ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 717 : การต่อสู้ที่ดุเดือด
ตอนที่ 717 : การต่อสู้ที่ดุเดือด
หยานเทียนยังยิ้มออกมาอยู่ แต่หยุนเชาต่างหากที่หนักใจ
“ไอ้แก่ ! ” หยุนเชาโกรธและแทงหอกเข้าใส่หยานเทียนทันที
หยานเทียนยังสีหน้าเฉยเมยไม่เปลี่ยน เขาแค่สะบัดมือพร้อมกับมียันต์ลอยออกมากลายเป็นเอ็นที่พันแขนของอีกฝ่ายเอาไว้กันไม่ให้หยุนเชาแทงออกมาได้
“ทำไมถึงใจร้อนแบบนี้ ถ้านายอยากจะเล่น งั้นฉันจะเล่นด้วยกันกับนายก็ได้” หยานเทียนพูดขึ้น
ฟรืด !
ดาบได้ตัดเอ็นที่ตรึงแขนของหยุนเชาออก ก่อนที่โรม่าจะโผล่มาข้าง ๆ หยุนเชาและพูดขึ้น “ คุณชายห้า ไปช่วยนายท่านเถอะ ปล่อยให้ฉันจัดการที่นี่เอง ”
หยุนเชามองไปที่โรม่าก่อนจะพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อหยานเทียนเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาและโยนยันต์ออกไปอีกสองอันแล้วพูดขึ้น “นายอยากสู้กับฉันแล้วจะหนีไปไหน”
ยันต์อันหนึ่งเปลี่ยนเป็นเสือสีทองพุ่งเข้าหาโรม่า ยันต์อีกอันเปลี่ยนเป็นอินทรีย์พุ่งเข้าหาหยุนเชา
“เร็วเกินไปที่จะมั่นใจ ” โรม่าฮึดฮัดออกมา
เขาใช้ดาบเลเซอร์ฟันเข้าใส่เสือ ส่วนมือซ้ายของเขาก็ทำการยิงลำแสงเข้าใส่ที่ตาของเสือ
ปัง !
เสือโดนกระสุนนั่นอัดเข้าและกระเด็นออกมา จากนั้นมันก็โดนตัดขาด้วยดาบเลเซอร์อีกครั้ง
เสือที่เพิ่งประคองตัวเองได้นั้นต้องตัวสลายไปเพราะความเสียหายจากกระสุน
ปัง !
ไกลออกไป หยุนเชาก็ได้ปะทะกับอินทรีย์ หัวของอินทรีย์โดนกระสุนยิงเข้าใส่ หัวมันระเบิดออกและตายตามเสือไปทันที
เล่ยหยานและชิรูเองก็ปรากฏตัวข้างกายโรม่า ทั้งสามคนพากันร่วมมือกันล้อมหยานเทียนเอาไว้
“สมกับเป็นกองกำลังระดับสูงจากดาวเค่อเซวียจริง ๆ พวกนายนี่ไม่ได้อ่อนแอเลย ถึงจะเป็นแบบนั้นฉันก็อยากทดสอบว่าดาวเค่อเซวียพัฒนามาขนาดไหนหลังจากที่ผ่านมาหลายหมื่นปีแล้ว” หยานเทียนลูบหนวดก่อนจะสะบัดยันต์ออกมาสร้างค่ายกลเอาไว้ ทั้งสี่คนต่างก็ตกอยู่ในค่ายกล
ค่ายกลนี้มีขนาดใหญ่หลายร้อยฟุต แต่ละด้านประกอบด้วยธาตุลม, สายฟ้าและไฟ นี่คือค่ายกลธาตุที่ใช้พลังงานของแต่ละธาตุออกมาโจมตี
หยานเทียนหันกลับไปมองฟู่หมิงที่อยู่บนท้องฟ้า ก่อนจะเอาเก้าอี้มิติออกมาแล้วนั่งลงเพื่อควบคุมคนในค่ายกล
หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็ต้องตกตะลึงกับทะเลไฟขนาดใหญ่บนท้องฟ้า และในอีกด้านเมื่อเห็นว่าหยานเทียนยังนั่งไขว่ห้างอย่างสบายใจเขาก็ต้องแปลกใจ
“ไปเถอะที่นี่อันตราย ลงไปดูด้านล่าง” หวังเย่าบอกกับแมวให้บินลงไป
หยานเทียนมองไปที่หวังเย่าที่โผล่มาข้าง ๆ ก็พูดขึ้น “นายนี่สร้างปัญหาได้ตลอดเวลาจริง ๆ ถึงนายอยากตายก็ไม่ควรไปหาเรื่องตระกูลหยุนสิ”
“หึหึ งั้นทำไมลุงถึงอยู่ที่นี่ไม่พาผมหนีออกไปล่ะ ? ” หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น
หยานเทียนไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาโคจรพลังเข้าไปในค่ายกลเพื่อกักตัวทั้งสามคนเอาไว้ หวังเย่าเห็นพลังงานประเภทต่าง ๆ ที่ไหลไปมา จนทำให้ทั้งสามคนด้านในได้แต่ป้องกัน เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็ต้องแปลกใจ
ไม่คิดเลยว่าหยานเทียนที่ดูอ่อนแอจะมีทักษะที่น่าทึ่งแบบนี้ ทักษะที่ดูเรียบง่ายแต่กลับขังศัตรูเอาไว้ได้ โรม่าที่เป็นหัวหน้าทหารนั้นแกร่งไม่ด้อยไปกว่าหยุนเชาเลย เขาเลเวลเกือบจะ 150
ปัง !
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับระเบิดที่พุ่งเข้าใส่หยานเทียนเพื่อจะทำลายค่ายกลนี้ แต่มันกลับหยุดเมื่ออยู่ห่างจากหัว หยานเทียนไปเพียงเล็กน้อย
หยานเทียนยกมือขึ้นจับกระสุนเอาไว้ เขาพลิกมันเล่นดูสักพักก่อนจะบีบมันให้กลายเป็นเศษผง
“กี่ปีแล้ว แต่ไม่รู้จักก้าวหน้าขึ้นเลยสินะ ” หยานเทียนพูดขึ้นด้วยท่าทีไม่พอใจ
หวังเย่ายังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น หยานเทียนยังไม่ทันทำอะไรก็หยุดกระสุนที่เพียงพอจะฆ่าสัตว์อสูรที่ผ่านการลงโทษมาได้ มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ
“ค่ายกลมิติ ! ” แมวที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นมา
ตอนที่กระสุนพุ่งเข้ามานั้น แมวรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของมิติตรงหน้าราวกับว่ามิตินั้นหยุดนิ่งไป
หยานเทียนมองไปที่แมวด้วยความแปลกใจและพูดขึ้น “สมกับเป็นสัตว์อสูรเทพเก่าแก่ มีพลังจนรับรู้การเปลี่ยนแปลงของมิติได้”
หวังเย่าถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ “จ้าวแห่งแมว นายหมายความว่ากระสุนนั้นถูกหยุดเอาไว้เพราะลุงทำให้มิตินั้นหยุดนิ่งไปงั้นหรือ ? ”
แมวพยักหน้าและพูดขึ้น “ตั้งแต่โบราณมา การฝึกฝนค่ายกลแบบนี้ยากกว่าการใช้อสูร มีคนแค่เพียงหยิบมือที่สามารถควบคุมมิติได้”
เมื่อพูดจบแมวก็ได้มองไปที่หยานเทียน เขามีคำพูดในใจที่ไม่ได้พูดออกมา “การที่ควบคุมมิติได้ถึงระดับนี้ ความแข็งแกร่งของชายคนนี้ต้องอยู่ในระดับที่น่ากลัวอย่างมากแน่
อย่างน้อย ๆ ก็ต้องแกร่งกว่าพวกระดับสูงทั่วไปในจักรวาล
เป็นธรรมดาที่หวังเย่าจะไม่รู้ว่าแมวคิดอะไรอยู่ แต่เมื่อเห็นว่าค่ายกลนี้สามารถขังโรม่าและคนอื่น ๆ ไว้ได้อย่างง่ายดาย เขาก็รู้สึกว่าหยานเทียนนั้นจะต้องแข็งแกร่ง โรม่าและอีกสองคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา อีกทั้งพวกนี้ยังมีเกราะแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มพลังให้ตัวเองได้อีกด้วย
“พวกเจ้าเล่นอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปเล่นกับเจ้านั่นสักหน่อย” แมวมองไปที่หยุนเชา
ก่อนหน้านี้ที่แมวกับเล่ยหยานสู้กันเพราะเชิงเฟิงเข้ามายุ่ง มันจึงทำให้เขาเสียเปรียบ แต่เมื่อตอนนี้มีโอกาสเอาคืน จึงเป็นธรรมดาที่แมวจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป
“ไปสิ ระวังตัวด้วย” หวังเย่าพูดขึ้น
เล่ยหยานนั้นสมกับเป็นทหารของตระกูลหยุนที่เด่นเรื่องการป้องกัน แม้แต่พายุสายฟ้าก็ไม่อาจจะสร้างความเสียหายอะไรได้มากนัก โล่ของเขาเหมือนจะไม่มีวันเสียหาย ไฟและสายฟ้าไม่อาจจะทำลายการป้องกันของโล่นั้นได้
ที่ทั้งสามคนสามารถทนอยู่ในค่ายกลนี้ได้ก็ต้องขอบคุณโล่ของเล่ยหยาน
แม้ว่าจะป้องกันตัวเองได้แต่พวกเขาก็จะโดนขังอยู่ที่ต่อไปเรื่อย ๆ
“ค่ายกลนี้สร้างขึ้นมาจากพลังธาตุ มันคือพื้นฐานของการสร้าง ตราบใดที่ธาตุมันไม่สมดุล งั้นก็หาช่องโหว่ได้ ” หลังจากที่สังเกตมาได้สักพัก โรม่าก็ได้ข้อมูลนี้มา
เขาได้เก็บดาบลง ก่อนจะทำการถอดมือของตัวเองออกให้กลายเป็นปืน
“พลังแสงของปืนนี้จะทำให้ค่ายกลเสียสมดุลไป ตอนนั้นพวกนายต้องคว้าโอกาสไว้ให้ได้ ! ” โรม่าพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง
จากนั้นลำแสงก็อัดแน่นถึงขีดสุดแล้วยิงเข้าไปที่มุมหนึ่งของค่ายกล ค่ายกลที่โดนลำแสงอัดเข้าทำให้พลังงานนั้นปั่นป่วนยิ่งกว่าเก่า พลังงานปั่นป่วนนี้ทำให้ค่ายกลเกิดรอยร้าวขึ้นมา
แกร๊ก ..
ในตอนที่พลังในค่ายกลนั้นป่วนป่วนเหมือนที่นี่กำลังจะพังลง ชิรูก็ได้โผล่ไปที่มุมหนึ่งของค่ายกลแล้วใช้มีดของเธอแทงเข้าใส่ค่ายกล
ภายใต้การโจมตีนี้ค่ายกลก็พังลงทันที
“รีบออกไป ! ” ชิรูเป็นคนแรกที่พุ่งออกมาจากค่ายกล
“อะไรกัน ? พังได้เร็วแบบนี้เลยหรือ ? ” หยานเทียนมองไปยังทั้งสามคนด้วยความแปลกใจ จากนั้นเขาก็ต้องชมออกมา “ทำลายค่ายกลของฉันได้ อย่างนั้นฉันต้องให้ของขวัญสักหน่อย”
โรม่าต้องทนรับพลังงานปั่นป่วนในค่ายกลจึงทำให้เขาช้ากว่าคนอื่น เขาเพิ่งจะออกมานอกระยะค่ายกลได้ไม่ไกลแต่กลับรู้สึกว่าท้องฟ้านั้นมืดลง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับพลังธาตุดิน เขาเห็นว่ามีอุกกาบาตพุ่งลงมาในจุดที่เขาอยู่
อุกกาบาตนี้มีขนาดพอ ๆ กับค่ายกล เล่ยหยานไม่อาจจะหลบได้และโดนอุกกาบาตชนจนตกทะเลไป
“ลุงลงมือหนักจริง ๆ ! ” หวังเย่าสูดหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่หยานเทียน นี่คือความแข็งแกร่งของพวกระดับสูงงั้นหรือ ?
เมื่อเห็นว่าเล่ยหยานตกทะเลไปแล้ว พวกเขาที่เอาทหารมาแค่ 4 คน ก็มีแค่ 3 คนที่ยังสู้ต่อได้นอกจากหลี่รุยที่ทำหน้าที่สอดแนมแล้ว การเสียทหารไปคนหนึ่งนั้นถือว่าเสียหายอย่างมาก
“ อ๊า…”
ตอนนั้นเองก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา โรม่าได้ตามเสียงนั้นไปทันทีและพบว่าไกลออกไปนั้นเชิงเฟิงโดนแมวไล่ตามอยู่
แขนดาบของเขาตอนนี้โดนตัดไปแล้ว เขาดูสภาพน่าอนาถอย่างมาก เลือดได้ไหลออกมาที่ไหล่ของเขา
แมวได้ตัดแขนของเชิงเฟิงทิ้งและไล่ตามต่อ ดูเหมือนว่าแมวคิดจะฆ่าเชิงเฟิงให้ได้
“กล้าขนาดนั้นเลยรึไง ! ” โรม่าตะโกนออกมาด้วยความโกรธและพยายามพุ่งเข้าไปหาเชิงเฟิงเพื่อไปช่วย หวังเย่าไม่อาจจะปล่อยให้แมวโดนรุมได้ เขาจึงจะลงมือแต่ก็โดนชิรูหยุดเอาไว้
หวังเย่าขมวดคิ้วและพูดขึ้น “ไปซะ ฉันไม่อยากทำร้ายผู้หญิง”
สิ้นคำพูดของเขาก็มีมีดฟันออกมาทันที การโจมตีนี้ก็รุนแรงเช่นกัน
หวังเย่าไม่กล้าจะประมาท เมื่อหันกลับไปมองรอบ ๆ ก็พบว่าแมวไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายอะไร
หยานเทียนมองดูหวังเย่าและชิรูต่อสู้กัน เขายิ้มออกมาและพูดขึ้น “หวังเย่า ฉันเห็นว่ารูปร่างของเธอก็ดีนะ ฉันจะให้เวลานายอยู่กับเธอก็แล้วกัน ฉันอยากเห็นจริง ๆ เลยว่านายจะดูแลผู้หญิงยังไง ? ”
“ลุง ลุงคิดบ้าอะไร ยัยนี่น่ะโหดจะตาย ! ผมไม่อยากตื่นขึ้นมาด้วยความระแวงว่าจะโดนฆ่าเมื่อไหร่หรอกนะ” หวังเย่ามองไปที่หยานเทียนแล้วรีบแก้ตัวทันที
ในอีกด้าน แมวที่กำลังจะไล่ตามเชิงเฟิงได้ทัน แม้ว่าโรม่าอยากจะไล่ตามแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ในตอนที่เชิงเฟิงกำลังจะตกอยู่ในเงื้อมมือของแมวนั้น ก็มีโล่ขนาดใหญ่มาขวางหน้าแมวเอาไว้
ปัง !
กรงเล็บของแมวอัดเข้ากับโล่จนทิ้งรอยข่วนเอาไว้ การโจมตีอันรุนแรงนี้กลับโดนโล่กันเอาไว้ได้
เล่ยหยานที่ตกทะเลไปกลับไม่ตาย ในตอนวิกฤตเขากลับพุ่งเข้ามากันการโจมตีของแมวเอาไว้ได้