ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 280 แข่งเก้ารอบ แพ้เก้ารอบ
ตอนที่ 280 แข่งเก้ารอบ แพ้เก้ารอบ
ตู้ม!
ร่างกายของโม๋เลี่ยสั่นสะท้าน กลิ่นอายเหนือกว่าราชาเซียนขั้นต้นเล็ดลอดออกมาจากกายเขา มันคือกลิ่นอายของราชาเซียนขั้นกลาง!
หืม? ราชาเซียนขั้นกลาง!!!
เมื่อเห็นเหตุการณ์กะทันหันนี้ ทุกคนต่างตื่นตระหนกทันที
จวินเต้าหลินก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน ร่องรอยความหวาดกลัวฉายชัด
ปรากฏว่าวังมารได้วางกับดักหนิงฝานแล้ว!
หากให้คาดเดา เมื่อหนิงฝานออกมา โม๋เลี่ยจะสังหารหนิงฝานด้วยพลังสายฟ้าแน่นอน
นั่นอะไร!
และในเวลานี้ เย่เฟิงก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน เขาต้องการจะล่าถอย ทว่ามันสายเกินไปแล้ว
ตู้ม!
ขณะที่โม๋เลี่ยปล่อยหมัด พลังอันน่าสะพรึงกลัวของราชาเซียนขั้นกลางก็ทำลายพลังทั้งหมดของเย่เฟิงทันที เมื่อกำปั้นหนักปะทะกับเย่เฟิง ร่างกายของเขาก็รวดร้าวราวกับถูกสายฟ้าฟาดรุนแรง กระดูกพลันแตกร้าวเป็นเสี่ยง ๆ โลหิตหลั่งรินไม่ขาดสาย
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย
“เย่เฟิง!”
“พี่ใหญ่เฟิง!”
“ศิษย์พี่ใหญ่เย่เฟิง!”
“…”
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า คนในวังเซียนทั้งหมดต่างเผยใบหน้าซีดเซียว
ใบหน้าของจวินเต้าหลินก็มืดมนด้วยเช่นกัน
โม๋เลี่ยยังไม่คิดสังหารเย่เฟิง เขาก้าวขาไปด้านหน้า กระทืบศีรษะของเย่เฟิงรุนแรง พลังอันน่าสะพรึงบดขยี้ศีรษะจนเย่เฟิงต้องกรีดร้องออกอย่างเจ็บปวด
“หนิงฝาน! เจ้าต้องการยอมแพ้หรือไม่? หากยินยอม ข้าจะไว้ชีวิต!”
โม๋เลี่ยคำรามเย็นชา น้ำเสียงเต็มไปด้วยภัยคุกคาม
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หนิงฝานก็ขมวดคิ้วแน่น ในแววตาเผยความเย็นเยือก
ทว่าขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหว จวินเต้าหลินก็ส่ายศีรษะพร้อมกล่าวว่า “มาสู้กันอีกรอบ!”
ตึง!
สิ้นเสียง ร่างกำยำก็ลงจากเวที กลิ่นอายในกายของเขาอยู่ในขอบเขตราชาเซียนขั้นกลาง
“โม๋เลี่ย รอบที่สองนี้ ข้า ลวี่ถูจะเป็นผู้สู้กับเจ้า”
ทันทีที่ชายร่างใหญ่นามว่าลวี่ถูก้าวขึ้นมาบนเวที เขาก็ปลดปล่อยพลังสะกดข่มโม๋เลี่ยราวกับสัตว์ร้ายบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัว
“ฮ่าฮ่า!”
เมื่อสัมผัสจิตสังหารของลวี่ถูได้ โม๋เลี่ยคำรามลั่น ก่อนจะปลดปล่อยปราณมารขนาดใหญ่แล้วทะยานไปด้านหน้า
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทันใดนั้นโม๋เลี่ยและลวี่ถูก็สู้กันอย่างดุเดือดบนเวที เกิดเสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหวราวกับภูเขาเซียนสองลูกพุ่งชนกันในทุกครั้งที่ทั้งสองปะทะกัน คลื่นพลังบ้าคลั่งแผ่ขยายออกรุนแรง บรรยากาศสั่นไหวไปทั่ว
ตู้ม!
ครู่ต่อมา เสียงใบมีดดังขึ้นอย่างฉับพลัน ตามด้วยลำแสงเจิดจ้าเปล่งประกายพุ่งไปที่ร่างกำยำของลวี่ถู
พรึ่บ
ร่างของลวี่ถูแทบจะขาดเป็นสองส่วนด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว โลหิตราชาเซียนสาดกระเซ็น มันแทบจะปิดกั้นสวรรค์และโลกทั้งหมด
ตู้ม!
จากนั้นโม๋เลี่ยก้าวไปด้านหน้า เหวี่ยงขาเตะลวี่ถูจนกระเด็นออกไป อีกฝ่ายร่วงสู่พื้น หมดสติในทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“พวกขยะ!”
โม๋เลี่ยถือกระบี่ไว้ในมือ เงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
“มาสู้กันอีกครั้ง!!!”
จวินเต้าหลินตะโกนอีกครั้ง ใบหน้าของเขายิ่งครึ้มทะมึน
โครม!
ศิษย์จากวังเซียนอีกคนทะยานออกไป แม้เขาจะอยู่ในขอบเขตราชาเซียนขั้นกลาง แต่หลังจากสู้อย่างดุเดือดกับโม๋เลี่ย เขาก็ยังไม่สามารถเป็นคู่สู้ของโม๋เลี่ยได้ สุดท้ายจึงพ่ายแพ้อีกครา!
ท้ายที่สุด โม๋เลี่ยเอาชนะห้าครั้งติดต่อกัน เขาตัดศีรษะของศิษย์ทั้งห้าของวังเซียนในชั่วพริบตา เสียงหัวเราะบ้าคลั่งดังกึกก้องไปทั่ววังมาร!
“ไอ้บัดซบ!”
“เจ้ากล้าเหยียดหยามวังเซียนของข้า!”
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ก่อนที่จวินเต้าหลินจะกล่าวคำใด ชายชราในชุดคลุมสีเทาก็พุ่งทะยานไปด้านหน้า ร่างนี้อยู่ในขอบเขตราชาเซียนขั้นสูง เขาคือผู้อาวุโสวังเซียน!
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว โม๋เลี่ยถึงกับตื่นตระหนก
แม้เขาจะบ้าคลั่งและหยิ่งยโส แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าตนไม่อาจเป็นคู่สู้ของราชาเซียนขั้นสูง!
“ฮ่าฮ่า”
“อวิ๋นเฮ่อ เจ้าเป็นถึงราชาเซียนขั้นสูง คิดจะรังแกราชาเซียนขั้นกลางงั้นหรือ?” เวลานี้เสียงเย้ยหยันดังขึ้น
เงาร่างหนึ่งหยุดยืนบนเวทีประลองเซียน
“โม๋เทียน!”
ทันทีที่เห็นผู้มาเยือน ใบหน้าของอวิ๋นเฮ่อพลันมืดมนทันที
“เราสองคนมาเริ่มการประลองครั้งที่หกกันเถอะ!”
ผู้อาวุโสของวังมาร หรือที่รู้จักกันในนามโม๋เทียนยกยิ้มเย็นชาให้กับผู้อาวุโสวังเซียน
พรึ่บ
โม๋เลี่ยฉวยโอกาสนี้ถอยกลับไป ขณะเดียวกันเขาไม่ลืมที่จะลากเย่เฟิงและลวี่ถูออกไปด้วย โดยใช้เท้าลากศีรษะของอีกฝ่าย
“สู้ก็สู้สิ ข้าไม่กลัวหรอก!”
ทันทีที่อวิ๋นเฮ่อสูดลมหายใจลึก ขอบเขตพลังของเขาถูกปลดปล่อย การโจมตีจึงเริ่มต้น
โครม!
การสู้เริ่มต้นขึ้นบนแท่นประลองอีกครั้ง ราชาเซียนขั้นสูงทั้งสองสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน พลังที่ทั้งสองปลดปล่อยออกในแต่ละกระบวนท่าโหดเหี้ยมยิ่งกว่าโม๋เลี่ยและคนอื่น ๆ มาก
เสียงลือลั่นกึกก้องไปทั่วฟ้า พลังงานถาโถมกระหน่ำจนแทบทะลัก แต่ค่ายกลป้องกันภายในวังมารป้องกันพลังของราชาเซียนที่รุนแรงนี้ได้ แม้การสู้ของทั้งสองจะดุเดือด ก็ไม่ทำให้วังมารพังทลายแต่อย่างใด
ฮึ่ม! ศิษย์วังเซียนเป็นเพียงขยะ อาวุโสของวังเซียนก็ยังเป็นขยะเช่นกัน!
โม๋เทียนกล่าวเย้ยหยัน
เปรี้ยง!
โม๋เทียนปลดปล่อยพลัง ร่างพลันทะยานขึ้นสู่อากาศหลายร้อยจั้ง ร่างมารใหญ่โตปรากฏกายพร้อมท่อนแขนแข็งแกร่งทรงพลัง มันคว้าร่างของอวิ๋นเฮ่อไว้ ก่อนจะลงมือฉีกทึ้ง ออกแรงเพียงนิดเดียว ร่างกายทั้งหมดของอวิ๋นเฮ่อก็ถูกฉีกกระชาก โลหิตไร้สิ้นสุดของราชาเซียนหลั่งรินราวกับห่าฝนกระหน่ำ
แม้แต่จิตวิญญาณเซียนยังถูกโม๋เทียนจัดการอย่างราบคาบ
อ๊ากก!
“อาวุโสอวิ๋นเฮ่อ!”
“ศิษย์น้องอวิ๋นเฮ่อ!”
ฉากนองเลือดตรงหน้าทำให้ผู้คนภายในวังเซียนร้องตะโกนออกมาอย่างขุ่นเคือง
“ท่านเจ้าสำนัก ข้า…”
เวลานี้หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะกล่าว ทว่าจวินเต้าหลินไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดก่อนจะตะโกนอีกครั้ง “ต่อไป”!
ตึง!
ทันใดนั้น อาวุโสอีกคนหนึ่งของวังเซียนที่อยู่ในขอบเขตราชาเซียนขั้นสูงก็พุ่งเข้าสู่แท่นประลอง
การต่อสู้ปะทุขึ้นอีกครั้ง โม๋เทียนยังโหดเหี้ยมเช่นเคย เขาใช้เวลาไม่นานนักในการศิโรราบอาวุโสจากวังเซียนคนนี้
อาวุโสสองคนจากวังเซียนพ่ายแพ้ราบคาบ
จนถึงเวลานี้ผ่านไปแล้วเก้าการประลอง พวกอาวุโสแพ้ทั้งเก้าครั้ง!
วังเซียนตกอยู่ในห้วงความมืดมน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“จวินเต้าหลิน ตามกฏของการสู้ภายในวัง ตราบใดที่ชนะสิบครั้ง การสู้ทั้งหมดจะจบสิ้น!”
เวลานี้โม๋จิ่วโยวเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะลั่น ก่อนจะมองเย่เฟิงและคนอื่น ๆ
ที่ถูกโม๋เลี่ยและโม๋เทียนกระทืบอยู่บนแท่นประลองเซียน
ทันทีที่สิ้นเสียงคำว่า ‘จบสิ้น’ โม๋เลี่ยและโม๋เทียนก็กระทืบเย่เฟิงและคนอื่น ๆ อย่างไม่ปรานี
ผู้เพลี่ยงพล้ำต่างกรีดร้องออกอย่างเจ็บปวด
“โม๋จิ่วโยว เจ้าฆ่าเราได้แต่หยามไม่ได้!”
เมื่อเห็นเช่นนี้จวินเต้าหลินอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด แม้เขาจะโกรธแต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะให้หนิงฝานเข้าร่วมการสู้
เขาลอบคิดในใจ ศึกชิงวังพ่ายแพ้ยังสามารถทนได้ แต่หนิงฝานตายไม่ได้!
“ฮ่าฮ่า! ดูเหมือนว่าในใจของเจ้า ชีวิตของหนิงฝานจะสำคัญมากกว่าชีวิตอื่น ๆ ภายในวังเซียนสินะ!”
เมื่อเห็นความมั่นใจในแววตาของจวินเต้าหลิน ใบหน้าของโม๋จิ่วโยวยิ่งเผยความหงุดหงิด
ในสายตาของเขา ไม่ว่าคนจากวังเซียนจะถูกสังหารไปกี่คนก็ตาม การสังหารเพียงหนิงฝานคนเดียวนั้นคุ้มค่ายิ่งกว่า แม้คนของวังเซียนเหล่านี้จะแข็งแกร่ง แต่พรสวรรค์ของพวกเขานับว่าอยู่ในระดับทั่วไป ส่วนความแข็งแกร่งของหนิงฝาน แม้จะน้อยนิด ทว่าพรสวรรค์กลับไร้ขีดจำกัด!
ถ้าปล่อยไปต้องมีปัญหาแน่ ๆ!
แต่ถ้าจวินเต้าหลินไม่คิดให้หนิงฝานเข้าร่วมการสู้ เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้
“ตายซะเถอะ!”
ในที่สุด โม๋จิ่วโยวทำได้เพียงสูดลมเข้าปอด
เมื่อได้ยินแล้ว โม๋เลี่ยและโม๋เทียนก็ยกยิ้มเย้ยหยันทันที เวลานี้ทั้งสองต้องการสังหารเย่เฟิงและคนอื่น ๆ ให้จบ ๆ ไป
ขณะกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เสียงตะโกนก็ดังขึ้น
“หยุดเดี๋ยวนี้!”