รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 55 ตำรวจจับผิดคนแล้ว
บทที่ 55 ตำรวจจับผิดคนแล้ว
ในตอนที่เส้เหวินจี้งได้ยินกูเจี้ยนหมิงเรียกฉินหลั่งว่าหลี่ชิงเฉิน สมองของเธอก็ได้เงียบสงบลงทันที
หลี่ชิงเฉิน? นี่พูดไปมั่วไม่ใช่หรอ? เดี๋ยวนะ ทำไมชื่อนี้ถึงคุ้นขนาดนี้ จริงด้วย คือนายหนุ่มรวยที่อยู่ในสตูดิโอถ่ายทอดสดของจางเจียซิน
เส้เหวินจี้งเข้าใจแล้ว ฉินหลั่งใช้สถานะปลอมมาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้!
ยัยผู้ชายนี่สมองว่องไวจริงๆ แต่ว่าเขาจะคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่า ฉันและจูจี้เหวินจะมาที่นี่! ยิ่งคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะโชคขี้หมา ถูกรางวัลสร้อยคอคริสทัลเพชร
ฉินหลั่งเอ้ยฉินหลั่ง นายไอ้ทะลึ่งยังรู้สึกดีอกดีใจที่ถูกรางวัลใหญ่ไม่ใช่หรอ? ฉันจะเปิดโปงนายตอนนี้เลย ให้นายเขาไปในคุก
พอเส้เหวินจี้งตะโกนดังขึ้น ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้น แขกท่านอื่นๆ ต่างก็พูดคุยกันขึ้นมา
ฉินหลั่งถอนหายใจในใจ ตอนนี้ถูกเธอมาวุ่นวายแบบนี้เข้า ถ้าหากยอมรับไปแล้วก็จะยากที่จะจบเรื่องนี้อีก คนอื่นๆอาจจะสืบสถานะของเขา งั้นสถานะที่ตัวเองเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลฉินก็คงจะถูกคนอื่นรู้กันหมด
ตอนนี้ ฉินหลั่งทำได้แต่ปฏิเสธ
“คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณกำลังพูดอะไรอยู่ ฉันไม่เข้าใจ” ฉินหลั่งหยิบไมค์มา แล้วพูดพร้อมยิ้มอ่อน
“เฮอะ นายยังจะทำเป็นไม่รู้อีกใช่ไหม? อยู่ต่อหน้าเจ้านายมากมายขนาดนี้ นายพูดเอง นายคือใคร?” เส้เหวินจี้งถามด้วยความบีบบังคับ
“เมื่อกี้ประธานกูได้พูดแล้ว ในเมื่อคุณไม่เข้าใจ ผมบอกคุณอีกครั้ง ผมชื่อหลี่ชิงเฉิน”
“ในเมื่อนายพูดว่านายคือหลี่ชิงเฉิน งั้นนายพูดสิ นายคือประธานของบริษัทอะไร?” เส้เหวินจี้งจะให้ฉินหลั่งเผยพิรุธออกมาเอง คนที่มาร่วมงานนี้ต่างก็เป็นคนดังๆ มีชื่อเสียงในจินหลิง นายฉินหลั่งจะแกล้งเสแสร้งไม่ใช่หรอ? ฉันจะดูว่านายจะพูดยังไง?
“ฉันทำอะไรนั้นไม่จำเป็นต้องรายงานกับคุณ ในเมื่อฉันนั้นมีธุรกิจยี่สิบล้านที่ไปหาหาสู่กับประธานกู” สีหน้าของฉินหลั่งยิ่งอยู่ยิ่งดูหนักเข้าไปใหญ่
“ฮ่าฮ่า ยี่สิบล้าน นายฉินหลั่งก็ช่างกล้าพูดจริงๆ หากมียี่สิบล้านนี้ งั้นนายยังต้องไปขโมยเงินของมหาลัยอีกสองล้านด้วยหรอ นายนี่พิการทางสมองจริงๆ!” เส้เหวินจี้งคิดว่า ฉินหลั่งก็แค่พูดไปมั่วๆ ในสถานการณ์ที่รีบเร่ง “งั้นตอนนี้ก็ง่ายแล้ว ให้ประธานกูมาบอกพวกเรา นายมีธุรกิจยี่สิบล้านจริง หรือว่าพูดไปมั่วอยู่ที่นี่ และคิดร้ายหวังร้าย!”
อยากจากให้ประธานกูแสดงละครกับนาย ฝันไปเถอะ
แววตาของคนอื่นๆ ต่างก็รวมกันอยู่บนตัวของกูเจี้ยนหมิง ความจริงแล้ว พวกเขาเองก็มีความสงสัยฉินหลั่ง
“คุณชายหลี่มีธุรกิจยี่สิบล้านกับฉันจริงๆ แล้วก็ ในอนาคตภายในสองปี จะมีธุรกิจอีกสิบห้าล้าน” กูเจี้ยนหมิงพูดกับคนที่อยู่ข้างล่างเวที
เป็นไปได้ยังไง? รอยยิ้มบนใบหน้าของเส้เหวินจี้งแข็งทื่อไปเลย ขณะนี้สมองของเธอวุ่นวายไปหมด ประธานกูจะแสดงละครกับฉินหลั่งได้ยังไง? ฉินหลั่งเอายี่สิบล้านนี้มาจากไหน ไม่ใช่แบบนี้แน่นอน ทั้งหมดต่างก็เป็นความโกหก ยัยฉินหลั่งนั่นต้องใช้แผนการร้ายๆ แน่นอน!
“ไม่ใช่ ทุกคนอย่าเชื่อคำโกหกของยัยฉินหลั่งนี้เด็ดขาด ในโทรศัพท์ของฉันมีรูปของเขา เขาอยู่ในมหาวิทยาลัยของพวกเรา ก็คือไอ้ลามกอย่างเต็มตัว เดือนที่แล้วพึ่งขโมยไปสองล้าน ฉันมีรูปถ่าย พวกเธอดู” เส้เหวินจี้งเลื่อนโทรศัพท์ โชว์รูปของฉินหลั่งให้คนอื่นๆ ดู
แต่แล้วคนอื่นๆ ต่างก็ไม่ได้ดูเลย กูเจี้ยนหมิงได้ยืนยันแล้ว จะมีอะไรน่าสงสัยอีก
“ผู้หญิงคนนี้เป็นโรคหรอ?”
“เมื่อกี้สร้อยคือเกือบจะรันถึงหมายเลขเธอไง ฉันว่านี่ก็คืออิจฉาแหละ”
“นี่ก็ไม่มีมารยาทเกินไปแล้ว? สร้อยคอแพงจริงๆ แต่ก็ไม่สามารถไปทำร้ายคนอื่นด้วยความโหดร้ายขนาดนี้นิ?”
……
“คุณผู้หญิงท่านนี้ ไม่ต้องพูดไปมั่วแล้ว ขอเชิญคุณนั่งลงด้วยครับ!” กูเจี้ยนหมิงพูดพร้อมขมวดคิ้ว
เส้เหวินจี้งยังอยากจะวุ่นวายต่อ แต่ถูกจูจี้เหวินดึงให้นั่งลงแล้ว ดูแล้วกูเจี้ยนหมิงรู้สึกโกรธแล้ว อีกอย่างถ้าหากเขาพูดเรื่องที่พวกเธอใช้เส้นสายออกมา ก็ไม่ดีแล้ว
หลังจากที่เส้เหวินจี้งนั่งลงแล้ว ก็ใช้โทรศัพท์กดเบอร์ 110 มหาลัยไม่แจ้งความ งั้นก็ให้เธอมาแจ้งเลย ให้ตำรวจมาดู โจรที่ขโมยเงินไปสองล้าน ไม่รู้สึกผิด ยังจะออกมาโกหกหลอกลวงไปทั่ว
“ว่างจนยุ่งวุ่นวายไปหมดจริงๆ” กูเจี้ยนหมิงพูดพึมพำไปไม่กี่ขำ ให้เธอทำร้ายคุณชายใหญ่อยู่ที่นี่ตลอดเวลา ให้ฉันทำยังไง?
กูเจี้ยนหมิงหยิบสร้อยคอมาจากมือของนางแบบ แล้วมอบสร้อยไปยังมือของฉินหลั่งด้วยความเคารพ
“ขอบคุณครับ” ฉินหลั่งพูดด้วยเสียงเบาไปหนึ่งประโยค ใช้มือจับสร้อยคอ แล้วหันไปทางจงยู่ “เราคบกันนานขนาดนี้ ฉันไม่เคยมอบของดีๆอะไรให้เธอเลย วันนี้ขอใช้สร้อยเส้นนี้ชดเชยก่อนนะ ในอนาคต ฉันค่อยซื้อสิ่งที่ดีกว่าให้เธอ”
พูดจบ ฉินหลั่งก็นำสร้อยคอสวมให้จงยู่ แล้วจัดให้เธอ
จงยู่ที่สวมสร้อยคริสทัลเพชรสวยงามมาก ราวกับหญิงงามที่มาจากตระกูลดีงามมีชื่อเสียง ส่วนเส้เหวินจี้งที่นั่งอยู่ข้างล่างนั้น ขณะนี้โมโหและอิจฉาไปหมดแล้ว
“คุณจงยู่ คุณชายหลี่ได้มอบสร้อยคอราคาแปดแสนแปดพันให้คุณแล้ว คุณไม่แสดงอะไรหน่อยหรอครับ” กูเจี้ยนหมิงยิ้มแล้วพูด
“ใช่แล้ว แสดงหน่อย แสดงหน่อย!”
“ทั้งสองจูบกันหน่อยเถอะ”
“จูบหน่อย”
คนที่อยู่ข้างล่างเวทีต่างก็ตะโกนขึ้นมา
หน้าของจงยู่ก็ไปแดงแล้ว เธอมองไปทางฉินหลั่งด้วยแววตาขอความช่วยเหลือ กลับทำสีหน้าเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง แค่ยิ้มอ่อนแล้วมองเธอ
เสียงตะโกนยังคงดังไม่หยุด
จงยู่จับปลากระโปรงชุดเดรส ในใจกำลังพูดด่าฉินหลั่งอยู่ ยัยฉินหลั่งบ้า ไม่รู้จักช่วยฉันหน่อยเลย
เพราะความกดดันของคนในงาน จงยู่กัดฟัน แล้วเขย่งเท้า จากนั้นก็จูบไปยังริมฝีปากของฉินหลั่งเบาๆ
แฮะๆ สุดท้ายก็จูบฉันแล้วใช่ไหมล่ะ? ฉินหลั่งดีใจมากๆ
ตอนแรกจงยู่แค่อยากจะจูบเบาๆ เหมือนแมลงปอจิบน้ำ แต่คิดไม่ถึงว่าฉินหลั่งยังกอดตัวเอง แล้วทำท่า “โรคจิต” มากๆ ออกมาด้วย เขากลับใช้ลิ้นยื่นเข้ามาในปากของตัวเอง แล้วยัง…..
จงยู่อึ้งไปเลย เธอรู้สึกอายมากๆ อยากจะปฏิเสธ แต่ว่าห้ามไว้ไม่ได้จริงๆ
ได้แต่มองฉินหลั่งด้วยความตกใจ แต่ว่าฉินหลั่งหลับตาอยู่ ดูเหมือนกำลังลิ้มรสอย่างมีความสุข
อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ตัวเองจะทำการกระทำที่เวอร์เกินไปก็ไม่ดี ได้แต่ปล่อยฉินหลั่งไป
หลังจาก 20 วินาทีเต็มๆ ฉินหลั่งจึงจะค่อยๆ ปล่อยจงยู่ออก เขายังเช็ดริมฝีปากด้วยความพอใจด้วย แล้วเผยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์มองไปทางจงยู่
จงยู่ยิ้มด้วย “ความโมโห” เธอยื่นมือไปทางข้างหลังของฉินหลั่งเงียบๆ แล้วหยิกไปที่หลังเขาแรงๆ หนึ่งที เห็นริมฝีปากของฉินหลั่งสั่นแล้วมองเธอด้วยรอยยิ้ม ในดวงตาเหมือนแฝงน้ำตาอยู่ จงยู่ก็ยิ้มด้วยความได้ใจ
ขณะนี้ ประตูใหญ่ของห้องจัดงานได้ถูกเปิดออก มีตำรวจที่สวมชุดตำรวจเดินเข้ามาสี่ห้าคน
คนอื่นๆ ต่างก็ไม่ชัดเจนกับสถานการณ์ เกิดอะไรขึ้น ตำรวจมาได้ยังไง? แต่เส้เหวินจี้งเห็นตำรวจแล้ว สีหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมา
ฉินหลั่ง ยัยคนโกหกที่หน้าไม่อาย ถึงเวลาที่ต้องไปนั่งในคุกแล้ว
“คุณตำรวจ ฉันเป็นคนแจ้งความเอง มหาลัยของเรามีเงินจำนวนสองล้านหายไป ก็คือคนที่อยู่บนเวทีขโมยไปเอง ผู้นำในมหาลัยของเรารู้ พวกคุณจับเขาไปในตอนนี้เลย!” เส้เหวินจี้งวิ่งไปยังข้างหน้าของตำรวจด้วยความดีใจ ชี้ไปทางฉินหลั่งที่อยู่บนเวทีแล้วพูด
แววตาของเธอประกายไปด้วยแสงสว่างแห่งรอยยิ้ม ฉินหลั่ง นายจบแล้ว!
“ขอโทษครับ พวกเราคือตำรวจที่มาปฏิบัติงานเอง ไม่ใช่มาเพราะมีคนแจ้งความครับ” ตำรวจที่เป็นหัวหน้าพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ไม่ใช่?” เส้เหวินจี้งอึ้งไปเลย
“แต่ว่าสิ่งที่คุณพูดเหมือนว่าจะเป็นคดีเดียวกับเรานะครับ พวกเรามาที่นี่ เพราะว่าจะมาจับกุมผู้ต้องสงสัยครับ”
“งั้นก็ดีแล้วค่ะ คุณตำรวจ ลงมือเถอะค่ะ รอคุณจับเขาไปสถานีตำรวจแล้ว ฉันจะไปส่งจดหมายชื่นชมให้พวกคุณเองค่ะ” เส้เหวินจี้งพูดด้วยความโล่งอกในใจ
“ลงมือ!” หัวหน้าตำรวจพูดขึ้น ตำรวจที่อยู่ข้างหลังสี่คนรีบพุ่งออกไปทันที แต่ว่าไม่ได้พุ่งไปทางฉินหลั่งที่อยู่บนเวที แต่พุ่งไปทางจูจี้เหวิน ตำรวจสมองคนเพียงแค่สองสามที ก็กดทับจูจี้เหวินไว้พื้นแล้ว
จูจี้เหวินกำลังตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“คุณตำรวจ พวกคุณจับผิดคนแล้ว เขาคือแฟนของฉัน ผู้ต้องสงสัยที่พวกคุณจะจับอยู่บนเวที รีบปล่อยเขาออก” เส้เหวินจี้งอยากจะดึงตำรวจออกเพื่อช่วยจูจี้เหวิน
“คุณคือแฟนของเขา?” หัวหน้าตำรวจมองไปทางเส้เหวินจี้ง แล้วพูดกับตำรวจอีกสองคนว่า “จับเธอไว้!”
เส้เหวินจี้งยิ่งไปใหญ่ เพียงแค่ไม่กี่วินาที ก็ถูกตำรวจควบคุมไว้แล้ว
“ทำอะไรเนี่ย! ฉันจะฟ้องว่าพวกนายจับคนไปมั่ว ปล่อยฉันออก” เส้เหวินจี้งโมโหมากๆ ยัยตำรวจพวกนี้ที่แยกแยะถูกผิดไม่ออก ผู้ต้องสงสัยตัวจริงไม่จับ แต่กลับมาจับพวกเรา “ไม่ปล่อยฉันใช่ไหม? ได้ ฉันจะนำเรื่องนี้ไปบอกหัวหน้าของพวกนายแน่ๆ พวกนายรอถอดชุดตำรวจได้เลย!”
“สาวน้อย ข้าวสามารถกินไปทั่วได้ แต่ว่าคำพูดจะพูดมั่วไม่ได้นะ” หัวหน้าตำรวจยิ้มอ่อนแล้วพูด “ฉันถามเธอนะ พวกแบรนด์เนมบนตัวของเธอ เครื่องประดับพวกนี้ มายังไง? ตามที่พวกเราเข้าใจนั้น หนึ่งเดือนมานี้ พวกเธอทั้งสองได้ซื้อของมากมายจากร้านหรูต่างๆ และโรงแรมห้าดาว เงินพวกนี้ต่างก็มาจากที่ไหนกัน?”
“เฮอะ แฟนฉันรวยไม่ได้หรอ? ตำรวจอิจฉาในความรวยก็สามารถจับคนไปมั่วได้หรอ?” เส้เหวินจี้งพูดด้วยความคัดค้านต่อต้าน
“บ้านของจูจี้เหวินเปิด ktv ร้านหนึ่ง ร้านอาหารร้านหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นเศรษฐีคนหนึ่งได้ นายคิดว่าทั้งเดือนนี้ได้ใช้เงินมากมายขนาดนี้ เขาจะสามารถรับผิดชอบไหวจริงๆ?”
พอตำรวจถามแบบนี้ จู่ๆ เส้เหวินจี้งก็รู้สึกว่า เดือนนี้จูจี้เหวินมีความแปลกเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ที่คบกับเขา ถึงแม้ว่าจูจี้เหวินจะมีเงิน แต่ก็แค่นานๆครั้งที่จะพาเธอไปทานอาหารในเมือง ให้เงินเธอไปทำสวยอะไรประมาณนี้
แต่ว่าเดือนนี้ ราวกับว่าจะทุกวันเลยที่จูจี้เหวินพาเธอไปใช้จ่ายในสถานที่แพงๆ ค่าใช้จ่ายในทุกๆวันอยู่ที่ประมาณหกเจ็ดหมื่น เกินเลยกว่าเมื่อก่อนไปเยอะมาก
หรือว่า….
เส้เหวินจี้งนึกปัญหาที่น่ากลัวหนึ่งออกกะทันหัน
ขณะนี้ หัวหน้าตำรวจได้พูดความคิดของเธอออกมาแทนเธอแล้ว
“ทางเราได้รับการแจ้งความ และมีหลักฐานในมือมากพอแล้ว จูจี้เหวินก็คือคนที่ขโมยเงินสองล้านของซูมั่นหยูนในมหาลัยจินหลิงไป ส่วนเธอนั้น พวกเรายังต้องทำการสืบอีกขั้นหนึ่ง ตอนนี้พวกเราต้องจัดการกับพวกคุณตามมาตรการ จับกุมพวกคุณแล้วดำเนินการตามคดี”