ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 34 สถานที่ฝึกฝนวิชา
บทที่ 34 สถานที่ฝึกฝนวิชา
บทที่ 34 สถานที่ฝึกฝนวิชา
ยามดึกเงียบสงัด พระจันทร์ลอยอยู่กลางท้องฟ้า ถึงแม้หนิวลี่จะเป็นวัวตัวจริง ก็คงเหนื่อยจนหอบแล้ว
บนแท่นหินที่ค่อนข้างสะอาดแห่งหนึ่ง หนิวลี่ค่อย ๆ นั่งลงอย่างช้า ๆ รู้สึกเหมือนกระดูกทั้งตัวกำลังจะหลุดออกจากกัน ตลอดทางที่เดินมาไม่รู้ว่าไกลแค่ไหน ทั้งยังเป็นทางลาดชันทั้งนั้น โดยทั่วไปแล้วใครในวัยหนุ่มจะทนไหวกัน
หนิวลี่ทนไม่ไหวแล้ว ได้แต่นั่งอยู่ตรงนี้ ค่อย ๆ ดูดซับพลังงานฟ้าดินที่หมุนวนอยู่เพื่อฟื้นฟูพลังกายและจิตใจที่สูญเสียไป
มองดูสภาพแวดล้อมป่าทึบมืดครึ้มโดยรอบ รวมถึงเสียงร้องของแมลงเล็ก ๆ ไม่ทราบชื่อบนพื้นดิน หนิวลี่หายใจเข้าลึก ๆ รู้สึกว่าอากาศที่นี่ช่างสบายยิ่งนัก อากาศที่ผสมผสานกับพลังงานฟ้าดิน พอสูดหายใจเข้าไปก็ทำให้อวัยวะภายในทั้งห้าทั้งหกโล่งสบายไปหมด เมื่อเทียบกับในเมืองแล้วดีกว่ากันหลายเท่านัก
พอพลังงานจิตวิญญาณฟื้นคืนมาบ้างเล็กน้อย เขาก็ตรวจจับสิ่งแปลกปลอมในรัศมีร้อยเมตร เมื่อไม่พบอันตราย จึงนั่งขัดสมาธิบนแท่งหินใหญ่ ค่อย ๆ เข้าสู่สภาวะฝึกฝน
ว่ากันว่าพรสวรรค์ในการฝึกฝนของหนิวลี่ เมื่อเทียบกับเหล่าเอลฟ์แล้วก็ไม่น้อยหน้ากัน ในสภาวะที่ฝึกฝนจิตใจสามารถก่อรูปเป็นร่างจิตได้ การดูดซับพลังงานฟ้าดิน เมื่อเทียบกับเอลฟ์ระดับกลางทั่วไปแล้วยิ่งน่ากลัวกว่า ถึงแม้จะสู้แหวนสรรค์สร้างไม่ได้ แต่สิ่งที่ฝึกฝนออกมากลับเป็นพลังเวทของตัวเอง
หนิวลี่ตั้งสมาธิในสภาวะที่จิตใจค่อย ๆ สงบนิ่ง ถอดร่างจิตออกจากกายหยาบได้อย่างรวดเร็ว ร่างจิตทั้งร่างล่องลอยอยู่ในพลังงานฟ้าดินที่หมุนวน
“นี่มัน…” หนิวลี่ตกใจมองสิ่งรอบกาย
ในสภาวะร่างจิต สิ่งที่เห็นไม่ใช่วัตถุธรรมดา แต่เป็นพลังงานฟ้าดินเป็นผืน ๆ
เมื่อร่างจิตสัมผัสถูกพลังงานฟ้าดิน ก็เหมือนทารกที่ได้กลับสู่ครรภ์มารดา สบาย อบอุ่น และยังให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นอีกด้วย
พลังแห่งจิตวิญญาณของหนิวลี่ถูกปลุกเร้า ความคิดฟุ้งซ่านที่ไม่จำเป็นถูกชะล้างออกไปทีละน้อย จิตใจเปรียบเสมือนแผ่นกระดาษเปล่าที่เผยให้เห็นสภาวะจิตใจดั้งเดิมของมนุษย์ ร่างกายทั้งมวลกลมกลืนไปกับอ้อมกอดของธรรมชาติ
เริ่มแรก มนุษย์มีใจบริสุทธิ์
มนุษย์ลอกเลียนแผ่นดิน แผ่นดินลอกเลียนฟ้า
ในสภาวะนี้ ร่างจิตรีบดูดกลืนพลังงานฟ้าดินที่หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ความรวดเร็วแทบจะไล่ตามแหวนสรรค์สร้างได้ทัน
พรสวรรค์ของหนิวลี่ ทำให้ดวงตาสีแดงขนาดใหญ่ของเหลิงต้านปรากฏขึ้นพร้อมกับความงุนงง ‘เขายังใช่มนุษย์อยู่หรือเปล่า’ แต่หนิวลี่คือเจ้านายเหลิงต้าน จึงแค่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะมุ่งความสนใจไปที่การดูดซับพลังงานฟ้าดิน การอัปเกรดของเอลฟ์น้อยนั้นเป็นจุดประสงค์หลักของการมาในครั้งนี้
เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ความมืดยิ่งปกคลุมมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ จางลง เริ่มปรากฏแสงสีขาวของยามรุ่งสางทางทิศตะวันออก
การตัดสินใจอย่างปุบปับของหนิวลี่ ทำให้การมาในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย
พลังงานฟ้าดินในยามค่ำคืนผสมผสานกับแสงจันทร์ ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์โดยรวมทั้งด้านการฟื้นฟูและวิวัฒนาการ ตามตำนานโบราณกล่าวว่า เหล่าภูตผีปีศาจอาศัยพลังจากแสงจันทร์เพื่อพัฒนาตนเอง แปลงร่างเป็นมนุษย์และแสวงหาหนทางสู่ความเป็นอมตะ
การตระหนักรู้โดยไม่ได้ตั้งใจของหนิวลี่ และการรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลังงานฟ้าดิน ขณะที่จิตใจได้รับการชำระล้าง พลังงานอันไม่มีที่สิ้นสุดของฟ้าดินและแสงจันทร์ก็กำลังปรับเปลี่ยนร่างกายของชายหนุ่ม
โรคเรื้อรังเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลงเหลืออยู่จากการถูกทำร้ายในอดีตได้รับการกำจัดและซ่อมแซม สารพิษที่เหลืออยู่ในร่างกายถูกขับออกจากร่างกาย ถูกชะล้างและสลายไปโดยพลังงานฟ้าดินที่หมุนเวียน
แต่ประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือสมอง พลังจิตของหนิวลี่ก่อตัวเป็นพลังเวท ในขณะที่ดูดซับพลังงานฟ้าดิน ก็ยังคงอาบแสงจันทร์อย่างต่อเนื่อง พลังจิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในคืนเดียวก็เกินระดับของเอลฟ์ระดับเริ่มต้นไปแล้ว รัศมีของจิตสัมผัสขยายออกไปในระยะทางที่น่ากลัวถึง 350 เมตรโดยรอบ!
ในที่สุด เมื่อสีแดงปรากฏขึ้นทางทิศตะวันออก พลังงานฟ้าดินในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรโดยรอบ หนิวลี่ ก็จางลงจนแทบไม่ต่างจากเมืองทั่วไป
แหวนที่สร้างขึ้นไม่สามารถดูดซับพลังงานได้เพียงพอ หนิวลี่จึงตื่นขึ้นจากสภาวะร่างจิต
ชั่วพริบตาที่ตื่นขึ้น สายตาของหนิวลี่ก็ปล่อยแสงวาวออกมาสองลำ
หนิวลี่อดไม่ได้ที่จะดีใจคนเดียวเงียบ ๆ เพียงแค่ชั่วข้ามคืน เขากลับเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล
ก่อนหน้านี้ ตอนที่ทำสัญญาเลือดกับเอลฟ์น้อย ทั้งคู่แบ่งปันพลังเวทได้สูงสุดถึง 80% แต่ก็มีเพียง 30% ของพลังเวทเท่านั้นที่สามารถใช้ได้และอยู่ในร่างกายของตัวเอง
ตอนนี้ หลังจากดูดซับพลังงานฟ้าดินเพียงหนึ่งคืน ตัวเองกลับมีพลังเวทมาเป็นของตัวเองได้ และจากคลื่นพลังเวทที่รู้สึกได้ ก็เกือบจะเกินระดับพลังเวทของเอลฟ์ขั้นต้นแล้ว!
นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ก้าวกระโดดข้ามประตูมังกรในชั่วข้ามคืน
เขาลองทดสอบจิตสัมผัสอีกครั้ง ระยะทาง 350 เมตรนั้นน่าประทับใจ แต่หนิวลี่ไม่ได้ดีใจจนเกินไป นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เขายังมีเวลาอีกสองวัน และจะต้องมีความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อย่างแน่นอน เอลฟ์ขั้นต้นนับว่าเป็นอะไร เขาเองก็ต้องไปถึงเอลฟ์ขั้นกลาง เมื่อถึงเวลานั้น หากเขาแบ่งปันพลังเวทกับเอลฟ์น้อย พลังของเขาน่าจะเยอะขึ้นอย่างมหาศาลจนสามารถใช้เวทมนตร์ระดับสูงบางอย่างได้!
พูดถึงเอลฟ์น้อยหนิวลี่ตรวจจับพลังจิตในแหวน พบว่าเจ้าตัวน้อยนอนอย่างสบายในตู้คริสตัล เครื่องจักรแปลงพลังงานจากฟ้าดินเป็นพลังเวทส่งเข้าไปในร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เจ้าตัวน้อยถูกห่อหุ้มด้วยออร่าสีแดงอ่อน
‘ที่แท้ก็เป็นเอลฟ์ธาตุอัคคี ไม่แปลกใจเลยที่โมโหร้าย!’ หนิวลี่กล้าที่จะพูดจาเสียดสีเอลฟ์น้อยลับหลังก็แค่ตอนนี้
เห็นว่าแหวนสรรค์สร้างดูดซับพลังงานฟ้าดินไม่ค่อยได้ผลแล้ว กระบวนการเปลี่ยนเป็นพลังเวทให้เอลฟ์น้อยก็ช้าลง หนิวลี่จึงรีบลงจากแท่นหินเดินทางไปยังสถานที่ที่มีพลังงานฟ้าดินหนาแน่นกว่าตามคำแนะนำของเหลิงต้านอีกครั้ง
ส่วนบริเวณที่พลังงานถูกดูดซับจนบางเบานี้ ตราบใดที่ภูเขาเสินหนงเจี้ยไม่ถูกทำลาย พลังงานจากที่อื่นก็จะไหลบ่ามาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว และจะไม่ขัดขวางการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่นี้
ภูเขาเสินหนงเจี้ยในตอนกลางวันดูดีกว่าตอนกลางคืนมาก ทิวทัศน์ป่าดิบชื้นที่หนาแน่น อากาศที่บริสุทธิ์ เสียงนกร้องที่ไพเราะ ล้วนแสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะตามธรรมชาติของป่าผืนนี้
การฝึกฝนจิตวิญญาณทั้งคืนทำให้หนิวลี่กระปรี้กระเปร่า แม้เดินบนเส้นทางป่าที่คดเคี้ยวก็รู้สึกเบาตัวเหมือนนกนางแอ่น ก้าวเท้าราวกับบิน ภายใต้การปรับเปลี่ยนของพลังงานฟ้าดิน แม้จะไม่ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเดินป่า แต่ความอึดและความแข็งแกร่งของร่างกายในทุกด้านก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย
การเดินเล่นในป่าพลางดูดซับพลังงานบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเซียนอิสระ
[นายท่าน ด้านหน้าตรวจพบพลังงานบริสุทธิ์ความเข้มข้นร้อยละ 95 ความหนาแน่นร้อยละ 98]
ทันใดนั้นเสียงเอไอของเหลิงต้านก็ดังขึ้น
หนิวลี่ตกใจในตอนแรก จากนั้นก็ดีใจมาก
ความบริสุทธิ์และความหนาแน่นของพลังงานสูงขนาดนี้ เดินมาตั้งไกลเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก หรือว่าเจอที่ศักดิ์สิทธิ์ของเซียนเข้าแล้ว
เขารีบวิ่งไปตามทิศทางที่เหลิงต้านบอก แต่กลับพบว่าด้านหน้าเป็นหุบเขาลึก ทอดยาวคดเคี้ยว ไม่รู้ว่าหัวท้ายอยู่ที่ใด
น้ำในหุบเขาไหลเชี่ยวกราก ส่งเสียงซู่ซ่า ผาหินทั้งสองฝั่งชันมาก มีต้นไม้ขึ้นแทรกเล็กน้อย นกบินผ่านเป็นครั้งคราว ส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง
หนิวลี่ตกตะลึงกับทิวทัศน์ธรรมชาติอันน่าทึ่งนี้ มองไปยังหุบเหวลึกอันกว้างใหญ่ไพศาล รู้สึกว่าจิตวิญญาณทั้งหมดของตนเองได้รับการยกระดับขึ้น
ฝีมือการสร้างสรรค์ของธรรมชาตินั้นน่าอัศจรรยฺ์ยิ่งนัก
[ความบริสุทธิ์ของพลังงาน 97% ความเข้มข้น 99%]
ยิ่งเข้าใกล้ พลังงานฟ้าดินก็ยิ่งบริสุทธิ์และหนาแน่น!
เสียงเอไอดังขึ้น หนิวลี่ได้สติและนึกขึ้นได้ว่าตนเองมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ พลังงานฟ้าดินที่บริสุทธิ์เข้มข้นเช่นนี้ เป็นสถานที่ฝึกฝนวิชาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่ดูดซับตอนนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม?
เขาเปิดใช้งานฟังก์ชันการดูดซับพลังงานบริสุทธิ์ของแหวนสรรค์สร้าง หนิวลี่แผ่ขยายจิตสัมผัสออกไป 350 เมตร รู้สึกถึงพลังงานฟ้าดินที่รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ล้อมรอบด้วยธาตุที่เย็นและอบอุ่นเล็กน้อย ทั้งตัวรู้สึกสบายจนอยากจะครางออกมา
ร่างจิตก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว กวาดต้อนพลังงานฟ้าดินที่มารวมตัวกันจากรอบ ๆ อย่างบ้าคลั่ง
ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะมีผู้คนเหยียบย่างเข้ามาน้อยมาก ธรรมชาติจึงไม่ได้รับความเสียหาย ปริมาณพลังงานเพียงพอให้แหวนจำลองดูดซับได้นานมาก แม้แต่ร่างจิตของหนิวลี่ก็ดูดซับไปพร้อม ๆ กัน สำหรับหยกวิเศษในหุบเหวลึก ก็เหมือนกับหยดน้ำในมหาสมุทร ไม่สำคัญอะไรเลย
เมื่อพบสถานที่ฝึกฝนวิชาเช่นนี้ หนิวลี่ก็ไม่ได้วนเวียนไปมาอย่างไร้จุดหมายเหมือนแมลงวันไร้หัวอีกต่อไป เขาเลือกพื้นหินเรียบเย็นและสะอาด นั่งขัดสมาธิลง ทุ่มเทกายและใจทั้งหมดให้กับการดูดซับพลังงานฟ้าดิน
กลุ่มพลังงานฟ้าดินที่เข้มข้นจนก่อตัวเป็นหมอกขาวค่อย ๆ ห่อหุ้มหนิวลี่เอาไว้ ปรากฏและหายไปเป็นระยะเหมือนเซียน