ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 636 : ออกเดินทาง
ตอนที่ 636 : ออกเดินทาง
หวังเย่าเดินออกมาจากบ้านขึ้นไปที่บนดาดฟ้าก่อนจะโทรหาฟอเนอร์
“หวังเย่า ยากนะที่นายจะโทรมาหาฉัน” ฟอเนอร์พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
หวังเย่ายืนพิงกำแพงและมองไปที่ดวงดาวที่ไกลออกไป ในใจเขาเต็มไปด้วยความเศร้า หลังจากที่เงียบได้สักพักเขาก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ฟอเนอร์ มาพูดกันตรง ๆ ”
ฟอเนอร์คิดอยู่แล้วว่าหวังเย่าจะพูดเรื่องนี้
“นายพูดมา ฉันจะรอฟังอยู่”
“ตอนที่นายหลอกฉันรับตำแหน่งแม่ทัพและบอกฉันว่าแฟนของนายจะมารับตำแหน่งแทนฉันในอนาคต ฉันรู้ว่าเงื่อนไขนี้มันเป็นเรื่องโกหก แต่ฉันก็ยังเข้าร่วมกองกำลังดวงดาวโดยไม่ลังเล เพราะฉันต้องการใช้ประตูวาร์ปในการเดินทางไปที่เขตดาวโบไลด์เพื่อตามหาเพื่อนของฉัน”
ฟอเนอร์ถอนหายใจออกมา “นายตัดสินใจจะไปจริง ๆ หรือ ? ”
“ใช่ ฉันไม่คิดเปลี่ยนใจ”
“ฉันอยากให้นายอยู่ที่นี่ไปตลอด จากนั้นโอพีเลียจะได้ลาออกแล้วมาแต่งงานกับฉันโดยที่ไม่ต้องทำงานอะไรอีก”
หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น “ถ้าไม่มีฉัน โอพีเลียก็ยังแต่งงานกับนายได้ โลกนี้ไม่ได้หายไปถ้าใครสักคนจากไป”
“หือ ? นายหมายความว่านายคิดจะแต่งตั้งคนอื่นเป็นแม่ทัพงั้นหรือ ? ”
“เจนกิ้นไม่ได้ด้อยกว่าฉันเลย เขาแค่เป็นคนตรงไปตรงมา เขายอมทำทุกอย่างโดยไม่บ่น ด้วยความสามารถของแล้ว เขาน่ะมีสิทธิ์ที่จะรับตำแหน่งนี้”
ฟอเนอร์ขมวดคิ้วไปสักพัก “อันที่จริงฉันก็ตรวจสอบข้อมูลของเจนกิ้นมาแล้วบ้าง นอกจากนายแล้วเขาน่ะคือตัวแทนที่เหมาะที่สุด แต่ยังไงซะเขาก็มาจากรัฐอื่น รัฐที่เขาอยู่เป็นประเทศที่ค่อนข้างอ่อนแอ คนในกองกำลังดวงดาวส่วนมากมาจากรัฐจิ้งจอก ฉันกลัวว่าหลังจากที่นายถอนตัวออกไปแล้ว พวกระดับสูงคงไม่เชื่อฟังเจนกิ้น นายเข้าใจรึเปล่า ? ”
หวังเย่าส่ายหน้าและยิ้มออกมา “ถ้านายยังมองโลกในวันนี้แยกตัวเป็นประเทศ นายคิดผิดแล้ว คนในกองกำลังดวงดาวในอดีตอาจจะมาจากประเทศต่างกัน พวกระดับสูงคนอื่น ๆ ล้วนแต่มีอำนาจในประเทศตัวเอง พวกเขาคงเตรียมการรับมือเอาไว้แล้ว”
“ฉันอยู่กับกองกำลังดวงดาวมามากกว่า 1 ปี ฉันรู้ดีว่าพวกระดับสูงน่ะคิดยังไง พวกนั้นมีมุมมองที่สูงกว่าคนทั่วไป ฉันรู้สึกว่านายอยู่ด้านล่างมานานเกินไป ฉันว่านายน่าจะลองขึ้นไปดูข้างบนบ้าง บางทีนายอาจจะเปิดมุมมองขึ้นได้บ้าง”
“นายว่าฉันใจแคบสินะ ! ” ฟอเนอร์ทำท่าไม่พอใจออกมา
“ฉันพูดความจริง สภาพแวดล้อมส่งผลต่อมุมมองของผู้คน กองกำลังดวงดาวเป็นที่ที่ดีในการที่นายจะเปิดใจ ฉันว่านายควรไปที่นั่นสักครั้งจริง ๆ ”
“หยุดเลย…หยุดเลย ยิ่งคุยกับนายเท่าไหร่ฉันยิ่งสลด ! เมื่อนายอยากไป ฉันก็ไม่คัดค้าน ยังไงซะนายก็เป็นคนใหญ่โต ด้วยความสามารถของนายแล้ว ไม่มีใครจะหยุดนายได้ แต่…นายคุยกับพวกระดับสูงรึยัง ? ทุกคนต่างก็อยู่ในตำแหน่งที่สูง นายคงแค่บอกลาเฉย ๆ ไม่ได้หรอกมั้ง ? ”
“เมื่อฉันโทรหานายแล้ว ก็ว่าจะบอกคนอื่นต่อจากนี้ ฉันอยากบอกสิ่งที่ฉันคิดให้นายรู้ ฉันจะให้เจนกิ้นเป็นแม่ทัพ โอพีเลียจะได้ลาออกมาแต่งงานกับนาย นี่ไม่ใช่ว่าดีต่อทั้งสองฝ่ายรึไง ? ”
“ก็ได้ ฉันคงไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไร นายไปคุยกับพวกนั้นเถอะ นายบอกฉันด้วยก่อนที่นายจะไป ฉันจะได้ช่วยนาย”
หวังเย่าวางสาย เขาลังเลอยู่สักพักก่อนจะทำการโทรหาอัลเฟรด
เพราะยานหลักไม่ได้หมุนวนรอบดาวทมิฬ มันไม่มีเวลาบอกชัดเจนระหว่างกลางวันและกลางคืน แต่ตอนนี้ทุกคนต่างก็หลับใหลกันอยู่
หวังเย่าได้ไปพบกับพวกระดับสูงทุกคน พวกเขาพูดคุยกันและบอกความคิดเห็นของตัวเอง ทุกคนต่างก็รู้ว่าการที่ หวังเย่าจะออกจากดาวทมิฬไปนั้น เป็นเรื่องที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ พวกเขาทำได้แค่เศร้า
3 วันต่อมาสหพันธ์กองทัพก็ได้ทำการรับรองโดยพวกระดับสูงและนำโดยฟอเนอร์ พวกเขาตกลงที่จะให้เจนกิ้นเป็นแม่ทัพกองกำลังดาวและปิดข่าวที่ว่าหวังเย่าจะออกจากดาวทมิฬไป ชื่อของเขาจะยังเป็นแม่ทัพในกองกำลังดวงดาว คนในดาวทมิฬจะยังไม่รู้ตัวแม้ว่าหวังเย่าจะออกจากที่นี่ไปหลายสิบปีแล้วก็ตาม
หลังจากที่ได้รับอนุญาติแล้ว หวังเย่าก็ได้กลับลงมาพักผ่อน
เมื่อกลับมาที่โลก หวังเย่าไม่ได้กลับไปที่บ้านของตัวเอง เขากลับไปที่เหมืองซึ่งทำให้ทุกคนต่างก็แปลกใจ
เหมืองในวันนี้ไม่ได้โหดร้ายแบบเดิมแล้ว
ตอนที่หวังเย่าได้เข้าไปในเหมืองภายใต้การนำทางของผู้คุม ก็ทำให้เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นมา
นักโทษหลายคนยังอยู่ที่นี่ ตำนานของหวังเย่ายังตราตรึงในใจพวกเขาอยู่ไม่หาย
เด็กน้อยระดับ K กลับฆ่านักโทษอันดับ 1 และอันดับ 3 ลงได้ สุดท้ายก็ทำให้ซิดดี้หัวหน้าผู้คุมหนีออกจากดาวทมิฬไป เรื่องนี้ราวกับตำนาน เขาได้กลายมาเป็นตำนานที่เหล่านักโทษพูดถึงกัน
หวังเย่าและแฟนธอมได้กลับไปที่บึงก่อนจะมุ่งหน้าไปยังทางเข้าของพีระมิด พวกเขาได้กลับไปยังที่ที่แฟนธอม กำเนิดขึ้นมา
ในอดีตนั้น แฟนธอมเป็นเด็กน้อยผู้เย็นชา แต่ตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นแฮคเกอร์ขั้นเทพไปแล้ว
พวกเขาเข้าไปที่ถ้ำที่พบกับเอไนน์ แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปที่ถ้ำ เอไนน์ก็กลับร้องไห้ออกมา
กระรอกน้อยได้เติบโตขึ้นมาเป็นสาวสวย เธอยังพบกับความรัก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้
ตอนนี้เอไนน์และแฟนธอมได้กลายเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว การที่พาทั้งสองกลับมายังที่ที่ทั้งสองเกิดมานั้นคือสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในมุมมองของหวังเย่า
และแน่นอนว่ามันมีสมาชิกอีกคนที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งก็คือหลินฉี
เมื่อเห็นแฟนธอม, เอไนน์และหวังเย่าร้องไห้ยืนกอดกัน หลินฉีก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉา
“หลินฉี เธออยากกลับบ้านไปหาพ่อรึเปล่า ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
หลินฉีแสดงท่าทีลังเลออกมา
“ครั้งนี้…เราอาจจะไม่ได้กลับมาอีก”
เมื่อได้ยินว่าอาจจะไม่ได้กลับมาอีก หลินฉีก็ร้องไห้ออกมาก่อนที่จะพยักหน้า
อันดับแรกหลินฉีได้ไปยังโรงพยาบาลจิตเวทเพื่อไปหามิยายา
พี่เธอ มิยายาตอนนี้ได้กลายเป็นคนป่วย การที่สามีนอกใจเธอนั้นทำให้เธอเสียลูกไป
มิยายานั่งเหม่ออยู่ที่ม้านั่งทั้งวัน เธออุ้มตุ๊กตากระต่ายไว้ในมือและคอยลูบมันอย่างกับเป็นลูก
หลินฉีเดินเข้าไปหามิยายาก่อนจะกอดพี่เธอเอาไว้ แต่มิยายากลับนิ่งราวกับท่อนไม้
ตอนนั้นหลินฉีได้จัดชุดให้กับพี่ของเธอ และลุกขึ้นยืนทั้งน้ำตา
สุดท้ายเธอก็ไปที่วังเพื่อไปพบพ่อของเธอ
เมื่อยืนอยู่ที่ข้างนอกห้อง เธอก็ยังได้ยินเสียงพ่อของเธอบ่นถึงเธออยู่ ในมือของเขายังถือรูปเธอตอนยังเป็นเด็กเอาไว้
หลินฉีร้องไห้ออกมาและมองไปที่พ่อ จากนั้นเธอก็ไม่ลังเลที่จะหันกลับพร้อมกับจับมือหวังเย่าแล้วเดินออกมา
เมื่อกลับมาที่เมือง แฟนธอมก็ได้ใช้เงินก้อนโตเพื่อซื้อรถอีกครั้ง
หวังเย่านั่งอยู่ที่นั่งคนขับโดยมีหลินฉีนั่งอยู่ข้าง ๆ แฟนธอมและเอไนน์นั่งอยู่ที่ด้านหลัง
ทั้งสี่คนมุ่งหน้ากลับมาที่บ้าน
ในคืนนั้นมีการจัดงานเลี้ยงอำลาหวังเย่า ไม่ใช่แค่ฟอเนอร์และโอพีเลียเท่านั้นที่มาร่วมงานด้วย แม้แต่เพื่อนร่วมทีมของแฟนธอมก็ยังมาด้วยเช่นกัน
หลังจากที่คุยกันได้สักพัก หวังเย่าก็ต้องแปลกใจเมื่อรู้ว่าเพื่อนทั้งสี่คนของแฟนธอมนั้นเป็นนักฆ่าที่ฮาร์วี่ส่งมา แต่นักฆ่าพวกนี้กลับอ้างว่าเอาอาหารมาส่ง ไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะตั้งชื่อทีมกันแบบนี้
งานเลี้ยงลากยาวไปจนถึงเช้า ตอนที่ทุกคนแยกย้ายไปนอน หวังเย่าก็ได้นั่งเหม่ออยู่คนเดียว
ติ๊ง !
มันคือข้อความจากเจนกิ้น
“ประตูวาร์ปพร้อมแล้ว เปิดทำงานตอนไหนก็ได้”
“ขอบคุณ รบกวนนายจริง ๆ ”
…
ที่บนดาดฟ้าของยานหลัก เสียงดนตรีได้ดังขึ้นอีกครั้ง
ทหารทุกคนได้มายืนอยู่บนดาดฟ้า แม้แต่อัลเฟรดก็ยังต้องหลั่งน้ำตา เขาได้กอดลาหวังเย่าเอาไว้แน่น
นอร์แมนชี้ไปที่ยานข้าง ๆ แล้วพูดขึ้นมา “หวังเย่า นี่คือยานที่เรายึดได้จากโปโปวิช เราได้ซ่อมให้นายแล้ว ตอนนี้มันไม่ได้ด้อยไปกว่าเดิมเลย เรายกมันให้นาย”
“ขอบคุณ ! ” หวังเย่าพูดออกมาจากใจจริง
“เจนกิ้น ฉันคงต้องฝากทุกอย่างที่นี่ไว้กับนาย ฉันหวังว่าตอนที่ฉันกลับมา นายจะให้คำตอบที่น่าพอใจกับฉัน”
“นายสบายใจได้ ฉันจะทำหน้าที่นี้ให้ดี ! ” เจนกิ้นทำความเคารพหวังเย่า ก่อนจะเข้าไปกอดหวังเย่าเอาไว้แน่น
“ประตูวาร์ปจะเปิดใน 30 วินาที เตรียมตัว ! ” ทหารได้รายงานออกมา
หวังเย่าจับมือกับทุกคนก่อนจะกระโดดขึ้นยานไป
เสียงเพลงดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับที่หวังเย่า, แฟนธอม, เอไนน์ และหลินฉี ได้เข้าไปในห้องโดยสารของยาน
ประตูวาร์ปไกลออกไปได้ปรากฏขึ้น ประตูนี้มีขอบสีรุ้ง หวังเย่าได้ใส่พิกัดของเขตดาวโบไลด์ลงไปในยาน จากนั้นยานของเขาก็ค่อย ๆ บินไปยังประตูวาร์ปก่อนจะหายไปจากสายตาของทุกคน