ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 732 : เขตดาวโบไลด์ - ลิง
ตอนที่ 732 : เขตดาวโบไลด์ – ลิง
จีเฟยและอี้หลงได้พาคนของพวกเขาออกมาจากถ้ำทันที และเดินตามทางที่หวังเย่าหนีไป
แต่ตอนที่จีเฟยพุ่งออกมานั้น อยู่ ๆ แสงรอบน้ำตกก็แผ่ออกมา แสงได้เชื่อมต่อกับท้องฟ้าจนก่อตัวเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ ตอนนั้นหวังเย่าและหยูเจียได้เข้าไปในรูและหายตัวไปทันที่
“เด็กนั่นสร้างค่ายกลลวงตาขึ้นมางั้นหรือ ? ” จีเฟยชะงักไปทันทีและเผยสีหน้าแปลกใจออกมา
“ฉันไม่รู้ว่าเด็กนั่นจะฉลาดแบบนี้ มันได้เตรียมการล่วงหน้าก่อนจะเข้ามาในถ้ำแล้วสินะ”
“เด็กนั่นไม่ใช่ผู้ใช้ค่ายกล มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างค่ายกลขึ้นมาในเวลาอันสั้นแบบนี้” อี้หลงพูดขึ้น
“เรามาที่นี่แค่ไม่กี่ชั่วโมง มันคงไม่มีเวลาเตรียมการแบบนี้ได้” อี้หลงพูดขึ้น
เมื่อได้ยินพูดของอี้หลง จีเฟยก็ฮึดฮัดออกมา “ก็แค่ค่ายกลลวงตา ยากที่จะกักฉันไว้ได้ ฉันจะทำลายค่ายกลนี้และดูว่าพวกมันจะหนีไปได้ไกลแค่ไหน”
อี้หลงมองไปที่ค่ายกลลวงตาตรงหน้า แม้ว่าพลังค่ายกลนี้จะไม่ได้สูงนักและไม่ได้เป็นภัยต่อพวกเขามากนักแต่หากเป็นคนอื่นเข้ามาในค่ายกลนี้ก็อาจจะโดนขังเอาไว้ก็ได้
แต่สิ่งที่ทำให้อี้หลงกังวลไม่ใช่ความแข็งแกร่งของหวังเย่า แต่เป็นการที่อีกฝ่ายได้เตรียมการล่วงหน้าก่อนจะเข้ามาในน้ำตกแล้ว มันแสดงให้เห็นว่าก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำ หวังเย่านั้นรู้ตัวอยู่แล้วและได้สร้างค่ายกลนี้ขึ้นมาก่อน
ความรอบคอบและระวังแบบนี้ทำให้อี้หลงกังวลเรื่องของหวังเย่ามากขึ้นไปอีก เด็กหนุ่มคนนี้ทั้งกล้าหาญและฉลาดจนน่ากลัว
“เราจะเข้าไปทำลายค่ายกลนี้ก่อน อย่าให้ใครออกจากป่าไปได้ แม้แต่สัตว์อสูรก็ตาม ! ” อี้หลงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
กลุ่มทหารเรือได้กระจายตัวออกไปโดยรอบเพื่อปิดพื้นที่เอาไว้ อี้หลงและจีเฟยได้เข้าไปในค่ายกลเพื่อจัดการกับ หวังเย่าและหยูเจียด้วยตัวเอง
ในค่ายกลลวงตานี้ หยูเจียเห็นท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีอย่างต่อเนื่อง “นายรู้มานานแล้วหรือว่าอี้หลงนั้นเป็นคนทรยศ ? ”
หยูเจียใช้โอกาสนี้ถามข้อสงสัยที่เขามีทันที
หวังเย่าได้เข้ามาในน้ำตกและบอกให้เขาออกมาจากที่นี่ มันแสดงให้เห็นแล้วว่าหวังเย่ารู้ว่าเขาต้องตกอยู่ในอันตราย
หวังเย่าพยักหน้าและพูดขึ้น “มีนักฆ่าหลายคนไล่ตามเพื่อฆ่าปิดปากฉัน คนพวกนั้นปลอมตัวมา แต่ฉันก็รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นทหารเรือ ฉันเห็นจดหมายบอกถึงแผนการที่จะฆ่าพี่ที่นี่”
“นายจัดการกับพวกนั้นคนเดียวงั้นหรือ ? นายคิดอยู่แล้วหรือว่าจะเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น ? ” หยูเจียถามขึ้นมา
แม้ว่าจะเป็นเรื่องดีที่รู้ว่าอี้หลงหักหลัง แต่การเตรียมการแบบนี้ไว้ล่วงหน้าก็บ่งบอกแล้วว่าหวังเย่านั้นคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ฉันก็พอคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายมีแผนอะไร แต่ก็ถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ดี ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายประมาทแล้ว งั้นแผนนี้คงไม่ได้จบแค่พี่ แต่คงเป็นฉันด้วย” หลังจากนั้นหวังเย่าก็บอกถึงบทสนทนาของอี้หลงและจีเฟยที่เขาได้ยินมาให้หยูเจียฟัง
หยูเจียได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะถามขึ้นมา “นายหมายความว่าอี้หลงกับตระกูลจีร่วมมือกันคิดจะยึดอำนาจจากเทพธิดางั้นหรือ ? ”
“ใช่ ฉันสงสัยว่าพวกมันถึงกับคิดจะขังเทพธิดาไว้ที่นี่ไปตลอดกาล ถ้ามีโอกาส ! ” หวังเย่าบอกการคาดคะเนของตัวเองออกมา
แม้ว่าข้อสงสัยนี้จะดูเกินจริงไป แต่หวังเย่าก็คิดว่าเมื่อตระกูลจีกล้าที่จะลงมือกับเทพธิดา งั้นก็แน่นอนว่าต้องเตรียมการณ์เอาไว้ล่วงหน้าอย่างดีแล้ว
หยูเจียอยากจะพูดบางอย่าง แต่สีหน้าของหวังเย่าก็เปลี่ยนไปและพูดขึ้น “หาทางออกจากที่นี่ไปก่อน พวกมันคงปิดป่านี่เอาไว้แล้ว เมื่อเราออกนอกระยะค่ายกลลวงตา งั้นเราก็จะอยู่ในวงล้อมของพวกมัน ไอ้แก่สองคนนั่น คงไล่ตามเราเข้ามาแน่”
“ใช่ แกสองคนต้องตายที่นี่ ! แม้ว่าฉันจะไม่ลงมือเอง แต่พวกแกก็ไม่อาจจะออกจากที่นี่ไปได้” เสียงของจีเฟยดังขึ้นมาพร้อมกับพุ่งเข้าหาทั้งสองคน
หวังเย่าไม่ได้แกร่งอะไรนัก แม้ว่าจะรู้วิธีการใช้ค่ายกล แต่หากเทียบกับหยานเทียนแล้วก็ต่างกันอย่างมาก ช่องว่างมันราวฟ้ากับเหว สำหรับจีเฟยที่แกร่งกว่าเขาแล้ว ค่ายกลนี้แทบจะไม่ได้ส่งผลอะไรเลย
เมื่อเห็นทั้งสองพุ่งเข้ามา หวังเย่าก็สีหน้าแน่นิ่งไป เขาได้เปิดเพิ่มพลังค่ายกลขึ้นไปอีก ตอนนั้นมันได้เกิดร่างของสัตว์อสูรมากมายพุ่งเข้าใส่จีเฟยและอี้หลง เขาจึงใช้โอกาสนั้นหนีไปพร้อมกับหยูเจีย
เมื่อเห็นสัตว์อสูรพุ่งเข้ามา จีเฟยก็ได้สะบัดมือออกไป จนสัตว์อสูรเหล่านั้นต่างก็พากันกรีดร้องออกมา พวกมันได้กลายเป็นกลุ่มควันทันที แต่ตอนนั้นหวังเย่าและหยูเจียนั้นก็ได้หายตัวไปแล้ว
“ฉันอยากเห็นว่าพวกแกจะหนีไปได้ไกลแค่ไหน ! ” จีเฟยพูดขึ้นพร้อมกับสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นมาด้านหลัง
สัตว์อสูรตัวนี้รูปร่างเหมือนกับช้าง มันสูงกว่า 10 ฟุต มันตัวใหญ่ยิ่งกว่าแมว และที่หลังของมันมีเกล็ดหนา ส่วนที่เหลือเองก็เต็มไปด้วยเกล็ดแหลม ตาของมันเป็นประกายราวกับอัญมณี
ทันทีที่ช้างตัวนี้ปรากฏตัวขึ้นมา มันก็ได้แผ่พลังพิเศษออกมา ในคลื่นพลังนี้มันก็รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ในค่ายกลลวงตาได้ในทันที
“ทางนั้น ! ” จีเฟยมองไปที่ทางหนึ่ง ควันหลากสีได้กระจายออกไปโดยรอบ เผยให้เห็นทั้งสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ ซึ่งมันคือหวังเย่าและหยูเจีย
เมื่อเห็นว่าจีเฟยพบตัวพวกเขาแล้ว พวกเขาก็ได้ทำการหลบทันที ทั้งสองหายตัวไปอีกครั้ง แต่สัตว์อสูรของจีเฟยนั้นก็เหมือนจะรับรู้ตำแหน่งของพวกเขาได้ ไม่ว่าพวกเขาจะหนีไปที่ไหน แต่ก็โดนจีเฟยพบตัวแทบจะทันที
อี้หลงที่อยู่ข้าง ๆ ได้พูดขึ้นมา “อย่ามัวเสียเวลา รีบจัดการกับสองคนนี้และกลับไปทำตามแผน”
อี้หลงใช้พลังจิตของตัวเองตรวจสอบสถานการณ์ของค่ายกล มันส่งผลต่อคนที่เลเวลน้อยกว่า 140 ด้วยเลเวลที่สูงกว่าทำให้การต้านทานต่อค่ายกลลวงตานั้นเพิ่มขึ้นไปตาม คนอย่างอี้หลงที่เลเวล 160 นั้น ผลของค่ายกลส่งผลกับเขาแค่น้อยนิดเท่านั้น เขาสามารถรับรู้สถานการณ์ด้านในค่ายกลได้อย่างชัดเจน
ระหว่างที่อี้หลงกำลังตรวจสอบสถานการณ์นั้นก็มีสายฟ้าสีม่วงก่อตัวขึ้นมาในมือของเขา เขาเล็งมันไปที่หวังเย่าทันที
หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็ใจสั่นขึ้นมาทันที เพราะอี้หลงนั้นแกร่งกว่าเขาอย่างมาก สายฟ้านี้เหมือนจะไม่ได้มีพลังสูงนัก มันหนาเท่ากับแขนเท่านั้น แต่เมื่ออัดเข้ากับโล่เงาของหวังเย่า มันก็ได้ทำให้โล่เงาของเขาแตกออก หากไม่ใช่เพราะผลอมตะ 3 วินาทีแล้ว เดาว่ามันคงทำให้หวังเย่าบาดเจ็บหนัก
หวังเย่าถึงกับรู้สึกตัวชาและต้องชะงักไปด้วย
อี้หลงเห็นแบบนั้นก็ฮึดฮัดออกมาก่อนจะใช้สายฟ้าออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับมีร่างสีทองเข้ามาขวางเอาไว้ แมวได้สะบัดกรงเล็บตัดสายฟ้าออกไปทันที
เมื่อทำลายสายฟ้าไปแล้ว แมวก็ได้มองไปที่อี้หลงด้วยสายตาอาฆาต
ในอีกด้าน หยูเจียที่เห็นว่าหวังเย่าเปิดเผยตำแหน่งออกมาก็คิดจะเข้าไปช่วยหวังเย่า
“เด็กนี่มีสัตว์อสูรเทพ สมกับเป็นสัตว์อสูรที่โด่งดังในเขตสวรรค์ทั้งสามจริง ๆ เลเวลเท่านี้แต่กลับทนการโจมตีจากคนที่เลเวลสูงกว่าได้” จีเฟยเห็นแมวก็แสดงสายตาโลภออกมา
หลังจากที่เห็นแมวปรากฏตัวขึ้นมา อี้หลงก็ต้องแปลกใจ “นี่คือสัตว์อสูรเก่าแก่ของดาวนิบิรุที่หายตัวไปเมื่อหลายพันปีก่อน แมวบรรพกาล ! ”
ในฐานะคนเก่าแก่ที่อยู่ในเขตนี้มานานแล้ว อี้หลงนั้นมากประสบการณ์ มองเพียงครู่เดียวก็จำแมวนี่ได้ทันที
หลังจากที่เห็นแมวแล้ว จีเฟยก็ตัดสินใจจะเอามันมาเป็นของตัวเอง การที่เขามายังเขตดาวโบไลด์นี้ เป้าหมายของเขาก็เพื่อตามหาสัตว์อสูรที่มีสายเลือดระดับสูง
“เด็กน้อย ฉันจะให้โอกาสแก ถ้าแกให้สัตว์อสูรนี่กับฉัน บางทีฉันอาจจะให้แกตายโดยที่ร่างกายอยู่ครบ” จีเฟยพูดขึ้น
หวังเย่ายังไม่ทันได้ตอบกลับ แมวก็ได้พูดขึ้นมา “ไอ้แก่ แกคิดจะเอาตัวข้าไป แกคิดว่าแกมีดีพอหรืออย่างไร ? ”
แมวพุ่งเข้าใส่จีเฟยเพื่อเข้าโจมตีอีกฝ่ายทันที
“ถ้าแกยังแกร่งเหมือนเดิม ฉันอาจจะจัดการกับแกไม่ได้ง่าย ๆ แต่ตอนนี้แกเลเวลน้อยกว่า 130 แม้ว่าสายเลือดจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยากที่จะทดแทนช่องว่างระหว่างฉันกับแกได้” จีเฟยพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเยาะเย้ย
ช้างที่อยู่ด้านหลังของเขาใช้งวงฟาดเข้าใส่แมวทันที ช้างเองก็เป็นสัตว์อสูรเทพ ตอนนี้มันแกร่งกว่าแมวด้วยซ้ำ ต่อหน้าสัตว์อสูรที่แกร่งแบบนี้แต่แมวกลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย
แมวนั้นรวดเร็วอย่างมาก มันหลบการโจมตีของช้างแล้วตามด้วยการโจมตีเข้าใส่ที่งวงก่อนจะพุ่งอ้อมตัวช้างไป
ช้างได้ดึงงวงกลับมาแล้วฟาดเข้าใส่แมวอีกครั้ง แต่กลับมีกรงเล็บฟันเข้าที่หลังของมันแทน
ถึงอย่างนั้นการป้องกันของช้างก็สูงอย่างมาก กรงเล็บของแมวที่ฟาดเข้าใส่หลังของมันนั้นทำได้แค่เกิดรอยข่วนขึ้นเท่านั้น เกราะหนาของมันกันการโจมตีของแมวเอาไว้ได้ การโจมตีของแมวนั้นไม่อาจจะทะลุการป้องกันของช้างได้เลย
ตอนที่แมวลงมือนั้น จีเฟยก็ได้เรียกสัตว์อสูรออกมาอีกตัว ครั้งนี้เป็นสัตว์อสูรที่เหมือนกับลิง หากเทียบกับช้างแล้ว ลิงนี่สูงแค่ครึ่งตัวของคนแต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือตัวมันเต็มไปด้วยขนสีแดงก่ำ
ตอนที่ลิงนี่ปรากฏตัวขึ้นมา หวังเย่าก็ต้องใจสั่น หยูเจียที่อยู่ข้าง ๆ เองก็สีหน้าหม่นลง ทั้งสองคนต่างก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มาจากลิง
เพราะลิงนี่เป็นสัตว์อสูรเทพและยังเป็นสัตว์อสูรระดับสูงด้วย !