ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 643 : ฉีกกระชาก
ตอนที่ 643 : ฉีกกระชาก
หลินฉีและคนอื่น ๆ หันไปสนใจเสียงของเจ้าของโรงแรม พวกนั้นพากันไปยืนอยู่ที่ข้างหน้าต่างก่อนจะมองออกไปที่ด้านนอก
“เอไนน์ อย่าดู ! ” หวังเย่ายื่นมือไปหยุดเอไนน์เอาไว้
“ทำไม ? ”
“แม้ว่าที่นี่จะปลอดภัย แต่มันไม่ได้หมายความว่าผีจะไม่เข้ามา พวกสัตว์อสูรที่ตายไปนี้เลเวล 100 แม้ว่าจะเหลือแค่วิญญาณและความแข็งแกร่งลดลงไปอย่างมาก แต่จิตของมันก็ยังแข็งแกร่ง พวกมันจะเลือกเป้าหมายที่อ่อนแอที่สุดแล้วเข้าโจมตี ดังนั้น..เธอต้องอยู่ในแหวนไปก่อน”
เมื่อได้ยินที่หวังเย่าบอกแบบนั้น เอไนน์ก็ได้แต่พยักหน้า
หวังเย่ายกมือขึ้นก่อนที่จะเก็บเอไนน์เข้าไปในแหวนมิติทันที
ตอนนี้ทั้งเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย ที่ด้านนอกมีแต่เสียงเอะอะ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเปิดหน้าต่างออกไปดู
แต่ตอนนั้นเองที่ชั้นสามของโรงแรมสันติ มีหน้าต่างสองบานถูกเปิดออก
หวังเย่า, หลินฉีและแฟนธอม ยืนอยู่ตรงข้างหน้าต่างพอดี และตอนที่หน้าต่างถูกเปิดออกนั้น หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะมองออกไปภายนอกและมองไปที่กำแพง
เขาพบกับผู้ชายผมสีแดงที่ยาวสะบัดไปตามลม
แฟนธอมและหลินฉีไม่ได้สนใจชายผมแดงมากนักแต่หวังเย่าไม่ได้คิดแบบนั้น เขากลับสงสัยในตัวอีกฝ่ายมากกว่า เพราะในตอนที่เปิดหน้าต่างออกมา หวังเย่ากลับรู้สึกได้ว่าไฟบนถนนนั้นบิดเบี้ยวไป การบิดเบี้ยวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะลมแต่มันราวกับมีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่แข็งแกร่งจนทำให้ไฟฟ้าเกิดความปั่นป่วน
ในเวลาเดียวกัน หวังเย่าก็รู้สึกว่าอากาศเริ่มร้อนขึ้นมา ในอากาศราวกับมีไฟลุกไหม้ไปด้วย มันยากที่จะรับรู้การเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดนี้ แต่หวังเย่าก็เป็นคนใช้ไฟเหมือนกัน เขารับรู้ได้ถึงอันตรายได้อย่างชัดเจน
“เขามีหินกฏไฟที่ระดับสูงกว่าฉันงั้นหรือ ? ” หวังเย่าคาดเดาและมองไปยังชายผมแดง
แต่ตอนนั้นเขาก็ละสายตาหันไปมองเจ้าของโรงแรมได้เดินเข้าไปหาเสืออย่างช้า ๆ พร้อมกับกระบอง แม้ว่าร่างกายจะดูอ่อนแอแต่กลับไม่ได้หวั่นใจเลยแม้แต่น้อย
“พี่เย่า เธอเหมือนเป็นแค่คนธรรมดา นายจะไม่เข้าไปช่วยรึไง ? ” แฟนธอมถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ในเมื่อเธอกล้าเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง งั้นเธอก็ต้องมีที่พึ่ง มาดูกันว่าผลจะออกมาเป็นยังไง”
ทันทีที่หวังเย่าพูดจบ เขาก็เห็นว่าเจ้าของโรงแรมอยู่ห่างจากเสือแค่ 5 เมตรเท่านั้น เธอได้ตะโกนออกมา “แกไม่รู้รึไงว่าโรงแรมนี้เป็นของคุณกั้ว ? ออกไปให้พ้น !”
แม้ว่าเธอจะดูอ่อนแอ แต่ตอนที่พูดออกไปนั้นเธอได้ใช้พลังไฟออกไปด้วย เสียงของเธอดังก้องไปทั่ว
เสือหรี่ตาลงทันที “เหอเจีย เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้จักเจ้ารึไง ? กั้วหงน่ะเป็นศัตรูของข้า ก่อนหน้านี้ข้าอาจจะเอาชนะเขาไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาตายไปแล้ว ข้ามาเพื่อแก้แค้น ข้าจะระบายความแค้นที่มีมาตลอดหลายปีกับเจ้า เดาว่าลูกของกั้วหงคงต้องตายไปด้วย ฮ่าฮ่า…”
เสียงหัวเราะของเสือนั้นดังก้องไปทั่ว เหอเจียที่ยืนถือกระบองอยู่ยากที่จะประคองตัวเองได้
“หึหึ…ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกเป็นใคร แต่สามีฉันไม่เคยพูดถึงแกเลย แกไม่มีค่าพอให้เขาพูดถึงด้วยซ้ำ เพื่อจะรับมือกับการแก้แค้นนี้กับพวกแกแล้ว เขาได้ทิ้งบางอย่างเอาไว้ มาดูกันว่าฉันจะจัดการกับแกยังไง ! ”
เหอเจียตะโกนออกมาก่อนจะโยนยันต์ที่วาดด้วยเลือดออกมา จากนั้นเธอก็ได้เซ็นชื่อลงไปในกระดาษนั้น
แสงสีแดงได้ระเบิดออกมา จากนั้นแสงก็เข้ามาปกคลุมตัวเธอเอาไว้ ไม่นานแสงพวกนั้นก็ถูกดูดซับเข้าไปในตัวของเธอ
ผู้หญิงที่อ่อนแอกลับแผ่พลังที่น่าตกใจออกมา แม้แต่เสือตรงหน้าก็ยังต้องตัวสั่น
“เวทย์อะไรกัน มันเปลี่ยนจากคนธรรมดาให้มาทัดเทียมกับสัตว์อสูรเลเวล 100 ได้ ! ” แฟนธอมพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง
หวังเย่าเปิดใช้งานระบบตรวจสอบเหอเจีย และพบว่าพลังที่ระเบิดออกมาจากตัวเธอนั้นเป็นพลังของเสือดาว
“เป็นพลังที่สามีเธอทิ้งเอาไว้ ถึงจะแข็งแกร่งแต่ก็กลัวว่าจะกินอายุขัยของเธอไปหลายสิบปี” หวังเย่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว แต่ก็เข้าใจว่าโรงแรมแห่งนี้สำคัญกับเธอแค่ไหน
“มันคุ้มรึไง ? เพื่อจะปกป้องโรงแรมของสามีแล้ว เธอไม่ลังเลเลยที่จะต้องกลายเป็นคนแก่”
หลินฉีเห็นว่าผมของเหอเจียเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว นิ้วของเธอเริ่มเหี่ยวย่น เธอกางมือออกแล้วจับไปที่หน้าของเสือทันที
เสือรู้สึกได้ถึงกรงเล็บที่ทรงพลังและต้องรีบถอยกลับมา
เมื่อเห็นว่าเสือถอยกลับไป เหอเจียก็ได้สร้างค่ายกลเลือดอันที่สองและฟาดลงไปที่กำแพง
แสงสีแดงระเบิดออกมาอีกครั้ง ตัวหนังสือในค่ายกลส่องแสงออกมา จากนั้นเมื่อแสงหม่นลง ค่ายกลที่พังบนกำแพงก็ได้รับการซ่อมแซมทันที
เมื่อเห็นว่าค่ายกลได้รับการซ่อมแซมแล้ว เสือก็ได้คำรามออกมาและพุ่งเข้าใส่โดยไม่เกรงกลัว
พื้นดินเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง มันได้ใช้กรงเล็บของมันโจมตีเข้าใส่เหอเจีย
เหอเจียที่กำลังสร้างค่ายกลอยู่นั้นเมื่อเห็นว่าเสือโจมตีเข้ามา เธอก็ไม่กล้าที่จะประมาท เธอรีบดึงมือออกจากค่ายกลแล้วยกมือขวาขึ้นมา
ที่มือของเธอมีโล่พลังก่อตัวปะทะเข้ากับกรงเล็บของเสือ
เสียงระเบิดดังก้องขึ้นมาพร้อมกับเหอเจียที่กระเด็นออกไป
เธอกระอักเลือดออกมาและมองไปยังร่างขนาดใหญ่ตรงหน้า
ปัง !
กรงเล็บของเสือตะปบเข้าไปที่เอวของเธอ จนมันทำให้เธอไม่อาจจะขยับไปไหนได้
“ข้าจะกัดคอเจ้าแล้วสูบเลือดของเจ้าจนแห้ง มันคงต้องรู้สึกดีมากแน่ ๆ ”
เสือมองไปที่เหอเจียด้วยตาที่เป็นประกายก่อนจะคำรามออกมา
กรร…
เสือได้อ้าปากออกก่อนจะก้มหน้าลงไปกัดเธอ !