ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] - ตอนที่ 257 บงกชเซียนเก้ากลีบ ชำระล้างโลกมนุษย์!
ตอนที่ 257 บงกชเซียนเก้ากลีบ ชำระล้างโลกมนุษย์!
ตู้ม!
เมื่อเห็นฉากนี้ เมืองเซียนโบยบินเงียบสงัดลงในทันที แต่จากนั้นเพียงครู่เดียว ทั้งเมืองก็กลับสู่ความโกลาหลอีกครั้ง
“สวรรค์! เจ้าเมืองอู๋พ่ายแพ้แล้ว!!!”
“เป็นไปได้อย่างไร! เจ้าเมืองอู๋เป็นถึงจ้าวเซียน ทั้งยังทรงพลังยิ่งกว่าเซียนแท้จริงด้วยซ้ำ!”
“นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเซียนไร้เทียมทานงั้นหรือ!? เขาถึงสามารถข้ามขอบเขตไปสังหารจ้าวเซียนได้!”
“ในฐานะผู้มาใหม่ ความสำเร็จเช่นนี้นับว่าน่าเหลือเชื่อเกินไป!”
“เจ้าเมืองอู๋ถึงกับพ่ายแพ้ และแปดตระกูลใหญ่ยังล่มสลาย ดูเหมือนว่าเมืองเซียนโบยบินของพวกเรากำลังจะถึงจุดเปลี่ยนเสียแล้ว!”
“…”
เมืองเซียนโบยบินทั้งหมดตกอยู่ในความวุ่นวาย เกิดเสียงพูดคุยถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน ใบหน้าของทุกคนตื่นตระหนกอย่างมิอาจควบคุมได้
“ไม่! ข้าไม่เชื่อ! ข้าคือจ้าวเซียน จะพ่ายแพ้ต่อเจ้าได้อย่างไร!”
เวลานี้อู๋เฟยเซียนที่หลงเหลือเพียงวิญญาณเซียนกำลังกรีดร้องอย่างน่าสมเพช วิญญาณของเขาสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง เห็นชัดว่าไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายตรงหน้านี้ได้
“หึ! ไปตายซะ!”
หนิงฝานเย้ยหยัน ก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวปราณกระบี่เพื่อสังหารอู๋เฟยเซียนให้เสร็จ
“ไม่! ข้าไม่ยอม!”
“เจ้าไม่สามารถสังหารข้าได้ ข้ามิใช่เพียงเจ้าเมืองเซียนโบยบินเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในเซียนทั้งเจ็ดสิบสองของเขตเซียนเฉียนหยวน หากเจ้าสังหารข้า เขตเซียนเฉียนหยวนจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!” อู๋เฟยเซียนตะโกนอีกครั้งด้วยความตื่นตระหนก
“เขตเซียนเฉียนหยวน?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว หนิงฝานพลันขมวดคิ้วแน่น
เมื่อเห็นเช่นนั้น อู๋เฟยเซียนเผยความยินดียิ่ง และเมื่อเขากำลังจะขู่ให้หนิงฝานปล่อยเขาไปอีกครั้ง ชายหนุ่มกลับกล่าวสวนขึ้นมาว่า “ต้องขอโทษด้วยแล้ว ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนั้นมาก่อน!”
ปัง!
พริบตานั้นเอง ปราณกระบี่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แล้ววิญญาณของอู๋เฟยเซียนก็สูญสลายในทันที เขาถูกทำลายโดยสมบูรณ์แล้ว!
หลังจากสังหารอู๋เฟยเซียนแล้ว หนิงฝานก็หันมองย้อนกลับไปยังผู้นำแปดตระกูลใหญ่อีกครั้ง
“ชีวิตพวกเราจบสิ้นแล้ว!”
เวลานี้ผู้นำตระกูลทั้งแปดเผยท่าทีสิ้นหวังอย่างแท้จริง แม้แต่อู๋เฟยเซียนก็ยังมิอาจรอดพ้น แล้วพวกเขาจะรอดได้อย่างไร!
ทว่าหนิงฝานไม่คิดสังหารพวกเขาในทันที แต่กลับกล่าวคำเย็นเยือกว่า “เมื่อห้าวันก่อน มีคนพาสตรีคนหนึ่งไปจากโลกข้างล่าง นางผู้นั้นอยู่ที่ใด?”
“ห้าวันก่อน สตรี?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้นำตระกูลทั้งแปดเผยความตกตะลึงทันที
“สตรีอะไรกัน พวกเราไม่อาจรู้!”
“หนิงฝาน! นายท่าน! พวกเราไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถิด!”
“แปดตระกูลใหญ่แห่งเมืองเซียนโบยบินนั้นมีอายุขัยยาวนาน ครอบครองสมบัติล้ำค่ามากมาย เราสามารถมอบทั้งหมดแก่นายท่านได้!”
“ทั้งยังเต็มใจที่จะมอบจิตวิญญาณเซียนของเราให้กับนายท่านเพื่อใช้งานตามประสงค์!”
“…”
ผู้นำตระกูลทั้งแปดส่ายศีรษะพร้อมเพรียงแล้วร้องขอความเมตตา
แต่ไหนแต่ไรมา พวกเขาครอบครองตำแหน่งยิ่งใหญ่เป็นเวลานาน ทั้งยังสามารถควบคุมชีวิตและความตายของสิ่งมีชีวิตบนโลกชั้นต่ำทั้งสามพันดินแดนได้ แต่เวลานี้ถึงคราวของพวกเขาแล้ว ทั้งหมดกลับเผยท่าทีหวาดกลัวต่อความตายชัดเจน
“ไร้สาระ!!!”
หนิงฝานเพิกเฉยต่อคำขอเหล่านั้น
ตอนที่หลัวชิงเซียนถูกแสงนั่นพาตัวไป หนิงฝานคิดว่าแม้จะไม่ใช่แปดตระกูลใหญ่ที่ลงมือ แต่พวกเขาก็สมควรจะรู้ถึงตำแหน่งของนางบ้าง
ใครจะคาดคิดว่าแม้แต่ผู้นำตระกูลทั้งแปดก็ยังไม่อาจรู้!
“ในเมื่อพวกเจ้าไม่รู้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บไว้!”
ไม่ว่าจะเป็นการที่หลัวชิงเซียนถูกพาตัวไปหรือทัณฑ์พิบัติเซียน สุดท้ายแล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดจากแปดตระกูลใหญ่ทั้งสิ้น และหนิงฝานไม่คิดที่จะปล่อยพวกเขาไป!
ฉึบ ฉึบ ฉึบ!
กระบี่ตวัดออกพลันผู้นำตระกูลทั้งแปดล้มลงทันที ลมหายใจดับสิ้น!
“มีผู้อื่นรู้หรือไม่?”
สายตาของหนิงฝานจับจ้องเหล่าสาวกใต้อาณัติแปดตระกูลใหญ่ ทว่าพวกเขาทั้งหมดส่ายศีรษะด้วยใบหน้าตื่นกลัวจนถึงที่สุด
“ตาย!”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หนิงฝานพลันมีโทสะมากยิ่งขึ้น เขาสะบัดมืออย่างรุนแรง ก่อนที่ปราณกระบี่จะพุ่งออกไปทั้งแนวตั้งและแนวนอน แล้วบังเกิดเสียงกรีดร้องของผู้คนจากแปดตระกูลใหญ่ ทั้งหมดล้มตายไปทีละคน!
“อ๊า! โปรดไว้ชีวิตข้า! ข้ารู้ ข้ารู้!”
ทันใดนั้น เสียงตะโกนด้วยความหวาดกลัวก็ดังขึ้น
หนิงฝานหันมองทันที คนพูดไม่ใช่ใครอื่น เขาคือซื่อจื่อของตระกูลเถิง… เถิงเลี่ย!
ในเวลานี้เถิงเลี่ยหวาดกลัวมากจนดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา ร่างกายสั่นเทาและร่างกายอ่อนปวกเปียกอยู่บนพื้น
พรึ่บ!
หนิงฝานมองเถิงเลี่ย แววตาเย็นชาไร้ความรู้สึก “รู้อะไร? จงพูดมา!”
“ข้า… ข้าบอกแล้ว แต่ไว้ชีวิตข้าได้หรือไม่?” เถิงเลี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน
ตู้ม!
หนิงฝานกระชับกระบี่เซียนในมือ ร่างของเถิงเลี่ยแทบจะแหลกออกเป็นเสี่ยง ๆ!
“อ๊า! ข้ากล่าวแล้ว ข้ายอมแล้ว!”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว เถิงเลี่ยหวาดกลัวจนถึงที่สุด เขารีบกล่าวคำ “เมื่อห้าวันก่อน พวกเรากำลังให้ความสนใจกับทัณฑ์พิบัติเซียน แต่พวกเราถูกโจมตีโดยสตรีลึกลับนางหนึ่ง นางกล่าวเพียงประโยคเดียวว่า… ลมหายใจแห่งร่างมหาวิถี! และรีบพาสตรีผู้หนึ่งออกจากโลกเบื้องล่าง!”
“ใช่! เป็นนาง!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะรีบถามต่อ “นางถูกพาตัวไปที่ใด? สตรีลึกลับที่พาตัวนางไปคือใคร? และมีหน้าตาอย่างไร?”
“ข้าไม่รู้ว่านางถูกพาตัวไปที่ใด สตรีลึกลับผู้นั้นทรงพลังยิ่ง และข้าไม่อาจมองเห็นนางได้ชัดเจนนัก…”
เถิงเลี่ยเปิดปาก แต่ในขณะกล่าวออกมา เขาเห็นว่าสีหน้าของหนิงฝานพลันมืดมนลง จึงรีบกล่าวออกอย่างกระวนกระวายว่า “อ้อ! แม้ข้าจะไม่เห็นรูปลักษณ์ของนางชัดเจน แต่ข้าเห็นว่านางมีสัญลักษณ์พิเศษอย่างหนึ่ง นั่นคือบงกชเซียนเก้ากลีบ!”
หลังกล่าวจบ เถิงเลี่ยเขียนสัญลักษณ์บงกชเซียนเก้ากลีบลงบนอากาศ
“บงกชเซียนเก้ากลีบ?”
เมื่อเห็นแล้ว หนิงฝานก็ขมวดคิ้วอีกครั้งพร้อมถามต่อ “มันหมายถึงสิ่งใด?”
“ข้าไม่รู้! เรื่องนี้ข้าไม่รู้จริง ๆ!”
เถิงเลี่ยส่ายศีรษะรุนแรง และร้องขอความเมตตาต่อ “ข้าบอกกล่าวทุกสิ่งที่ข้ารู้หมดแล้ว โปรดปล่อยข้าไปเถิด ไว้ชีวิตข้า…”
ตู้ม!
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เถิงเลี่ยจะกล่าวจบ วิญญาณของเขาระเบิดออกทันที หมดลมหายใจโดยสมบูรณ์
หนิงฝานเก็บกระบี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนจะมองสมาชิกของแปดตระกูลใหญ่ที่ตายตกอยู่รอบ ๆ
“บงกชเซียนเก้ากลีบ? หมายถึงสิ่งใดกันแน่ เป็นมนุษย์? หรือพลัง?”
เกี่ยวกับสัญลักษณ์บงกชเซียนเก้ากลีบ หนิงฝานเพิ่งจะขึ้นมาที่นี่เพียงไม่นาน เขาจึงไม่เข้าใจเป็นธรรมดา
สุดท้ายแล้วเขาไม่อาจทำสิ่งใดได้อีก จึงระงับความใคร่รู้ในใจก่อนจะหันกลับมาสนใจโลกของตน
ยามนี้เขาต้องแก้ปัญหาพลังต้นกำเนิดของวิญญาณทั้งหมดในโลกเสียก่อน
“ค่ายกล… ยกเลิก!”
ลมหายใจถัดมา เพียงหนิงฝานโบกมือ ค่ายกลสวรรค์ที่ปกคลุมโลกอยู่ก็สลายไปทันที
ตู้ม!
และเมื่อค่ายกลสลายไป พลังเซียนต้นกำเนิดแห่งอาณาจักรเซียนไหลทะลักคล้ายกระแสน้ำเพิ่มพลังให้กับโลกทั้งใบ!
หลังจากนั้นไม่นาน โลกมนุษย์ถูกหลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกับอาณาจักรเซียน และมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเซียนทันที
“ยอดเยี่ยม!”
“สดชื่นยิ่งนัก!”
“สุดยอดไปเลย!”
“ข้าจะกลายเป็นเซียนงั้นหรือ?!”
“…”
ขณะเดียวกัน เมื่อวิญญาณทั้งหมดของโลกได้รับพลังเซียนต้นกำเนิดจากอาณาจักรเซียน พวกเขาทั้งหมดก็กลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง เส้นผมสีขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ ผิวที่เคยแห้งเหี่ยวกลับมาสดใสราวกับหยก พลังต้นกำเนิดของชีวิตถูกเติมเต็มอีกครั้ง
แม้ว่าจะได้รับพลังพิเศษของอาณาจักรเซียน แต่ทุกคนกลับมีลักษณะไม่แตกต่างจากเซียน!
เซียนตายไม่ได้ และพวกเขาจะกลายเป็นอมตะ!
หลังจากนั้น รากฐานการฝึกฝนของผู้คนจำนวนมากก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มนุษย์ได้รับการชำระล้างให้บริสุทธิ์
ปราชญ์ยุทธ์เข้าสู่เทพยุทธ์!
เทพยุทธ์เข้าสู่เซียน!
โดยเฉพาะหนิงหนานหนานและกลุ่มเซียนทรงพลังของมวลมนุษยชาติ ทั้งหมดล้วนเข้าสู่ขอบเขตคงกระพันโดยตรง และกลายเป็นเซียนแท้จริงภายใต้การชำระพลังต้นกำเนิดแห่งอาณาจักรเซียน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทันใดนั้นเอง ด่านเคราะห์เซียนพลันรวมตัวขึ้นเหนือน่านฟ้าของโลกมนุษย์ มีทั้งทัณฑ์สามัญ ทัณฑ์เซียนเล็ก ทัณฑ์มหาเซียน และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือหนิงหนานหนาน นางต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สูงสุด!