รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 331 ความแค้นนานนับร้อยปีถึงเวลาจัดการเสียที
บทที่ 331 ความแค้นนานนับร้อยปีถึงเวลาจัดการเสียที
“ไห่ซา!” จ้านเทียนหยาตะคอกใส่
เมื่อได้ยินหัวหน้าแก๊งเรียกเอาไว้ ลี่ไห่ซาถึงได้ยอมหยุด ท่าทางของเขาโศกเศร้าเสียใจหมดอาลัยตายอยากเป็นที่สุด
“ความรู้สึกที่เจ้ามีกับหย่างเที่ยน ฉันเข้าใจดี! ฉันสามารถให้โอกาสกับแกอีกสักครั้ง!” จ้านเทียนหยากล่าวออกมา “รอเวลาที่พวกเรากลับไปที่ประเทศจีนถึงเวลานั้น เจ้าก็สามารถฆ่าคนในวงการต่อสู้ของจีนได้อย่างตามใจปรารถนา ไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น!”
“ใช่แล้ว หัวหน้าแก๊ง ยามเมื่อพวกเราสามารถกลับไปที่ประเทศจีนอีกครั้ง ข้าน้อยก็จะฆ่าคน ฆ่าคนจีน! เพราะคนของทางจีนฆ่าหย่างเที่ยน และฆ่าจู่ซือหูหรูหลี่ของพวกเราอีก ข้าน้อยต้องการล้างแค้นให้กับหย่างเที่ยน และจะล้างแค้นให้จู่ซืออีกด้วย!” ลี่ไห่ซากล่าวออกมา(จู่ซือ ผู้ก่อตั้งหรือเจ้าสำนัก)
“ฉันรู้ว่าเจ้านั้นเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ว่าต้องรอจนถึงเวลาที่วิทยายุทธ์ของฉันสำเร็จเสียก่อน พวกเราค่อยเริ่มลงมือต่อสู้กับวงการต่อสู้ของจีน ให้พวกมันได้รับกรรมกับความผิดในปีนั้น!”
หลายวันมานี้จ้านเทียนหยาเอาแต่หมกมุ่นการฝึกวิชาที่มีชื่อว่า “นี่ล่วนเคล็ดลับที่แปด” !
วิชานี่ล่วนเคล็ดลับทั้งที่แปดสำเร็จแล้ว บนโลกใบนี้ก็ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้ ถึงเวลานั้นเขาก็จะเป็นหัวหน้าแก๊งหัวชิงแล้วจู่โจมประเทศจีนทันที วงการต่อสู้ของจีน ก็จะหายวับไปกับตาดั่งลมพายุพัดใบไม้ ไม่เหลือเศษซาก ฆ่าไอ้คนที่ทำร้ายจู่ซือในเวลานั้นพร้อมทั้งเอาตำแหน่งหัวหน้าเจ้าสำนักของวงการต่อสู้ของจีนกลับคืนมา
ถึงเวลานั้น วงการต่อสู้ของจีนมีเพียงแก๊งหัวชิงเท่านั้นที่ไม่ต้องฟังคำสั่ง!
“ท่านต้องใช้เวลาสักกี่มากน้อย วิทยายุทธ์ถึงได้ฝึกสำเร็จ?” ลี่ไห่ซาถามด้วยความรีบร้อน
“ต้องเก็บตัวถือศีลเดือนกว่า! หลังจากผ่านไปเดือนหนึ่งแล้ว วงการต่อสู้ของจีน ก็จะตกมาอยู่ในมือของพวกเราแล้ว” จ้านเทียนหยาเอ่ยขึ้นมา
เดือนกว่า! ลี่ไห่ซารู้สึกว่ามันนานเกินไป ตอนนี้เขาเกลียดจนทนไม่ไหวจนอยากจะพลิกแผ่นดินจีน ให้เขารอต่อไป เขาก็คงต้องอดกลั้นจนต้องตายไปแน่!
“เจ้าสำนัก ลี่ไห่ซาขอร้อง ให้ศิษย์ไปยังประเทศล่วงหน้าเถอะ เพื่อจะได้ไปจัดการวงการต่อสู้ของจีนไป!” ลี่ไห่ซาพูดขึ้นมาโดยทันที
“เจ้าจะไปคนเดียวเหรอ?” จ้านเทียนหยากำลังครุ่นคิด ความคิดที่ลี่ไห่ซาจะไปก่อน
“ไม่ผิดหรอก ท่านเจ้าสำนัก ฉันมั่นใจ จากนี้ไปวงการต่อสู้ของจีน คนที่สามารถชนะศิษย์ได้นั้นไม่มีแล้ว! หัวหน้าแก๊งการที่ท่านไปก็คือไปแผ่อำนาจ ความจริงแล้วที่ฉันไปนั้น ฉันเชื่อว่าพวกเราสามารถชนะได้อย่างขาดลอย! ฉันยินยอมลองออกตัวก่อนหัวหน้าแก๊ง เพื่อจะได้ไปก่อกวนหวงหลงของวงการต่อสู้ของจีน!”
ลี่ไห่ซาพูดออกมาด้วยความมั่นอกมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
จ้านเทียนหยากำลังครุ่นคิด ในสมองของเขานั้นกำลังเปรียบเทียบ คนในวงการต้องสู้ที่มีชื่อเสียงของเมืองจีนนั้น ความสามารถน้อยกว่าลี่ไห่ซา เขาพบว่า การที่ลี่ไห่ซาไปที่ประเทศจีนนั้น ก็ไม่มีใครที่เป็นศัตรูของเขาได้เลย เมื่อเอาคนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขามาเปรียบเทียบแล้ว ถือว่าลี่ไห่ซาอยู่เหนือกว่าคนอื่น!
“ได้ ฉันให้แกไป! อย่าเอาแก๊งหัวชิงของฉันไปทำให้ขายหน้าได้! ฉันหวังว่ารอวันที่ฉันออกจากเก็บตัวถือศีลแล้ว แกก็จะมีชื่อเสียงดังกระฉ่อนในประเทศจีนแล้ว”
จ้านเทียนหยาตัดสินใจแล้ว ถ้าให้ผู้พิทักษ์ออกไปลงมือ จนสามารถทำให้วงการต่อสู้ของจีนพ่ายแพ้อย่างยับเยิน เช่นนั้นก็จะทำให้วงการต่อสู้ของจีนเคารพยำเกรงแก๊งหัวชิงด้วย การที่แก๊งหัวชิงจะกลับประเทศจีนนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือเอง!
“ครับ! ขอบคุณที่หัวหน้าแก๊งตอบรับ!”
เมื่อได้ยินหัวหน้าแก๊งนั้นยอมรับในสิ่งที่ตนเองขอร้องแล้ว ลี่ไห่ซาดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขานั่งคุกเข่าลงกับพื้น จากนั้นก็โขกหัวคารวะเป็นการขอบคุณจ้านเทียนหยา “ลี่ไห่ซาจะไม่ทำลายความเชื่อมั่นของหัวหน้าแก๊งเลย จะทำให้วงการต่อสู้ของจีนตกต่ำย่ำแย่ รอจนวันที่หัวหน้าแก๊งออกมาจากการเก็บตัวก่อน ฉันจะให้ทางวงการต่อสู้ของจีนโทรศัพท์เข้ามาเพื่อแสดงความยินดี! ให้บุคลากรในวงการต่อสู้ของจีน มาคุกเข่าเชิญให้แก๊งหัวชิงกลับไปที่ประเทศจีน!”
“ดี!” คำพูดของลี่ไห่ซา ความจริงแล้วคือเป็นการทำให้จ้านเทียนหยาได้สบายใจ “พรุ่งนี้ฉันจะส่งจดหมายก่อสงครามไปทางวงการต่อสู้ของจีน โดยเร็วที่สุด แกก็ไปที่ประเทศจีนก่อนเลย หวังว่าจะเป็นไปตามที่แกคิดเอาไว้ ให้วงการต่อสู้ของจีนพ่ายแพ้อย่างราบคาบ!”
“ครับ!” ลี่ไห่ซาคำนับอีกครั้ง
เช้าวันรุ่งขึ้น จ้านเทียนหยาก็เขียนจดหมายออกมาหนึ่งฉบับ โดยการส่งผ่านอีเมล ส่งไปที่หัวหน้าแก๊งใหญ่ต่างๆ ของประเทศจีน!
แก๊งเส้าหลิน โรงเต๋าไทเก็ก สำนักคงทอง สำนักหัวซาน สำนักเอ๋อร์เหมย…
เมื่อแก๊งใหญ่พวกนี้ทราบเรื่องแล้ว ข่าวก็จะแพร่สะพัดไปทั้งวงการต่อสู้ของจีน
เนื้อหาในจดหมายนั้นเช่นเอาไว้แบบนี้:
“หนึ่งร้อยปีก่อน วงการต่อสู้ของจีนเพื่อความต้องการอยากจะเป็นตำแหน่งใหญ่ที่สุด เลยทำร้ายจู่ซือของพวกเรา ฆ่าคนในสำนักจู่ซือของฉันไปกว่า 120 คน บีบบังคับให้จู่ซือของฉันต้องไปอยู่ต่างประเทศ จนสุดท้ายแล้วยังเอาชีวิตไปตายอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนอื่น!”
ความแค้นนองเลือดเช่นนี้มากมายดั่งมหาสมุทร วงการต่อสู้ของจีนนั้นทำร้ายผู้บริสุทธิ์อย่างทรมาน ทำร้ายจิตใจ แต่มันสามารถทำลายได้! ความเคียดแค้นดั่งมหาสมุทรที่ถูกลืมเลือนไปแก๊งหัวชิงไม่มีวันลืมเลือน!
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แก๊งหัวชิงก็จะไปตามล้างแค้นกับลูกหลานคนรุ่นหลังของบรรพชนที่เป็นจอมยุทธ์ที่ทำร้ายจู่ซือของฉันในปีนั้น! แก๊งหัวชิงได้ให้ลี่ไห่ซาที่เป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์เดินทางมายังประเทศจีน เพื่อจะมาล้างแค้นฆ่าคน!
วงการต่อสู้ของจีนจากนี้ต่อไปก็ไม่มีวันสงบสุข จนกว่าจะยอมรับชะตากรรมเอาเลือดมาล้างเลือดให้จู่ซือของฉัน!”
หัวหน้าแก๊งแก๊งหัวชิง จ้านเทียนหยา
เมื่อได้รับจดหมายฉบับนี้ ข่าวก็แพร่สะพัดไปยังวงการต่อสู้ภาคกลางอย่างรวดเร็ว
ฉินหลั่งที่อยู่ที่ภูเขาเทียน ทางแก๊งภูเขาเทียนนั้นติดต่อกับแก๊งในทางภาคกลาง แต่ไม่ได้สนิทนัก แต่เป็นเพราะว่าปีนั้น หูหรูหลี่ถูกทำลายแก๊งในคืนนั้น ก็ไม่มีคนของภูเขาเทียนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ผู้รับผิดชอบยาวเย่วกงที่ฉินหลั่งอยู่ด้วยนั้น ก็เพิ่งจะมาก่อตั้งขึ้นหลังจาก 20 ปี ให้หลังแล้ว
ดังนั้น เมื่อข่าวนี้ได้ยินถึงหูฉินหลั่ง ถือว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่งพอควร
เวลานั้น วงการการต่อสู้ที่เงียบสงบพลันครึกครื้นขึ้นมา มีทั้งไม่สนใจจดหมายก่อสงครามของจ้านเทียนหยา และมีทั้งกลัวจนขี้หดตดหายก็มี แถมยังมีอาการดีใจจนประสาทรับประทานไปเรียบร้อย และมีการเสียใจยกใหญ่ก็มีทั้งหมด!
แน่นอนว่า บรรดาแก๊งต่างๆ ยังคงเก็บงำความโกรธเอาไว้! พวกเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า วงการต่อสู้ของจีนกับทางแก๊งหัวชิงเคยมีการต่อสู้ขึ้นมาครั้งหนึ่ง!
วันนี้ การแข่งขันช่วงชิงใกล้เข้ามาทุกขณะ เช่นนั้นก็ตอบรับเอาไว้อย่างยินดี!
เมืองแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา จ้านเทียนหยาโทรศัพท์ไปหาซ่งจงผิง
“คุณซ่ง สองวันนี้ ฉันส่งตัวคนในแก๊งลี่ไห่ซาที่เป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ไปยังประเทศจีน หวังว่าพอถึงเวลานั้น คุณก็จะเข้ามาช่วยเหลือเขาด้วยแน่!”
“ครับ แน่นอน นี่เป็นสิ่งที่ข้าน้อยต้องทำอยู่แล้ว!” เมื่อได้ยินว่าจ้านเทียนหยาส่งคนในแก๊งมาแล้ว ซ่งจงผิงยินดีเต็มเปี่ยม
“หัวหน้าแก๊งจ้าน นี่เป็นก้าวแรกที่ทางแก๊งของท่านนั้นเริ่มลงมือกับทางประเทศจีนใช่หรือไม่?” ซ่งจงผิงสอบถามด้วยความระมัดระวัง
“ใช่” จ้านเทียนหยาตอบคำสั้นๆ ง่ายๆ คำเดียว ซึ่งมันทำให้ซ่งจงผิงรู้สึกตื่นตัวอยู่นาน
หลังจากที่จ้านเทียนหยาวางสายแล้ว ก็โทรศัพท์วิดีโอคอลกับลี่ไห่ซาทันที
“ฉันเอาข่าวที่แกจะไปประเทศจีน แจ้งไปยังประเทศจีนแล้ว แกเตรียมตัวไว้ให้ดีสองวันนี้แกบินไปประเทศจีนได้เลย อยู่ที่เมืองจีน ซ่งจงผิงจะเป็นคนมารับแกเอง!”
“ครับ ขอบคุณหัวหน้าแก๊งที่ทำตามใจปรารถนา คืนนี้ฉันจะออกเดินทางเลย!” ลี่ไห่ซาตอบทันที
“ดีมาก อีกเดี๋ยวฉันจะส่งเอกสารไปให้ เป็นรายชื่อจอมยุทธ์และลูกหลานของคนจีนที่เข้ามาฆ่าจู่ซือในปีนั้น เมื่อถึงประเทศจีนแล้ว พวกเขาก็เป็นเป้าหมายของแก!” จ้านเทียนหยาพูดอธิบายรายละเอียด
หลังจากที่จ้านเทียนหยาวางสายแล้ว เขาก็เดินเข้าไปในชั้นหนึ่งตึกสำนักงานใหม่ของแก๊งหัวชิง
เขาใช้เงินไปตั้งหนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อจะสร้างห้องฝึกวิทยายุทธ์อันทันสมัย ด้านในเต็มไปด้วยหญ้ายาหลิง หินทิพย์ น้ำทิพย์ ยาทิพย์เป็นต้น หลังจากผ่านกระบวนการแสงเลเซอร์ นาโน พร้อมทั้งการฉายแสงยูวีเทคโนโลยีอันทันสมัย จนทำให้เรกิเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ จนเป็นจุดศูนย์กลางที่แผ่รัศมีออกมาถึงระยะ 8 เมตร
จุดศูนย์กลางนั้นเป็นจุดที่ฝึกวิทยายุทธ์ได้ดีที่สุด
จ้านเทียนหยาเดินไปที่บริเวณด้านหน้าของประตูจุดศูนย์กลางนั่น
ลูกศิษย์ของแก๊งหัวชิงสองคนกำลังนั่งคุ้มกันที่บริเวณประตูอยู่ หลังจากที่จ้านเทียนหยาใช้ลายนิ้วมือในการตรวจสอบตัวตนแล้ว ประตูโลหะที่อยู่ด้านหน้าก็ค่อยๆ เปิดออก
เรกิที่อยู่ด้านในก็พุ่งพวยออกมา จนทำให้ได้กลิ่นมีสติสัมปชัญญะเต็มเปี่ยมไปด้วย ลูกศิษย์ทั้งสองคนรู้สึกว่าโชคช่วยเหลือเกิน จนต้องสูดดมเรกิที่ประตูเปิดออกมา เพราะคิดว่ามันมีประโยชน์มากกว่าที่พวกเขาทนฝึกฝนอย่างยากลำบากมาเป็นเดือนอีก
“หลังว่าตอนที่ฉันออกมาจากเก็บตัวถือศีลแล้ว ลี่ไห่ซาจะสามารถจัดการวงการต่อสู้ของจีนได้สำเร็จแล้ว! จนฉันสามารถนำพาลูกศิษย์ในแก๊งหัวชิงของพวกเราเข้าไปในจีนได้!” จ้านเทียนหยาพูดออกมาหนึ่งประโยคเต็มๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องศูนย์กลาง จากนั้นประตูโลหะค่อยๆ ปิดลง
ลี่ไห่ซาในเวลานี้ยังคงฝึกวิทยายุทธ์อยู่บนพื้นน้ำแข็งในทะเลสาบ เขาลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินจากพื้นน้ำแข็งบนทะเลสาบไปยังริมฝั่ง
“หย่างเที่ยน จู่ซือ ฉันจะไปจีนเพื่อล้างแค้นให้พวกท่าน! ฉันจะต้องทำให้กลุ่มจอมยุทธ์ของจีน รับชะตากรรมกับความผิดในปีนั้น เอาเลือดมาล้างแค้น!” ลี่ไห่ซาคิดอยู่ในใจ
การที่เขาคิดถึงสิ่งนี้ รัศมีที่แผ่ออกมาจากตัวเขาช่างแกร่งกล้ามาก จนบนพื้นแผ่นน้ำแข็งที่หนาเป็นชั้นอยู่ประมาณยี่สิบเซนติเมตร แตกออกจากกันในทันที ด้านล่างของพื้นน้ำแข็งที่มีความลึกอยู่สิบกว่าเมตร ถึงแม้ว่าพื้นน้ำแข็งจะแตกแล้ว จนไม่สามารถยึดรั้งเอาไว้ได้ แต่ลี่ไห่ซาก็ยังเดินอยู่บนพื้นผิวน้ำแข็งได้อย่างสงบเสงี่ยม ไม่มีอาการโอนเอนแต่อย่างใดๆ …