ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 785 : เขตดาวโบไลด์ – เลือกรางวัล
ตอนที่ 785 : เขตดาวโบไลด์ – เลือกรางวัล
แสงในผลึกถูกดูดซับเข้าไปในตัวของหวังเย่าอย่างรวดเร็ว ไม่นานเขาก็สามารถทะลวงผ่านเลเวล 130 ได้
จากนั้นในพริบตากลับมีแสงส่องประกายขึ้นมาจากฟ้าปกคลุมตัวของหวังเย่าเอาไว้ ก่อนที่หวังเย่าจะหายตัวไปจากที่นั่นทันที
ผ่านไปชั่วครู่ หวังเย่าก็ปรากฏตัวขึ้นในมิติอันมืดมิด ตรงหน้าของเขามีชายแก่ปรากฏตัวขึ้นมา
ชายแก่มองไปที่หวังเย่าพร้อมกับยิ้ม ก่อนจะพูดออกมา “ การทดสอบจบแล้ว เจ้าสามารถเลือกรางวัลได้”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายแก่ หวังเย่าก็สีหน้าสดใสขึ้นมาทันที “มีรางวัลด้วยหรือ ? ”
“ไม่งั้นแล้วฉันจะให้นายทดสอบทำไม ? ” ชายแก่ตอบกลับ
หวังเย่าคิดตาม เขาคิดว่าการทดสอบนี่มีไว้เพื่อกันไม่ให้เขาเข้ามาในหุบเขา แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะมีรางวัลตอบแทนด้วย
“ข้าตั้งเกณฑ์ไว้ชัดเจน การทดสอบนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อกันไม่ให้คนเข้ามาในหุบเขา แต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพราะเหตุผลของมัน มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหุบเขาแม้แต่น้อย” ชายแก่พูดขึ้น
หวังเย่าเหมือนได้ข้อมูลจากคำพูดของชายแก่ การทดสอบนี้เหมือนเกี่ยวข้องกับความลับของหุบเขา แต่ความลับมันคืออะไรนั้น หวังเย่ายังไม่แน่ใจ เพราะชายแก่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่ออีก
ชายแก่พูดต่อ “มีรางวัลสองแบบ เจ้าเลือกได้หนึ่งอย่าง”
ชายแก่โบกมือก่อนจะมีก้อนหยกกับผลึกสีแดงโผล่มาตรงหน้าของหวังเย่า ผลึกนี้คล้ายกับหินไฟแต่มันไม่ได้แผ่พลังผันผวนออกมา
“นี่คืออะไร ? ” หวังเย่ามองไปที่ของทั้งสองด้วยสีหน้าสงสัยก่อนจะถามขึ้นมา
“หยกนี้มีสกิลที่ทรงพลังอยู่ ถ้าเจ้าบ่มเพาะมันตอนนี้ ความแข็งแกร่งก็จะเหนือกว่าคนระดับเดียวกันอย่างมาก แต่มันก็ยากจะเทียบกับคนเลเวล 150 ได้ ถ้าเจ้าเรียนรู้สกิลนี้ แม้แต่ต่อหน้าสัตว์อสูรที่ผ่านการลงโทษไปแล้ว เจ้าก็จะสามารถรับมือกับมันได้” ชายแก่พูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็ตื่นเต้นไปตาม
แม้ว่าตอนนี้เขาจะบ่มเพาะธาตุไฟอยู่ แต่ทักษะต่าง ๆ ที่เขามีนั้นไม่เพียงพอกับการใช้งานของเขาในตอนนี้ แม้ว่าจะทำความเข้าใจไฟหยินหยางและสร้างเกราะมังกรและฝ่ามือมังกรไฟขึ้นมา แต่สกิลเหล่านี้ก็ถือว่าจัดการได้แค่ศัตรูทั่วไปเท่านั้น
หากพบกับคนระดับหยุนซีแล้ว แม้ว่าหวังเย่าจะทุ่มสุดตัว หากไม่นับเรื่องการใช้ค่ายกลทำลายดวงดาวแล้ว งั้นเขาก็แค่ป้องกันตัวเองได้ มันยากที่จะเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายโดยตรง
แต่ชายแก่กลับบอกว่าสกิลนี้ทำให้เขาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรเทพได้ แม้ว่าจะพบกับคนของตระกูลหยุน แต่เขาก็คงไม่เสียเปรียบแบบแต่ก่อน
เขาไม่ได้ตัดสินใจเลือกทันทีแต่กลับมองไปที่ผลึกสีแดงและถามขึ้น “แล้วนี่คืออะไร ? ”
“มันคือหัวใจราชาอสูรสูบเลือด” ชายแก่พูดขึ้น
“ว่าไงนะ ! ” หวังเย่าอุทานออกมาและมองไปที่ผลึกตรงหน้า
แม่ทัพกลายเป็นหินไฟที่สร้างประโยชน์ให้กับหวังเย่าอย่างมาก ส่วนหัวใจของราชาอสูรสูบเลือดนั้น เขาไม่รู้เลยว่าจะมีพลังมากแค่ไหน
“มันแค่ของเลียนแบบ ไม่ใช่หัวใจของราชาอสูรสูบเลือดจริง ๆ หัวใจของราชาอสูรสูบเลือดนั้นหายากอย่างมาก” ชายแก่พูดขึ้น
ความตื่นเต้นที่มีในตอนนี้ลดลงไปทันที ก่อนที่หวังเย่าจะถามขึ้นมา “แล้วมันมีประโยชน์อะไร ? ”
“อันที่จริงของแบบนี้มีการใช้งานที่พิเศษ น่าจะเดินทางไปที่ชั้นสี่ได้โดยที่สัตว์อสูรไฟจะไม่โจมตีเจ้า แน่นอนว่าเจ้าจะไม่โดนสูบเลือดออกจากตัวด้วย แต่เมื่อออกจากชั้นนี้ไปแล้ว มันก็จะกลายเป็นแค่ผลึกธรรมดา” ชายแก่พูดขึ้น
“เป็นยังไง ? เจ้าตัดสินใจได้รึยังว่าจะเลือกอันไหน ? ” ชายแก่ถามขึ้นมา
อันที่จริงเขาไม่ต้องคิดอะไรมาก สกิลในหยกนั้นมีค่ามากกว่าหัวใจราชาอสูรสูบเลือดเสียอีก ด้วยความแข็งแกร่งของ หวังเย่าตอนนี้แล้ว แม้แต่ในชั้นสี่ก็ไม่อาจจะสร้างปัญหาอะไรกับเขาได้ นอกซะจากว่าจะเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่ง ด้วยการที่ตระกูลหยุนไล่ล่าเขาอยู่ ประโยชน์ของหัวใจจึงมีไม่มากนัก แต่เมื่อชายแก่เอาของสองสิ่งนี้มาเสนอให้กับเขา และให้เขาเลือก มันก็พิสูจน์แล้วว่าหัวใจของราชาอสูรสูบเลือดนั้นต้องมีบทบาทมากกว่านี้ แต่หวังเย่าแค่ไม่รู้ประโยชน์นี่แท้จริงของมัน
“ฉันเลือกหัวใจ ! ” หวังเย่าสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเลือก
เมื่อได้ยินที่หวังเย่าเลือก ชายแก่ก็มองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าตะลึงก่อนจะถามขึ้นมา “เจ้าเลือกหัวใจราชาอสูรสูบเลือดที่ไม่ค่อยมีประโยชน์จริง ๆ หรือ ? มันใช้ได้แค่ในชั้น 4 แต่เมื่อเจ้าออกจากชั้นนี้ไปแล้ว เจ้าก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสัตว์อสูรไฟ ของนี่มีประโยชน์กับเจ้าก็จริง แต่มันน้อยกว่าสกิลในหยกเสียอีก”
“ลุงบอกว่ามันเป็นหัวใจที่ทำเลียนแบบขึ้นมา ถ้าลองมาคิดดูดี ๆ แล้ว ฉันก็เกือบตายเพราะราชาอสูรสูบเลือดนี่เหมือนกัน” หวังเย่ายิ้มและพูดขึ้นมาก่อนจะพูดขึ้นต่อ “ฉันมีเรื่องอยากจะถาม”
“ว่ามาได้เลย ตราบใดที่ข้าตอบได้ ข้าก็จะให้คำตอบกับเจ้า” ชายแก่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“สองคนที่ออกจากมิติไปได้รางวัลด้วยรึเปล่า ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“แน่นอน ถึงพวกเขาจะทำได้ไม่ดีเท่ากับเจ้า แต่ก็ถือว่าผ่านการทดสอบ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะได้รางวัล”
“งั้นพวกเขาได้รางวัลอะไร ? ”
“มันเป็นความลับ ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะตอบ ถ้าเจ้าอยากรู้ เจ้าก็ลองไปถามพวกเขาเอง” ชายแก่ลูบหนวดแล้วพูดขึ้นมา
“ถ้าฉันถามพวกนั้นได้ ฉันคงไม่มาถามลุงหรอก” หวังเย่าพูดขึ้น “ก่อนหน้านี้ราชาโดนภูเขาลูกสีดำกดทับไว้ ภูเขานั่นตกลงมาจากท้องฟ้า ฉันคิดว่าคนที่มีความสามารถขนาดนั้นได้คงมีแค่ลุงที่เป็นเจ้าของมิติสินะ ? เมื่อมันเป็นการทดสอบ ทำไมลุงถึงเข้ามายุ่ง ลุงอยากให้เราทำการทดสอบด้วยตัวเองไม่ใช่รึไง ? ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า ชายแก่ก็ส่ายหน้า เขาก้มหน้าลงมองหวังเย่าและพูดขึ้น “ข้าเองก็มีความคิดของตัวเอง ภารกิจนี้ยากเกินกว่าขอบเขต เพื่อความยุติธรรม ข้าจึงต้องลงมือ”
“โลกนั้นมีอยู่จริงรึเปล่า ? รึว่ามันเป็นแค่มิติที่สร้างขึ้นมา มันมีอยู่จริงในจักรวาลรึเปล่า ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
ชายแก่ยิ้มรับ “เจ้าอยากรู้จริง ๆ หรือ ? ไม่มีทางที่ข้าจะตอบคำถามนี้ เมื่อเจ้ามีความแข็งแกร่งมากพอ เจ้าก็จะรู้เอง ด้วยประสบการณ์ของเจ้าตอนนี้แล้ว เจ้ายังไม่มีสิทธิ์จะรู้ความลับเหล่านี้” ชายแก่พูดขึ้นมา
“แค่นี้คงพอจะตอบคำถามของเจ้า แต่มีอีกเรื่องสำคัญที่ต้องทำ” ชายแก่โบกมือและดีดตัวของหวังเย่าออกไปจากมิติ
“เด็กนี่มีปัญหามากจริง ๆ ข้าเกือบคิดคำตอบไม่ทัน”
หลังจากที่หวังเย่าหายตัวไปแล้ว ชายแก่ก็ลูบจมูกก่อนจะบ่มพึมพำกับตัวเอง “เลือดของเทพมังกรได้ตื่นขึ้นแล้ว มันเกิดขึ้นจริง ๆ หรือ ? ”
ในพริบตาก็มีแสงส่องสว่างขึ้นมา ตอนที่หวังเย่าลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองอยู่ในหุบเขา ทั้งสองด้านเป็นลานหินที่มีรูปปั้นมากมาย ใจกลางลานนั้นมีจารึกหินขนาดใหญ่อยู่
“ฉันกลับออกมาจากการทดสอบได้จริง ๆ ” หวังเย่ารับรู้ได้ถึงแก๊สที่สูบเลือด จึงมั่นใจว่าเขากลับออกมาแล้วจริง ๆ
“หวังเย่าออกมาแล้ว ! ” เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดอารมณ์ของหวังเย่า
“ตายซะ ! ” เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหลัง ก่อนที่หวังเย่าจะต่อยกลับไปโดยไม่หันกลับไปมองแม้แต่น้อย
ปัง !
หวังเย่าเองก็ถอยกลับไปสองก้าวก่อนจะประคองตัวได้ อีกฝ่ายกระเด็นออกไปอัดเข้ากับกำแพงหิน
คนตระกูลหยุนเห็นว่าคนของตัวเองกระเด็นไปด้วยหมัด ๆ เดียวก็ตกใจ ทุกคนต่างก็พากันมองไปที่เด็กหนุ่มที่เพิ่งโผล่มาด้วยความแปลกใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเกราะอยู่ งั้นด้วยเลเวล 120 ของชายคนนั้นงั้นคงโดนหวังเย่าฆ่าในหมัดเดียวแล้ว
แต่ถึงจะมีเกราะแต่ก็ยังทำให้ซี่โครงหักไปถึง 2 ซี่
“มันแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ” หยุนซีแสดงสีหน้าหนักใจออกมา สายตาที่เขามองหวังเย่าเปลี่ยนไปทันที
ถ้าเป็นหวังเย่าคนเดิม ต่อหน้าการลอบโจมตีนี้ อาจจะไม่ได้บาดเจ็บหนักแต่ก็ไม่อาจจะตอบโต้ได้แบบนี้
แต่หมัดของหวังเย่ากลับมีพลังมากกว่าเดิมอย่างชัดเจน อย่างน้อยคนที่ทำแบบนี้ได้ก็มีแค่โรม่าและหยุนซีเท่านั้น
“ดูเหมือนว่าเขาเองก็ได้ประโยชน์กลับมามากในการทดสอบ พวกนายเองก็ก้าวหน้าขึ้นมาอย่างมาก แต่โชคของเด็กนี่หมดแล้ว ถึงจะมีปีกแต่แกก็บินหนีไปไหนไม่ได้ ! ” หยุนซีพึมพำออกมา
แต่ตอนนั้นเองก็มีโล่งพลังสีแดงปกคลุมไปทั่วทั้งลาน หวังเย่ารู้สึกได้ถึงคลื่นพลังที่คุ้นเคยจากโล่พลังนี้
“พลังนี่ดูคุ้น ๆ ”
“นี่คือสกิลที่ฉันได้มาจากแม่ทัพอสูรสูบเลือด มันคือรางวัลของฉัน” เล่ยหยานพูดขึ้นมา “ฉันเลือกทิ้งโอกาสที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองและเลือกเอาสกิลพื้นที่มาเพื่อจัดการกับนายโดยเฉพาะ”
“ในขอบเขตนี้ ถ้าฉันไม่อนุญาตก็ไม่มีใครออกไปได้ ถ้านายอยากทำลายกำแพงพลังนี่ นายต้องฆ่าฉันให้ได้ก่อน ไม่งั้นแล้วถึงจะเป็นคนเลเวล 160 ก็ยากจะทำลายกำแพงพลังนี้ได้”