ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 711 : เสาต้นที่สอง
ตอนที่ 711 : เสาต้นที่สอง
“ ถ้ามีโอกาสก็ฆ่าเขาซะ” เชิงเฟิงโผล่มาข้างๆ ชิรูและมองไปที่ทะเลด้านล่าง
ในมือของเขามีปืนยาวกว่า 2 เมตร และเขาคือคนที่เพิ่งยิงหวังเย่าไป
“ มันมีสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนในทะเลแห่งนี้ แม้แต่ฉันหากตกลงไปก็ยากที่จะปกป้องตัวเองได้ เขาคงไม่รอด” ชิรูพูดขึ้นก่อนจะหันกลับแล้วบินไปที่เสาหิน
ตอนที่เธอจากไปนั้น เธอก็ก้มลงไปมองที่ทะเลด้านล่างอย่างไม่ตั้งใจ ในขณะนั้นตอนที่หวังเย่ากำลังจะตกลงไปชัดแล้วว่าเขารับรู้ได้ถึงอันตรายก่อน และด้วยความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมา เธอมั่นใจว่าตอนที่กระสุนโดนตัวเขา เขาสามารถใช้เธอเป็นโล่แทนได้แต่หวังเย่ากลับไม่ทำแบบนั้น
“คนโง่” ชิรูไม่เข้าใจการกระทำของอีกฝ่าย
อึก..
เมื่อตกลงมาในทะเล หวังเย่าก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด ตรงหน้าของเขามีแต่สีดำสนิท เขาเกือบจะสลบไป ตอนนี้กระดูกของเขาหักและมีเลือดไหลออกมาที่ไหล่ เหลือกล้ามเนื้อที่ยังพอติดกันอยู่จึงทำให้เขาไม่อาจจะใช้งานแขนได้ในตอนนี้
มันมีสัตว์อสูรในทะเลนับไม่ถ้วน เมื่อตกลงมาในทะเลแล้วแม้ว่าจะเป็นสัตว์อสูรเทพก็ไม่กล้าที่จะบอกว่าสามารถปกป้องตัวเองได้ แต่หลังจากที่เกือบสลบได้ไม่นาน หวังเย่าก็ได้สติกลับมาและพบว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากมีแผลที่ไหล่เท่านั้น
“จ้าวแห่งแมว….นายได้สติอยู่รึเปล่า ? ” หวังเย่าเห็นแมวอยู่ข้าง ๆ จึงถามขึ้นมา
“นายโตขนาดนี้แล้วแต่ยังให้ฉันคอยดูแลอยู่อีก” แมวมองมาที่อกของหวังเย่าด้วยความแปลกใจ
ที่อกของหวังเย่ามีแสงสีฟ้าส่องประกายออกมาก่อตัวเป็นโล่ หวังเย่าและแมวอยู่ในโล่นั้น โล่นี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เมตรน้ำทะเลไม่อาจจะเข้ามาในโล่ได้
“นี่…เพราะลูกปัดน้ำงั้นหรือ ? ” หวังเย่าเองก็ทึ่งและจับไปที่ลูกปัดน้ำ นี่คือลูกปัดที่เจียงหยานให้กับเขามาในตอนแรก
หวังเย่าไม่คิดเลยว่าในตอนที่ตกอยู่ในอันตรายนั้น เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายได้เพราะความช่วยเหลือจากลูกปัดนี่ ไม่งั้นแล้วแม้ว่าจะมีแมวอยู่ด้วยแต่ก็ยากที่จะปกป้องตัวเองได้
“เขาคงคิดไม่ถึงว่าของที่เขาให้มาจะช่วยชีวิตเราเอาไว้” หวังเย่าเหมือนสะใจ แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงคิดจะฆ่าเขา แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้เรื่องตอนนี้ก็คงรู้สึกเสียดายอย่างมากแน่ ๆ
แมวมองไปที่สัตว์อสูรที่ว่ายไปมาด้านนอกโล่และพูดขึ้น “เมื่อนายได้สติแล้ว เราควรออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด ไม่งั้นแล้วคนอื่น ๆ อาจจะตามมาได้”
ลูกปัดนี้ไม่ใช่แค่กันไม่ให้น้ำเข้ามาแต่ยังทำให้พวกเขาเคลื่อนที่ในน้ำได้อย่างอิสระ มันเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในอีกมิติหนึ่ง มีแค่สัตว์อสูรในทะเลเท่านั้นที่รับรู้ได้ถึงตัวตนของพวกเขาได้ แต่พวกนั้นก็โดนแมวไล่ออกไปหมด
หวังเย่ามองไปที่แผลของตัวเอง ก็เห็นว่ามีเลือดไหลออกมาและกระดูกที่หัก
“พวกตระกูลหยุนนี่ไม่ใช่แค่หลอกคนเก่ง แต่ยังลอบกัดเก่งด้วย” หวังเย่ากัดฟันทนต่อความเจ็บปวด กระสุนนี่ไม่ได้มีแค่พลังทางกายภาพเท่านั้น
การโจมตีนี้ส่งผลตรงต่อเส้นประสาท มันทำให้เขาเจ็บเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว ไม่งั้นแล้วหากด้วยประสบการณ์ที่มีมาในอดีต แม้ว่าแขนจะขาดแต่เขาก็ยังพอทนไหว
“เอไนน์ ออกมา ! ” หวังเย่าเรียกเอไนน์ออกมาเพื่อให้มารักษาบาดแผลของเขา
“ทำไมนายท่านถึงได้บาดเจ็บหนักแบบนี้ได้ ? ” ทันทีที่เอไนน์ออกมา เธอก็เห็นรูที่ไหล่ของหวังเย่าและเลือดที่อาบแทบไปทั้งตัว เธอแสดงสีหน้าแปลกใจออกมาทันที
หวังเย่าพูดขึ้นทันที “อย่าถามมาก รีบรักษาฉันก่อน เห็นไหมว่าเลือดมันไหลไม่หยุด”
“ได้ ! ” เอไนน์สะบัดมือพร้อมแสงสีเขียวที่ครอบคลุมตัวของหวังเย่าเอาไว้ แผลของเขาจึงเริ่มฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เอไนน์มองไปรอบ ๆ เมื่อพบว่าที่นี่มีแต่ความมืดมิดก็เบิกตากว้าง เธอค่อย ๆ เขยิบเข้าไปหาหวังเย่าและแมว “นายท่าน เราอยู่ที่ไหนกัน ? ”
“นี่คือชั้นสองของดินแดนนรก ทะเลหมื่นมังกร ตอนนี้เราอยู่ใต้ท้องทะเล” หวังเย่าพูดขึ้น ตอนนี้เขาเสียเลือดไปจำนวนมาก จนทำให้เขารู้สึกมึนหัวนิด ๆ
“มันคงไม่มีสัตว์อสูรในทะเลนี้หรอกนะ ? ” เอไนน์ถามขึ้นมาด้วยความกังวล ก่อนที่เธอจะพูดจบก็เห็นสัตว์อสูรตัวยาวหลายสิบเมตรพุ่งเข้ามาหา เธอถึงกับต้องกรี๊ดออกมา “นายท่าน มันมีสัตว์อสูรอยู่ที่นี่จริง ๆ ! ”
แต่สัตว์อสูรนั่นเหมือนกับไม่เห็นพวกและว่ายผ่านไป หลังจากที่เห็นแบบนั้น เอไนน์ก็หันกลับไปมองแมวที่อยู่ด้านหลัง
“ดูท่าทางเธอตอนนี้สิ ปกติเห็นเธออยู่กับแฟนธอมก็กล้าไม่ใช่น้อยเลยนะ” หวังเย่าพูดขึ้น
เขามองไปที่สัตว์อสูรที่ว่ายไปมารอบตัวก่อนจะหันไปหาแมว “จ้าวแห่งแมว ลองดูสักตัว อย่าให้มันหนีไปได้”
แมวเข้าใจคำพูดของหวังเย่าทันทีและพยักหน้ารับ หวังเย่าหมายถึงสัตว์อสูรที่ร่างเหมือนกับฉลาม เขาได้ทำการควบคุมลูกปัดน้ำและเปิดรูออก
สัตว์อสูรนั่นรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังก็ต้องชะงักไป แต่ตอนที่มันยังไม่รู้ว่าคลื่นพลังนั้นมาจากไหนก็โดนกรงเล็บขนาดใหญ่จับแล้วดึงเข้าไป
แมวกดหัวของสัตว์อสูรเอาไว้ เมื่อเห็นว่าสัตว์อสูรนี่ตัวใหญ่กว่าตัวเอง แมวจึงใช้พลังกรงเล็บไปเต็มที่
สัตว์อสูรที่เหมือนกับฉลามนี้ปกติจะออกล่าสัตว์อสูรที่อ่อนแอกว่า แต่ตอนนี้มันยังไม่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ได้ด้วยซ้ำ แต่ก็โดนจับมาแล้ว
“จ้าวแห่งแมว เบามือลงบ้าง เราแค่ต้องการคำตอบจากมัน” หวังเย่าเห็นว่าแมวคิดจะจัดการกับฉลามตัวนี้ เขาจึงรีบหยุด
ฉลามนั่นเห็นมนุษย์ตรงหน้าก็อ้าปากเพื่อที่จะกัด แต่แมวนั้นก็หยุดมันไว้ก่อน
แม้ว่าแมวจะหดร่างกลับลงมาแต่ฉลามก็จำได้ดีว่ามันไม่อาจจะหาเรื่องแมวได้
มันได้แต่ก้มหน้าและพยักหน้ตอบรับหวังเย่า หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็พอใจอย่างมาก เขายิ้มออกมาและถามขึ้น “รู้ไหมว่าค่ายกลที่เป็นประตูไปชั้นต่อไปอยู่ที่ไหน ? ”
ฉลามส่ายหน้าราวกับบอกว่าไม่รู้
“มีค่ายกลเคลื่อนย้ายในทะเลรึเปล่า ? ” หวังเย่าถามต่อ
ฉลามก็ยังส่ายหน้าต่อ
สีหน้าของหวังเย่าเริ่มที่จะหม่นลง “รู้ไหมว่าเสาหินที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน ? ”
ครั้งนี้ฉลามมองไปที่หวังเย่า เมื่อเห็นว่าในมือเขามีไฟลุกขึ้นมา มันก็รีบพยักหน้า จากนั้นหวังเย่าก็ดับไฟและแสดงสีหน้าพอใจออกมา
หวังเย่าได้ส่งแมวและเอไนน์กลับเข้าไปในกำไลอสูร จากนั้นเขาก็ควบคุมลูกปัดน้ำส่งฉลามออกไป “นำทางไป ! ”
เดาว่าเสาหินต้นเดิมเกือบจะจมถึงน้ำแล้ว แต่หวังเย่าก็ยังไม่กล้าโผล่หน้าขึ้นไปสำรวจเผื่อว่าจะเจอกับศัตรูอีก ถ้าเจอพวกนั้นเข้าจริง ๆ ก็คงยากที่จะหนีได้
ตอนนี้หวังเย่าขี่ฉลามเดินทางไปเกือบพันไมล์แล้ว เมื่อขึ้นมาที่ผิวน้ำหวังเย่าก็พบว่าตรงหน้าของเขานั้นมีหมอกปรากฏขึ้นมา หวังเย่าตกใจเมื่อเห็นหมอกนั้น เพราะว่ามันเหมือนกับหมอกที่เขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้
แต่กลับเป็นว่าที่นี่เป็นแค่หมอกธรรมดา มันส่งผลกระทบต่อการมองเห็นก็เท่านั้น ระยะการมองเห็นอย่างมากก็อยู่แค่ในระยะหนึ่งร้อยเมตร
ฉลามด้านล่างร้องออกมา หวังเย่ารู้ว่าเสาหินคงอยู่ใกล้ ๆ ที่นี่ แต่เพราะมีหมอกรอบตัวที่ทำให้เห็นได้แค่ในระยะร้อยเมตร นี่ไม่ต้องพูดถึงการหาเสาหินในทะเลที่กว้างใหญ่นี้เลย
ตอนนั้นเองหวังเย่าก็เห็นบางอย่างพุ่งเข้ามา เขาก็ไม่กล้าจะประมาท เขาควบคุมให้ฉลามกลับลงไปในน้ำ เมื่อลงมาด้านล่าง หวังเย่าก็เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะพบกับยานที่บินผ่านหัวของเขาไป ในทะแลแห่งนี้ กองกำลังเดียวที่น่าจะมียานใช้ก็น่าจะเป็นตระกูลหยุน
ตระกูลหยุนเจอที่นี่เหมือนกันอีกแล้วหรือ ?
หวังเย่าคิดสักพักก่อนจะว่ายไปทางยานลำนั้น หลังจากที่เดินทางได้สักพัก หวังเย่าก็พบว่ามันมีเครื่องตรวจจับในน้ำอยู่
เขาคอยหลบเครื่องตรวจจับและค่อย ๆ เข้าไปใกล้อีกฝ่าย อีกฝ่ายวางเครื่องตรวจจับไว้หลายที่ก็เพราะไม่อยากให้คนเข้ามาใกล้ หวังเย่าเดาว่าตระกูลหยุนคงเตรียมการทำบางอย่างที่สำคัญ บางทีอาจจะเป็นการออกจากชั้นนี้ไปสู่ชั้นต่อไปก็เป็นได้
หลังจากที่หลบเครื่องตรวจจับได้สำเร็จ หวังเย่าก็ได้เห็นเสาหินขนาดใหญ่
จากนั้นเขาก็โผล่มาจากน้ำและมองขึ้นไป ตอนที่เห็นภาพทุกอย่างชัดเจน มันก็ทำให้หวังเย่าถึงกับต้องแปลกใจ
ที่บนเสานั้นมีสิ่งก่อสร้างที่คล้ายกับเครื่องกลสีเงินขาวลอยอยู่บนฟ้าเหนือเสาหิน มันราวกับแผ่นจานขนาดใหญ่ และส่องแสงออกมา ด้านล่างนั้นมีเครื่องตรวจจับถูกส่งออกมารวมถึงยานรบขนาดเล็กด้วย ยานบินนี้ไม่ต่างจากฐานทัพการบินเลยก็ว่าได้ !