ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 219 คู่มือลงถ้ำ (1)
ตอนที่ 219 คู่มือลงถ้ำ (1)
ห้านาทีต่อมา
ค่าทรัพย์สินของฟางผิงมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ทรัพย์สิน : 27,500,000
ปราณ : 650 แคล (828 แคล)
จิตใจ : 485 เฮิรตซ์ (499 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 151 ชิ้น (90%) , 1 ชิ้น (65%) , 54 ชิ้น (30%)
“พลังจิตใจหยุดเพิ่มแล้ว…”
ฟางผิงมองตัวเลขพึมพำเบาๆ ออกมา ก่อนหน้านี้พลังจิตใจและปราณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกัน
แต่ตอนนี้พลังจิตใจกลับชะงักอยู่ที่สี่ร้อยเก้าสิบเก้าเฮิรตซ์มานานไม่ขยับไปไหน
พลังจิตใจนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับปรมาจารย์ จุดนี้ฟางผิงรู้ดี
“กลับไปต้องลองสักหน่อยว่าสามารถบีบให้เพิ่มขึ้นอีกได้หรือเปล่า”
ฟางผิงพึมพำกับตัวเอง แต่เรื่องนี้ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น
ต่อให้ตอนนี้พลังจิตใจสูงกว่านี้ก็ไม่มีที่ให้ใช้ อย่าสิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินไปกับเรื่องนี้ดีกว่า
“หกร้อยยี่สิบคะแนน เงินสดยี่สิบหกล้านรวมกับยาบำรุงเลือดและปราณขั้นสองสามเม็ด…”
ฟางผิงคำนวณค่าทรัพย์สินของตัวเองอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่บ้าง ยาสามเม็ดนี้ได้มาจากคืนที่โดนลอบโจมตีตอนเฝ้ายาม ทั้งเงินสดและค่าทรัพย์สอนที่เพิ่มขึ้นมาหนึ่งล้านก็คือส่วนแบ่งที่ได้จากภารกิจก่อนหน้านี้
เวลานั้นสินสงครามมีไม่เยอะ ฟางผิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกำลังหลักจึงได้ส่วนแบ่งมาหนึ่งล้าน
“ใช่สิ ยังต้องซ่อมแซมอาวุธอีก”
นึกมาถึงตรงนี้ ฟางผิงที่ตอนแรกไม่คิดจะไปจุดแลกเปลี่ยน เวลานี้กลับต้องเปลี่ยนแผนแล้ว
—
เจอตาเฒ่าหลี่อีกครั้ง ฟางผิงไม่คิดจะเอ่ยถึงเรื่องที่หัวสิงโตพูดเช่นกัน
เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “อาจารย์ อาวุธของมหาวิทยาลัยรับประกันซ่อม เปลี่ยน คืนใช่หรือเปล่า?”
ตาเฒ่าหลี่มองเขาอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “เธออยากพูดอะไร?”
“อาวุธของมหาวิทยาลัยคุณภาพแย่เกินไปแล้ว…”
“เธอปะทะตัวต่อตัวกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุด ตอนนี้มาบ่นว่าอาวุธของมหาวิทยาลัยคุณภาพแย่เกินไป กล้าพูดออกมาจริงๆ?”
ตาเฒ่าหลี่ทำสีหน้าไม่พอใจ เธอคิดว่าฉันไม่รู้สถานการณ์หรือไง!
“แค่กๆ…ยังไงตอนนี้รองเท้าโลหะผสมก็เสียหายหนัก สวมต่อไม่ได้แล้ว ดาบเฟิ่งจุ่ยบุ๋มลงไปเหมือนกัน…”
“ขายเป็นเศษเหล็กเลยไหมล่ะ”
ฟางผิงนิ่งอึ้งไป ช่างกล้าพูดออกมาจริงๆ?
“อาวุธโลหะผสมระดับ E ใช้ปะทะกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุด ประสิทธิภาพนั้นแทบไม่เห็นผล รองเท้าคู่นี้ของเธอต้องขายเป็นเศษเหล็กแล้ว ตอนนั้นเธอใช้คะแนนซื้อเท่าไหร่?”
“หนึ่งร้อยคะแนน…”
“ฉันเหมือนจะจำได้ว่าสี่สิบคะแนนนะ” ตาเฒ่าหลี่พูดพึมพำกับตัวเอง
“ในนั้นมีค่าสั่งทำสิบคะแนน ราคาที่แท้จริงแค่สามสิบคะแนน ตอนนี้เก็บคืนเป็นเศษเหล็ก ให้เธอสิบคะแนนละกัน…”
ฟางผิงตะลึงไปอีกครั้ง คุณจะโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว
“ช่างเถอะ ลดให้เธออีกหน่อยละกัน รองเท้านี้คิดเป็นค่าซ่อมดีกว่า! เธอเอาดาบนั่นมาซ่อม อย่างน้อยต้องใช้หลายสิบคะแนน ตอนนี้ใช้รองเท้าเธอลดแทนแล้วกัน”
“อาจารย์…”
ฟางผิงเอ่ยอย่างน่าสงสาร “รองเท้าผมสี่สิบคะแนน งั้นไม่ใช่หมายความว่าผมซ่อมดาบหนึ่งครั้งเสียเงินกว่าหนึ่งล้านเหรอครับ?”
“คิดแบบนั้นได้ยังไง? บอกแล้วว่าตอนนี้เป็นเศษเหล็กไปแล้ว”
“แต่ว่า…”
“จะซ่อมไม่ซ่อม”
“ซ่อม”
ฟางผิงยิ้มแห้งๆ ไม่ซ่อมคงไม่ได้ ดาบหักขึ้นมา นั่นต้องขาดทุนหนักแล้ว
ตัดสินใจเรื่องนี้เรียบร้อย ฟางผิงก็ครุ่นคิดถามออกไปว่า “อาจารย์ มหาวิทยาลัยไม่มีเสื้อเกราะขายจริงๆ เหรอครับ?”
ตอนการแข่งขันครั้งก่อน เขาเคยมาถามหนึ่งครั้ง ตาเฒ่าหลี่บอกว่าไม่มี
ตอนนี้ฟางผิงจะลงถ้ำแล้ว คิดว่าจำเป็นต้องป้องกันตัวเองอยู่บ้าง ดาบเดียวจะไหวได้ยังไง
“มี”
ครั้งนี้ตาเฒ่าหลี่ให้คำตอบที่แท้จริง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ของดีขนานแท้ ไม่ได้ทำจากโลหะผสม ของชิ้นนี้หนักและแข็งอย่างมาก สร้างจากหนังของสิ่งมีชีวิตใต้ดิน เธอน่าจะรู้ เมื่อถึงขั้นสามสูงสุด ผู้ฝึกยุทธ์สามารถพูดได้ว่าพลังป้องกันแข็งแกร่งจนน่าตกใจ ทั้งอันที่จริงผู้ฝึกยุทธ์ยังหลอมกระดูกเป็นหลัก กระดูกมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ผิวหนังยังคงปกติ รอจนไขกระดูกหลอมเสร็จแล้ว เข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ก็จะได้ขัดเกลาร่างกายใหม่อีกครั้ง นั่นถึงจะเรียกได้ว่าร่างกายอยู่ยงคงกระพัน แต่สิ่งมีชีวิตใต้ดิน โดยเฉพาะพวกที่เป็นสัตว์ ผิวหนังของสิ่งมีชีวิตพวกนี้ถึงจะเป็นของดี ตอนนี้ฉันมีเสื้อเกราะที่สร้างมาจากหนังของสิ่งมีชีวิตใต้ดินขั้นหกสูงสุดอยู่ตัวหนึ่ง คิดให้เธอถูกๆ หนึ่งหมื่นคะแนนแล้วกัน!”
วันนี้ฟางผิงเจอกับเรื่องตกใจเยอะเกินไปแล้ว!
หนึ่งหมื่นคะแนน?
ฆ่าฉันเลยดีกว่า
“ว่าไง ซื้อไม่ไหว?” ตาเฒ่าหลี่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ซื้อไม่ไหวคงช่วยไม่ได้ หนังของสิ่งมีชีวิตขั้นหกสูงสุด พูดตามตรงพลังป้องกันนั้นน่าตกใจจริงๆ ถ้าเธอทะลวงขั้นสามสูงสุด รวมกับความแข็งแกร่งผิวหนังของเธอ ปะทะเนื้อชนเนื้อกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ เขาทะลวงการป้องกันของเธอยังเป็นเรื่องยากยิ่ง”
“มีถูกกว่านี้อีกนิดหรือเปล่า?”
“ถูกกว่านี้ประสิทธิภาพป้องกันจะลดต่ำลงแล้ว ยังไม่สู้เธอหลอมเนื้อหนังตัวเอง รอเธอทะลวงขั้นสามสูงสุด พลังป้องกันตัวเองย่อมเยอะกว่าหนังของสิ่งมีชีวิตขั้นสี่ขั้นห้าพวกนี้”
“ผมยังไม่ได้ทะลวงขั้นสามสูงสุดสักหน่อย? อาจารย์ ช่วยแนะนำที่ถูกกว่านี้ให้ผมเถอะ”
“เสื้อเกราะที่ทำจากหนังของสิ่งมีชีวิตใต้ดินขั้นสี่ ห้าร้อยคะแนน ถูกพอหรือยัง?”
เทียบกับหนึ่งหมื่นคะแนนแล้ว ถูกกว่าจนไม่รู้จะถูกยังไงอีก
ฟางครุ่นคิด “พลังป้องกันเป็นยังไง?”
“เสื้อเกราะหนังน่าจะพอต้านพลังของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดที่โจมตีสุดกำลัง แน่นอนว่าฉันหมายถึงเสื้อเกราะ ไม่ใช่ตัวเธอ ผู้ฝึกยุทธ์โจมตีเธอ จะโจมตีแต่เสื้อเกราะงั้นเหรอ? เธอถูกโจมตีจนสะเทือนถึงอวัยวะภายใน กระเด็นตัวลอยบาดเจ็บ นั่นเป็นเรื่องของเธอแล้ว ประโยชน์ของเสื้อเกราะคือป้องกันไม่ให้ทะลุเท่านั้นหรือก็คือรอยแผลที่เกิดขึ้นภายนอกร่างกาย เข้าใจความหมายฉันใช่ไหม?”
“เข้าใจครับ ไม่สามารถต้านพลังได้สักนิด?”
“ต้านได้ แต่แค่นิดเดียวเท่านั้น”
ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “งั้นเอารองเท้าโลหะผสมระดับ D ให้ผมหนึ่งคู่ ไม่สิ ระดับ C ดีกว่า แล้วก็…อาจารย์ ที่นี่มีถุงมือไหมสวรรค์อย่างที่ในโทรทัศน์พูดกันหรือเปล่า?”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างขบขัน “ถุงมือไหมสวรรค์ไม่มี มีแค่ถุงมือหนัง แต่ไม่แนะนำให้เธอซื้อ พูดตามตรงอาวุธพวกนี้มีไว้ใช้จู่โจมไม่ใช่เพื่อป้องกัน ดังนั้นถ้าอยากซื้อจริงๆ ซื้อสนับมือโลหะผสมดีกว่า ชกออกไปยังจะมีแรงช่วย เพิ่มพลังทำลายล้างให้มากขึ้น เธอซื้อเสื้อเกราะพอแล้ว ซื้อถุงมือหนัง นอกจากช่วยรักษาความอบอุ่นก็แทบไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว สิ้นเปลืองเงินเปล่าๆ”
“มีเหตุผล!”
ฟางผิงพยักหน้า เอ่ยปากว่า “งั้นเอาสนับมือโลหะผสมระดับ C ให้ผมอีกหนึ่งคู่…”
“แน่ใจ? เธอใช้ดาบเป็นหลักไม่ใช่หรือไง?”
“บางครั้งใช้ดาบเป็นปัญหาเกินไป กันไว้ดีกว่าแก้”
“รองเท้าและสนับมือโลหะผสมระดับ C…โลหะผสมระดับ C สี่สิบคะแนนต่อหนึ่งกิโลกรัม คิดเธอแค่สองร้อยคะแนนละกัน ไม่ได้ใช้โลหะผสมทั้งหมด ส่วนหนึ่งใช้หนังของสิ่งมีชีวิตใต้ดิน ผสมผสานกันแล้วจะสวมใส่เหมาะสมกว่า เสื้อเกราะเก็บเธอห้าร้อยคะแนน รวมทั้งหมดเจ็ดร้อยคะแนน ของค่อยมาเอาอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
“เจ็ดร้อยคะแนน?”
ฟางผิงรู้สึกปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง ถอนหายใจว่า “เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ฝึกยุทธ์ถึงจนกันหมด เพราะต้องใช้เงิน! ยี่สิบเอ็ดล้านสินะครับ?”
ตาเฒ่าหลี่มองฟางผิง รอเขาหั่นราคาเหมือนทุกที
ปรากฏว่าครั้งนี้ฟางผิงกลับไม่ต่อรองแต่อย่างใด ยื่นบัตรให้ตรงๆ “อาจารย์ งั้นอีกไม่กี่วันเดี๋ยวผมมาเอา”
ตาเฒ่าหลี่คำนวณบัญชีพลางมองฟางผิงด้วยความแปลกใจ
ฟางผิงเห็นแบบนั้นจึงยิ้มขึ้นมา “อาจารย์ เอายาบำรุงเลือดและปราณขั้นหนึ่งให้ผมอีกหกสิบห้าเม็ด ทั้งหมดหกร้อยยี่สิบคะแนนสินะครับ…”
ตาเฒ่าหลี่หอบหายว่า “ฉันว่าแล้วทำไมครั้งนี้เธอถึงว่าง่ายนัก…”
นึกไม่ถึงว่าจะไม่ต่อรองราคา!
กำลังรออย่างหลังอยู่นี่เอง!
ตาเฒ่าหลี่ไม่ชักช้าเช่นกัน ครั้งนี้ไม่พูดมากอีก เรียกคนไปเบิกยาให้ฟางผิงหกสิบห้าเม็ด
ยาบำรุงเลือดและปราณขั้นหนึ่งคิดเป็นสิบคะแนน ราคาตลาดสามแสน ครั้งก่อนฟางผิงพบเจอกับความผิดพลาด
สุดท้ายพบว่ายาบำรุงขั้นหนึ่งนั้นคุ้มค่าที่สุด โลกข้างนอกก็ราคานี้เหมือนกัน
ยังไงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีจำนวนเยอะที่สุด
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองขั้นสามหลายคนเลือกใช้ยาบำรุงของขั้นหนึ่งเช่นกัน
ยาบำรุงเลือดและปราณขั้นหนึ่ง หนึ่งเม็ดเพิ่มค่าทรัพย์สินให้ฟางผิงสองแสน หักลบเรื่องคะแนนแล้ว ค่าทรัพย์สินของฟางผิงจะเพิ่มขึ้นอีกหกหมื่น
ตอนนี้ค่าทรัพย์สินแตะถึงยี่สิบแปดล้านหนึ่งแสน
“ยาบำรุงทั้งหมดเพิ่มทรัพย์สินมูลค่าสิบสามล้าน ขายออกไปสูงกว่าสิบสามล้านยังจะได้กำไรเล็กน้อย ตอนนี้เงินสดเหลือแค่ห้าล้านแล้ว”
ผู้ฝึกยุทธ์ใช้เงินหมดเร็วจริงๆ
ซ่อมแซมอาวุธนิดเดียว ซื้ออาวุธเล็กน้อย ฟางผิงเสียไปกว่าหลายสิบล้านแล้ว
“เข้าถ้ำใต้ดิน อุปกรณ์พวกนี้น่าจะพอใช้แล้ว คำนวณทั้งตัวก็เป็นเงินกว่าสามสิบล้าน รอเข้าไปในถ้ำ ถ้ามีเงินต้องซื้อยาฟื้นคืนชีวิตสักหน่อย แค่นี้คงจะเพียงพอแล้ว”
—
หอพัก
ฟางผิงทิ้งยาบำรุงให้ฟู่ชางติ่ง เอ่ยอย่างฉับไว “ขั้นหนึ่งหกสิบห้าเม็ด ขั้นสองสามเม็ด ลดจากราคาตลาดสิบสองเปอร์เซ็นต์ ขายให้นายสิบเก้าล้าน อย่ามาบอกว่าเอาเปรียบนาย”
ฟู่ชางติ่งมองเขาพักหนึ่ง เอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “ขายอีกแล้ว? ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับนายกันแน่?”
“จำเป็นหรือไง”
“ฟางผิง ตกลงเรื่องปราณนายมันยังไงกันแน่? นายเป็นจอมเขมือบยาไม่ใช่หรือไง?”
“ฉันสามารถผลิตปราณเองได้ เรื่องนี้นายไม่เข้าใจหรอก พูดไปนายก็ไม่เข้าใจ ดังนั้นอย่าถามดีกว่า”
ฟู่ชางติ่งตะลึงไปเล็กน้อย ผลิตปราณเองได้?
ยังเป็นคนอยู่หรือไง!
แต่เมื่อลองเปรียบเทียบกันแล้ว กินข้าว นอนหลับ อันที่จริงล้วนเป็นการฟื้นฟูปราณ
ทว่าฟางผิงที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามกลับสิ้นเปลืองพลังปราณอย่างมหาศาล หรือจะหวังให้ร่างกายเขาฟื้นฟูเอง?
แม้จะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเขา แต่ครั้งนี้ฟู่ชางติ่งยังคงซื้อไว้
เขาเอ่ยว่า “ฉันขอเตือนนายหน่อย ช่วงนี้เหมือนบริษัทยาบำรุงจะสังเกตได้ว่าบ้านของฉันไม่ค่อยสั่งยากับทางนั้น แม้จะไม่อยู่ในขอบเขตที่เซี่ยงไฮ้รับผิดชอบ แต่นายขายยาอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ ไม่ช้าก็เร็วจะถูกจับตามอง”
หากตรวจสอบเจอจริงๆ ไม่ปรับฟางผิงหลายร้อยล้านนับว่าบุญหัวแล้ว!
นี่เป็นการแย่งธุรกิจกับบริษัทยาบำรุงอย่างเปิดเผย
มหาวิทยาลัยขายให้นักศึกษาเยอะก็จริง แต่พวกนักศึกษามีเหลือใช้ แค่เอาไปให้ครอบครัวต่อเท่านั้น ไม่เหมือนฟางผิงที่ไม่ใช้ยาบำรุง กลับเอาไปขายเกือบทั้งหมด
“ก่อนจะจับตามองฉัน มีเงินก่อนค่อยว่ากัน อีกอย่างถ้าฉันไม่มีเงินจริงๆ พวกเขายังจะฆ่าฉันได้หรือไง? อย่างมากก็เป็นหนี้ จะกลัวอะไร”
“นายนี่มันไม่กลัวอะไรเลย ฉันล่ะนับถือจริงๆ”
ฟู่ชางติ่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นับว่านายเก่ง แต่นายยังมีบริษัทอีก ระวังถูกยึดละกัน
ไม่พูดมากอีก ทำการแลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
ด้านฟางผิงค่าทรัพย์สินขยับขึ้นเป็นสี่ล้านห้าแสน รวมเป็นสามสิบสองล้านหกแสน เงินสดกลับคืนเป็นยี่สิบสี่ล้านเช่นกัน
——————–