ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 712 : วันตายของดูฉีชุย
ตอนที่ 712 : วันตายของดูฉีชุย
หวังเย่ามองไปที่เครื่องจักรที่ลอยเข้าออกยาน ไม่นานมันก็หายไปในหมอกขาวไม่รู้ว่ามันจะไปที่ไหนต่อ แต่จากที่เขาเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว หวังเย่าเดาว่าตระกูลหยุนคงต้องการใช้เครื่องจักรเหล่านี้ในการตรวจสอบน่านน้ำอย่างแน่นอน
ตอนนั้นเขาเห็นหยุนซีและคนของเขาเดินทางออกมาจากยานก่อนจะหยุดอยู่ชั่วครู่ แล้วเดินไปออกไปในทิศทางหนึ่ง
หวังเย่าตั้งใจจะถอยเพราะไม่อยากให้พวกนั้นรู้ตัว แต่เมื่อเห็นว่าพวกนั้นเดินทางออกไปแล้ว คนสำคัญต่างก็เดินทางออกไปกันหมด เขาก็ต้องคิดทบทวนใหม่
“ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะไม่กลับมาเร็วๆนี้แน่ มันคงจะดีกว่าที่จะขึ้นไปดูด้านบนว่าคนของตระกูลหยุนคิดจะทำอะไรกันแน่” หวังเย่าคิดในใจ
เขาเดินทางอ้อมเสาหินแอบไปอยู่ที่ใต้จานบิน เขาอาศัยจังหวะตอนที่ยานตรวจจับเพิ่งเดินทางออกมาเพื่อเข้าไปในจานบิน
เมื่อมองจากด้านล่างและพบว่าจานบินนี้ไม่ได้มีขนาดเล็ก แต่เมื่อเข้ามาด้านในแล้วก็รู้ว่าที่นี่คือป้อมทางอากาศ ขนาดของมันทัดเทียมกับยานก่อนหน้านี้ที่พวกเขาขึ้นมา แม้แต่ทางเดินด้านในก็ยังกว้างกว่า 10 เมตร มันกว้างพอที่รถม้าสองคันจะวิ่งสวนกันได้
หวังเย่าเดินเข้ามาและพบกับทางแยกด้านหน้า ที่ปลายทางนั้นไม่รู้ว่านำไปที่ไหน
ไม่นานเขาก็รับรู้ได้ว่ามีบางอย่างเข้ามาใกล้ เขาจึงรีบซ่อนตัวทันที หลังจากที่เขาซ่อนตัวแล้วก็พบกับยานตรวจจับสองลำที่ค่อย ๆ บินผ่านไปเพื่อออกจากจานบิน แต่ตอนที่พวกมันกำลังจะบินออกไปนั้นก็เหมือนกับตรวจจับสิ่งผิดปกติได้
แกร๊ก แกร๊ก
ปืนที่อยู่ด้านหลังของยานตรวจจับได้เล็งมาที่หวังเย่าพร้อมตาสีฟ้าของยานที่เปลี่ยนเป็นสีแดง
“ตรวจจับผู้บุกรุกได้ เตรียมตัว…”
ปัง !
ยานตรวจจับทั้งสองยังไม่ทันได้ส่งสัญญาณเตือนก็โดนหวังเย่าตบเข้าไปอย่างจัง จนยานทั้งสองอัดเข้ากับกำแพงอย่างแรง หวังเย่ารู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นควันดำลอยออกมาจากตัวของมัน
ฐานแห่งนี้ไม่รู้ว่ามีทหารประจำการอยู่เท่าไหร่ หากมีการส่งสัญญาณเตือนออกไปแล้วจริง ๆ แม้ว่าจะทำอะไรเขาไม่ได้แต่เขาก็ไม่อยากเปิดเผยตัวที่นี่
หลังจากที่เก็บยานตรวจจับทั้งสองแล้ว หวังเย่าก็ค่อย ๆ เดินหน้าต่อ ดีที่ที่นี่ไม่ได้มีทหารคอยดูแลมากนัก บางครั้งก็จะมีทหาร 2-3 คนเดินผ่าน หวังเย่าเห็นล่วงหน้าก็สามารถหลบได้ด้วยความสามารถของลูกปัดน้ำ
นี่คือความสามารถที่หวังเย่าเพิ่งจะพบ ลูกปัดน้ำไม่ใช่แค่ทำให้เขาเดินทางในทะเลได้อย่างอิสระเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการหักเหแสง มันทำให้เขาซ่อนตัวราวกับล่องหนได้เป็นอย่างดี
“ของดีจริง ๆ ขอบคุณที่ไอ้แก่นั่นใจดี ไม่งั้นแล้วฉันคงมีปัญหามากแน่ ๆ ” หวังเย่ายกเลิกการซ่อนตัวทันทีเมื่อยานตรวจจับทั้งสองผ่านไป
เขามองไปที่ทางแยกตรงหน้าและสุดท้ายก็เลือกที่จะไปทางขวา ยังไงซะเขาก็ไม่รู้ว่าเส้นทางพวกนี้นำไปที่ไหน จะเลือกยังไงก็เหมือนกัน
หวังเย่าเหมือนจะโชคดี เขาเดินมาตามทางแยกทางขวาและไม่ได้พบกับยานตรวจจับเลย ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่ใช่เขตรับผิดชอบของพวกมัน
“ยานรบทั้งหมดบินออกมาจากอีกด้านงั้นหรือ ? ” หวังเย่าคิด เมื่อเดินมาตามทางเดินและเลี้ยวมาก็พบกับห้องพักหลายห้อง สุดท้ายเขาก็พบกับทางตัน
สุดทางเดินนี้มีประตูปิดอยู่ มันมีทหารคอยดูแลอยู่ ทหารเหล่านี้ต่างจากทหารที่เขาเคยพบมา พวกนี้ราวกับหุ่นยนต์ที่มีปืนติดตัว และเหมือนจะเป็นทหารระดับสูง
หวังเย่าไม่กล้าที่จะปล่อยให้พวกนั้นรู้ตัว เขาใช้ลูกปัดน้ำปกปิดคลื่นพลังและร่างกายเอาไว้ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปหา ตอนที่อยู่ห่างจากทหารประมาณ 10 เมตร ทหารทั้งสองนั้นกลับหันมามองทางหวังเย่าพร้อมกัน
หวังเย่าตกใจและมองไปที่ทหารตรงหน้าเพื่อรอดูว่าพวกนั้นจะทำยังไง
ปัง !
ในตอนที่ปืนถูกยิงออกมา หวังเย่าก็พบว่ามันผิดปกติ เขาคิดจะออกจากที่นี่แต่ทหารนั้นรู้ตัวเร็ว หลังจากที่หวังเย่าเผยตัวออกมาแล้ว ทหารก็ได้ตำแหน่งเขาและรีบไล่ตามทันที
หวังเย่าเห็นทหารคนหนึ่งไล่ตามหลังมา เสียงสัญญาณเตือนดังก้องไปทั่ว หวังเย่ารู้ว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะหนีออกไปด้านนอก เดาว่าทางออกคงโดนปิดเอาไว้แล้ว หวังเย่าจึงกัดฟันแน่นและต้องเลือกที่จะเผชิญหน้ากับพวกทหาร
หลังจากที่โดนยิงมาแล้ว หวังเย่าก็ได้เปิดใช้โล่เงาพุ่งเข้าใส่พวกทหารทันที ทหารเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ปืนที่ใช้โจมตีระยะไกลแต่ยังมีอาวุธสำหรับโจมตีระยะใกล้ด้วย ทันทีที่หวังเย่าพุ่งเข้ามา ทหารก็ได้ดึงเอาดาบออกมาจากด้านหลังฟันเข้าใส่ หวังเย่า
แต่หวังเย่าไม่ได้กลัวพวกทหารเลยหากเป็นเรื่องการต่อสู้ระยะประชิดเช่นนี้ ไฟหยินหยางนั้นร้อนพอที่จะละลายดาบของพวกนั้นก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะอัดเข้าที่อกของทหาร
แค่การโจมตีครั้งเดียวก็ทำให้ทหารหมดสภาพ พวกนี้เลเวลไม่ถึง 120 ในสายตาของหวังเย่าแล้วไม่ได้มีค่าด้วยซ้ำโดยเฉพาะกับการที่ทหารพวกนี้ไม่อาจจะรับมือกับไฟหยินหยางได้
แค่ตบไม่กี่ครั้ง หวังเย่าก็จัดการกับทหารพวกนั้นได้ ในตอนที่จัดการกับทหารคนสุดท้ายไปแล้ว หวังเย่าก็ได้วิ่งไปยังประตูที่ปิดไว้อยู่
ครืน !
หวังเย่าพังประตูด้วยฝ่ามือแต่ประตูนั้นแข็งกว่าที่หวังเย่าคาดการณ์เอาไว้ มันไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย เขาทำการต่อยเข้าไปอีกหลายครั้งแต่ผ่านไปกว่าครึ่งนาทีก็ยังไม่อาจจะทำอะไรประตูได้
ดาบจิต, หมัดมังกร, ฝ่ามือฉลามดำ สกิลทุกอย่างนอกจากค่ายกลทำลายดาวล้วนแต่ถูกใช้ออกมา แต่มันก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ทหารด้านในฐานต่างก็พากันตกใจ พวกนั้นรีบมาสมทบกันที่นั่นทันที
หวังเย่าเห็นทหารมาแบบนั้นก็รู้ว่าเหลือเวลาไม่มาก เขาพลิกฝ่ามือก่อนจะมีดาบสีทองปรากฏขึ้น นี่คือดาบศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่หวังเย่าตอนนี้ก็ยังไม่อาจจะใช้มันได้ตามใจ
ด้วยน้ำหนักของดาบจึงทำให้เขาถึงกับตัวเซไปตาม เขาพยายามที่จะยกดาบขึ้นฟันเข้าใส่ประตูตรงหน้า
ประตูที่แข็งกลับแตกออก หวังเย่ารีบเก็บดาบและเข้าไปในห้องนั้น เมื่อเข้ามาในห้อง หวังเย่าก็พบกับสถานการณ์ตรงหน้า เขาหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปต่อ
ปืนถูกยิงออกมา กระสุนได้พุ่งผ่านประตูขึ้นมาทำให้ทั้งห้องเต็มไปด้วยรูกระสุนรวมถึงเลเซอร์ที่โดนยิงเข้าใส่กำแพงในห้อง
เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็แสดงสีหน้าตรึงเครียดออกมาโดยเฉพาะกับพวกเลเซอร์ ในยานนี้สามารถใช้อาวุธรุนแรงแบบนี้ได้ ถ้ามันโดนตัวเขา แม้ว่าจะมีไฟหยินหยางคอยปกป้องแต่ก็ใช่ว่าจะไม่บาดเจ็บ
“นี่คือห้องควบคุมงั้นหรือ ? ” หวังเย่าเห็นแผงควบคุมในห้องรวมถึงหน้าจอสั่งการ บางอันยังแสดงแผนผังด้านในจานบิน ส่วนจออื่น ๆ แสดงถึงภาพของยานตรวจจับอื่น ๆ
“ ไม่แปลกเลยที่ทหารพวกนั้นถึงดูหงุดหงิดนัก กลับเป็นว่าที่นี่คือศูนย์กลางของจานบิน ” หวังเย่ายิ้มออกมา
หวังเย่าไปนั่งอยู่หน้าโต๊ะควบคุมก่อนที่จะกดปุ่มเพื่อสั่งให้ยานทั้งหมดทำลายตัวเอง ตอนนั้นเอกสารภายในทั้งหมดถูกลบไป สุดท้ายเขาก็กดปุ่มที่มีรูปหัวกะโหลก
“ไม่รู้เลยว่าตระกูลหยุนจะรู้สึกยังไงเมื่อรู้ว่าฐานนี้โดนทำลาย” หวังเย่ายิ้มออกมา พวกทหารหุ่นยนต์ด้านนอกต่างก็หยุดนิ่งไปราวกับว่าโดนถอดปลั๊ก
คนที่เป็นครึ่งหุ่นยนต์ตามทหารพวกนั้นเข้ามาในห้องควบคุม หลังจากที่เห็นว่าหุ่นยนต์ทั้งหมดยืนนิ่ง พวกนั้นก็ต้องอึ้งและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ต่อมาเขาก็เห็นไฟลุกขึ้น เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าหุ่นยนต์โดยรอบนั้นต่างก็พากันระเบิดตัวเอง
ดูฉีชุยมองไปที่หุ่นยนต์ที่ระเบิดตัวเองด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ตัวเขาเองก็กระเด็นออกไปเพราะแรงระเบิดด้วย
“หวังเย่า…ฉันจะฆ่าแก ! ” ดูฉีชุยเห็นหวังเย่าอยู่ในห้อง เขาก็ตาแดงก่ำ เขาราวกับเห็นคนที่ฆ่าพ่อของตัวเอง
หวังเย่าฮึดฮัดออกมาและพูดขึ้น “มาดูกันว่าใครจะฆ่าใคร ครั้งที่แล้วแกยังหนีไปได้ แกมีตระกูลหยุนคอยคุ้มกะลาหัวแล้วคิดว่าจะจัดการฉันได้รึไง”
ต่อหน้าคนที่ไร้ความเป็นมนุษย์ และฆ่าพวกครึ่งมนุษย์นับไม่ถ้วนแล้ว หวังเย่าแค้นเคืองอย่างมาก เขาไม่คิดที่จะหนีไปไหน หวังเย่าถึงกับใช้เกราะมังกรออกมา
ดูฉีชุยเห็นความเร็วของหวังเย่าที่เพิ่มขึ้นก็ต้องแปลกใจ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะรวดเร็วได้แบบนี้ ระยะห่าง 100 เมตรระหว่างทั้งสองคนนั้น ผ่านไปแค่พริบตาเดียวหวังเย่าก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว ก่อนที่เขาจะรู้ตัวเขาก็ต้องโดนต่อยออกมา
ตอนที่เขาเห็นหวังเย่าสู้กับเล่ยหยาน เขาไม่ได้รู้สึกว่าหวังเย่าแกร่งอะไรนัก แต่เมื่อรับรู้มันด้วยตัวเองเขาก็รู้แล้วว่า หวังเย่านั้นแกร่งกว่าพวกเลเวล 130 ทั่วไป
แม้ว่าเขาจะกลายเป็นครึ่งหุ่นยนต์แล้ว แต่ก็ไม่ได้แกร่งกว่าพวกเลเวล 130 เขาไม่อาจจะเป็นคู่มือของหวังเย่าได้เลยการโจมเตีเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เขาเสียแขนข้างหนึ่งไปได้
“วันนี้แกคงไม่มีโอกาสแบบเดิมอีก ! ” หวังเย่าค่อย ๆ เดินเข้าไปหาดูฉีชุยที่นอนกองอยู่กับพื้นอย่างช้า ๆ