รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 638 วีรบุรุษออกมาทั้งหมด
บทที่ 638 วีรบุรุษออกมาทั้งหมด
"นับตั้งแต่ตระกูลเสี้ยงของฉันพบเจอกับหัวขโมย ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถทำให้สั่นคลอนได้"
"ต่อให้นายจะเป็นปรมาจารย์ แม้ว่านายจะปรมาจารย์ระดับชำนาญการ ก็ไม่สามารถทำให้คนรุ่นหลังต้องอับอายตามอำเภอใจได้"
ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง……
เสียงไม้เท้าดังขึ้นในห้องโถงใหญ่ ทำลายความน่าเกรงขามของฉินหลั่งไปมากอย่างชัดเจน ความคิดของคนจำนวนมากถูกเสียงนี้ดึงดูด หัวใจที่ตื่นตระหนกค่อยๆนิ่งสงบลง พากันหันไปมองด้านนอก
สีหน้าของฉินหลั่งเปลี่ยนไปเล็กน้อย หญิงที่มีเสียงแหบชรามีวรยุทธ์ อย่างน้อยทั้งๆที่รู้ดีว่าเขาฉินหลั่งเป็นใคร แต่ก็ยังกล้าลุกขึ้นมาร้องตะโกน
เสี้ยงย่าเยว่จะฟังไม่ออกได้ยังไงว่าหญิงชราเป็นใคร ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดีใจ แต่ก็มีความผิดหวังแปลกๆ เหมือนพลาดโอกาสในการถูกฉินหลั่งตบ เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ความอับอายและโมโหภายในใจเสี้ยงย่าเยว่ปะทุขึ้นมา
ที่เสี้ยงย่าเยว่เป็นแบบนี้ ไม่ได้เป็นเพราะปกติตนเสเพลแบบนี้ และไม่ได้เป็นเพราะฉินหลั่งมีเสน่ห์แต่อย่างใด ฉินหลั่งไม่ได้มีเจตนาในการทำ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะนิสัยที่อยู่ส่วนลึกในใจของเสี้ยงย่าเยว่ และเสี้ยงย่าเยว่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับตนเองก็เท่านั้น
เสี้ยงย่าเยว่กลัวคนที่แข็งแกร่ง ผู้ชายในฝันของเธอก็คือผู้ชายที่เต็มไปด้วยพลังแบบฉินหลั่ง คนที่เพียงแค่กระดิกนิ้วก็ทำให้ทุกอย่างมอดไหม้ การพบเจอคนแบบนี้ แม้ว่าเสี้ยงย่าเยว่ต้องบุกน้ำลุยไฟ เธอก็พร้อมทำได้ทุกอย่าง
ความรักและความเกลียดชังประสานกัน ภายในใจของเสี้ยงย่าเยว่รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไรกันแน่ จิตใจเคลิบเคลิ้มหลงใหล ไม่แยกแยะศัตรู
แต่เสียงของหญิงชราก็ทำให้เธอตื่นขึ้นมาจากความหลงใหล เธอรู้ตัวทันทีว่าฉินหลั่งเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว ไม่ใช่วีรบุรุษที่ทำให้ตนยอมแพ้ สถานการณ์ของเธอในตอนนี้อยู่ในความอันตราย ไม่ระมัดระวังแค่เพียงเล็กน้อยก็จะถูกฉินหลั่งเอาชีวิตไปได้
"ยายฮู ยายฮู รีบมาช่วยหนู เสี้ยงย่าเยว่อยู่ที่นี่ค่ะ" เสี้ยงย่าเยว่กลายเป็นเด็กน้อยที่ไร้ความช่วยเหลือในทันที รีบโบกมือไปทางที่เสียงไม้เท้าดังขึ้น
แน่นอนว่าเธอรู้จักยายฮูที่เธอพูดถึง ยายฮูใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ปรากฏตัวในยุทธภพมานานกว่าสิบแปดปีแล้ว ปกติเพียงแค่อยู่บ้านตระกูลเสี้ยงเล่นกับหลานๆ แต่คนจำนวนน้อยเท่านั้นที่รู้ว่า เมื่อพูดถึงความอาวุโสยายฮูนั้นอยู่เหนือกว่าเสี้ยงเฟยสงและเสี้ยงเฟยหลง ด้านศิลปะการต่อสู้ก็อยู่เหนือกว่ายอดฝีมือของตระกูลเสี้ยงไม่รู้เท่าไหร่
ปกติยายฮูไม่เพียงแต่ไม่ปรากฏตัวออกมา อีกทั้งแม้แต่วรยุทธ์การต่อสู้ก็ไม่แสดงออกมา แต่ตระกูลเสี้ยงล้วนรู้ดี ยายฮูเป็นผู้สูงศักดิ์ของตระกูลเสี้ยง แค่เธอไม่เคยถามไถ่ถึงเรื่องใดๆมาก่อน และไม่สนใจเท่านั้น
เสี้ยงย่าเยว่ในตอนนี้รู้สึกดีใจมาก เพราะเสี้ยงเฟยหลงถูกทำร้ายจนขาหัก คนของตระกูลเสี้ยงที่ตายก็ตายไปที่ได้รับบาดเจ็บก็บาดเจ็บไป แต่ก็ไม่เห็นยายฮูน้ำตาไหลแม้แต่หยดเดียว จึงอย่าได้พูดถึงเข้ามายุ่ง แต่เสี้ยงย่าเยว่แค่ถูกคนทำร้าย ยายฮูก็ปรากฏตัวแล้ว
เพราะ ยายฮูเป็นคนเลี้ยงดูเสี้ยงย่าเยว่ตั้งแต่เด็ก เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของตระกูลเสี้ยง
ตึ้ง ตึ้ง……
เสียงไม้เท้าดังขึ้นเป็นจังหวะ เดินอย่างไม่รีบร้อน ตอนที่เดินไปถึงฝูงชน เห็นเพียงฝูงชนหลีกทาง
"คุณยายคะ ต้องจัดการไอ้คนลามกนี่ให้ได้นะคะ ไม่อย่างนั้นวันนี้หนูขายหน้ามาก วันข้างหน้าอยู่ในเย็นจีนคง……คง……คงไม่สามารถแต่งงานได้แล้ว……" เสี้ยงย่าเยว่ไม่สนใจสิ่งใด ออดอ้อนหญิงชรา
ยายฮูหัวเราะในลำคอ“เสี้ยงย่าเยว่ เจ้าเด็กคนนี้ ตัวเองไม่มีความสามารถ ทำให้ยายต้องเข้ามาช่วยเธอ"
"หึ แก่แล้ว แก่แล้ว……" ยายฮูหายใจหืดหอบ พร้อมกับเดินถือไม้เท้าไปด้านหน้าเพียงลำพัง
"ยายฮู?"
คนในเหตุการณ์ที่เคยมีประสบการณ์ต่อเรื่องทางโลกอดไม่ได้ที่จะตกใจ ต่างหันไปมองยายฮู
หลิ่วกุ้ย หยางจ้างกั๋ว รู้สึกดีใจมาก ชื่อเสียงของยายฮู ในตอนนั้นดังอื้ออึงไปทั่ว พวกเขาที่อยู่ในยุทธภพ พบเจอยายฮูก็เหมือนพบเจอดาราดัง รอคอยที่จะพบเจอใบหน้าที่แท้จริงของยายฮู
นึกถึงเรื่องในตอนนั้น ตระกูลเสี้ยงถูกห้าสำนักใหญ่สิบหกปรมาจารย์รุมโจมตี คนของตระกูลเสี้ยงตายจนหมด สุดท้ายเหลือแค่ยายฮูเพียงคนเดียวที่ต่อสู้กับสำนักใหญ่ทั้งห้า ฆ่าฟันจนเลือดไหลนองเป็นแม่น้ำ สุดท้ายห้าสำนักใหญ่สิบหกปรมาจารย์ประกาศยอมแพ้ ยายฮูยังคงไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งฆ่าศัตรูจนหมด จึงปกป้องทำให้ตระกูลเสี้ยงกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เมื่อคนในยุทธภพพูดถึงยายฮูต่างพากันหวาดกลัว ทำคุณงามความดีให้กับตระกูลเสี้ยง
ยายฮูปรากฏตัวขึ้นมาแบบนี้ เท่ากับว่าฉินหลั่งอันตรายมาก และหมายความว่าตระกูลเสี้ยงเห็นความสำคัญของเสี้ยงย่าเยว่
ฉินหลั่งสีหน้าเรียบเฉย แต่เขายอมรับ ยายฮูคนนี้ เทียบกับหลิงมู่หยวนสาม เก่งกาจกว่ามาก
"เห็นหญิงชราแล้ว ยังไม่ปล่อยเสี้ยงย่าเยว่?"
เสียงของหญิงชราไม่ดังมาก แต่น่าเกรงขามโดยไม่ต้องโมโห เคล้าไปด้วยออร่าที่ไม่สามารถขัดคำสั่งได้
"ตอนที่ฉันอายุยังน้อยผ่านเลือดมามาก ตอนนี้ไม่อยากเห็นมันอีกแล้ว ปรมาจารย์หนุ่ม คนมีความสามารถปรากฏตัวในยุทธภพ แต่ก็ต้องให้ความเคารพผู้อาวุโส หึๆ ถ้านายช่วยชีวิตคุณชายโยวโจ่คนนี้ หญิงชราก็จะไม่ถือสาเอาความเรื่องที่ผ่านมา ไว้ชีวิตนายเป็นไง?"
ยายฮูถือไม้เท้าเดินเข้ามาตึ้งๆ เสียงของไม้เท้าที่ดังขึ้นทุกครั้งราวกับเสียงที่เคาะในใจของทุกคน ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะลอบยอมจำนน
เวลานี้ฉินหลั่งเห็นแล้ว หญิงชราคนนี้ถูกเรียกว่ายาย แต่ผมกลับดำเงา ใบหน้านวลเนียน เพียงแต่ใบหน้าที่ดูเหมือนผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายทำให้รู้ว่าอยู่ในยุทธภพมานานหลายสิบปี เพียงแต่ตอนนี้กำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเท่านั้น
"ดีเหมือนกัน สีหน้าของเธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เคารพหญิงชราอย่างฉัน ถ้าอย่างนั้นนายไม่ยอมฟังคำสั่งของฉันใช่ไหม?"
"นายกล้าขัดคำสั่ง ฉันจะทุบตีร่างกายของนาย เอาเนื้อทุกส่วนของนายไปให้สุนัขกิน"
ยังไม่ถึงตัวฉินหลั่ง ไม่รอให้ฉินหลั่งแสดงท่าที ยายฮูตัดสินใจฆ่าฉินหลั่งแล้ว
ขณะพูด ยายฮูเดินไปตรงกลางกลุ่มคน เวลานี้ทุกคนเห็นภาพที่ประหลาดและตกตะลึง เพราะยายฮูเดินด้วยฝีเท้าที่เบามาก แต่พื้นหินในห้องโถงที่ยายฮูเดินผ่าน กลับแตกแยก กลายเป็นรอยกระดองเต่า รอยแตกลามไปจนถึงพื้นใต้เท้าของทุกคน
วรยุทธ์ของคนๆนี้ลึกล้ำไม่สามารถคาดการณ์ได้ ไม้เท้าสามารถทุบพื้นจนแตกทุกย่างก้าว อีกทั้งไม่มีเสียงผิดแปลก ไม่รีบร้อน ขณะยกมือขึ้น ถ้าเธออยากจะฆ่าใคร จะมีสักกี่คนที่สามารถต้านทานได้?
พวกคนญี่ปุ่นตกตะลึง การมาประเทศจีนในครั้งนี้เป็นการเปิดโลกของพวกเขาจริงๆ เดิมทีคิดว่าฉินหลั่งเป็นคนที่ยากจะพบเจอบนโลกใบนี้ ทว่าคิดไม่ถึง หลังจากอีกคนหนึ่งปรากฏตัว เผยให้เห็นศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงสุดด้วยความเรียบง่าย
บางที สิ่งเหล่านี้อาจจะปรากฏในความฝัน ในหนังสือคัมภีร์โบราณ แต่ทั้งหมดนี้ในประเทศจีนกลับเป็นความจริง
ถึงแม้เสียงของหญิงชราจะแหบพร่าแก่ชรา แต่หน้าตากลับไม่แก่ชรา มองดูแล้วอายุเพียงแค่ห้าสิบโดยประมาณเท่านั้น อีกทั้งบุคลิกดี มีออร่าความสวย อีกทั้ง แววตามีความรักใคร่ ชุดสีแดงเพลิงที่สวมอยู่นั้น เหมือนสุนัขจิ้งจอกไฟหนึ่งตัว
ดวงตา เป็นประกายเย็นยะเยือก กวาดมองทุกอย่าง
"ทำตามที่ฉันบอก นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉันจะให้นาย" แววตาของยายฮูมีชีวิตชีวา ออร่าเผด็จการเผยออกมา
"ฝันไปเถอะ" ฉินหลั่งมองหญิงชราด้วยแววตาดูถูก แววตาของเขานิ่งงันอย่างยิ่ง