ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 736 : เขตดาวโบไลด์ - พันธมิตร
ตอนที่ 736 : เขตดาวโบไลด์ – พันธมิตร
เมื่อเห็นเจียงหยานโผล่มาตรงหน้า หวังเย่าก็ใจสั่นมากกว่าการที่เผชิญหน้ากับจีเฟยและอี้หลงเสียอีก เขารู้ว่าไอ้แก่เย็นชาคนนี้อาจจะไม่ไว้หน้าใครก็ได้
“ฉันก็แค่ผ่านมาและได้พบกับจีเฟยพอดี ฉันเลยรู้ว่าจีเฟยและอี้หลงนั้นร่วมมือกันรังแกหวังเย่า ตอนแรกฉันคิดที่จะหยุด แต่ไม่คิดเลยว่าเทพไฟและพี่หยานเทียนจะมาที่นี่ พอดีเลยฉันจะได้ไม่ลงมือ แต่เพื่อกันไม่ให้อี้หลงแก้แค้นสหายน้อยคนนี้ ฉันจึงตัดสินใจที่จะช่วยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังอีก”
หลังจากที่พูดจบเขาก็มองไปที่หวังเย่าแล้วถามขึ้นมา “ไม่รู้ว่าทำไม รองแม่ทัพอี้หลงกับจีเฟยถึงได้ลงมือกับนาย ? ”
ครั้งนี้หยูเจียที่ถูกเอไนน์รักษาก็ได้ตื่นขึ้นมา เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงหยูเขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เขาไม่สมควรเป็นรองแม่ทัพอีกแล้ว นี่ไม่ต้องนับเป็นคนของเทพธิดาเลย”
หวังเย่าเห็นว่าหยูเจียโกรธก็ส่ายหน้าและพูดขึ้นมา “ฉันแค่ได้ยินแผนการของพวกมันเข้าโดยบังเอิญ สองคนนั้นน่ะคิดร้ายต่อพี่หยูเจีย ดังนั้นฉันจึงมาที่นี่เพื่อช่วยเขา ไม่คิดเลยว่าพี่ฟู่หมิงกับลุงหยานเทียนจะมาที่นี่ได้ทันเวลา เราถึงรอดจากความตายมาได้”
“สำหรับเหตุผลเรื่องนี้แล้วคงมีแค่อี้หลงและจีเฟยเท่านั้นที่รู้ บางทีผู้อาวุโสเจียงอาจจะรู้เรื่องภายในอยู่แล้ว ไม่งั้นแล้วผู้อาวุโสคงไม่ลงมือกับอี้หลง” หวังเย่าพูดขึ้น
“เด็กน้อย นายน่าจะสำรวมบ้าง นายคิดว่าเทพไฟจะคอยปกป้องนายได้ตลอดรึไง ! ” เจียงหยูเห็นท่าทีของหวังเย่าก็ตะคอกออกมาทันที
หวังเย่ามองไปที่อีกฝ่ายแล้วพูดขึ้น “ผู้อาวุโสเรียกฉันว่าสหายน้อย งั้นฉันก็อาวุโสกว่านาย การพูดคุยของผู้ใหญ่เด็กไม่ควรมายุ่ง ตระกูลนายไม่ได้สั่งสอนรึไง ? ”
“แก…” หยูเฟยโกรธจัดแต่หลังจากที่มองไปที่เจียงหยานแล้วเขาก็ได้แต่ฮึดฮัดออกมา “แกได้ใจไปก่อนเถอะ ! ”
หวังเย่าไม่ได้บาดเจ็บหนักแต่ก็ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองสักพัก ดังนั้นพวกเขาจึงพากันไปหาถ้ำเพื่อรักษาตัว
“ไม่คิดเลยว่าอี้หลงจะหักหลังเทพธิดา บอกได้ว่ากำลังทหารเรือตอนนี้แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แล้ว” ในตอนที่คุยกับ หวังเย่า เจียงหยานก็ได้ข้อมูลกลับมา
“แล้วตระกูลจีคิดจะทำอะไร ? แม้แต่รองแม่ทัพก็ยังแอบร่วมมือกับตระกูลจี”
“ตระกูลชั้นนำคิดจะแก่งแย่งชิงดีกันอยู่ตลอด เมื่อเทพธิดาเข้ามาในดินแดนนรกแล้ว เธอก็ไม่ได้มีอำนาจแบบเมื่อก่อน เธอไม่มีลูกคอยสืบทอดอำนาจ ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีคนคิดลงมือกับเธอ”
“แต่แปลกใจที่ได้ยินคำพูดแบบนั้นจากปากของนาย นายยอมรับว่านายก็คิดร้ายต่อเทพธิดาเหมือนกันงั้นหรือ” หยานเทียนเดินเข้ามาและถามขึ้น
ถ้ำที่พวกเขาอยู่ไม่ใหญ่นัก หวังเย่าและหยูเจียแยกไปออกไปอยู่อีกที่เพื่อรักษาตัว ส่วนคนที่เหลือต่างก็รออยู่ด้านนอก บทสนทนาระหว่างเจียงหยานและหยูเฟยนั้น คนอื่น ๆ จึงได้ยินมัน
เจียงหยานมองไปที่หยานเทียนแล้วพูดขึ้น “พี่หยานเทียนอยู่เพียงลำพังมาโดตลอด ไม่เคยคิดจะร่วมมือกับกองกำลังไหน แต่พี่สนใจเรื่องระหว่างตระกูลชั้นนำในเขตดาวโบไลด์ด้วยงั้นหรือ ? ”
เขาไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของหยานเทียน เรื่องแบบนี้ไม่อาจจะปิดบังจากหยานเทียนได้ สัตว์ประหลาดเฒ่านี่อยู่มาหลายพันปีแล้ว และทั้งสี่ตระกูลก็คอยดุลอำนาจกัน ไม่มีใครกล้าลงมือ หากมีโอกาสแล้ว ตระกูลอื่น ๆ ก็คงไม่คิดจะทิ้งโอกาสในการกำจัดศัตรูทิ้ง
“ฉันไม่ได้มีความคิดแบบนั้น แต่เมื่ออี้หลงร่วมมือกับตระกูลจี งั้นฉันก็สงสัยว่าตระกูลจีใช้อะไรมาหลอกล่อเขา ตำแหน่งรองแม่ทัพนั้นถึงไม่อาจจะเทียบกับแม่ทัพได้ แต่หยูเจียเป็นศิษย์ของเขา ดังนั้นฐานะของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าแม่ทัพเลย”
“แล้วถ้าเขาเป็นสมาชิกของตระกูลนั้นล่ะ ? ” เจียงหยานพูดขึ้นต่อ
“หือ ? นายพูดถึงอะไร ? ” หยานเทียนมองไปที่เจียงหยานด้วยความแปลกใจ
“ไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสเจียงจะรู้เรื่องนี้ เทพธิดามองข้ามเรื่องนี้ไป” หยูเจียเดินออกมาจากถ้ำ เขาไม่ได้บาดเจ็บหนักเหมือนอย่างเดิมแล้ว
ตอนที่เดินออกมาจากถ้ำ เขาก็ได้ยินบทสนทนาของหยานเทียนและเจียงหยาน เขาจึงได้พูดขึ้นมา “ชื่ออี้หลงไม่น่าจะใช่ชื่อจริง เขาน่าจะชื่อจีหยวนต่างหาก ! ”
“จีหยวน…หนึ่งในยอดฝีมือของตระกูลจี คนที่หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อพันปีก่อนน่ะหรือ ? ” หยานเทียนเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เขาได้แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา
“ใช่ อี้หลงคือจีหยวน แต่ด้วยการปกปิดตัวตนของเขาตอนนี้แล้วก็ไม่มีใครคิดว่าเขาเป็นจีหยวน”
“ฉันได้ยินข่าวที่คาดไม่ถึงเมื่อร้อยปีก่อน” เจียงหยานพูดขึ้นพร้อมกับพยักหน้า
เจี้ยงหยานหันไปหาหยูเจีย “มันเกิดการก่อกบฏในกองกำลังทหารเรือ คนที่ออกไปทำภารกิจของเราพบว่าอี้หลงได้ร่วมมือกับพวกกบฏเหล่านั้น มันเพราะแผนการของอี้หลงที่ทำให้แม่ทัพและทหารเรือคนอื่น ๆ ตายไป รวมถึงพ่อกับปู่ของนายด้วย”
“หลังจากที่เสียคนไปจำนวนมากก็รู้ว่าอี้หลงคือจีหยวนที่หายตัวไปเมื่อสามพันปีก่อน” เจียงหยานพูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ไม่ใช่แค่หยานเทียนเท่านั้นที่แปลกใจ แต่คนอื่น ๆ ในตระกูลเจียงเองก็ยังต้องตกตะลึงไปด้วย
จีหยวนคือคนที่โด่งดังในเขตดาวโบไลด์ คนในตระกูลเจียงต่างก็เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
จีหยวนถึงไม่ใช่ผู้ดูแลอสูรแต่ก็เป็นถึงอัจฉริยะ อายุไม่ถึง 100 ปีก็เลเวลขึ้นมาถึง 100 ได้ อายุ 300 ปีก็ขึ้นมาถึงเลเวเล 150 ได้ แค่พันปีก็ขึ้นมาถึงเลเวล 160 ได้ ความสำเร็จแบบนี้หากมองทั้งเขตดาวโบไลด์แล้วก็ถือว่าโดดเด่นอย่างมาก แต่หายนะเมื่อหลายพันปีก่อนทำให้จีหยวนหายตัวไป
“ตอนที่ฉันมาที่เขตดาวโบไลด์ในตอนแรก เขาดูเป็นคนละคน ตอนเขายังเด็กนั้นเขาดูหยิ่งทะนง ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับเขาอีก เขาปกปิดตัวตนอย่างดีจนแม้แต่ฉันก็ยังไม่อาจจะจำได้” หยานเทียนพูดขึ้นมา
หลังจากที่หนีจากความตายมาได้ เขาก็ได้รับใช้เทพธิดาและได้เลื่อนขั้นขึ้นมาทีละขั้น ๆ บอกได้ว่านี่คือดาบที่บรรพชนตระกูลจีได้ส่งมาเพื่อจัดการกับเทพธิดา ไม่คิดเลยว่าเพราะภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ที่ทำให้แผนการพังลง” เจียงหยานไม่คิดเลยว่าอี้หลงจะโดนเปิดโปงด้วยน้ำมือของหวังเย่า
หยูเจียได้ยินคำพูดของเจียงหยานก็นึกถึงผลกระทบจากเรื่องนี้ เขามองไปที่เจียงหยานด้วยสีหน้าสับสน “เมื่อผู้อาวุโสรู้ผลกระทบจากเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ทำไมถึงยังปกปิดมันอยู่ ทำไมถึงไม่บอกกับเทพธิดา”
แม้ว่าเจียงหยานและตระกูลเหิงจะมีความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์กันมาโดยตลอด แต่เขาก็สนิทกับเทพธิดาอย่างมาก มันแทบไม่มีเหตุผลที่จะปกปิดเรื่องนี้
“ผู้อาวุโสของเราต่างก็มีความคิดของตัวเอง ใครกันที่จะมีสิทธิ์ไปตั้งคำถามกับการตัดสินใจของผู้อาวุโส ! ” เจียงหยานพูดขึ้น
“ฉันคิดว่าเทพธิดารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เธอคงมีแผนการของตัวเอง การที่ฉันเปิดปากพูดออกมาก็อาจจะเป็นการรบกวนแผนของเธอ กลับกันแล้วฉันจึงเลือกที่จะรอดูดีกว่า”
“นายดูถูกเทพธิดาเกินไป ตระกูลจีเองก็ดูหมิ่นเทพธิดาเกินไปด้วย” เจียงหยานพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
หากให้บอกว่าคนที่เข้าใจเทพธิดาที่สุดนอกจากฟู่หมิงแล้ว ก็คงจะเป็นเจียงหยานที่เคยพบกับเธออยู่บ่อยครั้ง
“ตอนนี้เรายังโดนขังอยู่ที่ชั้น 3 เราต้องไปที่ชั้นต่อไปผ่านรูของถ้ำมังกรนี้” เจียงหยานพูดขึ้น “ เรื่องนี้ลงมือเพียงลำพังไม่ได้ ฉันหวังว่าพวกนายจะยอมทิ้งความบาดหมางและร่วมมือกัน” สุดท้ายเจียงหยานก็บอกความคิดในใจของตัวเองออกมา
หยานเทียนมองไปที่ฟู่หมิง เมื่อเห็นว่าฟู่หมิงพยักหน้าตอบรับ เขาก็ได้พูดขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่เห็นค้านอะไรแต่ต้องถามหวังเย่าด้วย ฉันไม่อาจจะตัดสินใจแทนเขาได้”
หยูเจียขมวดคิ้วและพูดขึ้น “ฉันยังเหลือคนอยู่แต่พวกนั้นกระจัดกระจายกันไปแล้ว ฉันต้องหาพวกเขาและพาพวกเขาออกจากที่นี่ไปด้วย”
“ตระกูลเจียงจะช่วยเรื่องนี้ด้วย” เจียงหยานพูดขึ้น
“ถ้ามีตระกูลเจียงคอยช่วย ฉันคิดว่าน่าจะลดปัญหาได้อย่างมาก” เสียงของหวังเย่าดังขึ้นมาจากในถ้ำ
“น้องหวังเย่า นายไม่เป็นอะไรแล้วหรือ ? ” หยูเจียเห็นหวังเย่าเดินออกมาก็พูดขึ้นด้วยสีหน้ายินดี
“แค่บาดเจ็บภายในเล็กน้อย มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร” หวังเย่าพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ในอีกด้าน วานเซ่ก็ได้พูดขึ้นมา “ถ้าเรามาช้ากว่านี้ เราคงต้องฝังศพนายแทนแน่ แต่ฉันชื่นชมในความกล้าหาญของนายที่กล้าสู้กับคนที่แข็งแกร่งแบบนั้น”
เมื่อเห็นว่าหวังเย่าไม่เป็นอะไร ทุกคนก็พากันผ่อนคลายขึ้นมา ยังไงซะคู่ต่อสู้ของหวังเย่าในครั้งนี้ก็เป็นถึงอี้หลงและจีเฟย เขาบาดเจ็บไม่ใช่น้อย การที่ฟื้นฟูตัวเองได้เร็วแบบนี้ก็เป็นเพราะได้รับยาของหยานเทียนและฟู่หมิง
หวังเย่ามองไปที่เจียงหยานแล้วพูดขึ้น “ฉันคิดว่าเมื่อมีผู้อาวุโสคอยช่วย งั้นการรับมือกับกองกำลังพิเศษของกองกำลังทหารเรือก็น่าจะง่ายกว่าเดิม”