ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 609 : แลกเปลี่ยน
ตอนที่ 609 : แลกเปลี่ยน
ในจักรวาลอันเงียบงันมียานหลักที่ลอยอยู่อย่างเงียบ ๆ
ส่วนที่น่าตกใจที่สุดคือมียานเล็กจำนวนมากกำลังบินมุ่งหน้าไปที่นั่น
ตอนนั้นบนดาดฟ้าของยานมีผู้คนจำนวนมาก พร้อมกับพวกนายพลระดับสูงที่ยืนรอคอยยานเล็กเหล่านั้นกลับมา
เจ้าหน้าที่ได้ทำการขับร้องบทเพลงอันยิ่งใหญ่เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของพวกเขา
เสียงเพลงที่ดังก้องนี้ทำทุกคนยิ้มแย้มกันออกมา
การทดสอบที่สำคัญที่สุดกำลังจะจบลงแล้ว
“มากันแล้ว ! ” มีบางคนตะโกนขึ้นมา
“นำมาโดยเหล่านายพลของโคเรนน่า ! ” บางคนตะโกนขึ้น
โคเรนน่าเป็นประเทศขนาดกลางบนดาวทมิฬ หากเทียบกับประเทศอื่น ๆ แล้ว พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่ตลอดการฝึกที่ผ่านมานั้นคนของพวกเขาได้รอดกลับมาจำนวนมาก
ยานเกราะค่อย ๆ ลงจอดพร้อมกับห้องเครื่องที่เปิดออก จากนั้นเหล่านายพลก็กระโดดออกมาจากยานเข้าไปจับมือกับทุกคน
“ปลอดภัยกันดี ! อัลเฟรดได้เข้าไปจับมือกับเหล่านายพลและแสดงความยินดีออกมา
มีแค่พวกที่เคยต่อสู้กับหนวดปีศาจมาก่อนเท่านั้นถึงจะถูกเรียกว่านักรบดวงดาวได้ พวกที่กลับมาได้นี้ถือว่าอย่างน้อยก็ผ่านการทดสอบสุดท้ายมาได้
เสียงเพลงดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับทุกคนที่รีบทำความเคารพ
“กลับมาแล้ว เขากลับมาแล้ว..คนของประเทศหมาป่า”
“ทำไมพวกเขาถึงมีน้อยแบบนี้ ? แล้ว…โดมินิค อยู่ไหน ? ”
โดมินิคถือว่าเป็นรองแค่เพียงหวังเย่าเท่านั้น แต่เขายังไม่กลับมา !
ประเทศหมาป่านั้นได้ส่งนายพลมากกว่า 10 คนขึ้นไป แต่ตอนนี้มีแค่ 2 คนเท่านั้นที่รอดกลับมาได้
อีกทั้งเกราะของทั้งสองก็เสียหายอย่างมาก หลังจากที่ลงจอดแล้วทั้งสองก็เดินลงมาด้วยสภาพที่อิดโรย
ทั้งสองบาดเจ็บหนัก ที่ตัวมีรูกระสุนอยู่หลายแห่ง เลือดอาบไปทั่วใบหน้า ไม่รู้เลยว่าพวกเขาทำตัวเองรึเป็นฝีมือของศัตรูกันแน่
“แล้วโดมินิคอยู่ไหน ? ” อัลเฟรดถามขึ้นมา
“เขา…ตายแล้ว ! ” นายพลหนึ่งในสองคนได้พูดขึ้นมาด้วยปากที่สั่น หลังจากนั้นเขาก็ถึงกับร้องไห้ออกมา
พวกเขายังคงปวดใจเมื่อคิดถึงตอนที่แย่งหินกฎไฟมาจากดิ๊คตอนที่อยู่ในหนวดปีศาจ
ทั้งสองฝ่ายทัดเทียมกัน แต่สุดท้ายโดมินิคก็พลาดท่าและโดนดิ๊คฆ่าไป
ทั้งสองคนตัวสั่นเทา เซไปมาราวกับจะหมดแรง
“เรียกหมอเร็วเข้า ! ”
ทีมแพทย์ที่ประจำอยู่บริเวณใกล้ ๆ รีบวิ่งเข้ามาพาตัวทั้งสองคนไปรักษาทันที
…
สถานีมูหลางนั้นโดนเผา นายพลสองคนซึ่งเป็นคนของดิ๊คนั้นก็รู้แล้วว่าดิ๊คน่าจะตายไปแล้ว
ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้กลับไปที่ยานหลักด้วยความหงุดหงิด
พวกเขาจะพูดอะไรได้ ? นี่คือการแข่งขันของคนที่แข็งแกร่ง มันต้องมีคนที่ตายอยู่แล้ว
กฎของเกมไม่ได้ห้ามให้ฆ่ากัน มันบ่งบอกได้แล้วว่าการแข่งนี้โหดร้ายเพียงใด
“แล้วดิ๊คล่ะ ? ”
“ดิ๊ค…”
ไม่มีใครถามว่าใครกันที่ฆ่าดิ๊ค นี่มันคือการแข่งขัน ความบาดหมางในเกมจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อเกมจบลงเท่านั้น
….
เสียงเพลงยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เสียงเพลงที่นำพาความยินดีตอนนี้ไม่รู้เลยว่าเปลี่ยนเป็นความเศร้าตั้งแต่เมื่อไหร่
ยานเกราะลำหนึ่งสภาพไม่สู้ดีนักได้ลงจอดพร้อมกับนายพลที่กระโดดออกมาแต่แทนที่เขาจะแสดงสีหน้ายินดี เขากลับแสดงสีหน้าเศร้าและหนักใจแทน
อัลเฟรดเข้าไปถามนายพลที่บาดเจ็บและได้รู้ข้อมูลบางอย่าง
ตอนเริ่มการทดสอบ หวังเย่าโดนกลุ่มคนจำนวนมากล้อมเอาไว้และสุดท้ายก็หนีไปได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไง
…
จอรายชื่อได้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้านอร์แมน เขาได้ทำการตรวจสอบรายงานของคนที่กลับมา
ตอนนี้มีข้อมูลของนายพลมากว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว 30 เปอร์เซ็นต์จากใน 90 เปอร์เซ็นต์นั้นถูกรายงานว่าตายไม่ก็หายตัวไป
90 เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งหมดนี้เท่ากับ 540 คน แต่ตอนนี้มีแค่ 360 คนที่เหลือรอด สูญหายและตายไป 180 คน !
อัลเฟรดเดินไปหานอร์แมนแล้วถามขึ้นมา “ทีมของหวังเย่ายังไม่กลับมาอีกหรือ ? ”
นอร์แมนส่ายหน้า
อัลเฟรดถอนหายใจออกมา “ฉันหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องกับเขา”
นอร์แมนยังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมาอยู่ “ตามรายงานของคนที่กลับมาแล้วหวังเย่า, โดมินิค, ดิ๊ค ทั้งสามทีมได้เจอกัน และตอนนี้ดิ๊คและโดมินิคเหมือนจะตายไปแล้ว งั้นหวังเย่า..”
นอร์แมนได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ให้กับอัลเฟรด
เมื่อได้ยินที่นอร์แมนพูดมา อัลเฟรดก็ยิ้มและพูดขึ้น “ฉันหวังว่าจะเป็นแบบนั้น”
….
มันเหลือเวลาอีก 5 นาที
อัลเฟรดได้แต่มองไปยังมิติภายนอกด้วยความกังวล เขาเหมือนกับคาดหวังบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ได้เห็นจุดแสงส่องประกายขึ้นมา
แต่จุดแสงที่นำหน้านั้นไม่ใช่ยานเกราะทั่วไป แต่เป็นยานเกราะระดับสูง
“ดูนั่น ยานระดับสูง ! ”
เมื่อเห็นยานนั้นชัดเจนขึ้น อัลเฟรดก็ยิ้มออกมา “ฉันคิดไว้อยู่แล้วว่านายจะต้องได้ใช้มัน”
ยานได้ลงจอดแทบจะทันที
ตอนที่ห้องเครื่องเปิดออก หวังเย่าก็ได้กระโดดลงมาพร้อมกับเจนกิ้นและโอพีเลีย ซึ่งทำให้ทุกคนต่างก็ฮือฮาไปตาม ๆ กัน
“หวังเย่า ในที่สุดนายก็กลับมา ! ” อัลเฟรดรีบเดินเข้าไปต้อนรับ
ดูเหมือนว่าเพื่อที่จะต้อนรีบการกลับมาของหวังเย่า เพลงก็ได้ดังขึ้นแต่มันเปลี่ยนจากความเศร้าเป็นความยินดีแทน !
“อัลเฟรด ขอโทษทีที่ทำให้กังวล ! ”
ด้วยการที่พูดคุยกับอัลเฟรดมานาน หวังเย่าก็ถือว่าอีกฝ่ายเป็นอาจารย์ เพราะอัลเฟรด จึงทำให้เขารู้จักยานเกราะดีกว่าเดิม
“กลับมาก็ดีแล้ว ! ” อัลเฟรดหัวเราะออกมา
ตอนนั้นก็มีเสียงพึมพำดังขึ้น “หวังเย่า นายคิดว่านายจะชนะการทดสอบนี้ได้รึไง ? ”
หวังเย่าและอัลเฟรดหันกลับไปมองและพบกับชายตัวสูงที่เป็นเจ้าของเสียงนั้น
ชายคนนี้หวังเย่าและอัลเฟรดไม่รู้จัก เพราะอันดับการฝึกของชายคนนี้ไม่ได้สูงนัก และน่าจะอยู่อันดับร้อยกว่า !
ชายคนนี้น่าจะมาจากประเทศเล็ก ๆ อย่างแยงกี
ประเทศที่ความแข็งแกร่งโดยรวมถือว่าทั่วไป มีประชากรไม่มากแต่สัดส่วนความร่ำรวยกลับสูงที่สุดในดาว
การแต่งตัวของเขาดูเป็นคนชั้นสูง แม้ว่าจะผ่านการทดสอบมา แต่เขาก็ยังไม่ได้บาดเจ็บและยังเนื้อตัวสะอาดดังเดิม
เขาราวกับดาราที่ออกมาจากห้องแต่งตัวอย่างไรอย่างนั้น มันราวกับว่าพิธีต้อนรับนี้จัดไว้เพื่อเขาโดยเฉพาะ
“ฉันจำนายได้ นายน่าจะชื่อ…อิชิโว”
ต้องขอบคุณระดับ ไม่งั้นแล้ว หวังเย่าคงไม่อาจจะจำนายพลทั้ง 600 คนได้
อิชิโวแปลกใจนิด ๆ เขายิ้มออกมา
“ฉันแปลกใจที่อันดับหนึ่งอย่างนายจะจำฉันได้ด้วย”
เจนกิ้นเดินเข้ามาและมองไปที่อิชิโว “นายได้แร่แม่เหล็กมาเท่าไหร่ นายถึงได้มั่นใจว่าจะเอาชนะหวังเย่าได้ ? ”
อิชิโวยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ “พวกนายไม่ต้องสนหรอก ….เอาง่าย ๆ ก็มากว่าพวกนายก็แล้วกัน ฮ่าฮ่า…”
เมื่อเห็นท่าทีหยิ่งทะนงของอีกฝ่าย เจนกิ้นก็อยากที่จะวิ่งเข้าไปอัด แต่โชคดีที่เขายังควบคุมสติตัวเองได้ดี
เสียงเพลงได้สิ้นสุดลง
นอร์แมนได้เดินขึ้นไปบนเวทีและตะโกนออกมา “การทดสอบสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ ขั้นต่อไปคือ…การแลกเปลี่ยน ! ”
ทุกคนพากันฮือฮาออกมา พวกเขาไม่คิดว่ามันจะมีการทดสอบอีก
“แลกเปลี่ยนอะไร ? ”
“ฉันไม่รู้”
ทุกคนพากันซุบซิบขึ้นมา
นอร์แมนยกมือบอกให้ทุกคนเงียบแล้วพูดขึ้น “ตั้งแต่อดีตมาแล้ว เราไม่ได้ใช้แต่ความแข็งแกร่งส่วนตัวเท่านั้นในการประเมินตำแหน่งแม่ทัพ ในฐานะที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำแล้ว ก็ต้องมีความเป็นผู้นำมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนและเป็นที่เคารพนับถือ เพื่อที่จะใช้งานคนได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำทีมได้ดียิ่งขึ้น ! ”
“หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครที่สามารถรวบรวมหินจากคนในทีมมาได้มากที่สุด คนนั้นก็จะกลายเป็นแม่ทัพไป เพราะมันจะแสดงให้เห็นว่าเขาได้รับการไว้ใจจากคนเหล่านั้นให้ขึ้นมาเป็นแม่ทัพ และนำพวกเขา ! ”
“แน่นอนพวกนายจะต้องเอาแร่แม่เหล็กมาแลกกับคะแนน”
“ส่วนที่สำคัญที่สุดคือคนที่แลกเปลี่ยนจะต้องทำสัญญากับกองกำลังดวงดาวเป็นเวลา 3 ปี ไม่งั้นแล้วก็ไม่อาจจะแลกเปลี่ยนแร่แม่เหล็กที่มีได้”
“พวกที่ตั้งใจจะออกจากที่นี่ ไม่ต้องนำแร่มาแลก”
“อย่างที่เราบอกไว้ตอนแรก อันดับคะแนนจะตัดสินตำแหน่งในอนาคต”
“นี่คือตำแหน่งรายบุคคล มันขึ้นอยู่กับพวกนายเองว่าจะสละแร่ที่ตัวเองมีให้กับคนอื่น ที่คิดว่าไว้ใจได้รึไม่ ! ”
“จากนี้ไปจอด้านหลังจะประกาศจำนวนแร่ที่ทุกคนนำมาแลก ให้เวลาทำการแลกเปลี่ยน 30 นาที และหลังจากนั้นอันดับจะไม่เปลี่ยนแปลง ! ”
นอร์แมนมองนาฬิกาแล้วพูดขึ้น “เริ่มได้ ! ”