รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 451 เจอโดยบังเอิญ
บทที่ 451 เจอโดยบังเอิญ
“อ๋อ” นิ่งต้าฟู่ดึงมือกลับอย่างกระอักกระอ่วน เขามองคนอื่นบนโต๊ะ นี่เป็นโต๊ะหลัก คนที่นั่งอยู่มีแต่คนดังมีชื่อเสียงในแต่ละที่ ตอนสายตาเขาปรายมองผ่านฉินหลั่งก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ ส่วนฉินหลั่งเองก็ไม่รู้จักคนๆนี้
“คุณฉิน คุณกับบริษัทฉินซื่อของเราช่างดวงสมพงศ์กันจริงๆ เพราะชื่อคุณเองก็มีคำว่าฉินเหมือนกัน” นิ่งต้าฟู่ยิ้มฮิฮิพูด ดูเหมือนเทพเจ้าโชคลาภกำลังยิ้มร่า เขายื่นมืออวบอ้วนของเขาออกมา หวังจะจับมือกับฉินหลั่ง
ในตอนนี้เอง ข้อมือของนิ่งต้าฟู่โผล่ออกมาจากเสื้อผ้า ฉินหลั่งชะงักเล็กน้อย และเหล่มองนิ่งต้าฟู่อย่างไม่ให้ผิดสังเกต ข้อมือขวาของนิ่งต้าฟู่มีรอยสักนกนางแอ่น มันเล็กมาก แต่พอจะเห็นได้ชัดว่า บริษัทฉินซื่อเป็นของตระกูลฉินแน่แล้ว
เพราะที่ตระกูลฉิน พวกคนในระดับหนึ่งจะสักสัญลักษณ์แบบนี้ไว้ เพื่อสะดวกในการแยกแยะคนในตระกูลได้
ซีอีโอ? งั้นต้องเป็นคนที่ตระกูลฉินค่อนข้างให้ความสำคัญถึงมีสิทธิ์มารับตำแหน่งนี้ได้ สามารถทำตำแหน่งนี้ได้ ส่วนมากจะเป็นคนสนิทของประธานกรรมการ หรือว่าคุณปู่ฉินป๋อสงดันขึ้นมาเองเลย?
แต่ดูจากท่าทีนิ่งต้าฟู่แล้ว ออกแนวประจบเอาใจหน่อยๆ ดูยิ้มรื่นเชียว แล้วคนสนิทของผู้บริหารตระกูลฉินคนไหนบ้างไม่ใช่คนใหญ่เรียกใครทีมาเพียบ ท่าทีดูมีสง่าราศี ทำไมต้องมานั่งประจบประแจงข้าราชการอย่างหลี่เสี่ยนด้วยล่ะ
ฉินหลั่งค่อนข้างงุนงง ฐานะอย่างตระกูลฉิน หลังจากนิ่งต้าฟู่ขึ้นมาทำตำแหน่งนี้ได้ ถือว่ามีฐานะสูงมากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำตัวอ่อนด้อยคอยประจบคนนั้นคนนี้แบบนี้
พอคิดแบบนี้ ฉินหลั่งยื่นมือออกมาจับมือเชคแฮนด์กับอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยได้ทำ สายตาคนนั้นส่อแววดีใจเล็กน้อย หลี่เสี่ยนเองก็เห็นฉากนี้ ท่าทีเขาดูอ่อนโยนขึ้นทันที
“คือว่า คุณนิ่งครับ นั่งที่โต๊ะนี้เถอะครับ”
“หือ? ได้หรอ? งั้นขอบคุณนะ” นิ่งต้าฟู่รู้ดีว่ามันเป็นมารยาทอย่างหนึ่ง เลยไม่ได้ปฎิเสธไป รีบนั่งลง และเริ่มสนทนากับคนอื่นในโต๊ะ
“บริษัทฉินซื่อหรอ ฉันเคยได้ยินมาก่อน นี่เป็นบริษัทระดับต้นๆของเย็นจีนเลยนะ ดูเหมือนธุรกิจจะใหญ่มากด้วย ไม่เพียงทำที่ดินอสังหาริมทรัพย์ และยังเรื่องลงทุน การคมนาคมขนส่ง แม้แต่ธุรกิจการศึกษา พวกอุตสาหกรรมที่สามก็ยังทำ พัฒนาไปได้รุ่งเรืองมาก” ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งในที่นั้นพูดอย่างหยอกเย้า
“ใช่ บริษัทฉินซื่อทำได้ดีมาก ตอนนี้มีทรัพย์สินเป็นพันล้านหมื่นล้านแล้วมั้ง” นิ่งต้าฟู่พูดยิ้มฮิฮิ
ทุกคนอดทึ่งไม่ได้ บริษัทระดับหมื่นล้าน การได้เป็น CFO ต้องมีคุณลักษณะเด่นเหนือคนอื่นอยู่แน่นอน
นิ่งต้าฟู่คนนี้ถึงดูไม่เท่าไหร่ แต่พอคนถามเขา เขาพึ่งอายุสามสิบต้นๆ เรียกได้ว่าอนาคตยังอีกไกล
แถมนิ่งต้าฟู่ยังพูดด้วยความมั่นใจ เดิมเขาเองก็รู้สึกว่าตัวเองควรมานั่งตำแหน่งนี้ เพราะฐานะของเขาก็รู้ๆกันอยู่ เมื่อกี้ยังคิดจะหาเหตุผลมานั่งที่นี่อยู่เลย ไหนเลยดูเหมือนหลี่เสี่ยนจะเดาใจเขาออก และทำตามความพอใจของเขาซะนี่
ทุกคนต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความสำเร็จของกันและกัน พริบตาเดียวก็เมากันถ้วนหน้า บางคนถามอย่างแปลกใจว่า: “ประธานนิ่ง ได้ยินว่าบริษัทฉินซื่อกับ ต้าหัวกำลังลงแข่งขันแย่งชิงที่ดิน แถมแย่งกันดุเดือดมากด้วย คุณพอจะรู้ตื้นลึกหนาบางสักหน่อยไหม?”
คนที่ถามคำถามนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งในตลาดหุ้น เขาดูจะสนใจนิ่งต้าฟู่เอามากๆ คอยถามนั่นถามนี่ไม่หยุด ทุกคนดื่มกินกันพอควรแล้ว ไม่งั้นคงไม่กล้าถามคำถามแบบนี้ออกมาแน่ เพราะการแข่งขันในโลกธุรกิจมีผลกระทบต่อการผันผวนของหุ้นในตลาดหุ้นพอดู
พอคำถามนี้ออกมา ผู้คนพากันเงียบนิ่ง และพากันพุ่งสายตาไปที่นิ่งต้าฟู่ ข่าวนี้มันเย้ายวนใจคนนัก ทุกคนต่างอยากรวยทางลัดจากข่าวภายในนี้กันทั้งนั้น
ต้าหัวก็เป็นบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งของเย็นจีน มีความสามารถอย่างที่เห็นๆกันอยู่ สองบริษัทใหญ่แย่งชิงกัน ต้องมีผลประโยชน์มากแน่ๆ
ส่วนฉินหลั่งพอได้ยินคำว่าต้าหัวก็ขยับตัวเล็กน้อย ต้าหัวค่อนข้างใช้เงินไปกับการโฆษณามากหน่อย ดังนั้นเขาเลยรู้จักชื่อนี้ หรือว่ามีคนกำลังโจมตีตระกูลฉินที่ฉินเทียนว่า จะหมายถึงต้าหัวนี่?
นิ่งต้าฟู่ยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ตอบคำอะไร ตอนนี้มีอีกคนพูดขึ้นมาว่า: “สินต้าหัวเป็นคนรวยอันดับต้นของเย็นจีน บริษัทฉินซื่อครั้งนี้ได้เจอคู่แข่งแล้วล่ะ ผมว่านะ บริษัทฉินซื่ออาจจะสู้ต้าหัวไม่ได้”
“เหอะเหอะ!บริษัทต้าหัวน่ะมีตระกูลสินคอยหนุนหลังอยู่ แต่แบ็คของบริษัทฉินซื่อเราคือตระกูลฉิน พวกคุณวางใจได้เลย ใครจะชนะยังไม่รู้แน่ชัดหรอก” นิ่งต้าฟู่เริ่มมีแววเมา แต่น้ำเสียงมั่นใจเต็มขั้น
ฉินหลั่งขมวดคิ้วเล็กน้อย นิ่งต้าฟู่เป็นคนรับใช้ของตระกูลฉินน่ะใช่ แต่ไม่จำเป็นต้องยกตระกูลฉินออกมาก็ได้มั้ง แบบนี้มันดูโอ้อวดมากเกินไป ไม่สมกับความอ่อนน้อมถ่อมตนของพวกตระกูลฉินเลย
สำหรับตระกูลสิน เขาเคยได้ยินชื่อมาก่อน ในวันนั้นที่โดนคุณปู่ไล่ออกจากบ้าน ก็ได้ยินว่าตระกูลสินหลายปีมานี้เติบโตใหญ่มาก และเป็นตระกูลลับๆตระกูลหนึ่ง ไม่เพียงจะสูสีกับตระกูลฉินในทุกๆด้านแล้ว ตระกูลสินยังมีความทะเยอทะยาน พวกเขานำหน้าตระกูลฉินแล้วในบางด้าน
ถ้าอย่างนั้นสถานการณ์ตอนนี้ของตระกูลฉิน ต่อให้ไม่ต้องถามฉินเทียนก็รู้ได้ไม่ยาก ส่วนมากเป็นเพราะตระกูลสินคอยก่อกวน ไม่อย่างนั้นฉินเทียนคงไม่รีบร้อนโทรหาเขาแบบนี้
เพราะนอกจากตระกูลสินแล้ว ทั่วทั้งจีนไม่มีใครกล้ามาเทียบไหล่กับตระกูลฉินแน่!
พอทุกคนเห็นว่าถามไม่ได้คำตอบ ต่างไม่พูดอะไรอีก เพราะการแข่งขันกันระหว่างตระกูลฉินกับตระกูลสิน ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับพวกเขาเท่าไหร่ แถมคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระกูลฉินกับตระกูลสินมีดีที่ตรงไหน โดยเฉพาะตระกูลฉินแทบไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ
เพียงแต่ว่าเจ้านิ่งต้าฟู่นี่คงจะดื่มมากไปแล้ว เขาพูดด้วยสีหน้าแดงก่ำว่า: “ที่นั่งกันอยู่นี่ไม่ค่อยมีนักธุรกิจเท่าไหร่เลย ถ้าให้นักธุรกิจระดับท็อปอย่างผมมาพูด พวกคุณส่วนใหญ่น่ะหยิ่งเกินไป ไม่ได้มีเงินอะไรมากมายยังทำท่าเหมือนรวยกว่าคนอื่น มีประโยชน์อะไรล่ะ? จัดกิจกรรมทีหนึ่งยังคาดหวังให้องค์กรของเราให้เงินพวกคุณหรอ?!”
บรรยากาศบนโต๊ะเริ่มแย่ลงทันที บางคนมีสีหน้ามึนตึง พูดอะไรน่ะ ไม่ต่างอะไรกับด่าคนเลย จะบอกว่าพวกเราจนแล้วยังอวดรวยล่ะสิ?
“ต้าฟู่ นายดื่มมากไปแล้ว” ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดหลักทรัพย์คนนั้นเอ่ยปากเตือน
“เหอะเหอะ ฉันไม่ได้ดื่มมากซะหน่อย ฉันแค่พูดตามที่คิดเท่านั้นเอง ตอนอยู่ในมหาลัยทำงานที่ได้เงินเดือนหลายพันต่อเดือน และยังพยายามทำเพื่อให้โครงการหนึ่งยอมลงทุนเงินเล็กน้อยให้ เห็นพวกเจ้าของบริษัทด้านนอกหาเงินได้เยอะก็อิจฉาตาร้อน ถ้ามีโอกาสออกมา ก็ต้องทำงานหาเงินอยู่ดี? แค่ไม่มีโอกาสเท่านั้นเอง”
สีหน้าหลี่เสี่ยนดูย่ำแย่มาก คนอย่างเธอหลี่เสี่ยนเองรับงานเสริมเป็นอาจารย์สอนของโรงเรียนทหารเหมือนกัน นี่เท่ากับเป็นการต่อว่าคนจัดงานอย่างเธอนี่นา เลขาทำบ้าอะไรเนี่ย ทำไมไปเชิญใครที่ไหนก็ไม่รู้มา? กลับไปต้องทำการตำหนิซะหน่อยแล้ว
“คุณดูอย่างผมสิ เรียนจบมาก็ได้งานดีมาก ปีหนึ่งหาเงินห้าล้านมาได้สบายๆ เหมือนกับเล่นเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผมใกล้จะได้เงินก้อนใหญ่อีกก้อนหนึ่งอีก เงินก้อนนี้พอให้ผมใช้ไปอีกครึ่งชีวิตที่เหลือเลยล่ะ” นิ่งต้าฟู่พูดพลางเหล่ไปทางหลี่เสี่ยนอย่างท้าทายในที เขาสัมผัสได้ถึงความรังเกียจและดูถูกของหลี่เสี่ยนที่มีต่อเขาได้นานแล้ว ดังนั้นเลยอาศัยตอนเมาพูดจาประชดประชันซะเลย
ฉินหลั่งขมวดคิ้วมุ่น พลางคิดในใจว่าคนนี้มีปัญหาอย่างมาก ทำไมพูดอะไรต่อคนภายนอกหมด แถมปากสว่างซะขนาดนี้ แต่เขาครุ่นคิดเล็กน้อย พลางจ้องเขม็งไปที่นิ่งต้าฟู่
นิ่งต้าฟู่พูดมาถึงตรงนี้ ที่โต๊ะเดิมของเขามีคนรีบเดินเข้ามาตะคอกเสียงดังว่า: “นิ่งต้าฟู่! นายดื่มมากไปแล้ว!”
นิ่งต้าฟู่สะดุ้งเฮือก ได้สติกลับมาทันทีว่าตัวเองพูดอะไรออกไป สีหน้าพลันซีดเผือด
“ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมขอพาเขาไปสูดอากาศด้านนอกสักหน่อย ไม่งั้นเขาจะพูดจาเลื่อนเปื้อนไปเรื่อย ขอโทษด้วยครับ ขอโทษจริงๆ” ผู้ชายวัยกลางคนที่เข้ามาตะคอกนิ่งต้าฟู่ยกมือขึ้นขอโทษขอโพยยกใหญ่
หลี่เสี่ยนยิ้มเย็นชา ไม่ได้ตอบอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะฉินหลั่งแสดงอาการสนใจบริษัทฉินซื่อ เธอคร้านจะสนใจข่าวไม่เป็นทางการพวกนี้หรอก นายนิ่งต้าฟู่นี่นิสัยไม่ดีเท่าไหร่เลยจริงๆ