ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 621 : แกะเข้าปากเสือ
ตอนที่ 621 : แกะเข้าปากเสือ
หลังจากที่มาพบคูลีแล้ว หวังเย่าก็ได้กลับไปยังกองกำลังดาวในคืนนั้นทันทีพร้อมกับแฟนธอมและเอไนน์
ตามที่หวังเย่าสั่งการมา กองกำลังดาวได้ส่งยานออกไปแค่ 2-3 ลำเพื่อบินสำรวจรอบหนวดปีศาจ
“รายงานแม่ทัพ ตอนนี้ได้ทำการสำรวจหนวดปีศาจแล้ว ! ”
ทหารคนหนึ่งได้ส่งรายงานให้กับหวังเย่า เมื่อกดเปิดดูแล้วก็มีจอขยายขนาดขึ้นมา หวังเย่าเลื่อนข้อมูลลงไปอย่างรวดเร็วและอ่านข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ
แค่ 4-5 ชั่วโมงหนวดปีศาจนี้ก็ขยายใหญ่ขึ้นมาหลายล้านกิโลเมตร อัตราการเติบโตของมันเป็นสองเท่า มันกำลังจะมาถึงชั้นบรรยากาศในอีก 20 ชั่วโมงข้างหน้า
“หวังเย่านายมั่นใจหรือว่าตระกูลมูลหลางจะส่งกองทัพมาช่วยเรา ? ” อัลเฟรดเดินมาข้าง ๆ หวังเย่าแล้วถามขึ้นมา
“พวกนั้นไม่มีทางเลือก ยังไงซะพวกนั้นก็อยู่ในกำมือของผมแล้ว”
“เมื่ออำนาจของพวกเขาอยู่ในมือของนายแล้ว นายต้องการจะให้พวกเขาทำอะไรกันแน่ ? ”
“เสือถึงจะเสียเขี้ยวไปแต่ก็มีขาที่แข็งแกร่ง สถานีอวกาศด้านนอกคือขาของพวกเขา แต่ครั้งนี้ผมอยากให้มันพังไปทั้งหมด”
อัลเฟรดมองออกไปภายนอกแล้วถอนหายใจออกมา “แต่คูลีไม่ได้โง่ มีรึที่เขาจะยอมเสียกองกำลังของตัวเองไป ? ”
“ผลแห่งการกระทำบีบคั้นให้เขาต้องเลือก การเสียกองกำลังไปนั้นจะทำให้พวกเขาเสียอำนาจไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรักษาเกียรติของราชวงศ์เอาไว้ได้ เขาไม่มีทางที่จะทิ้งมันแน่ ”
อัลเฟรดยิ้มออกมาก่อนจะหันกลับ “นายต้องการให้พวกเขาเป็นราชวงศ์ที่ไร้อำนาจสินะ นายนี่กล้าหาญจริง ๆ ? ”
“เราก็ควรทำแบบนั้นไม่ใช่รึไง ? ถ้าเขาไม่อยากจะเสียอำนาจ งั้นเขาก็ต้องยอมแบกรับการสูญเสียเอาไว้”
“นายมั่นใจกับความแข็งแกร่งของฮาร์วี่ในการนำทัพรึ ? ”
หวังเย่ายิ้มออกมา “เขาทำไม่ได้ แต่ดาไฮทำได้”
อัลเฟรดยิ้มออกมาอย่างพอใจ “มารอดูกัน”
เมื่ออัลเฟรดเดินออกไป จากนั้นหวังเย่าก็มองออกไปภายนอกก่อนจะมองไปยังสัตว์อสูรทั้งสองของเขาแล้วเผยรอยยิ้มออกมา หวังเย่าเหลือบมองคนสองคนที่ยืนกอดกันดูดาวและยิ้มอย่างสบายใจ
เอไนน์และแฟนธอมจะมีลูกแบบไหนออกมานะ หวังเย่าคิดไม่ออกจริง ๆ
เขาหันกลับไปยังห้องรับรองและตั้งใจจะนอนพักสักเล็กน้อย เดาว่าต่อไปคงต้องไม่ได้พักอีกนาน
….
เช้าวันต่อมาก็มีเสียงเพลงดังขึ้นที่บนดาดฟ้า
ใจกลางเวทีนั้นหวังเย่าพร้อมกับนอร์แมน ได้เข้ามาตรวจสอบทหารของพวกเขา
เมื่อเห็นว่าทหารทุกคนเตรียมตัวกันมาดีแล้ว หวังเย่าก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
หลังจากที่ประชุมกับพวกระดับสูงมาแล้ว หวังเย่าก็รู้ว่าได้มีการปรับแผนการรบรวมถึงมีการซุ่มโจมตีเพื่อรับมือกับการโจมตีของดาวเฟนเซอร์ด้วย
ตราบใดที่กองทัพราชวงศ์ถ่วงเวลาจนกว่ากฎโลกจะกลับมาเป็นปกติและหนวดนั้นก็จะถอยกลับไป ตอนนั้นกองกำลังดวงดาวก็จะรับมือกับการบุกโจมตีของดาวเฟนเซอร์ได้ด้วยกองกำลังที่พร้อมเต็มที่ พวกเขามั่นใจว่าจะชนะได้
ประมาณ 30 นาทีหลังจากที่ประชุมเสร็จ หวังเย่าก็ได้รับข้อความจากสถานีที่ 1 ทางทหารราชวงศ์ได้ขอให้หวังเย่าไปตรวจสอบความพร้อมของพวกเขา
หวังเย่ายิ้มออกมาและพานักรบดวงดาว 6 คนบินไปยังสถานีที่ 1
สถานีที่ 1 นี้คือสถานีที่ใหญ่ที่สุดในเขตนี้ มันมีพื้นที่เท่ากับดาดฟ้าของยานหลัก
นายพลของราชวงศ์ได้ยืนเรียงแถวอยู่ที่นั่น คนที่เหลือเองก็ยืนเรียงรายอยู่รอบ ๆ รอคอยคำสั่งจากหัวหน้าของตน
ในตอนที่ยานของหวังเย่าลงจอด มันก็มีเสียงเพลงดังขึ้นมา
ฮาร์วี่ยืนอยู่หน้าสุด แม้ว่าจะไม่ได้เต็มใจมารบในครั้งนี้ แต่เขาก็รับคำสั่งมาจากคูลี ว่าต้องฟังคำสั่งของดาไฮและรับคำสั่งของหวังเย่า หวังเย่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองกำลังนี้โดยตรง แต่เขาก็ถือว่ามีฐานะที่สูงกว่า ที่แม้แต่ดาไฮก็ยังต้องฟังเขา
“ สวัสดี นายพลหวังเย่า นายพลฮาร์วี่จากราชวงศ์ขอรายงานตัว” ฮาร์วี่ทำความเคารพหวังเย่าและส่งรายชื่อทหารให้กับอีกฝ่าย
หวังเย่าตรวจดูรายชื่อและมองไปรอบ ๆ แต่เขาไม่เห็นดาไฮเลย ซึ่งมันทำให้เขาแปลกใจอย่างมาก
“ดาไฮไม่มารึไง ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“ตอนนี้เรายังไม่ทราบว่าดาไฮอยู่ไหน ทางตัวแทนได้ตามหาเขาอยู่ ถ้าพบตัวเขาอีก 1 ชั่วโมงคงจะมาร่วมทีม”
หวังเย่าสงสัยขึ้นมา แม้ว่าฮาร์วี่จะฉลาดและรู้ว่าเขามีหลักฐานในการขายแร่หินและใช้มันมาขู่ราชวงศ์ให้ออกมารับมือกับหนวดปีศาจ แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดาไฮ นอกซะจากว่าจะมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะมารายงานตัวกับคูลีได้ทัน
หวังเย่าไม่ได้แสดงสีหน้ากังวลออกมามากนัก หลังจากที่จับมือกับเจ้าหน้าที่หลายคนและตรวจสอบทหารคนอื่น ๆรวมถึงรับรู้สถานการณ์ต่าง ๆ แล้ว เขาก็ได้เข้าไปปรึกษาแผนการกับฮาร์วี่และทหารคนอื่น ๆ
ในตอนประชุมนั้น หวังเย่าได้ให้แผนที่ที่ทำการสำรวจหนวดปีศาจมาให้กับฮาร์วี่ และทหารคนอื่น ๆ
หลังจากที่การประชุมสิ้นสุดลง ฮาร์วี่ก็บอกว่าพร้อมที่จะโจมตีในอีก 5 ชั่วโมง
ตอนนั้นทหารราชวงศ์ไม่ได้คิดจะเอาชนะหนวดปีศาจ แต่ตราบใดที่พวกเขาสามารถเป็นแนวป้องกันและยื้อเวลาเอาไว้ได้ งั้นก็ถือว่าพวกเขาชนะแล้ว
จากนั้นหวังเย่าก็ได้เข้าไปในห้องรับรองพิเศษด้านบนสถานี ที่มีเพื่อรับรองฮาร์วี่
มันมีกล้องไว้ตรวจสอบสถานการณ์การรบในตอนนี้
หวังเย่าสังเกตการณ์การกระจายกำลังของทหารโดยรอบ ก่อนที่จะมีทหารเข้ามาเสิร์ฟกาแฟให้กับเขา
เขามองไปที่แก้วในมือทหารสาว ไม่นานก็พบว่าทหารสาวที่ยกกาแฟเข้ามาให้กับเขานั้นคือหลินฉี
ฮาร์วี่ไม่รู้ว่าน้องสาวของเขาก็มาที่นี่ด้วย แต่เป้าหมายของหลินฉีนั้น หวังเย่าก็พอจะเดาออก
หวังเย่าไม่ได้แสดงท่าทีออกมาว่าจำหลินฉีได้ แต่เขากลับถามขึ้นมาแทน “มีหลอดรึเปล่า ? ”
“หือ ? ”
หลินฉีไม่ทันได้ตั้งตัว เธอคิดถึงความเป็นไปได้ทุกอย่างที่หวังเย่าจะถามออกมาอย่างมีน้ำตาลรึเปล่า ? มีช้อนรึเปล่า ?
แต่เธอไม่คิดเลยว่าหวังเย่าจะถามถึงหลอด มันน่าแปลกใจจริง ๆ !
“นายพล นายมั่นใจหรือว่าจะดื่มกาแฟด้วยหลอด ? ”
หวังเย่าทำท่ามองไปที่หน้าจอแล้วตอบกลับ “อืม”
หลินฉีได้แต่ต้องทำตามคำสั่งของเขา
ตอนที่เธอเดินออกจากห้องไป หวังเย่าก็หยิบกาแฟขึ้นมาดูก่อนจะใช้ระบบตรวจสอบ
ประเมิน : ผงยาขับเหงื่อที่มีฤทธิ์แรง 10 กรัม พิษของมันเพียงพอที่จะฆ่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งได้ เตือน : พิษนี้สามารถใช้หญ้าล้างพิษ สมุนไพรในแหวนมิติแก้พิษได้ในแหวนมิติมีสมุนไพรนี้อยู่เยอะ แต่มันยังไม่ได้ถูกกลั่นหลอมให้เป็นของเหลวหวังเย่าเอาหญ้าล้างพิษออกมาก่อนจะป่นเป็นผงแล้วใส่ลงไปในกาแฟ เขาแสร้งทำท่ามองไปที่หน้าจอพร้อมกับคนกาแฟไปด้วย
ตอนนั้นประตูก็เปิดออกก่อนที่หลินฉีจะเดินเข้ามาปักหลอดลงในแก้ว แล้วยกส่งให้กับหวังเย่า
“นายพล นี่กาแฟพร้อมหลอดดูด”
เสียงของเธอนั้นอ่อนหวาน มันง่ายที่ผู้คนจะไม่ทันระวังตัวและกินพิษนี่เข้าไป
หวังเย่ารับกาแฟไป แต่ตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หน้าจออยู่ ปากเขาคาบไปที่หลอดและไม่ลังเลที่จะดูดกาแฟเข้าไปจนหมด
หลินฉีรับแก้วมาพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แต่เธอก็ไม่อาจจะส่งเสียงใด ๆ ออกมาได้
“นายพล กาแฟอร่อยรึเปล่า ? ” หลินฉีถามขึ้นมา
หวังเย่าแสร้งทำเป็นตัวสั่น เขายื่นมือขึ้นมาจับหน้าผากเอาไว้ ตัวของเขาเหมือนกับจะหมดแรงก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
“นายพลหวังเย่า นายพลหวังเย่า…” หลินฉีตะโกนเรียกออกมาและลองเขย่าตัวหวังเย่าดู
เมื่อเห็นว่าหวังเย่าไม่ได้สติ เธอก็ยิ้มออกมาทันที ก่อนจะดึงมีดออกมาจากเอว
เธอค่อย ๆ เดินเข้ามาพร้อมกับมีดที่จ่อเข้าไปที่คอของหวังเย่า ตอนนี้เธออยากจะกรีดคอของเขาให้ตายเสียตรงนี้ แต่อยู่ ๆ ก็มีมือหนึ่งมาจับข้อมือของเธอเอาไว้
“นาย…นายไม่ได้หมดสติรึไง ? ” หลินฉีลนลาน เธอพยายามสลัดมือให้หลุดแต่ก็ไม่อาจจะสลัดมือของหวังเย่าออกได้
“ เธออยากให้ฉันตายขนาดนั้นเลยหรือ ? ”
หวังเย่าไม่ได้ใช้แรงมากนัก เขาดึงเธอเข้ามา ตอนนั้นเธอราวกับลูกแกะที่ได้แต่ดิ้นไปมา
สุดท้ายมีดก็ตกลงไปที่พื้นพร้อมกับหลินฉีที่ใจเต้นรัว
ตอนแรกหวังเย่าอยากจะขู่เธอเฉย ๆ แต่เมื่อเธอเข้ามาในอ้อมกอดของเขา กลิ่นหอมของตัวเธอก็เป็นตัวกระตุ้น เมื่อรวมกับความอุ่นที่ส่งผ่านมาจากตัวเธอ มันก็ทำให้ใจของหวังเย่าที่เฉยชามาตลอดหลายปีกลับเต้นรัวขึ้นมาอีกครั้ง
“นาย…นายคิดจะทำอะไรกันแน่ ? ”
เธอรีบหดตัวทันที
ยิ่งเธอกลัวเท่าไหร่ เธอก็รับรู้ถึงสัมผัสที่โดนตัวเธอมากเท่านั้น
เมื่อเห็นใบหน้าที่มีเสน่ห์ของหลินฉี หวังเย่าก็ไม่ลังเลที่จะจูบเธอ มือของเขาได้บีบเข้าไปที่หน้าอกของเธอเบา ๆ
หลินฉีอึ้งไป เธอถึงกับตั้วแข็งทื่อและร้องออกมา
เขาบีบได้ไม่นานนักก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่เด็กสาวตรงหน้า
“ฉัน..ฉันจะฆ่านาย..”
เธอลุกขึ้นเพื่อจะลงมือกับหวังเย่า แต่หวังเย่ากลับใช้สันมือตบไปที่คอของเธอ ก่อนที่เธอจะสลบไป
“เธอชอบการแสดงนักไม่ใช่รึไง ? ครั้งหน้าฉันจะเล่นกับเธอก็ได้” หวังเย่าเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา