รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 261 วิชาฝ่ามือป่ายเฟิงของฝู้คาย
บทที่ 261 วิชาฝ่ามือป่ายเฟิงของฝู้คาย
อาชิงกับอาเฟิงถอยกรูไปหลังจงเส่นซาน พวกเขากลัวมาก หากเมื่อครู่“ลม ดอกไม้ หิมะ พระจันทร์”ทั้ง4สาวนั้นใช้กำลังภายในดึงเส้นไหมนั่นแน่นอีกหน่อย พวกเขาคงได้ไปเจอกับยมทูตแล้ว
แต่จงเส่นซานกลับดูไม่ออกว่าในเส้นไหมนั้นมีเส้นลวดซ่อนอยู่ เมื่อเขาเห็นว่าทั้งอาชิงและอาเฟิงโดนทำร้ายกลับมา ในใจก็รู้สึกร้อนรนเล็กน้อย จึงพูดกับฝู้คาย:“อาจารย์ฝู้คาย ท่านรีบช่วยหลงเถิงเถอะ!”
ฝู้คายมองหลงเถิงแวบหนึ่ง แล้วหันไปมองฉินหลั่ง ตอนนี้เขาสนใจฉินหลั่งมากกว่าหลงเถิงซะอีก เขาอยากประลองฝีมือกับฉินหลั่งสักหน่อย ว่าศิลปะการต่อสู้ของใครแข็งแกร่งกว่ากัน
“ข้าฝู้คาย ขอถามว่าคุณชื่ออะไร?”ฝู้คายค่อยๆก้มศีรษะให้ฉินหลั่งพลางถาม
เขาให้ความเคารพคนที่ศิลปะการต่อสู้เก่งกาจมาตลอด บุคคลที่มีชื่อเสียงในศิลปะการต่อสู้ส่วนใหญ่ฝู้คายล้วนรู้จัก แต่คนที่ดูอายุ20ต้นๆคนนี้ฝู้คายไม่เคยเจอมาก่อน
“ผมฉินหลั่ง!”ฉินหลั่งพูดอย่างขรึมๆ ฝ่ายตรงข้ามทำลายงานแต่งของเขา และจะฆ่าพ่อตาของเขาอีก ฉินหลั่งไม่โกรธก็แปลกแล้ว
ฉินหลั่ง?
ฝู้คายมั่นใจว่าในโลกศิลปะการต่อสู้ ไม่เคยได้ยินชื่อคนคนนี้มาก่อน หรือว่าในระยะเวลา12ปีมานี้เขามัวแต่ฝึกวิชา ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เลยไม่รู้ว่าโลกศิลปะการต่อสู้มีคนอายุน้อยแบบนี้ด้วย?
“ประธานจง คุณชายฉินเป็นลูกหลานของตระกูลฉินไง!”หยูจื้อรีบหันไปพูดกับจงเส่นซาน
เขารู้ว่าจากอิทธิพลของบ้านตระกูลจง ต้องรู้จักตระกูลฉินแน่ๆ เรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้คือคลี่คลายการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่งั้นหากจงเส่นซานฆ่าหลงเถิงเข้า ไม่แน่ตัวเองอาจโดนฆ่าไปด้วย!
ลูกหลานตระกูลฉิน?
จงเส่นซานมองสำรวจฉินหลั่ง และพบว่าเขามีความสุขุมและเชื่อมั่นในตัวเองแบบเด็กบ้านรวยจริงๆ
ก่อนจะมานี่พ่อก็เคยบอกเขา ว่าคนที่ปกปิดเรื่องคราวก่อนก็คือตระกูลฉิน ดูท่าฉินหลั่งจะเป็นลูกหลานตระกูลฉินจริงๆ
แต่ทว่าจงเส่นซานก็ได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ถึงฉินหลั่งจะอยู่ที่นี่ ก็ไม่อาจห้ามเขาไม่ให้ฆ่าหลงเถิงได้ นี่เป็นเรื่องบ้านตระกูลจงของพวกเขา ถึงตระกูลฉินจะมีอำนาจขนาดไหนก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่ง
“ผมโดนไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว จากนี้ไปตระกูลฉินกับผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน!”ฉินหลั่งพูด ในเมื่อโดนไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว ฉินหลั่งก็ไม่อาจใช้ชื่อเสียงของตระกูลฉินได้อีก
ข่าวที่ฉินหลั่งโดนไล่ออกจากตระกูลฉิน ได้ประกาศไปยังองค์กรและบุคคลที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของตระกูลฉินทั่วทุกมุมโลกแล้วบ้านตระกูลจงไม่ใช่คนใต้บังคับบัญชาของตระกูลฉิน พวกเขาจึงรู้ข่าวพวกนี้ช้าไปหน่อย
จงเส่นซานสังเกตสีหน้าท่าทางของอีกฝ่าย ฉินหลั่งเหมือนจะไม่ได้โกหก หรือเขาโดนไล่ออกจากตระกูลฉินแล้วจริงๆ?ไม่ว่าจริงหรือไม่ วันนี้หลงเถิงต้องตายสถานเดียว
“อาจารย์ฝู้คาย ท่านรีบจัดการหลงเถิงซะ!”จงเส่นซานพูดกับฝู้คาย
“ได้!”ฝู้คายตอบตกลง เขามองฉินหลั่งพลางพูด:“คุณฉิน ศิลปะการต่อสู้ของผมนี้ เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะการต่อสู้ต่างๆที่ได้เรียนรู้มาก่อนอายุ35 ตั้ง10ปีถึงจะจับพลัดจับผลูจนคิดค้นศิลปะการต่อสู้นี้ขึ้น มันเรียกว่า‘ฝ่ามือป่ายเฟิง’ ได้คนเก่งๆอย่างคุณมาเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริงคนแรกแบบนี้ ผมดีใจมาก”
12ปีก่อนจงจิ่วเจินได้รับฝู้คายเข้ากลุ่ม และเมื่อ2ปีก่อนเขารู้สึกว่าศิลปะการต่อสู้ของตนนั้นไม่มีทางพัฒนาขึ้นเลย ฝู้คายเป็นทุกข์อยู่2เดือน จนในคืนที่ฝนตกหนักคืนหนึ่ง เขานึกอะไรออกได้อย่างฉับพลัน ว่าจะรวบรวมศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา ผสมผสานเป็นวิชาใหม่
5ปีก่อนก็นั่งฌาณทำสมาธิ ทดลอง ริเริ่ม ทบทวนความคิดของตน ปรับเปลี่ยนเป็นแบบใหม่ จนกลายมาเป็น“ฝ่ามือป่ายเฟิง”
5ปีจากนั้น ฝู้คายก็ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของตนบนเขาทุกวัน ฝึกจน“ฝ่ามือป่ายเฟิง”นี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
ในระยะเวลา10ปีนั้น ฝู้คายช่วยงานฆ่าคนให้กับบ้านตระกูลจงหลายครั้ง วิชา“ฝ่ามือป่ายเฟิง”ได้ทดลองบ่อยครั้ง แน่นอนว่าในบรรดาคนที่ถูกฆ่านี้ ไม่มีใครมีฝีมือเกินกัวเฟิงและภรรยา ฝู้คายจึงจะให้ฉินหลั่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริงของตนเป็นคนแรก
พูดจบฝู้คายก็ละสายตาจากฉินหลั่งอย่างไม่ทุกข์ร้อน แล้วมองไปยังหลงเถิง มือก็ทำเป็นท่ามีดทันที และพุ่งจะไปตัดที่ศีรษะหลงเถิง
ท่านี้เรียกว่า“ฝ่ามือจ๊่เฟิง” ความเร็วปานสายฟ้า หลงเถิงที่โดนฝู้คายโจมตีก็ช็อคเป็นอย่างมาก หลงเถิงอาจตายในทันที
หลงเถิงโดนฝู้คายทำเอาตกใจกลัวมาก หลงเย้นและจงยู่ได้สติทัน เห็นว่าเขาจะทุบไปที่ศีรษะของหลงเถิง
ทันใดนั้นเอง ก็มีมือข้างหนึ่งมาดักแขนของฝู้คายไว้ กำข้อมือเขาจนรอบ จนท่ามือมีดของฝู้คายเปลี่ยนไป
ฝู้คายเห็นคนที่ยืนมือออกมาคือฉินหลั่ง ฉินหลั่งใช้ท่า“เทียนหนานเทียนเป่ย”ในหมวด“แกล้งทำดี”ทำให้มือมีดของฝู้คายออกไป
ฝู้คายจ้องฉินหลั่งเขม็ง เมื่อมือมีดโดนขัดไป เขาจึงใช้ท่า“ฝ่ามือขวงเฟิง”
ข้อมือของเขาเอียงออกไป และแรงที่ใช้ก็เยอะกว่าเดิม ในระยะห่างจากฉินหลั่งแค่2เมตร มือมีดของเขาก็ใช้ไปได้2ช่วงอย่างรวดเร็ว!
มือมีดยังไม่ทันถึงตัวฉินหลั่ง เสื้อผ้าของเขาก็โดนลมพัดอย่างแรง ราวกับลมกระโชกแรงก่อนเกิดพายุอย่างไรอย่างนั้น
“ฟิ้วๆๆ”
ท่า“ฝ่ามือขวงเฟิง”นี้ยากมาก ตอนที่ฝู้คายฝึกฝนบนเขาถานโท่ สามารถตัดก้อนหินขนาดเท่าหมูตัวเต็มวัยขาดได้เพียงแค่3ฝ่ามือ
เขาอยากเห็นฉินหลั่งโดนท่ามือมีดของเขา ฟาดจนเลือดตกยางออก!
ฉินหลั่งก็ดูออก ว่าอานุภาพท่านี้ของฝู้คายเป็นที่น่าตกใจมาก ถ้าจัดการพลาดไปแม้แต่น้อย ตนอาจบาดเจ็บสาหัสหรือตายได้
ฉินหลั่งตั้งสมาธิ รวบรวมกำลังภายในไว้ที่แขน และใช้ท่า“แกล้งทำดี”
ฝ่ามือของทั้งสองชนกันเสียงดัง“ปึก ”ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งสองคนต่างรู้สึกตื่นตกใจ
ฉินหลั่งคิดไม่ถึงว่าฝู้คายจะพลังเยอะเช่นนี้ มันเหมือนชนเข้ากันบล็อกซีเมนต์ ที่ทั้งเรียบทั้งแข็งอย่างไรอย่างนั้น ถ้าในตัวเขาไม่มีกำลังภายใน130กว่าปีของจูชุยส่วยกับยายปี้หวู้ เกรงว่ามือของเขาคงขาดสะบั้นไปแล้ว!
ฝู้คายก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ท่า“ฝ่ามือขวงเฟิง”ของเขานี้ทำดีสุดๆแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นองศาของมือ กำลัง ความเร็ว จังหวะ ล้วนสมบูรณ์แบบสุดๆแล้ว ฉินหลั่งรับมือได้ยังไงกัน?
ทั้งหมดนี้เกิดภายในเวลาแค่ไม่กี่วินาที
หลังฉินหลั่งประหลาดใจเสร็จ สลัดความแข็งแกร่งของฝู้คายทิ้งไป แล้วใช้ท่า“พุ่งชน”ทันที เขาใช้ข้อศอกของแขนขวาพุ่งไปยังหน้าอกฝู้คาย ก็คือต่ำจากลำคอลงมา3นิ้ว
ฝู้คาย“จุก”จนกระอักออกมา อาหารในกระเพาะไปรวมอยู่ที่หลอดอาหาร จนเกือบอ้วกอวกมา สมองเขาโล่งไปชั่วขณะจนเกลือบล้มลงไปกับพื้น
ฉินหลั่งไม่ได้อาศัยชัยชนะครั้งนี้โจมตีต่อ เพียงมองฝู้คายอยู่เงียบๆ
ฝู้คายส่ายศีรษะไปมา จึงรู้สึกมีสติขึ้นมาหน่อย เขาทั้งเดือดและผิดหวังมาก ตนฝึกวิชาที่ไม่มีใครอาจเทียบเทียมได้มา10ปี เดิมคิดว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลกศิลปะการต่อสู้ และท่า“ฝ่ามือป่ายเฟิง”จะเป็นตำนานในโลกศิลปะการต่อสู้ แต่คิดไม่ถึงว่าเพียงเอาออกมาใช้ครั้งแรก เขาจะตกเป็นรองแบบนี้!
ฝู้คายรับไม่ได้ และเขาก็ไม่เชื่อว่าท่า“ฝ่ามือป่ายเฟิง”ของตนจะอ่อนแอขนาดนี้!
ฝู้คายรีบหันไปมองฉินหลั่งอย่างเดือดดาล ตาแดงเล็กน้อย
“ฝ่ามือเป้าหลง!”
ฝู้คายตะโกนเสียงดัง ทำท่ามือมีดทั้งสองข้าง และพุ่งใส่ฉินหลั่งอย่างรุนแรงราวกับใบ
ท่า“ฝ่ามือเป้าหลง”นี้ฝู้คายคิดค้นมาจากพายุทอร์นาโด มือทั้งสองข้างเป็นมีด หมุนด้วยความเร็ว ดูแล้วเหมือนมีมีดหลายเล่ม ถึงแม้อานุภาพจะไม่เท่า“ฝ่ามือขวงเฟิง” แต่อัตราการชนะของ“มือมีด”นั้นสูง ความถี่เร็ว เพียงโจมตีฝ่ายตรงข้ามมันจะไม่ใช่ได้แค่1ครั้ง แต่มากกว่านั้น!โจมตีต่อเนื่องจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บแน่นอน
ฉินหลั่งเห็นฝู้คายหมุนตัวจนเห็นเป็นเงา จึงไม่กล้าประมาท เขาถอยไปข้างหลังพลางสังเกตฝู้คาย เมื่อถอยได้4-5ก้าว ฉินหลั่งก็หาโอกาสได้ แล้วพุ่งหมัดตรงไปยังฝู้คาย
หมัดนี้คือ“เทียนหนานเทียนเป่ย”หนึ่งในท่า“หมัดผ่าฟ้า” หมัดมีกำลังมาก
เสียงดัง“ปึก”อีกครั้ง หมัดของฉินหลั่งต่อยไปยังหน้าของฝู้คาย มือมีดของฝู้คายก็ไปโดนเสื้อผ้าฉินหลั่ง
เสียงดัง“แควก”มือฝู้คายทำให้เสื้อฉินหลั่งขาด และฝากรอยแผลไว้ตรงหน้าท้องของฉินหลั่ง หากฉินหลั่งโจมตีฝู้คายช้ากว่านี้แค่นิดเดียว เขาคงโดนจังๆ
ร่างกายที่หมุนติ้วของฝู้คายก็หยุดลงดัง“ปังๆๆ”ถอยไปยังด้านหลัง แล้วจึงยืนได้อย่างมั่นคง
และเมื่อมองไปยังหน้าฝู้คาย ก็เห็นเป็นรอยแผลสีแดงๆ ฝู้คายรู้สึกเจ็บที่หน้า แต่ก็ไม่แคร์แม้แต่น้อย ศักดิ์ศรีของเขาโดนโจมตีอย่างมาก สำหรับฉินหลั่งแล้วท่า“ฝ่ามือป่ายเฟิง” เหมือนโดนคลี่คลายได้อย่างง่ายๆ
“โอ๊ย!”ฝู้คายตะโกนอย่างเดือดดาล และใช้ท่าอื่นๆในหมวด“ฝ่ามือป่ายเฟิง”พุ่งไปที่ฉินหลั่งทันทีทันใด
“ฝ่ามือชิงเฟิง”
“ฝ่ามือเหอเฟิง”
“ฝ่ามือฮุ่ยเฟิง”
“ฝ่ามืออิมเฟิง”……
ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว ความเร็ว ความงดงาม ความประณีต หรือความซับซ้อนเหล่านี้ ทุกท่าล้วนมีลักษณะพิเศษ จากส่วนนี้เห็นได้ว่าฝู้คาย มีความรู้ด้านศิลปะการต่อสู้กว้างขวางมากๆ และท่า“ฝ่ามือป่ายเฟิง”ที่ฝู้คายคิดค้นขึ้นเองอย่างใส่ใจ
ฉินหลั่งก็ไม่รอช้า โต้กลับด้วยท่า“เทียนหนานเทียนเป่ย” ท่า“เทียนหนานเทียนเป่ย”ของเขานั้นมีทักษะที่สูงอยู่แล้ว บวกกับพลังภายในที่เก่งกาจของจูชุยส่วยและยายปี้หวู้ เมื่อตอบโต้ฝู้คายไปก็ยิ่งไม่รู้สึกเปลืองแรง
ร่างทั้งสองเคลื่อนไหวขึ้นลงซ้ายขวาหน้าหลังอยู่ในห้องโถง เสียงม้านั่งพังดัง“โครมคราม”ไปหลายตัว และมีเสียงต่อยกระทบเนื้อดังขึ้นเป็นครั้งคราว
ได้ยินแต่เสียงร้อง“โอ๊ย”ดังออกมา ฝู้คายกระเด็นล้มลงไปกับพื้นเสียงดัง“พลั่ก” และเสียงฝู้คายคลานบนพื้น 5-6ครั้งราวกับคนใกล้ตายดัง“ครืด ”
ทุกคนอึ้งโดยเฉพาะจงเส่นซาน ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาไม่เคยคิดเลยว่าฝู้คายจะโดนโจมตีจนพ่ายแพ้
ฝู้คายค่อยๆลุกขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและฝุ่น เสื้อแจ็คเก็ตสีดำที่ดีๆอยู่ ก็โดนเสียดสีจนขาด เมื่อเขาขยับตัวกระดูกก็ดัง“กร๊อบแกร๊บ” เจ็บเหมือนร่างกายจะขาดออกจากกันอย่างไรอย่างนั้น กว่าฝู้คายจะลุกจากพื้นได้
“ผมแพ้แล้ว!คุณฉินฝ่ามือป่ายเฟิงเหนือชั้นจริงๆ ผม…ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้!”ฝู้คายก้มหน้าพลางพูด เขาถือดีในวิชาฝ่ามือป่ายเฟิงมาก ต้องสู้กันจนพ่ายแพ้จริงๆ เขาจึงจะยอมรับว่าสู้คนอื่นไม่ได้ และฉินหลั่งก็ทำให้เขาต้องยอมรับ
ฉินหลั่งไม่สนฝู้คาย เขาไม่สนว่าจะแพ้หรือชนะแม้แต่น้อย ที่เขาสนก็คือชีวิตของจงยู่กับหลงเถิง
“ประธานจง เชิญคุณพาคนของคุณออกไปด้วย!”ฉินหลั่งมองจงเส่นซาน มองจงเส่นซานจนใจเต้นรัว กลัวว่าฉินหลั่งจะทำอะไรเขา
ออกไปตอนนี้งั้นเหรอ?ไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้ตอนนี้ไม่อาจฆ่าหลงเถิงได้ แต่เขายังต้องพาจงยู่กลับไป ไม่งั้นจงยู่คงทำผิดซ้ำรอยเดิมเหมือนจงเสวี่ยนเย่นแน่
“จงยู่ กลับไปกับลุง! ฉันเป็นลุงเธอนะ!”จงเส่นซานมองจงยู่พลางพูด และเขาก็สังเกตเห็นสายตาของจงยู่ ที่มองเขาด้วยความกลัวและรังเกียจ
เมื่อได้ยินว่าที่แท้จงเส่นซานก็เป็นลุงของจงยู่ พ่อลูกตระกูลหยู“ลม ดอกไม้ หิมะ พระจันทร์”หญิงสาวทั้ง4ล้วนตกใจเป็นอย่างมาก
“ไม่ได้ ประธานจง ขอให้คุณเห็นแก่ที่ยู่เอ๋อเป็นหลานสาวของคุณ ไว้ชีวิตเธอด้วยเถอะ”หลงเถิงรีบดันจงยู่ปกป้องไว้ด้านหลัง เขาคิดว่าหากจงยู่โดนจับกลับไป ก็โดนบ้านตระกูลจงฆ่าตายแน่ๆ
“คุณพูดเหลวไหลอะไร?จงยู่เป็นสายเลือดบ้านตระกูลจง คุณจะบอกว่าบ้านตระกูลจงของผม จะฆ่าสายเลือดตระกูลตัวเองงั้นเหรอ?”จงเส่นซานพูดอย่างโมโห
“บ้านตระกูลจงไม่ฆ่าจงยู่จริงเหรอ!”หลงเถิงได้ยินเช่นนั้นก็อึ้ง ปีนั้นจงเสวี่ยนเย่นต้องตาย เพราะบ้านตระกูลจงจะฆ่าจงยู่ หากจงยู่ไปอยู่บ้านตระกูลจง จะไม่โดนฆ่างั้นเหรอ?
“เหอะ”จงเส่นซานถอนหายใจ ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่ศิลปะการต่อสู้แกร่งกล้าอย่างฉินหลั่งอยู่ที่นี่ เขาคงจะถีบหลงเถิงไปแล้ว:“ผมว่าอย่างไรก็อย่างนั้น บ้านตระกูลจงที่มีภูมิฐาน จำเป็นต้องโกหกต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้เหรอ?”