เป็นรูปแบบการพนันที่น่าสนใจ มีคนมุงดูอยู่ไม่น้อย เกือบทุกคนลองวางเดิมพันเพื่อเสี่ยงโชค
หนิวลี่มองไปสองรอบ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า ดูเหมือนว่าจะเป็นการเสี่ยงโชค แต่จริง ๆ แล้วมีการโกงเกิดขึ้น
รอจนกระทั่งรอบที่สามเริ่มขึ้น หนิวลี่ก็ไม่ลังเลที่จะวางชิปห้าร้อยลงบนหมายเลข 8
คนอื่น ๆ ทยอยวางเดิมพันอย่างไม่ขาดสาย ไม่นานเงินบนโต๊ะก็เกินหมื่น
พนักงานที่ทำหน้าที่หมุนวงล้ออยู่ก็ได้เริ่มทำการหมุนวงล้อให้ทำงาน
หนิวลี่วางคางไว้บนมือ มองดูจานหมุนด้วยสายตา แต่ทว่าพลังจิตสัมผัสกลับทะลุออกไปควบคุมลูกบอลสีขาวที่อยู่บนจานหมุนเอาไว้
จานหมุนค่อย ๆ หยุดลง ลูกบอลสีขาวตกลงไปที่หมายเลข 8 พอดี!
“ว้าว!”
ผู้คนที่รอดูอยู่ต่างพากันส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้น พวกเขานึกในใจว่า ‘หมอนี่โชคดีเกินไปแล้ว ลงทีเดียวก็ได้รางวัลใหญ่ซะแล้ว!’
ถ้าหากดูจากอัตราการจ่ายของการแทงแบบหมายเลขเดียว หนิวลี่ได้เงินรางวัลถึงสามสิบห้าเท่า!
พนักงานควบคุมวงล้อแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เขาจ้องมองลูกบอลสีขาวที่อยู่บนจานหมุนด้วยสีหน้าโง่งม นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาเป็นคนควบคุมเอาไว้สักหน่อย เขาต้องการให้ลูกบอลไปตกที่หมายเลข 13 ต่างหาก หรือว่าเครื่องควบคุมมันพัง?
ถึงอย่างนั้น พนักงานก็ยังคงจ่ายเงินให้กับหนิวลี่อย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่าเขาให้ความสนใจหนิวลี่มากขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อยเท่านั้น
สามสิบห้าเท่า นั่นก็หมายความว่าหนิวลี่ใช้เงินห้าร้อย แป๊บเดียวก็ทำเงินได้หนึ่งหมื่นเจ็ดพันห้าร้อย รวดเร็วกว่าการปล้นเสียอีก
หนิวลี่มองกองชิปพลาสติกกองโตที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะแสร้งทำท่าทางตื่นเต้นออกมาอย่างพอเหมาะพอเจาะ
จากนั้นก็เริ่มการเดิมพันรอบใหม่ หนิวลี่ไม่รีรอ กดเงินเดิมพันไปหนึ่งพันทันที แล้วเลือกหมายเลข 8 อีกครั้ง จากนั้นก็รอคอยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ราวกับว่ากำลังตั้งตารอรับรางวัลใหญ่ ทำเอาพนักงานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดูถูกอยู่ในใจ คิดว่าตัวเองคงจะมองเขาผิดไป นี่มันดวงซวยชัด ๆ
เมื่อการเดิมพันเสร็จสิ้น วงล้อก็เริ่มหมุน ผู้คนที่วางเดิมพันต่างก็มีสีหน้าตึงเครียด
วงล้อค่อย ๆ หยุดลง ทุกคนที่เห็นต่างก็มีสีหน้าราวกับเห็นผี
เป็นเลข 8 อีกแล้ว!
เป็นไปได้ยังไง?? ออกเลข 8 ติดกันถึงสองครั้งเนี่ยนะ หรือว่าวงล้อมันพัง? หรือว่าหมอนี่บรรพบุรุษเข้มแข็งกันแน่?
ผู้คนที่รอดูต่างก็มองมาที่ผมด้วยแววตาที่อธิบายไม่ถูก แค่การพนันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่หมอนี่กลับชนะรางวัลใหญ่ได้ถึงสองครั้ง ติดแจ็กพอตยิ่งกว่าเหยียบอึสุนัขซะอีก
คราวนี้พนักงานไม่กล้าดูถูกหนิวลี่อีกต่อไป สีหน้าของเขากลายเป็นจริงจังขึ้นมาในพริบตา นี่มันดวงดี? หรือว่าโกงกันแน่? แต่ว่าเขายืนห่างจากวงล้อตั้งไกล จะโกงได้ยังไง? พนักงานเริ่มรู้สึกกังวลแล้วสิ!
พนักงานจ่ายเงินให้กับหนิวลี่อีกครั้ง คราวนี้หนิวลี่ได้เงินไปสามหมื่นห้าพัน คิดรวม ๆ แล้วสองตาที่ผ่านมาหนิวลี่ได้เงินไปทั้งหมดห้าหมื่นสองพัน ในขณะที่เงินทุนมีเพียงแค่ห้าร้อย! ถ้าหากนักพนันคนอื่นเห็นเข้าละก็ คงจะตาแดงด้วยความริษยาจนแทบอยากจะฆ่าเขาทิ้งแน่ ๆ
พนักงานที่ทำหน้าที่อยู่จ้องมองหนิวลี่เขม็ง อยากจะรู้ว่าตาต่อไปเขาจะเล่นยังไง
ทว่าหนิวลี่กลับรวบรวมชิปพลาสติกทั้งหมดเอาไว้ จากนั้นก็เดินจากไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม! ดูเหมือนว่าเขาจะอยากไปเล่นอย่างอื่นต่อ ทำเอาพนักงานที่อยู่ในอาการตึงเครียดงุนงงไปครู่หนึ่ง!