รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 615 บุกคลินิก
บทที่ 615 บุกคลินิก
“แบบนี้ก็เท่ากับว่าปล่อยให้ส้งฉางเว่ยที่คิดว่าตัวเองเป็นคนฉลาดแต่สุดท้ายทำเรื่องจนพังหมดใช่หรือเปล่า?” เมิ่งลี่ลี่ถาม
“แล้วต่อจากนี้พวกเราควรจะทำยังไงต่อ?”
“หรือว่าเราจะไม่ทำอะไรเลย? จ้างกั๋วคุณกำลังรู้สึกหวาดระแวงอยู่ใช่หรือเปล่า ส้งฉางเว่ยเป็นเพียงแค่รองผู้อำนวยการของสำนักงานคณะกรรมการยา บางทีเวลาอยู่ข้างนอกเขาอาจจะยึดถือหลักการของตัวเองและตรงไปตรงมา แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อของฉันเขาก็เป็นเพียงแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งเท่านั้น” เมิ่งลี่ลี่คิดว่ามันเป็นแบบนี้
“ผมรู้สึกว่าช่วงนี้เราอย่าเพิ่งมีการเคลื่อนไหวอะไรมากดีที่สุด ส้งฉางซิงจ้องมองอยู่ และยังมีคนที่อยู่เบื้องหลังของส้งฉางซิง ถึงแม้พวกเราจะไม่ได้ทำอะไรกับฉินหลั่งก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลย”
หยางจ้างกั๋วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วยิ้มอย่างชั่วร้าย
รุ่งเช้าวันที่สอง ท้องฟ้าเป็นสีเทา อุณหภูมิอยู่ที่สิบกว่าองศา ทำให้ผู้คนที่อยู่ในเมืองเริ่มสวมเสื้อหนามากขึ้นและร้านค้าตามถนนต่างๆเริ่มเปิดช้ากว่าปกติเล็กน้อย
แต่ว่าพวกอิงจิ่งหลิงยังคงเปิดตามเวลาปกติ อานซินและหมอทั้งแปดคนก็มาเป็นที่ปรึกษาตั้งแต่เช้า
ข้าวของในคลินิกถูกรถชนพังเสียหายไปไม่น้อย แต่ทุกคนมีประสิทธิภาพที่สูงมาก ภายในเวลาแค่วันเดียวก็สามารถทำให้คลินิกกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
วัตถุดิบยาที่ถูกทำลายไปก็มีการนำมาเพิ่มใหม่
ฉินหลั่งส่งข่าวมาบอกอิงจิ่งหลิง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ร้านหุยชุนยังคงต้องดำเนินกิจการต่อไป
อิงจิ่งหลิงจึงตั้งใจทำงานมาก
“บึ๋ม——”
เพียงแต่ว่าหลังจากที่พวกอานซินเพิ่งตรวจคนไข้สิบกว่าคนเสร็จ ที่หน้าประตูมีรถแท็กซี่หลายสิบคันแล่นเข้ามาจอดลง
หลังจากที่ประตูรถถูกเปิดออก มีชายหญิงประมาณสองร้อยคนในชุดที่แตกต่างกันเดินลงมาจาก
อิงจิ่งหลิงคว้ามีดทำครัวโดยสัญชาตญาณ
ชายหญิงพวกนี้ไม่ได้พุ่งตรงเข้ามาหาเรื่องในคลินิก แต่พวกเขาหยิบผ้าเขาออกมาแล้วพันไว้บนศีรษะพร้อมกัน
ที่ด้านบนมีตัวอักษรเขียนว่า “คืนความยุติธรรม!”
ไม่นานก็มีคนหลายสิบคนดึงป้ายออกมาจากรถแล้วเริ่มกางมา
ทุกแผ่นมีความยาวประมาณสิบกว่าเมตร ถ้าหากไม่ได้เขียนว่าฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิตก็เป็นฉินหลั่งเป็นฆาตกร
หลังจากนั้นชายหญิงสองร้อยกว่าคนเดินมาหยุดอยู่ที่ข้างหน้าของคลินิกแล้วตะโกนขึ้นพร้อมกัน “ฉินหลั่งคือฆาตกร คืนความยุติธรรม!”
“ฉินหลั่งคือฆาตกร คืนความยุติธรรม!”
เสียงตะโกนดังสนั่น ดึงดูดสายตาผู้คนนับไม่ถ้วน
และยังมีบางคนถึงขั้นปล่อยโฮร้องไห้ออกมา มือข้างหนึ่งถือรูปของเมิ่งเหมิงเหมิงส่วนมืออีกข้างกำลังเผากระดาษเงินกระดาษทองไม่หยุด
ส่วนเมิ่งลี่ลี่ที่เป็นผู้นำมีผ้าขาวพันรอบหน้าผาก กำลังร้องไห้น้ำตาไหลดั่งสายน้ำ
คนพวกนี้ไม่รู้ว่าโผล่ออกมาจากไหน ทั้งหมดนี้เมิ่งลี่ลี่น่าจะเป็นคนพามา
ผ่านไปไม่นานรอบข้างก็เริ่มมีคนมารุมล้อมมุงดูถึงหลายร้อยคน และยังมีสื่อบริษัทเล็กอีกสิบกว่าแห่งมา
เมื่อเกิดเรื่องบานปลายขนาดนี้ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน มันไม่เพียงแต่จะทำให้ร้านหุยชุนต้องปิดตัวลง แต่มันจะสร้างความกดดันให้กับฉินหลั่งจนยากที่จะพ้นข้อกล่าวหาด้วย
“ไอ้สารเลว นี่เป็นการบีบบังคับฉินหลั่นและคลินิกชัดๆ”
เมื่อเห็นภาพตรงหน้าอิงจิ่งหลิงรู้สึกโกรธจนควบคุมไม่อยู่ เธอหยิบมีดทำครัวขึ้นมาแล้วเดินตรงไปใกล้ฝูงชน “ไป ไป ไสหัวไปให้หมดเดี๋ยวนี้”
“ใครที่มันกล้าเข้าใกล้คลินิกฉันจะแทงคนนั้นให้ดู”
ท่าทางที่โกรธจนไม่สามารถควบคุมตัวได้ของเธอทำให้กลุ่มคนที่พันผ้าสีขาวไว้บนหน้าผากถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
“พี่สาวอย่าวู่วาม เก็บมีดทำครัวก่อน”
สวี่ซีเหวินรีบวิ่งเข้ามาดึงอิงจิ่งหลิง “ไม่งั้นถ้าถูกสื่อถ่ายไว้ได้ พวกเราจะยิ่งโดนเล่นงาน”
“เธอคิดว่าถ้าไม่มีรูปถ่ายแล้วพวกเขาจะไม่ทำอะไรต่ออย่างนั้นเหรอ?”
อิงจิ่งหลิงพูดด้วยความโกรธ “คนพวกนี้ต้องถูกจ้างมาอย่างแน่นอน จะใช้เหตุผลคุยกับพวกเขามันไม่มีประโยชน์หรอก มีเพียงแต่ต้องฟันให้ตายเท่านั้นพวกมันเท่านั้นถึงจะยอมไป”
สวี่ซีเหวินพูดห้ามปราม “พี่สาวฉันว่ายังไงก็อย่าใช้ความรุนแรงเลยดีกว่า จะได้ไม่สร้างปัญหาให้กับฉินหลั่งมากกว่านี้”
เมื่อได้ยินคำว่าสร้างปัญหาให้กับฉินหลั่ง อิงจิ่งหลิงจึงยอมเดินกลับออกมาจากประตู
“เจ้าของคลินิกฆ่าคน พวกคุณยังช่วยเขาหาผลประโยชน์อีก ยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า?”
“ใช่แล้วแต่ละคนดูดุร้าย แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไร”
“คนที่เป็นฆาตกรจะเป็นหมอที่ดีได้เหรอ?”
“ที่คลินิกยังต้องมีคนเลวอีกแน่”
“ไอ้พวกหมอใจดำ ฆาตกร คืนความยุติธรรมให้กับคุณชายเมิ่ง”
“ปิดล้อมคลินิก ลงโทษฉินหลั่ง คืนความยุติธรรมให้กับคุณชายเมิ่ง”
เมื่อเห็นอิงจิ่งหลิงถอยกลับไป ผู้คนก็เริ่มเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นและยังทำท่าทางดึงแขนเสื้อขึ้นเหมือนจะทุบทำลายคลินิก
ฝ่ายตรงข้ามมีคนเยอะกว่าเพียงแค่เดินเข้าใกล้ก็สามารถรับรู้ถึงแรงกดดัน พวกสวี่วีเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย
ในตอนนี้ลู้เป้าที่คอยเฝ้าระวังอยู่โดยรอบหรี่ตาลง เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับคนพวกนี้ทุกเมื่อ
ส่วนศิษย์หญิงของยาวเย่วกงขมวดคิ้วแน่น พวกเธอล้วนแต่เป็นคนที่เห็นเลือดจนชินตาแล้ว ขอเพียงแค่ฝ่ายตรงข้ามบุกเข้ามาจะต้องกลายเป็นภาพนองเลือดที่น่าสยดสยองแน่นอน
“ไสหัวออกไป!”
“ออกไปจากร้านหุยชุนเดี๋ยวนี้!”
“หมอฉินไม่มีทางเป็นฆาตกร เขาจะต้องถูกใส่ร้ายอย่างแน่นอน”
“พวกแกว่าร้ายหมอฉิน พวกแกจะต้องถูกสวรรค์จัดการแน่นอน”
ก่อนที่พวกอิงจิ่งหลิงจะได้ก้าวออกไปข้างหน้า คนไข้ที่มาตรวจโรคเดินออกมาขวางอยู่ข้างหน้าและยังสบถด่าพวกเมิ่งลี่ลี่
มีคนไข้หลายคนได้รู้เรื่องราวจากปากของอิงจิ่งหลิงมาก่อนหน้านี้แล้ว
ฉินหลั่งไปทวงความยุติธรรมด้วยความโกรธ
เมิ่งเหมิงเหมิงไม่เพียงแต่มาหาเรื่องคลินิกครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งไปกว่านั้นวันก่อนถึงขั้นใช้ให้คนขับรถขับเข้ามาชนใส่คลินิกและชนใส่ลมของคลินิกจนเกือบตาย
พวกเขาสามารถเข้าใจถึงความโกรธแค้นของฉินหลั่ง และพวกเขาก็รู้ถึงความหวังดีของฉินหลั่ง ดังนั้นเมื่อเห็นคนพวกนี้ใช้เมิ่งเหมิงเหมิงมาหาเรื่อง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมาปกป้องร้านหุยชุน
และนี่ก็เพื่อปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของพวกเขา เพราะถ้าหากคลินิกต้องปิดตัวลงแล้วต่อไปพวกเขาจะไปหาหมอที่ดีแบบนี้ได้ที่ไหนอีก
คนไข้ร้อยกว่าคนวิ่งเข้าไปหยุดกลุ่มคนที่มาก่อกวนเอาไว้
คนพวกนี้ภายนอกถึงแม้จะดูเหมือนเป็นคนของตระกูลเมิ่ง แต่ความเป็นจริงแล้วนอกจากเมิ่งเหมิงเหมิงก็ไม่มีคนอื่นอีกเลยที่ใช่ ที่แขวนเสื้อบนข้อมือของพวกเขาเผยให้เห็นรอยสักจางๆ แต่สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือคนไข้จะช่วยฉินหลั่ง ราวกับว่าคิดไม่ถึงฉินหลั่งจะมีบุญวาสนาแบบนี้
แต่ไม่นานพวกเขาทุกคนก็ตั้งสติกลับมาได้และเริ่มทำการสาปแช่งด่าฉินหลั่ง ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็จะรื้อถอนคลินิกให้ได้เพื่อเป็นการแก้แค้นให้กับเมิ่งเหมิงเหมิง
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันยังดุดัน ผลักกันไปผลักกันมา
มีบริษัทสื่อไม่น้อยกำลังยุ่งอยู่กับการถ่ายภาพทั้งหมดและยังมีการถ่ายทอดสดเรื่องราวความวุ่นวายที่หน้าร้านหุยชุน ซึ่งส่งผลให้ดึงดูดชาวเน็ตจำนวนมากมาดู
เพียงแต่ว่าการมาในครั้งนี้ส่วนมากจะเป็นคนไข้ที่เคยมาตรวจรักษาอาการที่ร้านหุยชุน หลังจากที่เห็นข่าวเรื่องนี้บนอินเทอร์เน็ตก็รีบเดินทางมาเพื่อช่วยเหลือทันที
ในพริบตาที่หน้าประตูของร้านหุยชุนก็มีคนมารวมกันอยู่ประมาณห้าถึงหกร้อยคน
คนไข้ประมาณสามร้อยกว่าคนขวางสมาชิกสองร้อยกว่าคนที่ตระกูลเมิ่งส่งมา ทำให้ถนนสี่เลนแถบจะถูกปิดกั้นจนหมด ทำให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการถนนต้องเข้ามาหยุดสถานการณ์
แต่ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะห้ามปรามยังไง พวกกลุ่มคนที่มาก่อเรื่องก็ไม่คิดที่จะแยกย้ายและไม่ยอมนั่งลงเจรจา เอาแต่จะปิดล้อมคลินิกให้ได้
ส่วนเมิ่งลี่ลี่ยืนยิ้มอย่างเย็นชาอยู่ด้านข้างโดยสองมือกอดอกมองดูสถานการณ์ที่กำลังเข้าใกล้จุดเดือด
เป้าหมายปัจุบันคือยิ่งทำให้เรื่องพวกนี้ซับซ้อนเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ทางที่ดีที่สุดคือทำให้ร้านหุยชุนมีเรื่องทุกวันจนกว่าจะยอมปิดกิจการไป อย่างน้อยก็สามารถทำให้สำนักงานคณะกรรมการยามีข้ออ้างในการแทรกแซง
ฉินหลั่งในตอนนี้ก็เหมือนกับเนื้อที่วางอยู่บนเขียง ส่วนตระกูลเมิ่งก็คือมีดที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน
“แก้แค้นให้คุณชายเมิ่ง ทำลายร้านหุยชุน!”
“ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต จะให้อภัยฉินหลั่งไม่ได้ จะให้เขาคอยนับเงินอยู่ในคุกไม่ได้!”
เมิ่งลี่ลี่ส่งสัญญาณทางตา ในตอนนั้นเองเหล่าสมาชิกที่มาก่อกวนก็เริ่มบุกตรงเข้าไปที่คลินิก
สมาชิกของตระกูลเมิ่งเริ่มแรกที่โห่ร้องตะโกนตอนนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นผลักและดัน จนทำให้คนไข้ที่มาตรวจดูอาการหลายคนล้มลงกับพื้น บรรยากาศยิ่งอยู่ก็ยิ่งตึงเครียด และสถานการณ์เริ่มจะควบคุมไม่ได้แล้ว
หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตามท้องถนนบริเวณรอบๆรีบเดินทางมารวมตัวเพื่อช่วยห้ามปรามแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน แต่ว่าสถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด คนของฝ่ายเมิ่งเหมิงเหมิงจู่ๆที่มือก็มีของบางสิ่งบางอย่างปรากฏขึ้นและขว้างไปทางกระจกของร้านหุยชุนอย่างแรง