รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 721ฉิวซียี่สั่นสะท้าน
บทที่ 721ฉิวซียี่สั่นสะท้าน
เมื่อในบัญชีปรากฏขึ้นว่ามีเงินเข้าหนึ่งพันล้านหยวน ฉินหลั่งก็พาฉิวกงเฉิงไปที่ห้องผู้ป่วยห้องหนึ่งของร้านหุยชุน จากนั้นก็เริ่มดำเนินการฝังเข็มให้กับฉิวกงเฉิง อาการเจ็บปวดของฉิวกงเฉิงก็ได้รับการคลี่คลายในทันดี หลังจากที่ได้ทาผงขาวโย่วฉินลงไป อาการบาดเจ็บของฉิวกงเฉิงก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ
หลังจากที่ใช้เวลารักษาอยู่ประมาณสามชั่วโมงกว่า ๆ ฉินหลั่งก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า เวลาในการรักษานับว่านานอยู่เหมือนกัน ฉินหลั่งยังช่วยปรับปากแผลของฉิวกงเฉิงใหม่อีกครั้ง รอหลังจากที่การผ่าตัดสิ้นสุดลง ร่างกายของฉิวกงเฉิงยังคงค่อนข้างที่จะอ่อนแอ แต่ความรู้สึกคันและเจ็บปวดของร่างกายได้ถูกควบคุมไว้หมดแล้วฉิวกงเฉิงไม่กล้าที่จะละเลย เขาอยู่ที่โรงหมอต่ออีกประมาณสองสามชั่วโมง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เขาก็ขอบอกขอบใจฉินหลั่งด้วยความซาบซึ้งใจ สุดท้ายถึงให้ฉิวเชียนจ้างและฉิวซียี่พาเขากลับบ้าน
ในระหว่างทางฉิวซียี่รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขากล่าว: “ลุงใหญ่ครับ ฉินหลั่งโลภมาก ถือโอกาสเอารัดเอาเปรียบชัด ๆ ลุงยังไม่ต่อราคา แล้วยังโอนให้มันหนึ่งพันล้านทันทีเลย?”
“จริง ๆ นะครับ หนึ่งร้อยล้านก็ว่าเยอะแล้ว นี่ให้เขาตั้งหนึ่งพันล้าน”
ก็จริงอยู่ว่าฝีมือการรักษาของฉินหลั่งนั้นยอดเยี่ยม ทำให้ฉิวกงเฉิงฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยจัดการกับแผลเดิม แต่นั่นมันหนึ่งพันล้านเชียวนะ แค่คิดก็เจ็บหัวใจแล้ว
“หุบปาก! ชีวิตของลุงใหญ่แก หนึ่งพันล้านเยอะเหรอ?” ฉิวเชียนจ้างโมโห พูดกับฉิวซียี่อย่างไม่พอใจ
“อืม เชียนจ้าง แกอย่าด่าเขาเลย คนหนุ่มสาวพูดจาตรงไปตรงมา จริง ๆ แล้วหนึ่งพันล้านก็ไม่น้อยแล้วนะ ฉันให้ฉินหลั่งหนึ่งพันล้าน หนึ่งคือต้องการที่จะหลุดพ้นจากความเจ็บปวดที่ทรมานฉันอยู่ อีกอย่างฉินหลั่งคนนี้ ตอนนี้ฉันต้องการคบค้าสมาคมกับมัน”
ฉิวกงเฉิงพูดไปพลางหรี่ตาลง เขาถอดทอนใจกล่าว: “ก่อนหน้านี้ฉันประเมินฉินหลั่งต่ำไป ทำให้ต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำในทุกด้าน เชียนจ้าง นี่ล้วนเป็นเพราะหน่วยข่าวกรองของเราไม่เพียงพอ”
“ฝีมือการรักษาของมันดีจริง แต่ศิลปะการต่อสู้คงไม่เหนือไปว่าลุงใหญ่หรอก มันก็แค่มีหลินเส้าโสคอยหนุนหลังอยู่เท่านั้นเอง” ฉิวซียี่คิดว่าตัวเองได้อ่านฉินหลั่งออกแล้วเขากล่าวอย่างไม่เห็นด้วย
ข้อบกพร่องโดยทั่วไปของบุตรหลานคนชั้นสูง ก็คือคิดว่ามีเพียงตัวเองที่ร้ายกาจที่สุด ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา
เห็นว่าพ่อของตัวเองไม่ได้ดุกล่าวอะไร เขาก็กล่าวต่อ: “ถ้าไม่มีหลินเส้าโสอยู่ แก๊งแถ่จ่างของเราจะฆ่าฉินหลั่งล่ะก็ง่ายกว่าการฆ่าแมลงเน่าตัวหนึ่งเสียอีก ไม่ต้องมาอึดอัดใจอยู่อย่างตอนนี้หรอก”
“ไม่ใช่เหรอครับ? มันต่อสู้กับหยางจ้างกั๋ว ร่วมมือสู้กับหลู่เหม่ยเฉิน ยังถูกหยางจ้างกั๋วเล่นงานจนต้องตามหาฟันไปทั่วทุกที่ วิ่งไปทั่วทุกสารทิศเพื่อทำยา สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครสนใจมันเลย พูดได้ว่าสะบักสะบอมเลยทีเดียว”
“ตอนนี้ถ้าหลินเส้าโสไปจากฉินหลั่ง ผมรับรองได้ว่า ฉินหลั่งมีเพียงตายเพียงทางเดียว ใครก็ช่วยมันไม่ได้”
ในแววตาของฉิวซียี่คือความอาฆาตแค้นอย่างลึกซึ้ง กลายมาเป็นคนขับรถของฉินหลั่ง นั่นถือเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวง ไม่อาจที่จะยอมรับได้ พูดได้ว่าไม่เหลือหน้าอยู่ในวงการแล้ว พบเจอผู้คนก็ต่ำไปขั้นหนึ่ง ล้วนต้องโทษฉินหลั่ง
“ซื่อบื้อ!” ฉิวกงเฉิงหึออกมาในจมูก: “แกอายุน้อยไม่มีความรู้ อวดดีคิดว่าตนเองเก่ง หรือว่าพวกฉันจะสู้แกไม่ได้ กินข้าวอย่างไร้ประโยชน์หรือยังไง?”
“ถ้าฉินหลั่งรังแกได้ง่าย ๆ อยู่ที่เมืองเย็นจีนมันคงเรือล่มไปตั้งนานแล้ว ซียี่ แกลองคิดดู ผงขาวเฟยเยว่แท้จริงแล้วเป็นฉินหลั่งเองที่คิดค้น หรือเดิมทีก็เป็นหยางจ้างกั๋วที่ซื่อมาในราคาสูง”
ระดับฉิวกงเฉิง แน่นอนว่าจะต้องรู้ว่าผงขาวหยุนเซียนเดิมทีก็เป็นฉินหลั่งที่ทำขึ้นมา นี่เป็นสิ่งที่หม่าเล่วรายงานต่อแก๊งแถ่จ่าง จะไม่เป็นความจริงได้ยังไง หม่าเล่วเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลหยาง บอกอย่างชัดเจนและแน่นอนว่าหยางจ้างกั๋วได้ซื้อผงขาวหยุนเซียนมา
เขาแค่เพียงต้องการพิสูจน์ระดับสติปัญญาของหลายชายคนนี้หน่อยเท่านั้นเอง
พูดไป ฉิวกงเฉิงก็จับดูบาดแผลของตัวเอง ความรู้สึกเจ็บปวดและคันได้หายไปตั้งนานแล้ว ความรู้สึกทุกข์ทรมานไปจนถึงจิตวิญญาณราวกับตายทั้งเป็นนั้นก็ไม่เหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย แต่ทว่าเมื่อเขานึกถึงสายตาที่ไม่อาจคาดเดาได้ของฉินหลั่ง เขาก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ฉิวซียี่คิดแล้วคิดอีก กล่าว: “ผมคิดว่านะ ลุงใหญ่ เกินกว่าครึ่งน่าจะเป็นฉินหลั่งเป็นคนปรุงเอง”
เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออกมา บนใบหน้าของฉิวเชียนจ้างปรากฏแววพึงพอใจขึ้นมา แต่ก็เพียงแค่แวบเดียว ชั่ววินาทีก็ได้หายไปแล้ว
ลูกชายวิเคราะห์ได้ไม่เลว ไม่มีใครเคยบอกความจริงกับเขาเลย
“ผงขาวตระกูลหยางเดิมทีก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผูกขาด และได้รับความนิยมในตลาดยารักษาแผลมานานหลายปี ตลาดที่เดิมทีค่อนข้างมั่นคง กลับมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำผลิตภัณฑ์ระดับหกดาวออกมาเพื่อที่จะแทนที่ผลิตภัณฑ์ระดับห้าดาวของตัวเอง ข้างในนี้จะต้องมีเงื่อนงำอะไรอยู่อย่างแน่นอน นี่เท่ากับการปฏิวัติชีวิตของตัวเอง โดยปกติแล้วจะทำเฉพาะตอนที่ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ตลาดที่เดิมทีมั่นคงถูกตัวเองทำให้วุ่นวาย และต้องพัฒนาบุกเบิกใหม่อีกครั้ง ตนเองไม่มีแรงจูงใจที่จะทำแบบนั้น และไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของตัวเอง”
“โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นเป็นโรงงานเก่าแก่ที่อยู่ในการควบคุมของตระกูลหยาง หยางจ้างกั๋วได้ทำการปฏิรูปฉับพลัน กว้านซื้ออย่างรวดเร็ว ใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อประคองสนับสนุน ดูจากสัญญาณบ่งชี้ต่าง ๆ นานาแล้ว มันกำลังถือจังหวะยึดครองโอกาสก่อน แย่งชิงเวลากับฉินหลั่งและหลู่เหม่ยเฉิน จุดประสงค์ของมันก็คือก่อนที่ฉินหลั่งจะผลิตผลิตภัณฑ์ออกมา จะต้องเผยแพร่ชื่อเสียงของผงขาวเฟยเยว่ออกไปก่อน เพื่อยึดครองตำแหน่งผู้สืบทอดดั้งเดิม จากนั้นค่อยใช้พลังประชามติและรัฐบาลเพื่อโจมตีและทำให้ธุรกิจทุกด้านของฉินหลั่งเสียชื่อเสียง”
“แบบนี้ฉินหลั่งก็จะไม่อาจแก้ตัวได้ ได้รับความไม่เป็นธรรมแล้วยังพูดออกมาไม่ได้ ดังนั้นฉันคิดว่า ฉินหลั่งจะต้องถูกลอบกัดแน่ ๆ ”
“เพียงแต่ว่า ต่อให้ตำรับยาเป็นของฉินหลั่งฉินหลั่งแล้วยังไง? ตอนนี้ไม่ใช่ถูกหยางจ้างกั๋วครอบครองอย่างเที่ยงตรงโปร่งใสอยู่หรอกเหรอ? กลับกลายเป็นฉินหลั่งที่เสียหายอย่างหนัก ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ขาดทุนมากมายมหาศาล”
“สามารถเขียนตำรับยาออกมาได้ ก็เพียงแค่พิสูจน์ได้ว่าฝีมือในการรักษาของฉินหลั่งเหนือชั้น ถ้าพูดถึงประสบการณ์ หยางจ้างกั๋วเหนือกว่าฉินหลั่งเป็นร้อยเท่า”
“ดังนั้น ลุงใหญ่ครับ พ่อครับ พวกท่านบอกว่าผมประเมินฉินหลั่งต่ำไป แต่ผมกลับคิดว่า พวกเราประเมินมันสูงไป ยกยอมันสูงจนเกินไป”
ฉิวซียี่กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ แก๊งแถ่จ่างก้มหัวอ่อนข้อให้กับฉินหลั่ง และเอาเขาเป็นตัวประกัน อัปยศอย่างที่สุด
เพียงแต่ว่า หยางจ้างกั๋วเล่นงานฉินหลั่งจนขนาดนี้ ฉินหลั่งไม่มีความสามารถตอบโต้กลับได้ จึงทำให้ฉิวซียี่ยิ่งไม่ให้ความสำคัญกับฉินหลั่งมากขึ้นไปอีก”
“ก็ไม่เลวหนิ มีความคิดวิเคราะห์เป็นของตัวเอง แต่ก็เป็นเพียงความคิดเห็นของเด็ก”
ฉิวกงเฉิงความหมายลึกซึ้ง: “ตำรับยาที่ฉินหลั่งเป็นคนทำขึ้นเอง ถูกหยางจ้างกั๋วใช้เล่ห์กลแย่งชิงไป แกคิดว่าฉินหลั่งเสียทั้งหน้าและเงิน แต่ทักษะของหยางจ้างกั๋วกลับไม่เลวเลย……”
“แล้วแกเคยคิดไหม? ว่าเป็นฉินหลั่งเองที่จงใจให้หยางจ้างกั๋วขโมยตำรับยาไปได้?”
ฉิวซียี่เห็นว่าสมมุติฐานของลุงใหญ่ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย เขายิ้มแล้วยิ้มอีก กล่าวอย่างได้ใจ: “ตำรับยาระดับพันล้าน ตั้งใจให้หยางจ้างกั๋วขโมย เดิมทีทั้งสองคนก็ไม่ถูกกัน มอบหนึ่งพันล้านให้กับคู่แข่งฟรี ๆ ฉินหลั่งเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?
“อ๋อ งั้นฉันถามแก สมมุติว่าตำรับยามีปัญหาล่ะ?” น้ำเสียงของฉิวกงเฉิงเปลี่ยนเป็นแหลมคม: “ผู้ป่วยทุกรายที่เคยใช้ผงขาวเฟยเยว่ ล้วนบาดแผลเน่าเปื่อยแบบฉัน เจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตต่อไปล่ะ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉิวซียี่หยุดชะงักทันทีทันใด
เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว เขามองฉิวกงเฉิงอย่างไม่อยากจะเชื่อพลางกล่าวอย่างเสียงดัง: “ลุงใหญ่ครับ ลุงหมายความว่าฉินหลั่งใช้แผนซ้อนแผน หลอกใช้ความโลภของหยางจ้างกั๋ว แล้วสวนกลับหยางจ้างกั๋วอย่างหนักเหรอครับ?
ฉิวกงเฉิงไม่ได้ตอบกลับ แต่หันไปมองพระอาทิตย์ตกทางนอกหน้าต่าง: “คอยดูเถอะ หล่วนฝูจบแล้ว หยางจ้างกั๋วก็จบแล้ว……”
ในขณะที่ในใจของฉิวกงเฉิงเต็มไปด้วยความรู้สึกทอดถอนใจ ในห้องประชุมของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้น หล่วนฝูผู้รับผิดชอบกำลังนั่งอยู่ด้านหนึ่ง สำเร็จงานเซ็นสัญญาที่ได้รับมอบหมายในวันนี้ ทุกอย่างราบรื่นเป็นอย่างมาก พูดได้ว่าผลงานในวันหนึ่งสามารถไปได้ไกลถึงพันลี้
หลังจากที่ผงขาวเฟยเยว่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หล่วนฝูก็ย้ายไปอยู่ที่โรงงานเลย ยึดครองห้องประชุมห้องหนึ่งแล้วตกแต่งจัดวางสักหน่อย เพื่อใช้เป็นสถานที่ทำงานของตันเอง
นั่งบัญชาการอยู่ที่นี่ หนึ่งคือง่ายต่อการต้อนรับลูกค้า สองคือสามารถควบคุมและเร่งรัดคนงานให้ทำงานล่วงเวลาได้
ใช้เวลาจำหน่ายสามวันติดต่อกันก็หมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ แถมยังหมดภายในชั่วพริบตา ภายในใจของหล่วนฝูรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกภาคภูมิใจราวกับทหารเก่าออกศึกพุ่งกระฉูดขึ้นมา แค่ระยะเวลาเพียงสามวัน มีเงินเข้าสู่บัญชีหลายร้อยล้าน ได้ยินคุณชายบอกว่าก่อนหน้านี้เพื่อที่จะให้ได้ตำรับยามา ได้เสียเงินไปไม่น้อย แต่ความจริงพิสูจน์ให้เห็นว่า มันคุ้มค่ามาก และแย่งชิงโอกาสมาได้
เห็นกำไรภายในสามวัน พูดได้ว่าเป็นการซื้อขายที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ในขณะที่หล่วนฝูกำลังสบายอกสบายใจอย่างสุดขีดอยู่นั้น ประตูได้ถูกคนเคาะเปิดออกเบา ๆ จากนั้นก็มีเลขาผมสั้นสวมกระโปรงทรงเอเดินเข้ามา
หล่วนฝูมองเธอแวบหนึ่ง: “ผู้บัญชาการโห้กลับไปหรือยัง?”
“ประธานหล่วน กลับไปแล้วค่ะ ตอนที่กำลังจะขึ้นรถยังให้บัตรชอปปิ้งกับพวกเรามาใบหนึ่ง ในบัตรมีเงินช้อปปิ้งอยู่สามแสนหยวน"
“ผู้บัญชาการโห้กำชับกับฉัน ว่าจะต้องชมเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณบ่อย ๆ ยาขี้ผึ้งสามพันชุดที่ทางหน่วยดับเพลิงต้องการ จะต้องเอามาไว้ข้างหน้าสุด”
กล่าวไป เลขาก็หยิบเอาบัตรที่ดูประณีตและงดงามออกมาจากกระเป๋า แล้ววางลงบนโต๊ะทำงาน
หล่วนฝูท่าทางสง่าผ่าเผย: “ใบสั่งสินค้าเยอะมาก อีกอย่างใบสั่งจองของหน่วยดับเพลิงก็มาค่อนข้างจะช้า ล้วนเป็นบุคคลในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเลือกที่รักมักที่ชังได้ยังไง”
เลขาพยักหน้า: “โอเคค่ะประธานหล่วน เดี๋ยวฉันจะพยายามพูดให้เป็นที่น่าพอใจอย่างเต็มที่นะคะ”
“อืม ส่วนเรื่องอื่น เรื่องซื้อโรงงานผลิตยาโรงงานอื่นดำเนินการไปถึงไหนแล้ว? เรียบร้อยดีหรือเปล่า” หล่วนฝูหยิบแก้วชาขึ้นมา ดื่มหนึ่งคำ วางลงแล้วกล่าว
เลขารีบรายงานทันที: “เรื่องซื้อโรงงานเรียบร้อยดีค่ะ โรงงานที่ผลิตผงขาวทุกโรงงาน ได้ยินว่าเป็นพวกเราที่กว้านซื้อ ก็เซ็นสัญญาอย่างไม่รีรอเลยค่ะ”
“พวกเขาทราบดี เมื่อผงขาวเฟยเยว่ออกมา หากพวกเขาไม่ถูกกลืนกิน วาระสุดท้ายก็คงมาถถึงในอีกไม่นาน”
“โรงงานผลิตผงขาวเหล่านี้มีกำลังในการผลิตทั้งหมดสามารถผลิตได้สามล้านชุดต่อวัน แต่มีข้อเสียเพียงอย่างเดี๋ยวก็คืออุปกรณ์และการรักษาสิงแวดล้อมค่อนข้างจะล้าหลัง”
เลขาสะบัดผมที่งดงามของตัวเองอย่างชำนาญ: “เปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีอยู่เดิมพวกนี้ อย่างเร็วที่สุด
“อย่าพึ่งไปสนใจเรื่องเปลี่ยนอุปกรณ์ เธอแค่กว้านซื้อมันมาให้ได้ จากนั้นส่งคนของเราเข้าไปประจำตำแหน่ง เพื่อเริ่มการผลิตก็พอ”
“ตอนนี้ความต้องการมากมายขนาดนี้ ถ้ายังไม่รีบผลักดันการผลิต พอถึงตอนนั้นในใจของลูกค้าจะต้องเต็มไปด้วยคำตำหนิพวกเราอย่างแน่นอน”
ในสายตาของหล่วนฝูเปล่งประกายระยิบระยับ: “ตอนนี้ฉันมีแผนการที่ใหญ่กว่านี้ นั่นก็คือกว้านซื้อโรงงานผลิตยาของหลู่เหม่ยเฉิน จากนั้นพวกเราก็จะเริ่มการเจรจากับฉินหลั่งและหลู่เหม่ยเฉิน สุดท้ายทำให้พวกมันยินดีที่จะมอบศูนย์วิจัยหยุนเซียนให้กับพวกเราในราคาหนึ่งหยวน”
“ใช่ค่ะ กิจการของพวกเราในตอนนี้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ดีจังเลยนะคะ นี่ล้วนเป็นเพราะพวกเรามีผู้นำที่มีคุณภาพอย่างประธานหล่วน” เลขาผมสั้นกล่าวสรรเสริญเยินยอ และหล่วนฝูก็มีสีหน้าได้อกได้ใจ
“เพียงแต่ว่า ประธานหล่วนคะ ระยะนี้มีข่าวที่ไม่ค่อยดีกับเรานักปรากฏขึ้นมาในอินเทอร์เน็ต”
“ข่าวอะไร? ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยม เป็นธรรมดาที่จะมีคนอิจฉา ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก” หล่วนฝูเงยหน้าขึ้น มีแววคาดไม่ถึงเล็กน้อย
ใช่แล้ว ผลิตภัณฑ์ยาที่มหัศจรรย์เช่นนี้ ถึงแม้คิดจะทำลายชื่อเสียง แล้วจะลงมือจากตรงไหนกันล่ะ?
“เสี่ยวจาง นายมานี่ รายงานให้ประธานหล่วนฟังหน่อย” เลขาสาวร้องเรียกไปทางนอกประตู ภายนอกมีเสียงของชายคนหนึ่งตอบรับและเดินเข้ามา ในมือของเขาถือโน้ตบุ๊กอยู่ สีหน้าท่าทางค่อนข้างกลัดกลุ้มใจ