ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 620 : รับปาก
ตอนที่ 620 : รับปาก
“ ไม่รู้ว่าตอนนี้หลินฉีกับหวังเย่าพูดคุยอะไรกัน ?”
ในห้องโถงใหญ่ คูลีได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ของตัวเองโดยมีราชินีคอยนวดให้
“ท่านอยากให้หวังเย่าเป็นลูกเขยของเรารึไง ? ” ราชินีถามขึ้นมา
“ถ้าไม่งั้นจะเป็นอะไรไปได้ ? เธอน่ะไม่สนใจใคร ถ้าเขาทำให้เธอสนใจได้ก็ดี” คูลีพูดขึ้น
“แค่ว่าหวังเย่านั้นเป็นคนมีความสามารถ บางทีเขาอาจจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลยก็ได้”
“เธอคิดแบบนั้นได้ยังไง ? ”
“ท่านลืมไปแล้วรึไงว่าหวังเย่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฮาร์วี่ทำอะไรเขา มิยายาและหลินฉีดูหมิ่นเขายังไงบ้างในตอนนั้น ? ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น คูลีก็เบิกตากว้างและพูดขึ้น “รีบส่งคนไปดูว่าหลินฉีเป็นยังไงบ้าง ? ”
หลังจากนั้นไม่นานก็มีทหารกลับมารายงาน “ราชา เจ้าหญิงหลินฉีตรงไปที่คุกกับหวังเย่า ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลยขอรับ”
“อะไรนะ ! ” คูลีตัวสั่นจนแทบจะล้มลง
“เราจะทำยังไงกันดี ? ” ราชินีเองก็เริ่มกังวลขึ้นมา
“เราจะทำอะไรได้ แน่นอนว่าเราต้องไปพบกับหวังเย่าด้วยตัวเอง ตอนนี้เราไม่อาจจะผิดใจกับเขาได้ ถึงหลินฉีจะไม่ชอบเขาแต่ก็ไม่ควรสร้างปัญหา” คูลีพูดจบก็เดินออกจากห้องโถงไปโดยมีทหารระดับสูงเดินตามไปติด ๆ
….
ที่ทางเดินไปยังคุกใต้ดิน
หวังเย่าได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน เขาเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับราชาที่กำลังเดินมาหาเขา
“แม่ทัพหวังเย่า เธอซนไปหน่อย เธอไม่ได้ทำอะไรนายใช่รึเปล่า ? ” คูลีเข้ามาต้อนรับอย่างอบอุ่นและจับมือหวังเย่าเอาไว้
“ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่ลูกสาวของท่านบังเอิญตกไปในกับดัก ฉันออกมาเพราะตั้งใจว่าจะหาคนไปช่วยเธอสักหน่อย” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
คูลีแสดงท่าทีกังวลออกมาและหันกลับไปสั่งทหารที่อยู่ด้านหลัง “พวกแกรออะไรอยู่ ไม่รีบไปช่วยเจ้าหญิงอีก ขอบคุณแม่ทัพหวังเย่าที่หวังดี”
“ไม่เป็นไร ! ”
ทหารสองคนรีบมุ่งหน้าไปที่คุกทันที
“นายพลหวังเย่าเชิญทางนี้ ”
หลังจากนั้นคูลีก็ได้เชิญหวังเย่าไปที่ห้องรับรอง
เมื่อเข้ามาในห้องรับรองแล้ว ราชินีก็ได้เทชาให้กับหวังเย่า และคอยยิ้มให้กับหวังเย่าอย่างอบอุ่น
“ราชินีนี่ใจกว้างจริง ๆ ” หวังเย่าพูดขึ้นโดยไม่มีท่าทีเคารพแม้แต่น้อย
ราชินียิ้มออกมา “ไม่รู้ว่าแม่ทัพหวังเย่าประทับใจในตัวหลินฉีบ้างรึเปล่า ? ”
หวังเย่าตอบกลับโดยไม่คิดเลยแม้แต่น้อย “ก็ดี เจ้าหญิงหลินฉีดูมีชีวิตชีวาและน่ารักดี เธอทั้งสวยและใจกว้าง…เธอสมบูรณ์แบบก็ว่าได้ ! ”
เมื่อราชินีได้ยินแบบนั้นก็ดีใจ “ไม่คิดเลยว่าหลินฉีจะทำให้นายชมได้ถึงขนาดนี้ ในฐานะคนเป็นแม่แล้ว ได้ยินแบบนี้ฉันก็ชื่นใจ ฉันคงไม่ต้องกังวลแล้วว่าลูกจะต้องแต่งงานกับใคร…”
หวังเย่ายกชาขึ้นจิบและพูดขึ้น “กลัวว่าเธอคงดีใจเก้อแน่ ! ”
ราชินีแปลกใจและถามขึ้นมา “หมายความว่ายังไง ? ”
หวังเย่าหัวเราะออกมาและพูดขึ้น “เจ้าหญิงหลินฉีนั้นสมบูรณ์แบบ ใครจะไปคู่ควรกับเธอ ทั้งชีวิตเธอคงหาแฟนไม่ได้แน่ แต่ไม่แน่ชีวิตหน้าอาจจะมีหวังอยู่ ! ”
“นี่นาย…” ราชินีโกรธจนชี้นิ้วไปที่หวังเย่า มันหมายความว่าหวังเย่าไม่ได้สนใจลูกสาวของเธอเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่แค่ดูถูกลูกสาวของเธอ แต่ยังไม่ให้เกียรติอีกด้วย นี่เท่ากับเป็นการดูหมิ่นราชวงศ์ สิ่งนี้มันจึงทำให้ราชินีต้องโกรธ
คูลีตบหลังราชินีเพื่อให้เธอคุมสติตัวเอง เขายิ้มและมองไปที่หวังเย่า ก่อนจะพูดขึ้นมา “นายพลหวังเย่า ไม่รู้ว่ามาหาฉันดึก ๆ ดื่น ๆ มีเรื่องอะไรกัน ? ”
หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น “ก็ไม่มีอะไร ฉันเพิ่งกลับมาจากกองกำลังดวงดาวในวันนี้ เลยเอาของขวัญมาให้”
“หือ ? ” คูลีแปลกใจ “ ไม่รู้ว่าของขวัญอะไรกัน ? ”
หวังเย่าไม่มัวอ้อมค้อม เขาผายมือออกก่อนจะเปิดโทรศัพท์และทำการเปิดไฟล์ฉายขึ้นบนจอ
เมื่อเห็นแบบนั้น คูลีก็ตัวสั่นทันที เขายื่นมือออกมาไล่ดูข้อมูลตรงหน้า
“นายได้มันมาได้ยังไง ? ” คูลีมองไปที่หวังเย่าด้วยท่าทีที่เกรงกลัว
“ก็ง่าย ๆ แค่ฆ่าดิ๊คกับดิว ฉันคิดว่าคุณคงรู้อยู่แล้ว เขาเป็นหมาของตระกูลพวกคุณ แต่เจ้านายเขาไม่ใช่คุณ พวกนั้นภักดีต่อดาวเฟนเซอร์ พวกนั้นแอบซุ่มอยู่ในดาวทมิฬมากกว่าร้อยปีแล้ว และได้ตรวจสอบข้อมูลการรบของดาวทมิฬก่อนจะส่งข้อมูลนี้กลับไปให้กับดาวเฟนเซอร์ สุดท้ายฉันก็ได้ข้อมูลพวกนี้มาด้วย”
คูลีรู้ว่าตอนนี้หวังเย่ามีอำนาจในมือแค่ไหน เขาต้องประนีประนอมกับอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด
“นาย…นายต้องการอะไร ? ”
“แร่หินของดาวทมิฬโดนขายให้กับดาวอื่น ๆ โดยมีสหพันธ์เป็นตัวแทน แต่ฉันลองเอามาเทียบกับทรัพยากรที่คุณขายออกไปตลอดหลายปีมานี้ก็พบว่ามันมากกว่าที่สหพันธ์ขายออกไปถึง 3 เท่า ถ้าประกาศเรื่องนี้ออกไป มันจะเกิดอะไรขึ้น คุณคงจะเดาออกแล้วสินะ ? ฉันควรต้องพูดอีกรึเปล่า ? ”
คูลีตัวสั่นเทา ราชินีเองก็ถึงกับลนลานขึ้นมาด้วย
“นาย…นายคงไม่คิดจะแย่งชิงบัลลังก์หรอกนะ ? ” คูลีคิดถึงเรื่องเลวร้ายที่สุด
หวังเย่าฮึดฮัดออกมาด้วยความไม่พอใจ “คุณดูถูกฉันสินะ ฉันไม่สนใจอำนาจของราชวงศ์หรอก แต่ครั้งนี้คุณทำผิดครั้งใหญ่ คุณจะสะสางปัญหานี้รึไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำยังไงต่อไป”
คูลีถามออกมาด้วยความแปลกใจ “สะสางปัญหางั้นหรือ ? จะให้ฉันทำยังไงก็บอกมา ? ”
“ไม่ใช่แค่พี่น้องสองคนนั้นได้ทรัพยากรจากคุณไปจำนวนมาก แต่ยังขโมยข้อมูลรวมถึงทำลายกฎของโลกนี้ไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้หนวดปีศาจกำลังจะบุกเข้ามาโจมตีดาวทมิฬแล้ว คุณคิดว่าคุณจะหนีไปได้รึไง ? ”
“นายหมายความว่า….ที่แผ่นดินไหวเมื่อตะกี้…คือการที่กฎโลกพังลงงั้นหรือ ? ” สายตาของคูลีแสดงความหวาดกลัวออกมา เขาคิดว่าแผ่นดินไหวตะกี้เป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติเสียอีก
“การคอรัปชั่นถือว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่การร่วมมือกับศัตรูและทรยศต่อประเทศเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองนั้นเป็นอาชญากรรมครั้งใหญ่ ฉันดูประวัติของดาวทมิฬมาแล้ว ดูเหมือนว่าจะเคยมีเรื่องแบบนี้มาหลายครั้ง ราชาจะโดนตัดสินโทษประหาร ฉันหวังว่าครั้งนี้คุณคงจะทำอะไรเพื่อแก้ตัวได้ทัน” หวังเย่ามองไปที่คูลีแล้วพูดขึ้น
เมื่อได้ฟังที่หวังเย่าพูด คูลีถึงกับหมดแรง แก้วชาในมือตกลงไปที่พื้นก่อนจะแตกออก
หวังเย่าเอื้อมมือออกมาเช็ดชาที่หกบนโต๊ะ เขาเลื่อนข้อมูลบนจอแล้วยิ้มออกมา “เวลามีน้อย คุณมีช่องโหว่เพียบเลย แน่นอนว่า….ฉันไม่ได้อยากกลับไปมือเปล่า”
“ตารางต่อไปนี้เป็นสถิติที่ฉันขอให้นักบัญชีตรวจสอบและรวบรวมมาใหม่ คุณคิดว่าธุรกรรมทั้งหมดที่คุณทำในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาได้ไหลเข้าสู่คลังของราชวงศ์เท่าไหร่ ? ”
“เราไม่รู้ !”
หวังเย่าส่ายหน้าและพูดขึ้น “60 เปอร์เซ็นต์ตกเป็นของฮาร์วี่ และ 40 เปอร์เซ็นต์เข้าคลังราชวงศ์”
คูลีเบิกตากว้าง เขาตรวจสอบตารางสถิตินี้ก่อนจะฟาดมือลงบนโต๊ะอย่างแรง
“ไอ้บ้านี่ ฉันคิดว่าเขาภักดีมาโดยตลอด ! ”
ตลอดหลายปีมานี้เพื่อที่จะได้เป็นผู้สืบทอด ฮาร์วี่ทั้งขยันและพยายามสร้างผลงานที่ดีออกมา ภายนอกดูเหมือนว่าเขาไม่ได้มีความทะเยอทะยานและดูหมิ่นใคร และดูจะไม่เห็นแก่ตัวด้วย
เมื่อลองคิดถึงเรื่องในอดีต คูลีก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมา
“นี่เป็นเรื่องครอบครัวของคุณ ฉันไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง ขอตัวก่อน ! ” หวังเย่าลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไป แต่อยู่ ๆ เขาก็หยุด “ใช่สิ ฉันอยากเห็นกองกำลังของสถานีมูหลางก่อนรุ่งสางของวันพรุ่งนี้ แน่นอน…นักสู้ดวงดาวที่เคยประจำการและถูกปลดออกและทหารราชวงศ์ที่เกษียณไปแล้วหากยังพอสู้ได้ก็สามารถเอามาร่วมกองกำลังได้ด้วย ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ ? ”
ราชาตัวสั่นและตอบกลับ “ได้ ฉันจะทำตามที่นายบอก ! ”
“ขอบคุณ ! ” หวังเย่าป้องมือแล้วเดินออกไปทันที
“เราจะทำยังไงกับฮาร์วี่ดี ? ” ราชินีถามขึ้นมา
คูลีเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้น “ฮาร์วี่สั่งสมอำนาจมาสักพักแล้ว ถ้าฉันทำเกินไปกับเขา ฉันกลัวว่าคงจะเกิดปัญหา”
“แล้วท่านคิดจะทำยังไง ? ”
“ให้เขานำทัพครั้งนี้โดยมีดาไฮเป็นรองแม่ทัพคอยสั่งการ”
“แม้ว่าฮาร์วี่จะเข้าร่วมในการฝึกของกองกำลังดวงดาว แต่เขาก็แอบอ้างใบรับรองการสำเร็จหลักสูตร คุณยังอยากจะ…”
“เขาเป็นลูกของพี่สาวเธอ แต่ฉันกลับเลี้ยงเขาให้โตมาแบบนี้ เธอคงไม่โทษฉันหรอกนะ ? ” คูลีได้แต่ปลอบใจราชินี
“พี่ฉันตายไปนานแล้ว ท่านเลี้ยงดูฮาร์วี่ตามใจมากเกินไป แต่ฉันเชื่อว่ามันยังมีคนอื่นที่เป็นราชาได้ดีกว่าเขา”
คูลีพยักหน้า “น่าเสียดายที่เรามีแต่ลูกสาว ไม่งั้นฉันจะยกบัลลังก์นี้ให้กับลูกเรา”
ราชินีกอดคูลีเอาไว้และพูดขึ้น “มิยายากับหลินฉีน่ะฉลาด แต่โชคร้ายที่พวกเธอเป็นผู้หญิง ดีที่มิยายาหาสามีที่ดีได้ ฉันเชื่อว่าดาไฮจะรับหน้าที่นี้ได้อย่างดีในอนาคต”
คูลีตบหลังราชินีเบา ๆ “ถ้าเราสูญเสียฮาร์วี่ไป ในอนาคตเราคงได้แต่พึ่งลูกเขยต่อ…เฮ้อ ถึงราชาคนอื่นจะฉลาดแค่ไหน แต่หากพวกเขาเจอศัตรูแบบหวังเย่า พวกเขาก็เทียบไม่ได้เลย”
“แต่ฝ่าบาทเรายังเหลือเวลาที่จะมีลูกกันอีก ท่านคิดว่าหากเราจะมีลูกชายและลูกสาวอีกสักคนจะดีหรือไม่”
คูลีกอดราชินีไว้แน่น “ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องเริ่มดูแลร่างกาย เธอเตรียมตัวท้องได้เลย ฮ่าฮ่า”
“พ่อ หวังเย่ารังแกหนู ! ”
หลินฉีเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็รีบวิ่งกลับมาฟ้องคูลีทันที
ใบหน้าของเธอแสดงความโกรธแค้นออกมา เธอรู้สึกว่าไม่มีทางยกโทษให้กับหวังเย่าเด็ดขาด
“หวังเย่าไม่ใช่คนธรรมดา อย่าทำให้เขาไม่พอใจอีกในอนาคต ครั้งนี้จำเอาไว้เป็นบทเรียน”
“ไม่ หนูจะแก้แค้นเขาให้ได้ ! ” หลินฉีฮึดฮัดออกมาก่อนจะไปนั่งข้าง ๆ แม่ของเธอ
“หลินฉีลูกรัก หวังเย่ารังแกลูกยังไง ไหนบอกแม่มาสิ” ราชินีกอดหลินฉีเอาไว้แล้วเริ่มปลอบ
“หนู..” หลินฉีแทบไม่อาจจะพูดออกมาได้ “หนูไม่สน เขารังแกหนู ยังไงหนูก็ต้องแก้แค้นเขาให้ได้ ! ”
คูลีมองไปที่หลินฉีและคิดว่าหรือหวังเย่าคิดจะฉวยโอกาสลูกของเขา บางทีเขาอาจมีโอกาสที่จะผูกมิตรกับหวังเย่าได้?
“พี่เขยกับพี่ชายของลูกจะเข้าร่วมกองทัพดวงดาวในวันพรุ่งนี้ เขาต้องทำตามคำสั่งหวังเย่า…”
ก่อนที่คูลีจะพูดจบ หลินฉีก็พูดขึ้นมา “งั้นหนูจะไปด้วย ! ”
เมื่อเห็นท่าทีที่แน่วแน่ของหลินฉี คูลีก็ได้แต่ยิ้ม “ลูกไปได้ แต่ลูกต้องจับตาดูหวังเย่าเอาไว้…ถ้าฮาร์วี่ทำอะไร ลูกไม่ต้องเข้าไปยุ่ง ตกลงไหม ? ”
“เข้าใจแล้ว ! ” หลินฉีรีบรับปากทันที