ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 714 : ใบหน้าภายใต้หน้ากาก
ตอนที่ 714 : ใบหน้าภายใต้หน้ากาก
แมวได้พุ่งเข้าหาเล่ยหยาน ไม่นานก็ตามเล่ยหยานทัน เล่ยหยานเองก็ตกใจกับการปรากฏตัวของแมวไม่น้อย เมื่อเห็นกรงเล็บที่ฟาดลงมานั้น เล่ยหยานก็ได้ยกโล่ขึ้นกันทันที
ปัง
ตัวของเล่ยหยานกระเด็นออกไป แมวนั้นมีแรงมากกว่าเขาแต่ความเร็วในการกระเด็นออกมานั้นลดลงเพราะเกราะของเขาช่วยเอาไว้ แต่ทุกครั้งที่เล่ยหยานต้องการจะหยุดก็โดนแมวไล่ตะปบต่อ
เขาราวกับลูกบอลที่ไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ เล่ยหยานตะโกนออกมาด้วยความโกรธก่อนจะสะบัดโล่ไปรอบตัวสร้างพายุไฟฟ้าขึ้น แต่แมวก็ได้สะบัดกรงเล็บสร้างใบมีดลมอัดเข้าใส่โล่ ทำให้เล่ยหยานกระเด็นออกไปอีก
“แมวนี่มันมาจากไหน ทั้งความเร็วและแรงไม่เหมือนกับสัตว์อสูรทั่วไป แม้ว่าจะเป็นสัตว์อสูรเทพแต่ก็ไม่อาจจะทำให้ เล่ยหยานหมดสภาพแบบนี้ได้” หยุนซีเห็นสภาพของเล่ยหยานก็ต้องคิ้วขมวด
“เขาไม่อาจจะทำลายการป้องกันของเกราะได้” ลูกน้องอีกคนพูดขึ้น “ในบรรดานักรบทั้งสี่แล้ว เกราะของเล่ยหยาน นั้นแกร่งที่สุด แม้แต่ผมก็ยังไม่อาจจะทลายการป้องกันได”
“เป็นหน้าที่ของนายไม่ใช่รึไงสำหรับการโจมตีระยะไกล” หยุนซีบอกกับเชิงเฟิงที่อยู่ด้านหลัง “ฉันหมายหัวมันไว้แล้ว ต้องจัดการแมวนี่ให้ได้”
เชิงเฟิงได้ยินแบบนั้นก็ได้เล็งปืนไปที่แมว เสียงกระสุนพุ่งออกจากลำกล้องพุ่งออกไปรวดเร็วยิ่งกว่าเสียง
แต่ตอนที่เชิงเฟิงยิงออกไปนั้น ตัวของแมวกลับสั่นไหวก่อนจะปรากฏตัวขึ้นในอีกที่และหลบการโจมตีได้
แต่เล่ยหยานใช้โอกาสนั้นประคองร่างกายตัวเองได้ทัน เขายืนมองไปที่แมวด้วยสายตาหงุดหงิด
“ไอ้แมวบ้านี่ ถ้าฉันฆ่าแกไม่ได้ ฉันคงนอนไม่หลับ” เล่ยหยานไม่คิดจะยั้งมืออีกต่อไป เสียงเครื่องยนต์ทำงานดังขึ้นพร้อมกับตัวเขาที่ห่อหุ้มด้วยเหล็ก หัวของเขามีเกราะเหล็กห่อหุ้มเอาไว้ ตอนนี้ตัวเขาราวกับคิงคองเหล็ก
สิ่งเดียวที่ยังเหมือนเดิมคือเขายังมีโล่ขนาดใหญ่อยู่ในมือ
ครั้งนี้กรงเล็บของแมวกับโล่ได้ปะทะกันจนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น แต่มันไม่ได้ทำให้เล่ยหยานกระเด็นออกไป หลังจากที่ใช้พลังแรงโน้มถ่วงเต็มที่ออกมา พลังของเล่ยหยานก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เขาไม่ได้เสียเปรียบกับการเผชิญหน้ากับแมวเหมือนแบบตอนแรก
แม้ว่าความเร็วจะน้อยกว่าแมวแต่ก็ยังมีคนอื่นคอยโจมตีช่วย แมวนั้นต้องรับมือกับทั้งสองฝั่ง
พลังของปืนที่ยิงมานั้นสูง แม้ว่าแมวจะมีสายเลือดระดับสูงแต่ถึงอย่างนั้นพลังของปืนนี่ก็ยังเป็นภัยต่อเขาได้
ในอีกด้านเมื่อหวังเย่าไม่ต้องรับมือกับเล่ยหยานและเชิงเฟิง การที่รับมือกับนักฆ่าผู้หญิงแค่คนเดียวก็ลดแรงกดดันที่มีต่อเขาอย่างมาก แต่ความสามารถในการสู้ระยะประชิดของเธอนั้นสูง แม้แต่หวังเย่าก็ยังรู้สึกกดดันไม่ใช่น้อย
การโจมตีของเธอล้วนแต่เกินการคาดเดา
ปัง !
ใบมีดอัดเข้ากับดาบของหวังเย่า หวังเย่าคิดจะใช้โอกาสนี้ทำลายมีดของเธอทิ้ง
แต่เขาก็ไม่อาจจะทำแบบที่คิดได้ เขาต้องโยกตัวออกมาเพื่อหลบการโจมตี อาวุธนี่ไม่รู้ว่าทำมาจากอะไรถึงได้คมและแข็งแบบนี้ หวังเย่าคิดหาข้อมูลต่าง ๆ ที่มีในหัวแต่ก็พบว่าคงมีแค่ดาบศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่ทัดเทียมกับมันได้
แม้ว่าดาบศักดิ์สิทธิ์จะทรงพลังแต่ด้วยความแข็งแกร่งของหวังเย่าตอนนี้แล้ว การจะใช้มันก็ถือว่ายากอย่างมาก นี่ไม่ต้องนับถึงการใช้มันในการต่อสู้เลย
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่รึไงว่าฉันอ่อนโยนกับผู้หญิง ? เธอทำแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่มีใครแต่งงานด้วยหรอก” หวังเย่าหลบการโจมตีของอีกฝ่ายและยกมือขึ้นกันมืออีกข้างของเธอ
“ไร้สาระ” ชิรูฮึดฮัดออกมา มือเธอราวกับงูที่อ้อมมือของหวังเย่าไปแล้วใช้มีดแทงเข้าใส่ที่ลำคอของเขา
แม้ว่าหวังเย่าจะจับข้อมืออีกฝ่ายไว้ทันแต่มีดนั่นก็ยังเฉือนผิวของเขาไปได้ มันแทบฟันเข้ามาในคอของเขา เขายกมือขึ้นเช็ดเลือดที่คอแล้วแสดงสีหน้าเย็นชาออกมา
ถ้าช้าไปนิดเดียวเขาคงตายเพราะมีดของเธอไปแล้ว เธออันตรายกว่าเล่ยหยานและเชิงเฟิงเสียอีก อย่างน้อยการโจมตีของเล่ยหยานก็ไม่ได้รวดเร็ว เชิงเฟิงเองก็ไม่ได้ดูว่องไวเหมือนเธอ
ชิรูที่อยู่ตรงหน้านี้ดูเหมือนว่าจะเป็นคนสมบูรณ์แบบ ด้วยความเร็วของเธอแล้วคงยากที่เขาจะหนีได้ เมื่อโดนตามทันคงจบไม่สวย
“เธอบังคับฉันเองนะ ! ” หวังเย่ากดลงไปที่หว่างคิ้วพร้อมกับตราไฟที่แผ่พลังงานออกมา
ตูม !
อยู่ ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นบนฟ้าพร้อมกับไฟที่ระเบิดขึ้นเหนือเสา ความร้อนและพลังงานอันน่ากลัวได้กระจายไปทั่วสร้างพายุพลังงานครอบคลุมระยะหลายไมล์
หวังเย่า, แมวและคนอื่น ๆ ที่สู้กันนั้นไม่เป็นอะไร แต่คนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ต่างก็พากันได้รับผลกระทบจากพลังงานนี้
พวกเขาพากันกระเด็นออกมาเพราะคลื่นความร้อน
หวังเย่ารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนที่พลังนี้ระเบิดออกมา เขาก็ได้เปิดใช้งานโล่เงาทันที ชิรูนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว เธอต้องสลบไปเพราะคลื่นพลังนี้ แม้ว่าจะมีเกราะแรงโน้มถ่วงคอยช่วยแต่ก็ยังบาดเจ็บอยู่ดี
ระเบิดที่กอตัวขึ้นมานั้นแผ่คลื่นความร้อนและคลื่นพลังงานออกมากระจายไปทุกทิศทางด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า แม้แต่น้ำด้านล่างก็ยังได้รับผลกระทบไปด้วย ผิวน้ำถึงกับเดือด
ผ่านไปสักพักผลจากการระเบิดก็จบลง ทะเลมีหมอกลอยออกมาเพราะความร้อนก่อนหน้านี้ ท้องฟ้ากระจ่างใส แม้แต่เมฆบนท้องฟ้าก็ยังสลายไปด้วย
หวังเย่าได้อุ้มชิรูเอาไว้ เขาอยู่ในทะเลโดยมีโล่พลังที่สร้างขึ้นจากลูกปัดน้ำคอยปกป้องทั้งสองคน เพื่อจะหลีกเลี่ยงพลังจากการระเบิด หวังเย่าก็ต้องกลับลงมาในทะเล เมื่อเห็นว่าชิรูหมดสติไป เขาก็ได้แต่ต้องคอยช่วยเธอเอาไว้
บอกได้ว่าผู้หญิงคนนี้มีรูปร่างดีอย่างมาก หากต้องให้คะแนนแล้วคงได้ไป 8 คะแนน ยิ่งไปกว่านั้นเกราะของเธอก็ต่างจากเกราะของคนอื่น ๆ เกราะนี้เหมือนจะทำมาจากเหล็กที่มีพลังชีวิต มันพอดีกับตัวเธอไม่เทอะทะแบบเกราะอื่น ๆ มันมีเกล็ดปลาสลักไว้บนเกราะ
หวังเย่ามองไปที่ใบหน้าของเธอ ใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้นทำให้หวังเย่านึกสงสัยอย่างมาก
“ถ้าเธอไล่ตามฉันอีก…ฉันจะทำลายใบหน้าของเธอซะ” หวังเย่าพูดขึ้น “เธอน่ะเป็นคนโหดร้าย ไม่รู้เลยว่าใบหน้าภายใต้หน้ากากนี้จะเป็นยังไง”
คงไม่มีใครคิดว่าคนที่ดูโหดร้ายเช่นนี้จะมีใบหน้าที่อยู่ภายใต้หน้ากากราวกับเด็กน้อยใสซื่อ เมื่อรวมกับร่างกายที่ดูดีและบุคลิกที่เย็นชาแล้ว เธอนั้นถือว่าเป็นที่มีเสน่ห์อย่างมาก
“หึหึ…” หวังเย่าเลียปากและยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขามองไปที่ผู้หญิงที่หมดสติอยู่ตรงหน้า “ฉันเกือบตายเพราะเธอแล้ว ฉันควรจะเอาคืนยังไงดี”
ในตอนที่พูดนั้นเขาก็มองต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนมองมาที่แก้มของเธอ เมื่อเห็นแก้มที่มีผิวเนียนขาว เขาก็หยิกมันเบา ๆ
“ไม่แปลกเลยที่ทำไมทุกคนถึงชอบหยิกแก้มเด็ก มันรู้สึกดีจริง ๆ ! ” หวังเย่าหยิกแก้มชิรูครั้งแล้วครั้งเล่าและพูดขึ้นมา
“หือ…” ในตอนที่หวังเย่ากำลังหยิกแก้มเธออยู่นั้น ชิรูก็ได้สติขึ้นมา
เธอรู้สึกแปลก ๆ บนใบหน้า ก่อนจะแสดงสายตาเย็นชาออกมาทันที และยกมือขึ้นข่วนหน้าของหวังเย่า หวังเย่าถอยกลับเพื่อหลบการโจมตี เขาคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าเมื่อเธอตื่นขึ้นมาจะต้องโจมตีเขาแน่ ๆ
“ฉันจะฆ่านาย ! ” สายตาของเธอเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
ถ้าสายตาฆ่าคนได้จริง ๆ งั้นหวังเย่าอาจจะตายไปแล้วก็ได้ !
เธอเพิ่งจะลงมือแต่ก็พบว่าที่มือของเธอนั้นว่างเปล่า มีดของเธอไม่ได้อยู่กับตัว ก่อนที่หวังเย่าจะยิ้มออกมาอย่างภูมิใจและยกมีดขึ้นส่ายไปมา “ของอันตรายแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้หญิงแบบเธอหรอก”
หลังจากที่ชิรูหมดสติไป หวังเย่าก็ได้ยึดอาวุธของเธอมา ของอันตรายแบบนี้ถึงอีกฝ่ายจะไม่ได้สติ แต่เขาก็ไม่อาจจะสบายใจได้ เมื่อไม่มีมีดสองเล่มนี้ความสามารถในการต่อสู้ของอีกฝ่ายจะลดลงไปอย่างมาก
แน่นอนว่าหลังจากที่พบว่ามีดโดนหวังเย่ายึดไป ชิรูก็เบิกตากว้างมองไปที่หวังเย่า “เอาอาวุธฉันคืนมา ถ้านายเป็นลูกผู้ชายก็มาสู้กันอย่างยุติธรรม”
หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น “แน่นอนว่าฉันเป็นลูกผู้ชาย ฉันเองก็อยากจะสู้กับเธอแต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา”
“ถ้าเธอลองมองไปรอบตัว เธอคงรู้ว่าถ้าเราสู้กันจะเป็นการดึงความสนใจจากสัตว์อสูรในทะเลมากแค่ไหน”
ชิรูไม่เข้าใจคำพูดของหวังเย่า เธอจึงรีบหันมองไปรอบ ๆ และพบแต่ความืด ตอนนั้นเธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าเธอคงหมดสติไปเพราะแรงระเบิด
“นายทำลายฐานงั้นหรือ ! ” ชิรูมองไปที่หวังเย่าแล้วถามขึ้นมา