รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 29 จะบอกความจริงกับหล่อนหรือไม่
บทที่ 29 จะบอกความจริงกับหล่อนหรือไม่
“ฉินหลั่ง ขอบคุณนะ คุณช่างดีเหลือเกิน” ส้งเส่นเอ๋อยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เพทุบาย เดินไปตรงหน้าฉินหลั่งอย่างดีใจ เอากระเป๋าของตนไปแขวนไว้บนมือของฉินหลั่ง
โจวซินและหวงเกอต่างก็ขมวดคิ้ว พวกเขายังคิดว่าส้งเส่นเอ๋ออยากจะให้ฉินหลั่งอยู่เที่ยวด้วยกันอย่างจริงใจ คิดไม่ถึงว่า ส้งเส่นเอ๋อแค่ต้องการคนถือกระเป๋า นี่เธอไม่ใช่กำลังหลอกให้ฉินหลั่งหลงดีใจหรอกเหรอ
ฉินหลั่งกลับไม่รู้สึกโกรธแบบนั้นเหมือนพวกของโจวซิน จะโทษก็ต้องโทษตนเองที่ใจอ่อน คิดว่าส้งเส่นเอ๋อเปลี่ยนนิสัยไปแล้ว!
ในเมื่อเอ่ยปากออกมาแล้ว ฉินหลั่งก็ต้องทำให้ได้
“เส่นเอ๋อ คุณนี่ช่างฉลาดจริงๆ นะ เล่นในสวนสนุกต้องเหนื่อยมากแน่ พวกเราต้องมีคนคอยถือกระเป๋าคนหนึ่ง!” จางเชื๋อยิ้มพลางเอ่ยชมส้งเส่นเอ๋อ จากนั้นก็เลียนแบบส้งเส่นเอ๋อ ถอดกระเป๋าเป้ออก เดินไปทางฉินหลั่ง
“ไอ้น้อง ขอบคุณนะ แกนี่มันดีจริงๆ” พูดพลาง ส่งกระเป๋าเป้ของตนให้ฉินหลั่ง
“ไสหัวไป!” ฉินหลั่งไม่ได้มีอากัปกิริยาอะไรแม้แต่น้อย ได้แต่ถลึงตามองจางเชื๋อด่าแรงๆ ไปหนึ่งคำ
ช่วยผู้หญิงสะพายกระเป๋ายังพอทน แต่ผู้ชายอย่างจางเชื๋อ ก็ไม่รู้จักละอายใจที่ให้ฉินหลั่งสะพายกระเป๋าให้ หน้าต้องด้านขนาดไหน คิดว่าฉินหลั่งไม่มีสมองจริงๆ เหรอ
ถูกฉินหลั่งตะคอกแบบนั้น จางเชื๋อก็ตื่นตกใจ ปากบ่นพึมพำเดินออกมา
“อย่าไปสนใจเขาเลยค่ะ เขาก็แค่คนไร้น้ำยาคนหนึ่ง” ส้งเส่นเอ๋อถลึงตาใส่ฉินหลั่ง ควงแขนจางเชื๋อ เดินออกไปด้านนอกก่อน ฉินหลั่ง โจวซินและพวกเขาตามหลังไป
พอเดินออกจากประตูร้านขายเครื่องดื่ม ก็มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งพูดคุยส่งเสียงหัวเราะเดินผ่านหน้าพวกของส้งเส่นเอ๋อไป
ส้งเส่นเอ๋อหรี่ตามอง จ้องไปที่หนึ่งในกลุ่มผู้ชายนั้นเขม็ง ตะโกนเสียงแหลมออกมาว่า “สารเลว ไม่เห็นฉันหรือไง”
เสียงเรียกอันทรงพลังนี้ ทำเอาผู้คนที่อยู่ในรัศมีสิบกว่าเมตรนี้พากันตื่นตกใจ! ต่างหันกลับมา มองไปยังส้งเส่นเอ๋อ
เห็นว่าสายตาของส้งเส่นเอ๋อจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าของคนที่สูงที่สุดในกลุ่มพวกเขานั้น ท่าทางเต็มไปด้วยความโกรธ
“เส่นเอ๋อ เขาทำอะไรเธอเหรอ” จางเชื๋อถามส้งเส่นเอ๋อด้วยเสียงแผ่วเบา
“เขาก็คือหม่าเก๋อ ครั้งก่อนเรื่องบ้านของพวกเรา ก็คือฝีมือไอ้หมอนี่!” คำแต่ละคำที่เยือกเย็นออกมาจากปากของส้งเส่นเอ๋อ
พวกผู้ชายที่มากับหม่าเก๋อ เดิมทีเห็นส้งเส่นเอ๋อโวยวายหาเรื่องกับหม่าเก๋อ พวกเขารู้ดีว่าหม่าเก๋อเป็นคนที่มีฐานะทางบ้านดีที่สุดในบรรดาพวกเขา ปกติแล้วพวกเขายังต้องคอยประจบเอาใจหม่าเก๋อด้วย สีหน้าของพวกผู้ชายเหล่านี้ไม่มีความเป็นมิตรเตรียมที่จะไปสั่งสอนส้งเส่นเอ๋อ
หลังจากนั้น หม่าเก๋อกลับยื่นมือออกมาขวางพวกเขาไว้
ใครจะไปคาดคิดว่า ในใจของหม่าเก๋อในตอนนี้ กลับรู้สึกกลัว กระวนกระวายเป็นพิเศษ
ครั้งก่อน หม่าเก๋อให้หม่าวั่นถัง พ่อของเขากดขี่บ้านส้งเส่นเอ๋อ เดิมคิดว่าบริษัท Dragon Cargoของครอบครัวส้งเส่นเอ๋อ เป็นธุรกิจที่เป็นรอง พอพ่อเขาเข้ามาแทรกแซง ครอบครัวพวกเขาต้องต้านไม่ไหวแน่ สุดท้ายก็ต้องยอมส่งส้งเส่นเอ๋อมาถึงใต้ผ้าห่มของตนเองแต่โดยดี
คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายครอบครัวส้งเส่นเอ๋อจะเชิญประธานสมาคมการค้าอย่างชื๋อหยินจ้ง ที่เก่งกาจเยี่ยมยอดคนนี้มาได้ บริษัทเทียนซีกรุ๊ปของครอบครัวหม่าเก๋อ แม้จะจัดอยู่ใน10บริษัทชั้นนำ แต่ก็ได้รับการปกครองของสมาคม ถ้าหากประธานชื๋อตัดหางปล่อยวัดครอบครัวพวกเขา ก็ไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวของพวกเขาจะแบกรับไว้ได้
ดังนั้น สุดท้ายพ่อของหม่าเก๋อ ต้องยอมกัดฟันไปที่ทำงานของพ่อส้งเส่นเอ๋อ ขอโทษต่อหน้า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้า และเจ็บปวดหัวใจที่สุดที่เคยมีมา ของพ่อของพวกเขาทั้งสองคน
และความรู้สึกในใจของพวกเขาสองพ่อลูกนั้นหวาดกลัวครอบครัวของส้งเส่นเอ๋ออย่างมาก ต่อไปหากพบเจอส้งเส่นเอ๋อต้องเดินหลบไป
หม่าเก๋อเดินมาตรงหน้าส้งเส่นเอ๋อด้วยความรู้สึกที่สับสน หนุ่มน้อยร่างสูงใหญ่ ก้มหัวพูดกับส้งเส่นเอ๋อด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ขอโทษ ครั้งก่อนผมมีตาหามีแววไม่ ล่วงเกินท่าน ขอให้ท่านอย่าถือสาคนต่ำต้อยอย่างผม อภัยให้กับความโง่เขลาของผมด้วย……”
พวกผู้ชายที่มากับหม่าเก๋อต่างพากันตื่นตะลึง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย หม่าเก๋อที่ปกติจะหยิ่งทระนง พูดจาอ่อนน้อมกับคนอื่น
สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งตกใจยังมีตามมาอีก
ส้งเส่นเอ๋อกอดอก ยืนตรงหน้าหม่าเก๋อด้วยความสะใจ มุมปากเริ่มมีรอยยิ้มเย็นยะเยือก “แค่ขอโทษก็จบแล้วเหรอ คุณคิดในแง่ดีเกินไปแล้วนะฉันจะไม่ถือสาหาความอะไรกับคุณก็ได้ แต่ก็ต้องดูท่าทีของคุณแล้ว คุกเข่าตรงหน้าฉันเดี๋ยวนี้!”
หางตาของหม่าเก๋อกระตุก มุมปากสั่นระริก แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของส้งเส่นเอ๋อ
ภายใต้สายตาที่จับจ้องมาของทุกคน หม่าเก๋อคุกเข่าลงบนพื้น เสียงดังตึก
ในหัวของผู้คนที่อยู่โดยรอบนั้นต่างงุนงงสับสนไปหมด ตกลงว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่ หม่าเก๋อเป็นถึงคุณชายของบริษัทเทียนซีกรุ๊ป ทำไมถึงหวาดกลัวผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้
วินาทีนี้เอง ในใจของส้งเส่นเอ๋อหยิ่งผยองอย่างที่สุด
“เส่นเอ๋อ ลงโทษเขาพอแล้ว พวกเรารีบเดินไปเถอะ” พอจางเชื๋อได้ยินว่าเป็น ก็รู้สึกตื่นตระหนก เพราะครั้งก่อนนั้นไม่ใช่ความช่วยเหลือของเขาเลยแม้แต่น้อย หากถูกจับได้ ต้องแย่แน่
“ไปไหนล่ะคะ ที่รัก ไอ้หมอนี่ทำบ้านเราเกือบแย่นะคะ จะปล่อยเขาไปง่ายๆ ได้อย่างไรกัน” ส้งเส่นเอ๋อคล้องแขนเขาพลางเอ่ย “คุณไปต่อยเขาสักหมัดตอนนี้เลย!”
“ห๊ะ…ไม่เอาหรอก” จางเชื๋อพูดอย่างเกรงๆ
“โอ๊ย คุณกลัวอะไร พวกเรามีเส้นสายของประธานชื๋อ ลำพังพวกเขา เขาไม่กล้าทำอะไรหรอก” ส้งเส่นเอ๋อเอ่ยยั่วยุ
ตอนนี้จางเชื๋อถูกบีบจนมาอยู่ในตำแหน่งนี้ ทำให้เขาไม่ต่อยก็ไม่ได้ จางเชื่อข่มใจ เดินมาตรงหน้าหม่าเก๋อเงื้อมือขึ้น ชกลงไปที่ปากของหม่าเก๋อ
“เท่จังเลย” ส้งเส่นเอ๋อตบมืออย่างดีใจ จากนั้นเธอก็เดินมาตรงหน้าหม่าเก๋อ ตบหน้าหม่าเก๋อไปหลายฉาด
“พอแล้ว ที่รัก วันนี้ฉันมีความสุขเหลือเกิน อย่าให้ไอ้สวะนี่มันมารบกวนความสุขที่เราจะไปเที่ยวกันเลยนะคะ พวกเราไปกันเถอะ” ส้งเส่นเอ๋อคล้องแขนจางเชื๋อเดินไปด้านหน้าสุด หวงเกอและโจวซินตามมาด้านหลัง
ฉินหลั่งที่เดินมาเป็นคนท้ายสุดแอบส่ายหน้าไปมา ส้งเส่นเอ๋อทำเกินไปแล้ว จางเชื๋อเสแสร้งเหลือเกิน
ต่อไปตนเองคงจะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกเขาอีกแล้ว เรื่องที่พวกเขาก่อไว้ รอวันใดวันหนึ่งต้องได้รับบทลงโทษที่สาสม
หม่าเก๋อที่คุกเขาอยู่บนพื้นมองเห็นด้านหลังส้งเส่นเอ๋อเดินจากไป ในแววตาราวกับมีเปลวเพลิงลุกโชนออกมา!พวกแกสองคนคอยดูเถอะ!
พวกของฉินหลั่งเรียกรถมาหนึ่งคัน มุ่งหน้าไปยังสวนสนุกของเมืองจีนหลิงทันที
ระหว่างทาง ส้งเส่นเอ๋อเล่าว่าสะใจขนาดไหนที่เมื่อครู่ได้ตบหม่าเก๋อ และยังคงชมถึงความสามารถของจางเชื๋อไม่หยุด
“ผู้หญิงหาแฟน ก็เพื่อที่จะสามารถปกป้องคุ้มครองตนเองได้ มีเรื่องอะไร เขาก็สามารถจัดการได้ ไอ้พวกคนจนชั้นต่ำกระจอกๆ พวกนั้น ก็ควรซื่อสัตย์หน่อย อย่าได้คิดเพ้อฝัน ตัวเองไม่มีเงินก็ยังคิดฝันลมๆ แล้ว ขนาดพวกเราเห็นว่านายไม่มีเงิน ก็ยังจะยอมลำบากไปกับแกด้วยเหรอ ฮาๆ ช่างน่าหัวเราะจริงๆ
ได้ยินคำพูดของส้งเส่นเอ๋อ จางเชื๋อก็รู้สึกหวิวในใจ แต่ฉินหลั่งกลับยิ้มอย่างไม่สะดุ้งสะเทือนอะไร
ไม่รู้ว่าหากส้งเส่นเอ๋อรู้ ว่าคนที่ช่วยเธอคือฉินหลั่ง ไม่ใช่จางเชื๋อ จะว่าอย่างไรกับคำพูดนี้ของตนเอง
นั่งรถมาหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดทุกคนก็มาถึงสวนสนุก
รถไฟเหาะ เรือไวกิ้งส์ ซูเปอร์สแปลช ม้าหมุน กระโดดหอ……เล่นเครื่องเล่นเหล่านี้อย่างละหนึ่งรอบ เล่นจนห้าโมงเย็น
ทุกคนนั่งรถกลับเข้าเมือง ทานอาหาร ฟ้าก็มืดลงแล้ว ส้งเส่นเอ๋อก็ยังลากทุกคนไปดูภาพยนตร์ด้วยกัน
ซื้อตั๋วเตรียมจะเข้าไป จางเชื๋อไปเข้าห้องน้ำ เวลานี้เอง ส้งเส่นเอ๋อรับโทรศัพท์ของพ่อ “เส่นเอ๋อ รีบกลับมาบ้านเดี๋ยวนี้ ตอนนี้พวกเราเตรียมที่จะไปเยี่ยมคารวะพ่อของจางเชื๋อ ในเมื่อเรื่องนี้เป็นเพราะลูก ลูกก็ต้องมาด้วยกัน!”
“พ่อคะ หนูไม่ไปแล้วค่ะ จะแอบบอกพ่อว่า วันนี้หนูกับจางเชื๋ออยู่ในสถานะเป็นแฟนกันแล้ว และตอนนี้หนูก็อยู่กับจางเชื๋อ ต่อให้หนูไม่ไป พ่อของจางเชื๋อก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ!” ส้งเส่นเอ๋อเอ่ย
“อย่างนี้นี่เอง ลูกสาวที่น่ารัก จางเชื๋อเป็นผู้ถือหุ้นที่มีศักยภาพ ลูกต้องดูแลให้ดีๆ นะ” พ่อของส้งเส่นเอ๋อสนับสนุนให้เธอคบหากับจางเชื๋ออย่างมาก “ได้ อย่างนั้นพ่อจะไม่รบกวนลูกกับจางเชื๋อแล้วนะ วางสายแล้วนะ”
“เส่นเอ๋อ ใครโทรหาคุณเหรอ” จางเชื๋อกลับมาถามเธอ
“พ่อฉันค่ะ หนังจะฉายแล้ว พวกเราเข้าไปเถอะ” จางเชื๋อยังไม่ทันได้ถามรายละเอียด ส้งเส่นเอ๋อก็ลากเขาเข้าไปดูหนังแล้ว
หลังจากดูหนังจบออกมา ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว จางเชื๋อก็เสนอขึ้นมาว่า คืนนี้จะไม่กลับไปที่มหาวิทยาลัยแล้ว นอนพักข้างนอกเลย การที่ได้พบกับหม่าเก๋อวันนี้เป็นการเตือนเขาอย่างหนึ่งว่า เขาต้องรีบจัดการส้งเส่นเอ๋อแล้ว หากรอจนส้งเส่นเอ๋อรู้ความจริง ตนเองอาจจะต้องมาเสียใจทีหลัง
“พวกเรานั่งรถกลับไปก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นะ” โจวซินรีบเอ่ยอย่างกังวล จางเชื๋ออยากจะพักข้างนอกขนาดนี้ ทำให้เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี
“ถ้าพวกคุณอยากกลับก็กลับไปกันเองเลย ผมกับเส่นเอ๋อไปกลับไปหรอก!” จางเชื๋อพูดพลางโอบไหล่ส้งเส่นเอ๋อ ลากเข้าใกล้ตนเอง
“เส่นเอ๋อ เธอจะกลับไปกับพวกเรามั้ย” โจวซินถามพลางมองส้งเส่นเอ๋อ
“เอ่อ” ส้งเส่นเอ๋อรู้สึกสับสนในใจ แต่เธอกล้าไม่กล้าขัดใจจางเชื๋อ “ฉันก็คงไปกับจางเชื๋อแหละ”
“เธอ…” โจวซินไปแล้วจะวางใจส้งเส่นเอ๋อได้อย่างไร ไม่มีหนทางใด โจวซินจึงตัดสินใจอยู่ต่อ
จางเชื๋อก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที รีบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาค้นหาโรงแรมหรูสักแห่ง ขึ้นรถออกไป
โรงแรมนี้ชื่อว่าBerkeley Hotelตกแต่งอย่างหรูหรา ประดับประดามีแชนเดอร์เลียคริสตัลยาวหนึ่งเมตร ภายในผนังสีทองสวยงาม พนักงานต้อนรับสาวหุ่นดีสวมชุดกี่เพ้า หลายๆ จุดที่แสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาของโรงแรมนี้
“เปิดห้องให้พวกเราสามห้อง พวกเราสองคู่เป็นคู่รัก คนหนึ่งยังโสด ห้องคู่รักเอาห้องที่ดีหน่อย ส่วนอีกห้อง เอาที่ถูกที่สุดก็พอแล้ว!” จางเชื๋อเดินไปที่เคาน์เตอร์ บอกกับพนักงานสาวที่เคาน์เตอร์
“ฉินหลั่ง วันนี้ฉันอารมณ์ดี ก็เลยให้นายได้พักโรงแรมหรูๆ สักคืน คืนนี้ก็ตักตวงความสุขสบายให้เต็มที่นะ ต่อไปนายอาจจะไม่มีโอกาสได้มาอีกแล้ว!” จางเชื๋อก็เอ่ยกับฉินหลั่ง ตอนที่รอพนักงานสาวจองห้องให้อยู่
เมื่อใช้การ์ดเปิดห้องแล้ว จางเชื๋อก็จูงส้งเส่นเอ๋อ ตามพนักงานเข้าไปในห้อง ส้งเส่นเอ๋อเองก็ไม่เคยพักอยู่ร่วมห้องเดียวกันกับผู้ชายมาก่อน ในใจก็ตื่นเต้นตกใจเป็นพิเศษ อายจนหน้าแดงแล้ว แต่ว่าก็ยังตามเขาไป ในเมื่อบ้านของจางเชื๋อมีอิทธิพลมากขนาดนั้น เธอเองก็อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเขา
หวงเกอและโจวซินก็เดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ในห้องโถงเหลือเพียงฉินหลั่งเพียงคนเดียว
บรรดาพนักงานของโรงแรมที่อยู่โดยรอบก็เริ่มก็เริ่มซุบซิบนินทา บ้างก็ว่าฉินหลั่งน่าสารมาก ในบรรดาเพื่อนมีเขาเพียงคนเดียวที่ไม่มีแฟน ทั้งยังต้องพักห้องที่แย่ที่สุดอีกด้วย
แต่ฉินหลั่งก็แทบไม่ได้ใส่ใจอะไรกับปัญหานี้เลย เขาได้แต่คิดใคร่ครวญอยู่ในหัว ควรจะบอกความจริงให้ส้งเส่นเอ๋อรับรู้ดีหรือไม่ หากคืนนี้ส้งเส่นเอ๋อต้องเอาตัวเข้าแลกจริงๆ ตนเองก็ต้องโทษว่าเป็นความผิดของตน
ตอนนี้เอง ผู้ชายร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เดินออกมาจากด้านในโรงแรม
พนักงานที่อยู่ในห้องโถงต่างก็พากันลุกขึ้นยืนอย่างไม่รู้ตัว แสดงออกด้วยท่าทางที่กระตือรือร้นมากขึ้น สายตาจับจ้องมาที่ชายหนุ่ม
“สวัสดีครับผู้จัดการ!” ตอนที่ชายหนุ่มเดินผ่าน พนักงานโค้งคำนับพลางเอ่ยทักทาย
ชายหนุ่มพยักหน้าแสดงความพึงพอใจ ตอนที่สายตาเขามองมาที่ฉินหลั่ง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เดิมที่มีท่าทีง่วงเหงาหาวนอน ก็ตื่นตกใจ เหมือนกับสีหน้าท่าทางที่พนักงานทำกับเขา
“คุณ…คุณชายใหญ่ท่านมาได้อย่างไรครับ” ชายหนุ่มยิ้มพลางเอ่ยถามฉินหลั่ง