ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 531 : ความแข็งแกร่งระดับ K
ตอนที่ 531 : ความแข็งแกร่งระดับ K
ปึก !
เสียงบางอย่างดังขึ้นที่หลังหูของหวังเย่า ดูเหมือนว่ามีบางอย่างถูกติดไว้ที่ตรงด้านหลังหูของเขา
“ นายถอดเสื้อผ้าออกได้แล้ว !”
ครั้งนี้หวังเย่าเข้าใจสิ่งที่พวกนั้นพูด มันน่าจะเป็นเครื่องแปลภาษาที่ติดไว้ที่หลังหูของเขา
แต่หวังเย่าไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
ซู่ !
น้ำเย็น ๆ ถูกราดลงมาที่หัวจนทำให้หวังเย่าเปียกไปทั้งตัว
จากนั้นก็มีแปรงโผล่ออกมาขัดตัวหวังเย่า
แผ่นที่เท้าของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็ว หวังเย่าเหมือนจะอยู่ในเครื่องล้างตัว ตอนนี้เขาเหมือนไม่ใช่มนุษย์แล้ว แต่ถูกทำราวกับสัตว์อย่างไรอย่างนั้น
แปรงถูผิวเขาไปมาจนทิ้งรอยแดงไว้ที่ตัวเขา แปรงนี้ถึงจะมีสบู่ แต่มันก็ยังทำให้ผิวของเขาเกิดแผลอยู่
สุดท้ายก็มีน้ำเทราดลงมาที่ตัวของเขาอีกครั้งเพื่อล้างสบู่ออก
เสียงลมดังขึ้นก่อนที่จะมีลมพัดเข้ามาเป่าตัวของเขาให้แห้ง
“นักโทษ 2020423 ออกมาได้แล้ว ! “
หลังจากที่ได้ยินคำสั่ง หวังเย่าก็ได้เดินออกมาจากเครื่องล้างตัว
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับลานกว้างที่เต็มไปด้วยควันและไอน้ำ มันราวกับโรงอาบน้ำขนาดใหญ่เลยก็ว่าได้
มันมีนักโทษอย่างน้อย 3,000-4,000 คนที่มาที่นี่ ทุกคนต่างก็ยืนเปลือยอยู่ที่ลาน
บางคนยืนเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ บางคนตะโกนออกมาราวกับคนบ้า บางคนก็เข้าต่อสู้กับผู้คุม
ปัง ปัง…
เสียงดังขึ้นพร้อมกับชายตัวสูงกว่า 5 เมตร ที่นอนจมกองเลือดไป
ทั้งลานตกอยู่ในความเงียบงัน ผู้คุมที่เป็นมนุษย์จิ้งจอกได้เก็บปืนลงไปก่อนจะหยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วตะโกนขึ้น “ยินดีต้อนรับสู่คุกยูเดของดาวทมิฬ นรกของจักรวาลที่ไม่มีใครรอดออกไปได้”
“ฉันคือผู้คุมที่นี่ ซิดดี้ พวกนายเรียกฉันว่าพ่อรึปู่ก็ได้ ฉันไม่อยากได้ยินชื่อของตัวเอง ! ที่นี่ฉันถือว่าเป็นพระเจ้า คำสั่งของฉันคือคำสั่งสูงสุด ใครกล้าฝ่าฝืนจะโดนฉันฆ่าแบบที่เห็น”
“พวกแกเห็นปืนในมือฉันไหม ? ” ซิดดี้ยกปืนในมือขึ้นมา
“ปืนนี้เรียกว่าลูกซอง มันออกแบบมาเพื่อจัดการกับนักรบปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยหน่วยพัฒนา ความแข็งแกร่งของมันถือว่าอยู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ มนุษย์ที่ต่ำกว่าเลเวล 80 โดนยิงต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย”
“เมื่อกระสุนเข้าไปในตัว มันจะกระจายไปทั่วร่างกายก่อนจะกลืนกินสมองซึ่งทำให้เสียหายอย่างรุนแรง ดังนั้น…มันจะเจ็บปวดแค่ไหน พวกแกคงคิดภาพออก”
“หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้นมาในเหมือง พวกแกควรจะนอนหมอบลงไปกับพื้น ไม่งั้นแล้วพวกแกนี่แหละที่จะโดนยิง แน่นอนว่าเหมืองก็มีกฎการเอาตัวรอดอยู่ ไม่ใช่ว่าพวกแกจะอยู่อย่างปลอดภัยเพียงแค่ฟังคำสั่งของฉันเท่านั้น”
“ที่นี่ ทั้งฐานะหรือแม้แต่เตียงที่แกนอนนั้น พวกแกต้องแย่งมันมาด้วยตัวเอง !”
“สุดท้ายยินดีต้อนรับทุกคนสู่เหมืองยูเด ขอให้พวกแกมีความสุขที่นี่ ! ”
ปัง ปัง ปัง !
ซิดดี้ยิงออกมาสามนัดติดก่อนจะจากไป
หลังจากที่ซิดดี้จากไปแล้ว พวกผู้คุ้มก็ได้พานักโทษเข้าไปในเขตต่าง ๆ
“นักโทษ 2020423 มาที่ห้องทดสอบ 33”
หวังเย่าได้ยินหมายเลขตัวเองก็เดินไปหาผู้คุมที่สูงกว่า 3 เมตร เพื่อเข้าห้องทดสอบ
ผู้คุมที่เป็นมนุษย์หมีนั้นมีแขนที่หนากว่าเอวของหวังเย่าซะอีก นิ้วที่เหมือนกับท่อเหล็กทั้งห้าได้กรอกข้อมูลของหวังเย่าลงไปก่อนที่ห้องจะเปิดออก จากนั้นเขาก็ใช้มือจับหัวของหวังเย่ายกขึ้นก่อนจะโยนหวังเย่าเข้าไปในห้อง
หวังเย่านั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้อง ประตูถูกปิดลง แขนกับขาของเขาถูกล็อคเอาไว้กับเก้าอี้
อยู่ ๆ ก็มีเข็มแทงเข้ามาที่แขนของเขาก่อนจะสูบเลือดออกจากตัวเขาไป
“กำลังเริ่มวิเคราะห์เลือด”
“หลังจากที่วิเคราะห์เลือดเสร็จจะทำการทดสอบร่างกาย”
หวังเย่าพบว่าการหมุนในห้องนั้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
ในเวลาเดียวกันก็มีหมวกโผล่มาสวมที่หัวของเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะตกลงไปในมิติจำลอง
กรร..
เสียงคำรามของสัตว์อสูรดังขึ้น ฝูงสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนแห่กันมาจากทุกทิศทางและเริ่มโจมตีหวังเย่าอย่างบ้าคลั่ง
สุดท้ายหวังเย่าก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวด เขารู้สึกว่าร่างของเขากำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ
แม้ว่าจะรู้ว่านี่เป็นภาพลวงตาแต่ความรู้สึกนั้นก็เป็นของจริง
อ๊ากก….
หวังเย่ากระอักเลือดออกมาจนทำให้หมวกที่คลุมทั้งหัวโดนย้อมเป็นสีแดง
ตอนนั้นหวังเย่าตัวสั่นไปทั้งตัว
“เอาเขาออกมา !”
หวังเย่าได้ยินเสียงของผู้ทดสอบสองคนที่ด้านนอกดังขึ้น
“นี่มันขยะชัด ๆ ”
ห้องถูกเปิดออกพร้อมกับผู้คุมคนเดิมที่เดินเข้ามาจับหัวหวังเย่ายกขึ้นแล้วเอาเขาออกไปด้านนอก
หวังเย่าได้แต่ต้องเอามือค้ำกำแพงเพื่อประคองตัวเองไว้
เขามองไปที่คนที่เข้าไปในห้องทดสอบพร้อมกันกับเขาและพบว่าเขานั้นอ่อนแออย่างมากเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ
คนอื่น ๆ อยู่ด้านในกว่าครึ่งวัน แต่กลับไม่เป็นอะไรเลย
ผู้คุมมองไปที่จอและพูดขึ้น “ นายคงไม่ได้ผิดพลาดอะไรหรอกนะ ความสามารถของเด็กนี่อยู่แค่ระดับ K เองหรือ ? ”
ผู้ทดสอบมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนจะพูดขึ้นมา “เครื่องมือมนุษย์อย่างมันจะมีความสามารถแค่ไหนกันเชียว ? ”
ผู้คุมแสดงท่าทีสับสน “ แต่จากการทดสอบตะกี้เขาเลเวลถึง 75 เลยนะ”
“เขามียีนส์ผิดพลาด สำหรับว่าทำไมเขาถึงเลเวล 75 ก็เพราะเขาบ่มเพาะทักษะจิต เขาได้เปรียบในการทดสอบด้านภาพจำลอง แต่แน่นอนว่าเขาคงอยู่ได้ไม่นาน”
“เข้าใจแล้ว 2020423 มากับฉัน” ผู้คุมตะโกนขึ้นและพาหวังเย่าไปยังอีกห้อง เขาเอาชุดออกมาก่อนจะทำการเขียนตัว K ไว้ด้านหลังชุดแล้วส่งให้กับหวังเย่า
เขาเอาพลั่วกับกล่องออกมา ก่อนจะส่งให้กับหวังเย่าอีก
“แกจำเอาไว้ พลั่วกับกล่องนี้ของแก ห้ามทำหายเด็ดขาด ถ้าหาย แกจะขอใหม่ไม่ได้ แกต้องไปขโมยจากคนอื่นเอา ”
“ฉันจะบอกบางอย่างที่น่าสนใจให้แกฟัง ในหมู่นักโทษ 37,943 คนมีแค่ 99 คนที่อยู่ระดับ K ตามระดับความสามารถแล้วมันมีทั้งหมด 11 ระดับซึ่งคือ A-K ตอนแรกมันมีแค่ 10 ระดับ ระดับ K น่ะถือว่าไม่ใช่คนแล้ว มันอยู่ระดับเดียวกันกับมดปลวกที่ได้แต่โดนรังแก ระดับต่างกันก็มีเครื่องมือต่างกันไปด้วย…รายได้กับอาหารเองก็ต่างกัน”
“พวก 5 อันดับแรกจะใช้เครื่องมือได้อย่างสว่าน, รถ, เลื่อย ..”.
“5 ระดับต่อมาจะใช้พวกเครื่องมืออย่างพาหนะ เช่น รถเลื่อนได้ ระดับ K แบบแกน่ะได้แค่กระเป๋ากับพลั่วเท่านั้น “
“สุดท้าย…เท่าที่ฉันรู้มาระดับ K กว่า 98 คนก่อนหน้านี้น่ะเครื่องมือของพวกเขาโดนทำลายรึหายไปโดยไม่มีเหตุผล ดังนั้นขอให้แกโชคดีก็แล้วกัน”
หวังเย่าใส่ชุดที่ได้มาก่อนจะไปยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง
เสียงประตูดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก แสงแดดได้สาดเข้ามาในตาของหวังเย่าจนเขารู้สึกแสบตา
ตั้งแต่ที่มาถึงคุกนี่จนถึงตอนนี้มันกินเวลาหลายชั่วโมง จนตอนนี้มันเป็นเวลา 10 โมงเช้าแล้ว
ใช่ ตอนนี้มันคือ 10 โมงเช้า ที่นี่มี 36 ชั่วโมงต่อวัน ตอนเย็นเวลา 18.00 นาฬิกา ส่วนตอนเช้าคือ 10.00 นาฬิกา
ประตูปิดตัวลงพร้อมเผยให้เห็นฉากของโรงงานนรกที่ว่านี้
ตอนนั้นหวังเย่าได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมชุดระดับ K
สายตาของพวกคนขุดเหมืองเป็นประกายขึ้นมาราวกับหมาป่าที่ไม่ได้เห็นเหยื่อมาหลายวัน
แน่นอนว่าพวกที่แข็งแกร่งนั้นไม่ได้สนใจหวังเย่ามากนัก พวกนั้นแค่มองหวังเย่าแล้วแสดงท่าทีเยาะเย้ยออกมา
เหมืองแห่งนี้อยู่ระหว่างสันเขา
ด้านหลังภูเขานี้มีกำแพงที่สูงกว่า 500 เมตรกำแพงนี้ทำขึ้นมาจากเหล็กกล้า แม้แต่มิสไซน์ก็ทำลายมันไม่ได้
ภูเขาแห่งนี้มีป่าและแม่น้ำรวมถึงรังของสัตว์อสูรอยู่ด้วย บางที่ถูกจับจองโดยนักโทษที่นี่
และสถานที่แห่งนี้แน่นอนว่าต้องมีแร่หนาแน่นที่สุด มันมีทั้งตึก สิ่งก่อสร้างและอาวุธดี ๆ ติดตั้งเอาไว้ พวกมันต่างก็ทำขึ้นมาจากแร่เหล็ก
แร่พวกนี้ไม่ใช่แค่มีความสามารถในการป้องกันที่สูง แต่ยังมีความสามารถในการเติบโตราวกับสิ่งมีชีวิต
ปืนที่หวังเย่าได้เห็นก่อนหน้านี้ก็ทำการกลืนกินพลังงานที่เหลือของเป้าหมาย เพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเองจนกลายเป็นอาวุธที่ทัดเทียมกับสัตว์อสูรได้
ผลก็คือราคาของแร่นี้จึงสูงขึ้นมา ในทั้งจักรวาลมีดาวเคราะห์ไม่มากที่มีแร่แบบนี้ บอกได้ว่ามันหาได้ยากอย่างมาก
ดาวทมิฬคือเหมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตนี้ พันธมิตรดวงดาวได้เสนอให้ที่นี่เข้าร่วมพันธมิตรเมื่อหมื่นปีก่อนแต่ถูกปฏิเสธ เพราะเมื่อเข้าร่วมพันธมิตรดวงดาวแล้วดาวทมิฬต้องส่งแร่หลายหมื่นลูกบาศก์เมตรให้กับพันธมิตรในแต่ละปี ในฐานะเจ้าของที่นี่แล้ว เผ่าจิ้งจอกมนุษย์จึงปฏิเสธคำเชิญนั้นไป
เพื่อที่จะได้แร่มาให้ได้มากที่สุดในการลงทุนที่ต่ำที่สุด เหมืองแห่งนี้จึงแทบไม่ใด้ใช้เครื่องมือระดับสูงเลย พวกใช้แค่แรงงานคน
เหมืองนี้มีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางกิโลเมตร ขนาดเท่ากับหัวเซี่ย แต่มันมีไม่ถึง 2,000 ตารางกิโลเมตร ที่ใช้อุปกรณ์ในการขุดแร่
ที่นี่ นักโทษที่ได้รับการลงโทษจากผู้คุมนั้นจะได้รับบาดเจ็บทางร่างกายอย่างสาหัว
ที่แม่น้ำมีตุ่นกระดูกขาวที่คอยลากเรือขนาดใหญ่อยู่
ยานสินค้าที่จะขึ้นบินนั้นจะมีนักโทษหลายสิบคนจะต้องกลายเป็นพลังงานเพื่อให้มันได้ขนส่ง
บางคนถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
น่าอนาถจริง ๆ !
เมื่อลมพัดผ่านเข้ามาก็เรียกสติของหวังเย่ากลับมาด้วย
“แกขี้เกียจงั้นหรือ ! ”
เพี๊ยะ !
แส้ได้ถูกฟาดใส่มนุษย์กบที่นอนสลบอยู่กับพื้น
“1 ! ”
“2 ! ”
“3 ! ”
“น่าเบื่อจริง ๆ ฟาดแค่สองทีก็ตายแล้ว !”
ทหารที่ดูแลในส่วนนั้นได้เรียกหมาป่าที่สูงกว่า 3 เมตร ออกมาสองตัวและพูดขึ้น “ของพวกแก”
หมาป่านั้นมีขนเป็นหนาม ทันทีที่มันปรากฏตัวก็ทำให้พื้นดินสั่นไหวไปตาม หมาป่าทั้งสองเข้าไปกัดมนุษย์กบแล้วฉีกเนื้อของเขาออกก่อนจะกลืนเนื้ออีกฝ่ายเข้าไป
หวังเย่าได้ใช้ระบบตรวจสอบหมาป่านั่นทันที
ชนิด : เซอบิรุสตะกละเลเวล : 70ระดับ : สวรรค์ขั้นต้นสกิล : 1.คลั่ง โจมตีด้วยเขี้ยวและกงเล็บของมัน, 2. ดูดซับ ดูดซับอาหารอย่างรวดเร็ว มีประโยชน์ในการเก็บกวาดสนามรบ“ดูอะไร ไปได้แล้ว” ผู้คุมที่อยู่ข้าง ๆ ได้ลากหวังเย่าให้เดินออกไปต่อ
มันมีกฎที่เหมืองแห่งนี้อยู่ว่า พวกคนที่ยืนไม่ไหวหลังจากที่ผู้คุมนับถึง 3 แล้ว พวกเขาจะกลายเป็นอาหารให้กับหมาของผู้คุมทันที
โดยทั่วไปแล้วพวกผู้คุมไม่ได้อยู่ดูแลนักโทษตลอด พวกนั้นจะมาดูก็ตอนที่ไม่มีแร่มาส่งรึอาจจะส่งน้อยเกินไป จึงมาดูเพื่อทำการลงโทษ
แน่นอนว่าหากทำงานตามที่มอบหมายให้ไม่สำเร็จ วันต่อไปก็จะไม่ได้อาหาร หากไม่รีบกินอาหารของตัวเองก็อาจจะโดนคนอื่นแย่งไป
เหมืองแห่งนี้อนุญาตให้ฆ่ากันได้ แต่ทุกคนต้องทำตามกฎที่ตั้งเอาไว้
นอน 00.00-09.00 นาฬิกามื้อเช้า 09.00-10.00 นาฬิกาทำงาน 10.00-15.00 นาฬิกาฆ่าเวลา 15.00-17.00 นาฬิกา (สามารถท้าสู้กับคนอื่นเพื่อแย่งชิงสิ่งของได้)
มื้อเที่ยง 17.00-18.00 นาฬิกาทำงาน 18.00-28.00 นาฬิกาฆ่าเวลา 28.00-30.00 นาฬิกา (สามารถท้าสู้กับคนอื่นเพื่อแย่งชิงสิ่งของได้)
มื้อเย็น 30.00-31.00 นาฬิกาเวลาว่าง 31.00-36.00 นาฬิกา
นับรวมกันแล้วก็ทำงาน 15 ชั่วโมง เวลาสู้อีก 4 ชั่วโมง, กิน 3 ชั่วโมง, เวลาว่าง 5 ชั่วโมง และนอนอีก 9 ชั่วโมง
เอาจริง ๆ แล้วการที่ถูกจัดอยู่ระดับ K นี้ หวังเย่าไม่รู้เลยว่าเขาจะรอดในสภาพแวดล้อมแบบนี้ไปได้นานแค่ไหนตึ้ม ตึ้ม…
อยู่ในเหมืองก็มีเสียงเพลงดังขึ้น มันราวกับจะมีการประกาศอะไรขึ้นมาสักอย่าง
มันคือการออกกำลังกายยามเช้า ความจริงมันควรจะมีทุกวัน สำหรับว่าจะนานแค่ไหนและมีบ่อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้คุม
มันเหมือนกับการฝึกของกองทัพมากกว่า จริง ๆ แล้วผู้คุมแค่อยากทรมานนักโทษเล่นก็เท่านั้น
พวกจิ้งจอกที่นี่อ่อนแอกว่าคนในดาวนิบิรุ พวกนี้อยู่มาแค่ 5,000 ปี
แต่นักโทษบางคนอยู่ที่นี่มากว่า 2,000 ปีแล้ว การโดนขังไว้ที่นี่บางคนได้เสียสติและจิตสำนึกของตัวเองจนสุดท้ายก็พัฒนาตัวเองจนกลายมาเป็นผู้คุมที่นี่ไป
พวกเขาถึงกับลืมว่าตัวเองเป็นใคร
“ไอ้หน้าใหม่ แกมานี่ มานั่งตรงนี้แล้วทำตามคนอื่น”
ผู้คุมคนหนึ่งเดินเข้ามาหาและโยนหวังเย่าไปที่ท้ายแถว บังคับให้เขาร้องและเต้นไปกับพวกนักโทษคนแก่
เขาทั้งลุกนั่ง, กระโดด, กลิ้งตัวไปมาและนอนหมอบกับพื้น
“เรามันพวกขยะ เราถูกพวกผู้คุมมองว่าเป็นมดปลวก เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นผู้คุมก็ต้องร้องออกมาด้วยความกลัว..”
ตอนแรกหวังเย่าไม่คิดจะทำเรื่องโง่เง่าแบบนี้ แต่เมื่อได้ยินเสียงปืน เขาก็ได้แต่ทำตาม
ไกลออกไปมีนักโทษระดับ A อยู่ เขารู้สึกว่าการกระทำแบบนี้มันเสียศักดิ์ศรีตัวเอง เขาจึงปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งและสุดท้ายก็โดนผู้คุมยิงจนตาย
เพลงเล่นขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมกับพวกนักโทษที่ลุกนั่งไปมาโดยมีซิดดี้ หัวหน้าผู้คุมนั่งจิบกาแฟและส่ายหน้าไปมาตามเพลง
“เพลงนี้คือเพลงประจำของเหมืองยูเดของเรา”
เลขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พยักหน้าและพูดขึ้น “แน่นอน เพลงนี้น่ะเพื่อหัวหน้า หัวหน้าคือราชาของที่นี่”
“อืม” ซิดดี้หลับตาลงและพยักหน้าด้วยความพอใจ “เล่นเพลงนี้อีก 2 รอบเพื่อให้นักโทษใหม่รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของฉัน”
“รับทราบ” เลขาได้เปิดเพลงนี้ซ้ำทันที
แสงแดดสาดลงมายังเหมือง ภาพที่ดูงดงาม แต่ตอนนี้กลับมีนักโทษนับไม่ถ้วนได้กลิ้งไปมา พร้อมกับร้องเพลงนี้ตาม
สุดท้ายเพลงก็จบลง หวังเย่าปัดฝุ่นตามตัวและมองไปที่หอคอยสูงตรงหน้า
เมื่อออกกำลังกายยามเช้าเสร็จ หวังเย่าก็แบกกล่องของตัวเองเดินผ่านเอเลี่ยนตัวสูงคนหนึ่ง
ด้วยขนาดที่ต่างกันนี้ หวังเย่าราวกับเด็กน้อยที่แบกกระเป๋าใบโตอย่างไรอย่างนั้น
“ไอ้นี่อยู่ระดับ K ว่ะ”
“ฉันพนันว่าไอ้เด็กนี่คงอยู่ไม่รอดถึงพรุ่งนี้แน่”
“ฉันไม่คิดแบบนั้น” อีกคนค้านขึ้นมาและยิ้มก่อนจะพูดว่า “ ฉันพนันว่าอีกไม่นานมันจะโดนฆ่า” เขามองไปที่นาฬิกาบนหอคอยแล้วพูดต่อ “ฉันว่าอีก 5 ชั่วโมง มันจะหายไปจากโลกนี้”
“ฟอเนอร์ แกดูถูกไอ้หนูนี่เกินไปหน่อยมรึเปล่า ? ”
หวังเย่าเดินออกไปแต่หูของเขาก็ยังได้ยินคำพูดของพวกนั้นอย่างชัดเจน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกมันคิดว่าฉันเป็นเด็กที่ได้แต่รอโดนรังแกรึไง” ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็ต้องคิ้วขมวดอีกรอบ “บ้าเอ้ย ทำไมมันถึงรู้สึกคุ้นแบบนี้ ? ”
เขาพบว่าที่พงหญ้าตรงหน้ามีคนสองคนคอยซุ่มโจมตีอยู่ ทั้งสองต่างก็อยู่ระดับ K เหมือนกันกับเขา
“มีคนอยู่ในพงหญ้า ” หวังเย่าพูดขึ้นและอดไม่ได้ที่จะเดินหนีไป
เขาพอเข้าใจกฎที่นี่คร่าว ๆ แล้ว โดยทั่วไปไม่มีใครกล้ามีเรื่องกันในเวลานี้ หากถูกพบว่ามีการต่อสู้กัน งั้นจะทำให้โดนลงโทษไม่ให้กินอะไร 3 วัน
หากมีการตายเกิดขึ้นและถูกผู้คุมรู้เข้า พวกที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้จะโดนยิงทันที