ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 45 พบกับหลี่เตาปาอีกครั้งมราโรงเรียน
บทที่ 45 พบกับหลี่เตาปาอีกครั้งมราโรงเรียน
บทที่ 45 พบกับหลี่เตาปาอีกครั้งมราโรงเรียน
“เหอะ ๆ ครูเจี่ยง นี่คือตารางเรียนและบันทึกการเรียนรู้ที่พวกเราในห้องกำหนดขึ้นเอง หวังว่าครูจะชี้แนะและให้คำแนะนำกับพวกเขาหน่อยนะครับ” หนิวลี่พูดด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย
“อ้อ งั้นวางไว้ตรงนี้ก็ได้” เจี่ยงเหรินเฟิงพูดด้วยท่าทีพึงพอใจเล็กน้อย พร้อมกับชี้ไปที่โต๊ะทำงานด้านหน้า ท้ายที่สุดแล้ว นี่ก็เป็นห้องที่เธอเป็นคนดูแล จากสภาพที่แย่ที่สุดก็เริ่มดีขึ้น อย่างน้อยสถานการณ์ก็น่ายินดี
“ครับ!” หนิวลี่รีบวางบันทึกการเรียนรู้ลง หันหลังกลับ เตรียมจะเดินออกไป ที่นี่อยู่นานไม่ได้แล้ว!
“หยุดก่อน” หลี่เตาปา กลับไม่คิดจะปล่อย หนิวลี่ ไป สายตาเฉียบคมยังคงจ้องมองจนหนิวลี่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว งไอ้บ้า ตั้งใจหาเรื่องกันรึไง’
“นักเรียนคนนี้น่าตาคุ้นๆ นะ พวกเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า” หลี่เตาปา ถามขึ้นเบา ๆ พลางยิ้มที่มุมปาก
“ไม่เคย” หนิวลี่ปฏิเสธเสียงแข็ง
“อ้อ แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเคยเห็นนายที่ไหนมาก่อน แถมยังดูคุ้นเคยอีกด้วย” น้ำเสียงของหลี่เตาปาบ่งบอกถึงความสนุกสนาน
หนิวลี่อดรู้สึกโมโหไม่ได้ ‘ไอ้หมอนี่ต้องการจะบีบให้ฉันแสดงตัวออกมางั้นเหรอ? เชอะ ทำให้ฉันเรียนอย่างสบายใจไม่ได้ ฉันก็จะทำให้แกใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่ได้เหมือนกัน’
ดวงตาของหลิวลี่ฉายแววความโกรธ สีหน้าเย็นชาลงในทันที
หลี่เตาปากลับหัวเราะออกมาอย่างกะทันหัน “ฉันอาจจะจำคนผิดก็ได้ นักเรียนคนนี้หน้าตาเหมือนเพื่อนคนหนึ่งของฉันมากเลย”
หนิวลี่แทบสำลัก ‘ไอ้บ้านี่เล่นตลกกับฉันเหรอ?’
หนิวลี่มองหลี่เตาปาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยิ้มออกมา “อาจจะมั้ง เหอะ ๆ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบหนิวลี่ก็เดินออกจากห้องทำงานไป
การปะทะกันระหว่างหลี่เตาปากับหนิวลี่เกิดขึ้นเร็วมาก เจี่ยงเหรินเฟิงยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร หนิวลี่ก็เดินออกไปแล้ว เธอจึงจ้องมองหลี่เตาปาด้วยความไม่พอใจ “ทำไมคุณถึงไปขู่นักเรียนของฉันแบบนั้น”
“ฮ่าๆ ๆ ผมแค่…” หลี่เตาปา กำลังจะแก้ตัว แต่จู่ ๆ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ร่างกายเซถอยหลังไปนั่งลงบนเก้าอี้
“คุณเป็นอะไรไป!?” เจี่ยงเหรินเฟิงตกใจมาก รีบเข้าไปประคอง
“ไม่เป็นไร แค่วิงเวียนนิดหน่อย” ดวงตาเขาพร่ามัวไปหมด รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา หลี่เตาปาอธิบายพลางหายใจเข้าลึก ๆ ยกศีรษะขึ้น มองตรงไปยังประตูที่หนิวลี่เพิ่งปิดลงเมื่อสักครู่ รู้สึกเหมือนมีอะไรหนัก ๆ หล่นลงมาทับอก
‘ไอ้หมอนี่ เป็นคน ๆ เดียวกับคืนนั้นจริง ๆ ด้วย แค่แป๊บเดียวก็เล่นงานฉันซะแล้ว นี่มันตั้งใจจะเตือนว่าชีวิตฉันอยู่ในกำมือมันงั้นเหรอ?’
‘อืม ตัวเองก็ประมาทไปหน่อย ดันกล้าไปยั่วโมโหคนแบบนี้อีก รอดมาได้หวุดหวิดจริง ๆ’
“ไม่เป็นไรหรอก อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนโดนลมเย็นมั้ง กลับไปพักผ่อนก็หายแล้ว” หลี่เตาปาพูดเบา ๆ อีกครั้ง
“เมื่อคืน โดนลมเย็นเหรอ” ไม่นึกเลยว่าพอได้ยินคำว่า ‘เมื่อคืน’ ใบหน้าของเจี่ยงเหรินเฟิงก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ สวยงามจนยากจะละสายตา
หลังออกจากห้องพักครูมา หนิวลี่ก็มีสีหน้าภาคภูมิใจ ‘กล้ามาหาเรื่องฉันเรอะ คิดว่าฉันเป็นคนใจดีหรือไง? ไม่สั่งสอนให้หลาบจำ คงคิดว่าฉันรังแกง่าย’
เรื่องที่หลี่เตาปากับครูประจำชั้นของเขากำลังคบกันอยู่นั้น ทำให้หนิวลี่คาดไม่ถึงจริง ๆ แต่พอนึกดูดี ๆ แล้ว มันก็ปกติ หลี่เตาปาครองเมืองเอช ผู้หญิงแบบไหนกันที่ไม่หมายปองเขา แต่เจี่ยงเหรินเฟิงมีออร่าเย็นชาและสูงส่งแบบนี้ ถือว่าหาได้ยากจริง ๆ ที่คนทั้งสองจะดึงดูดกันและกัน ก็เหมือนกับเต่ามองดูถั่วเขียว ถือว่าปกติดี แค่พัฒนาการมันเร็วไปหน่อย ตัวเขาแค่ไปภูเขาเสินหนงเจี้ยแป๊บเดียว ทั้งสองคนก็สานสัมพันธ์กันแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้พัฒนาไปถึงขั้นไหน
ท่ามกลางบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนาน เวลาเรียนในช่วงเช้าก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนิวลี่บิดขี้เกียจเล็กน้อย มองไปที่สีหน้าเคารพปนเอ็นดูของเพื่อนร่วมชั้นทุกคน ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเบา ๆ “เลิกเรียนแล้ว รีบไปกินข้าวกันเถอะ โรงอาหารนี่ห้องสามเรายึดหัวแถวมาตลอด อย่าให้ห้องอื่นแซงหน้าไปได้ล่ะ”
“ฮ่า ๆ ๆ ได้เลย เชื่อฟังพี่ใหญ่หนิว” นักเรียนที่ซุกซนอยู่แล้วก็ดีใจกันใหญ่ รู้สึกว่าหนิวลี่นั้นเข้าใจง่าย ถึงแม้จะบังคับให้ทุกคนตั้งใจเรียน แต่ก็ไม่ได้จำกัดอิสระและบุคลิกของทุกคน ทำให้นักเรียนชายส่วนใหญ่ในห้องรู้สึกดีกับหนิวลี่มากขึ้น
หนิวลี่ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ‘เชื่อฟังพี่หนิว แล้วยังจะเชื่อฟังแม่ตัวเองด้วยไหม’ หลังจากเก็บหนังสือเสร็จ หนิวลี่ก็เดินออกจากห้องเรียนไปพร้อมกับคนอื่น ๆ มุ่งหน้าไปที่ประตูโรงเรียน
เมื่อเดินมาถึงประตูโรงเรียน ดวงตาของหนิวลี่ก็เป็นประกาย ก่อนจะหยุดเดิน
เขาเจอหลี่เตาปายืนดักอยู่ตรงนั้น คาดว่าน่าจะรอใครบางคน
ถัดจากนั้น ปรากฏหลี่เหมิงเหมิงยืนอยู่ เธอกำลังออดอ้อนออเซาะขออะไรบางอย่างจากหลี่เตาปา
“เอ๊ะ! หนิวลี่ พี่ชาย! คนนี้แหละที่รังแกฉัน พี่ชายต้องช่วยฉันสั่งสอนมันนะ” หลี่เหมิงเหมิงหันมาเห็นหนิวลี่เข้า ก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที พูดด้วยท่าทางหยิ่งผยอง
หนิวลี่เอามือลูบจมูก รู้สึกหดหู่ใจ ทำไมถึงรู้สึกว่าที่ผ่านมาโดนเธอแกล้งอยู่ฝ่ายเดียว เพื่อรักษาหน้าพี่ชายเธอ เขาถึงกับไม่แตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บ แต่ตอนนี้กลับมาใส่ร้ายป้ายสีกันแบบนี้เนี่ยนะ?
‘เหอะ ๆ พี่ชายเธอจะกล้าหาเรื่องฉันเหรอ??’
ตอนนี้ไม่ได้อยู่ต่อหน้าเจี่ยงเหรินเฟิง เขาก็ไม่กลัวว่าจะถูกเปิดโปง จึงมองหลี่เตาปาด้วยสายตาท้าทาย
“น้องสาว อย่าซุกซน” หลี่เตาปาไม่กล้าหาเรื่องแล้ว ตอนเช้าไปยั่วโมโหหนิวลี่เข้าด้วยความใจร้อน เลยโดนหนิวลี่เล่นงานกลับ ตอนนี้ยังปวดขมับไม่หาย จะไปหาเรื่องเขาอีกได้ยังไง? นี่มันไม่ใช่การหาเรื่อง แต่เป็นการหาที่ตายชัดๆ!
“พี่ชาย” หลี่เหมิงเหมิงเบะปากกระทืบเท้าอย่างเอาแต่ใจ แต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของหลี่เตาปาก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ กลับรู้สึกกังวลในใจขึ้นมาเล็กน้อย
‘เขาไม่ใช่แค่ลูกเจ้าของร้านอาหารกระจอก ๆ หรอกเหรอ? เขาไม่มีภูมิหลังอะไรไม่ใช่เหรอ? ทำไมพี่ชายถึงได้เกรงใจเขานัก?’
หนิวลี่ เดินเข้าไปหาทั้งคู่อย่างเชื่องช้า เหลือบมองหลี่เหมิงเหมิงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาหลี่เตาปา
“พี่ตี๋ ดีใจจังที่ได้เจอกันอีก” หนิวลี่พูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย
หลี่เตาปาฝืนยิ้มออกมา ไม่รู้จะพูดอะไรดี
เมื่อเห็นดังนั้น หนิวลี่ก็ไม่ทำให้ลำบากใจ ‘ท้ายที่สุดแล้ว ยังต้องพึ่งพาพี่ชายคนนี้จัดการกับพวกญี่ปุ่นอยู่ ต้องไว้หน้าเขาหน่อย’
“รอครูเจี่ยงเหรอ”
หลี่เตาปาส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะพูดว่า “เพื่อนน่ะ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเหมิงเหมิง เพิ่งมาถึงโรงเรียนเพื่อจัดการเรื่องเข้าเรียน” น้ำเสียงดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
หนิวลี่ขมวดคิ้วขึ้น “เย่หลิงหลง?”
หลี่เตาปาตกใจ “นายก็รู้จักด้วยเหรอ?”
หนิวลี่เบะปาก “ได้ยินเด็กคนนึงพูดมา เธอบอกว่ามีคนชื่อเย่หลิงหลงที่ชอบรวมหัวกับน้องสาวนายรังแกเธอ”
“เหมียวเถียนเถียน ยัยแก่บ้านั่น” หลี่เหมิงเหมิงพูดแทรกขึ้นมาทันที
หลี่เตาปาจ้องมองน้องสาวตัวเองอย่างเอาเรื่อง “บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับเหมียวเถียนเถียนเธอก็ไม่เคยฟังเลย”
“เชอะ” หลี่เหมิงเหมิง หันหน้าหนีด้วยความดื้อรั้น
“หึ ๆ เด็ก ๆ ทะเลาะกันนิดหน่อย พี่ตี๋ไม่เห็นต้องดุขนาดนั้นเลย” หนิวลี่ พูดตัดบทอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “พี่หู่สืบเรื่องนั้นชัดเจนรึยัง”
ดวงตาของหลี่เตาปาสั่นไหว ก่อนจะกลับมารักษามาดของมาเฟียใหญ่ผู้สง่างามอีกครั้ง เขายิ้มและพูดว่า “ขอบคุณน้องหนิวที่เป็นห่วง ด้วยคำชี้แนะของน้องหนิว เรื่องนี้ก็กระจ่างแล้ว การแก้ปัญหาก็เป็นแค่เรื่องของเวลา”
“เหอะ ๆ งั้นก็ดีเลย จริง ๆ แล้วฉันเป็นคนรักชาติมาก ไม่งั้นคงไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้หรอก บอกตามตรงนะ ถ้าเป็นไปได้ ฉันจะลงมือจัดการพวกยากูซ่าไร้ค่าพวกนั้นเอง แต่อย่างแรก พวกนายต้องมั่นใจว่าจะสามารถกำจัดขยะพวกนั้นได้ทั้งหมด ไม่งั้นถ้าทำพลาด ฉันจะไม่พอใจมาก” หนิวลี่สวมบทบาทเป็นผู้ดีมีอำนาจได้อย่างแนบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ
ต้องยอมรับว่าพลังมีผลต่อความมั่นใจเป็นอย่างมาก เป็นนักเวทย์ขั้นต้นระดับสูงสุดของเผ่าพันธุ์เอลฟ์แล้ว อีรกทั้งยังมีเตียวเสี้ยนที่เป็นเอลฟ์ขั้นกลางและหมาป่ากระหายเลือดอีกตัว ตอนนี้หนิวลี่ไม่เห็นหัวผู้มีอิทธิพลของเมืองเอชอีกต่อไปแล้ว