ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 669 : แก้แค้น
ตอนที่ 669 : แก้แค้น
หิมะตกไปทั่วทั้งเมืองชูโร่ แม้ว่าจะมีผีโผล่ออกมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้มาเป็นฝูงแต่อย่างใด
หวังเย่าได้ปลอมตัวเป็นโจวอวิ๋น ยืนอยู่ข้าง ๆ โจวอวิ๋นที่ปลอมตัวเป็นเฟิงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อูทาสงสัย เขาจึงใช้ภาพลวงตากับโจวอวิ๋นและคนอื่น ๆ เพื่อให้พวกนี้ยังดูแก่เหมือนในอดีต
หิมะโปรยปรายลงมาทำให้ตัวของทุกคนเต็มไปด้วยหิมะที่เกาะอยู่ตามตัว
ประตูห้องได้เปิดออกพร้อมกับคนที่สวมหน้ากากสีดำหลายคนที่เดินออกมา
“เฟิง เข้ามาได้”
ชายคนหนึ่งนำทางโดยที่คนอื่น ๆ คอยถือหอกชี้มาที่พวกเขา
หวังเย่ามองไปรอบ ๆ และพบว่าคนเหล่านี้ได้รับการฝึกมาอย่างดี ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นแบบนี้แต่พวกนี้ก็ยังยืนนิ่งราวกับรูปปั้นได้ และตอนนั้นที่ห้องด้านหลังกลับมีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบกับเก้าอี้หลายสิบตัวและผู้คนมากมายที่หันมาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
พวกนี้คือสมาชิกหลักของกลุ่มอีกาดำ ด้านหลังพวกนั้นก็ยังมีลูกน้องยืนอยู่อีกหลายคน
“เฟิง แกไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลย แกหาตั๋วเจอเร็วแบบนี้ งั้นมาดื่มกันดีกว่า ! ” อูทาโบกมือให้กับโจวอวิ๋นและเติมเหล้าลงไปในแก้วก่อนจะเดินเข้ามาหาโจวอวิ๋น
หวังเย่าเดินตามโจวอวิ๋นไปและไปยืนอยู่ใจกลางห้อง
โจวอวิ๋นไม่ได้สนใจอูทามากนัก เขาโบกมือและพูดขึ้น “หลงปู้หยู๋ล่ะ ? ฉันอยากเห็นน้องของฉันก่อน ! ”
อูทาหัวเราะออกมา “ไม่ต้องรีบ แกหาตั๋วมาอย่างลำบาก มาดื่มเหล้าก่อนเถอะ”
โจวอวิ๋นที่ปลอมเป็นเฟิงมองไปที่เหล้าในแก้ว เขาลังเลสักพักก่อนจะยกมันขึ้นดื่ม
“น้องฉันอยู่ไหน ? ”
“ฮ่าฮ่า ก็ได้ไปเอาตัวเขาออกมา ! ” อูทามองไปที่ลูกน้องด้านหลังก่อนที่ลูกน้องจะพยักหน้าแล้วเดินไปที่ประตูหลัง
หลังจากนั้นสักพักชายผมขาวตัวโชกไปด้วยเลือดก็โดนลากออกมา
หลงปู้หยู๋รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโจวอวิ๋นและคนอื่น ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา แม้ว่าจะบาดเจ็บแต่เขาก็ยังแสดงสีหน้าอาฆาตออกมาอยู่ดี เขาดูเย็นชาและแค้นเคืองคนพวกนี้อย่างมาก
“พี่เฟิง พี่…พี่มาทำอะไรกัน ! ” หลงปู้หยู๋ตะโกนขึ้นมา
“นายเป็นน้องฉัน ฉันจะไม่มาได้ยังไง” โจวอวิ๋นตะโกนออกมา
“พี่เชื่อพวกนี้รึไง ? พี่ไม่ควรจะกลับมา ! ”
“จัดการมันซะ” อูทาขัดขึ้นมา
“เดี๋ยวเราตกลงกันแล้วไม่ใช่รึไง ? ” โจวอวิ๋นพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“หือ ? งั้นเรามาตกลงกันไม่ดีกว่ารึไง ? ” อูทายิ้มและมองไปที่เฟิง
โจวอวิ๋นที่ปลอมเป็นเฟิงกำหมัดแน่นและพูดขึ้นมา “เราตกลงกันแล้ว ตั๋วนี่แลกกับน้องของฉัน นายคิดจะกลับคำพูดรึไง ? ”
“กลับคำพูดงั้นหรือ ? ฮ่าฮ่า…” อูทาหัวเราะออกมา
เมื่อได้ยินอูทาหัวเราะ โจวอวิ๋นก็รู้สึกปวดที่ท้องขึ้นมาทันที มันราวกับซี่โครงของเขากำลังจะแตกออก ตัวของเขาสั่นจนเขาต้องเอามือกุมท้อง
“เหล้า…มันมีพิษ ! ” ที่หน้าผากของโจวอวิ๋นมีเหงื่อผุดขึ้นมา เขาพูดขึ้นด้วยเสียงที่สั่น
พวกสมาชิกของอีกาดำต่างก็พากันหัวเราะออกมา
“หน้าไม่อาย ! ” ลัวจ้าวฮวาและคนอื่น ๆ พากันกำหมัดแน่และมองไปรอบ ๆ ด้วยสีหน้าแค้นเคือง แต่พวกคนรอบ ๆกลับไม่ได้แสดงท่าทีใส่ใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
“แกอยากได้ยาแก้พิษรึว่าน้องแก ? ให้เลือกเอา แต่มันต้องใช้ตั๋วแลก แต่ตั๋วแลกได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น” อูทาดึงเอายาแก้พิษออกมาและเขย่าไปมาตรงหน้าโจวอวิ๋น
“มันกินเวลาแค่ 1 ชั่วโมง จากนั้นแกก็จะเปลี่ยนเป็นบ่อเลือด แกคิดเอาเองละกันว่าจะช่วยน้องแกรึช่วยตัวเอง ! ”
“ฉันยอมตายดีกว่าที่พี่ต้องมาช่วยฉัน พี่เฟิงฟังฉัน ! พี่เอาตั๋วแลกยาแก้พิษซะ ! ” หลงปู้หยู๋ตะโกนออกมา
อูทามองไปที่หลงปู้หยู๋และพูดขึ้นมา “เอาตัวเขากลับไป ! ”
“ได้ ! ” ลูกน้องรีบเดินเข้ามาและลากหลงปู้หยู๋กลับไปที่ห้องด้านหลัง
“เฟิง นายลองคิดดีๆ ตอนนี้นายคงต้องแลกยาแก้พิษ ครั้งหน้าถ้านายหาตั๋วมาได้ค่อยมาแลกกับตัวหลงปู้หยู๋ แต่ถ้านายเลือกจะช่วยเขา นายก็ต้องตาย นายไม่มีทางรอดได้ ! ” อูทาพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
โจวอวิ๋นตัวสั่น เขาเงยหน้าขึ้นมองอูทา และพูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่อ่อนแรง “ก็ได้ …ฉันจะเปลี่ยน…”
“เปลี่ยนอะไร ? ” อูทาหัวเราะออกมา
แกร๊…
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากบนท้องฟ้าจนทำให้อูทาต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“ อ๊า…”
อยู่ ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น
ไม่นานก็มีชายคนหนึ่งเปิดประตูที่ด้านหลังของโรงแรมแล้ววิ่งเข้ามา “หัวหน้ามีคนชิงตัวหลงปู้หยู๋ไป ! ”
“ว่าไงนะ ! ” อูทาตกตะลึง เขารีบหันไปมองโจวอวิ๋น แต่ก็เห็นว่าเฟิงที่กำลังจะตายกลับแสดงสายตาเย็นชาออกมา จากนั้นก็มีหมอกพิษกระจายออกมาทั่ว
ตอนนั้นเอง…
หมอกสีดำก็ปะทุออกมาจนอูทาต้องรีบถอยกลับไป เขาเว้นระยะห่างจากโจวอวิ๋น 5-6 เมตรพร้อมกับเอามือมาปิดที่จมูกและปากตัวเอง
“รนหาที่ตาย ! ” อูทาตาแดงก่ำและระเบิดพลังออกมา ที่ด้านหลังของเขามีร่างอีกาดำปรากฏขึ้น เขาสะบัดมือขวาพร้อมกับขนสีดำที่พุ่งเข้าใส่โจวอวิ๋น
โจวอวิ๋นไม่ได้หลบ เขาปล่อยให้ขนปักเข้าที่หัวของเขา
อูทามองไปที่โจวอวิ๋น แต่ก็พบว่าเฟิงกลับหายตัวไป หัวของโจวอวิ๋นได้กลายเป็นโคลนก่อนจะพ่นเอาขนอีกาออกมาจากหัว จากนั้นเขาก็กลับมาเป็นโจวอวิ๋นดังเดิม
“แก…” อูทามองไปที่โจวอวิ๋นด้วยตัวที่สั่นเทา เขาแทบจะจำโจวอวิ๋นในตอนนี้ไม่ได้
“อูทา วันนี้แกต้องตาย ! ” โจวอวิ๋นตะโกนขึ้น
“ฆ่าพวกมัน ! ” อูทาตะโกนออกมาด้วยท่าทีลนลาน
แต่ตอนนั้นเอง….
ปัง ปัง..
เสียงปืนก็ดังขึ้น โจวอวิ๋นและคนอื่น ๆ หายตัวไปจนกระสุนพุ่งอัดเข้ากับที่กำแพงและพื้นแทน
โจวอวิ๋นและคนอื่น ๆ หลบกระสุนกันได้อย่างรวดเร็ว มีแค่หวังเย่าเท่านั้นที่ยืนนิ่ง แต่เขามีโล่เงาคอยปกป้องอยู่ เขาเอาแต่มองอูทาด้วยสายตาเย็นชา
“พวกแกเป็นใครกันแน่ ? ” เมื่อเห็นกลุ่มคนที่น่ากลัวพวกนี้อูทาก็ต้องช็อก
“แกรู้จักซิดดี้รึเปล่า ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
อูทาไม่ได้ตอบกลับ เขามองไปที่โล่เงาของหวังเย่า เขาอยากตรวจสอบความแข็งแกร่งของหวังเย่า
“ต่งเหลิ่ง คือคนอยู่เบื้องหลังพวกแกสินะ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมาอีกครั้ง
อูทาทำท่ายิ้มออกมาอย่างมั่นใจ “ใช่ ในเขตดาวโบไลด์นี้ไม่มีใครกล้าหาเรื่องท่านต่งเหลิ่ง แกอยากตายรึไง ? ”
“ตาย ? หึหึ…ใช่ ฉันอยากตายแต่เขาไม่มีความสามารถพอที่จะฆ่าฉันได้ ! ” ระหว่างที่พูดนั้นหวังเย่าก็ชูมือขึ้นพร้อมกับลูกไฟขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นมาในฝ่ามือ ไฟนั้นทำให้กำแพงและหินโดยรอบสั่นไหวไปด้วย มันทำให้ทุกคนต่างก็อึ้ง
หิมะในระยะ 10 เมตรรอบตัวหวังเย่าต่างก็ละลาย ผู้คนไม่อาจจะเข้าใกล้เขาได้
เมื่อเห็นลูกไฟที่ทรงพลังนั้น อูทากลับหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า…ไฟกับโล่นี่ แกกลับเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมา แกหาเรื่องตายอยู่ไม่รู้รึไง ? ”
อูทากางมือออกพร้อมกับมีนกตัวใหญ่พุ่งออกมา
อีกาที่ผนึกอยู่ในตัวเขานั้นได้หลอมรวมกับตัวของเขาแล้ว ตอนที่เขากางมือออกก็มีน้ำตกสีดำโผล่มาที่ด้านหลังของเขา
ก๊า…
เสียงร้องแปลก ๆ ดังขึ้นพร้อมกับอูทาที่กระโดดเข้าไปในน้ำตก จากนั้นเขาก็กลายเป็นนกตัวใหญ่ที่พุ่งเข้าใส่หวังเย่า
ในตอนที่อีกาพุ่งเข้ามา ลูกไฟก็เริ่มมีน้ำแข็งปกคลุม
“อีกานรกน้ำแข็ง เลเวล 127 ! ”
ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหวังเย่าไม่เกินเลเวล 110 ไฟหยินหยางของเขาเลเวลแค่ 120 เท่านั้น เมื่อรวมกันแล้วความแข็งแกร่งของเขาก็ยังด้อยกว่าอีกาอยู่ดี
มันไม่ง่ายที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้ !
เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังที่ต่างกัน หวังเย่าก็ก้าวออกไปก่อนจะมีค่ายกลปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของเขา เขาอยากเปลี่ยนลูกไฟธรรมดานี้เป็นลูกไฟทำลายดาว เพราะตราบใดที่อูทายังอยู่ในระยะค่ายกล งั้นพลังของลูกไฟนี่ต้องทำให้อูทาแปลกใจได้แน่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูกไฟทำลายดาวนี้ทรงพลังแค่ไหน ทักษะนี้ยังได้รับการยอมรับจากฟู่หมิงด้วยซ้ำ
ครืน…
ลูกไฟได้ปะทะเข้ากับอีกา ไฟสีแดงกระจายไปทั่วจนทำให้เสาในบ้านเริ่มพังลง เศษไม้และหิมะเริ่มโดนเผาไปด้วย
“ลงนรกไปซะ ! ” เท้าอันแหลมคมของอูทาได้จิกเข้าใส่ลูกไฟ
ในตอนที่อูทาสัมผัสกับลูกไฟ ค่ายกลใต้เท้าของหวังเย่าก็ทำงาน มันมีดาบเงินคู่หนึ่งล็อคขาของอูทาเอาไว้ทำให้อูทา ไม่อาจจะขยับได้
ตรึง – ระหว่างที่ถูกตรึงนี้จะดึงพลังโจมตีของศัตรู 30 เปอร์เซ็นต์ ศัตรูจะอ่อนแอลงและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวผู้ใช้เป็นเวลา 30 วินาที สามารถปลดสกิลเพื่อสร้างความเสียหายให้กับศัตรูได้
ด้วยความแข็งแกร่งและความรอบรู้ที่พัฒนาขึ้นมา เขาได้ใช้ค่ายกลกับสกิลตรึงนี้ด้วย ตอนนี้สกิลไม่ใช่แค่ตรึงศัตรู แต่ยังสร้างความเสียหายให้กับศัตรูได้ด้วย !
เมื่อเห็นอูทาโดนตรึงเอาไว้ ลูกน้องสองคนก็รีบพุ่งเข้ามาทันที
ชายตัวสูงเปลี่ยนเป็นเงาราวกับนินจาและพุ่งเข้าใส่ค่ายกล
“อยากเข้ามาขัดหรือ มันไม่ง่ายหรอก ! ” ลัวจ้าวฮวาได้หลอมรวมกับสภาพแวดล้อมก่อนจะเข้าไปขวางทางชายตัวสูงเอาไว้ “จำฉันได้ไหม ? ได้เวลาที่เราสองคนจะสะสางความแค้นกันแล้ว”
ชายตัวสูงจำลัวจ้าวฮวาและคนอื่น ๆ ได้ตั้งแต่แรกแล้ว เขารู้ว่าพวกนี้ต้องได้พลังมาจึงทำให้แกร่งขึ้นกว่าเดิม แต่เขาก็ยังไม่คิดจะมองพวกนี้อยู่ในสายตา “คิดจะขวางทางฉันหรือ รู้จักที่ตัวเองซะบ้าง ! ”
ทันทีที่พูดจบเขาก็หายตัวไปทันที
“ฉันช่วยเอง ! ” เมื่อเห็นว่าชายตัวสูงโดนลัวจ้าวฮวายื้อเอาไว้ ชายตัวใหญ่ก็ได้ฟันขวานเข้าใส่ที่ด้านหลังของหวังเย่า
“แกคิดจะทำร้ายพี่ฉันงั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นก็ข้ามศพฉันไปก่อน ! ” อันตงจ๋ากระโดดเข้ามายืนอยู่ด้านหลังของหวังเย่า
“อันตงจ๋า แกนี่เอง ! ” ชายตัวใหญ่ฟันขวานลงมาและตะโกนขึ้น
“ฮ่าฮ่า…รู้สึกเสียดายสินะที่ไม่ได้ฆ่าฉัน ? เห็นแกโกรธแบบนี้ ฉันล่ะพอใจจริง ๆ ฮ่าฮ่า…” อันตงจ๋าหัวเราะออกมา
“แก…แกไม่ตายดีแน่ ! ” ชายตัวใหญ่กระโดดขึ้นก่อนจะฟันขวานลงมา