รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 215 เสียงอันลึกลับ
บทที่ 215 เสียงอันลึกลับ
“ท่านเฝิง ท่านมาแล้ว?” เถ้าแก่ที่ใส่สูทเห็นผู้ชายรูปร่างกำยำ พลันยิ้มให้แล้วเดินไปหาทันที
ชายกำยำเป็นคนที่หยูหมิงเอ่ยชื่อออกมาจากปากว่าเฝิงหรุงคนนั้นแหละ เป็นเจ้าพ่ออันธพาลในเขตหยูหางประจำเมืองถังชี!
เมื่อได้รับคำสั่งจากหยูหมิงแล้ว เฝิงหรุงก็จัดการให้ลูกน้องของตนเองไปตามหาร่องรอยของพวกเขา เมื่อเห็นว่าพวกเขาเข้ามาในร้าน “หวังร่วนซิง” แล้ว เฝิงหรุงก็แจ้งให้กับเถ้าแก่ที่ใส่ชุดสูททันที เพื่อให้เขาเคลียร์สถานที่ให้เรียบร้อย ตนเองจะได้จัดการลักพาตัวหลงเย้นไปจากที่นี่ได้เลย พอเริ่มออกอาการมึนๆ แล้วก็ส่งตัวไปที่โรงแรม เพื่อถวายให้คุณชายหยูได้สนุกสนาน ส่วนไอ้กระจอกอย่างฉินหลั่ง ก็จัดการสั่งสอนมันสักยกใหญ่
ทางพนักงานที่อยู่ด้านข้างฉินหลั่งนั้น ก็รู้ว่าเฝิงหรุงเป็นเจ้าพ่ออยู่ในถิ่นนี้ ตอนนี้ได้เห็นเขาตัวเป็นๆ ถึงแม้ว่ารู้ตัวว่าเขาไม่ได้มาหาเรื่องกับพวกตนเอง ทว่ายังคงหวาดกลัวอยู่ในใจ จนไม่กล้าหายใจได้ทั่วท้อง
เวลานั้นเอง ในร้านอาหารมีคนอยู่สามคน ฉินหลั่ง หลงเย้นกับหญิงงามชุดขาว เถ้าแก่ที่ใส่สูทกับบรรดาพนักงานต่างก็ปิดประตูไปเรียบร้อยแล้ว
ฉินหลั่งกับหลงเย้นเห็นเหตุการณ์ที่อึมครึมเช่นนี้ ย่อมไม่สบาย ทว่าสาวสวยที่ใส่ชุดขาวนั่น นั่งคงอยู่ที่เก้าอี้อย่างสงบนิ่ง ไม่รู้ว่าเวลาไหนกัน ที่จัดการเอาผ้าปิดหน้าแล้ว
เฝิงหรุงทำท่ากร่างนั่งลงบนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่ทั้งสามคนฉินหลั่ง หลงเย้น และหญิงงามชุดขาว พร้อมทั้งยิ้มแล้วพูดขึ้นมา “คุณหลง สวัสดีครับ ทำไมถึงทำเพื่อไอ้ขี้แพ้คนนี้ จนยอมทำผิดกับคุณชายซุนล่ะ?”
หลงเย้นตกใจ คนคนนี้รู้เรื่องว่าเธอเป็นคุณหนูของตระกูลหลง ยังกล้ากักตัวพวกเขาอีก เลยโกรธจนต้องพูดกับเฝิงหรุงไป “ซุนเจี้ยนใช้พวกแกให้มาใช่ไหม? พวกแกคิดจะทำอะไร? แกรู้ว่าฉันเป็นคุณหนูของตระกูลหลง ถ้าฉันมีเรื่องเกิดขึ้น พ่อฉันไม่ปล่อยพวกแกไปแน่”
เฝิงหรุงนั่งไขว่ห้าง พร้อมทั้งจุดไฟแช็ค แล้วจัดการจุดบุหรี่ และสูบเข้าปอด แล้วพ่นควันออกมา จึงได้หันมาพูดด้วย “ขนาดคุณหลงโมโหยังสวยขนาดนี้ มิน่าล่ะคุณชายซุนถึงได้หลงรักนักหลงรักหนา คุณชายซุนเขารักแรกพบกับคุณจริงๆ ตอนนี้คุณชายซุนอยู่ที่โรงพยาบาล คุณก็ควรไปดูเขาสักหน่อย”
“ฉันไม่ไป พวกแกหลีกไป พวกเราจะไปแล้ว” หลงเย้นพูด
เฝิงหรุงพ่นควันบุหรี่ออกมาอีกรอบ พร้อมทั้งพูดว่า “คุณหลง คุณนี่ช่างไม่ไว้หน้ากันเลยนะเนี่ย? คุณชายซุนเชิญตัวฉันมา ฉันก็ต้องจัดการช่วยเหลือเรื่องนี้ให้เขาได้สำเร็จ ถ้าคุณไม่ยอมไปกับพวกเราเอง งั้นก็อย่าโทษแล้วกันที่พวกเราไม่เกรงใจ”
เฝิงหรุงทำหน้าเบะ แล้วพูดขึ้นว่า “พวกแกสองคนไปเอาตัวคุณหลงมา!”
“ครับ!” เสียงลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเฝิงหรุงสองคนขานรับ พูดจบก็เดินไปทางหลงเย้นทันที
หลงเย้นตกใจจนหน้าซีดเผือด พร้อมทั้งจับแขนของฉินหลั่งไว้แน่น ร่างกายก็หลบด้านหลังของฉินหลั่ง ฉินหลั่งเอาตัวเองมาขวางด้านหน้าหลงเย้น
“ไอ้ขี้แพ้! หลีกทางให้กู!”
“อยากโดนทำร้ายหรือยังไง! หลีกไป” ลูกน้องที่เดินมาทั้งสองคนเริ่มด่าทอฉินหลั่ง
ฉินหลั่งขมวดคิ้วพร้อมทั้งถามเฝิงหรุง “พี่ชายท่านนี้ ซุนเจี้ยนจ่ายให้พี่เท่าไหร่? จะให้ตระกูลหลงจ่ายให้แกอีกเท่าตัว พี่คิดว่ายังไง?”
หลงเย้นที่อยู่ด้านหลังฉินหลั่งโผล่หัวออกมา แล้วพยักหน้าให้แล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ ฉันจะให้พ่อให้เงินแกมากกว่า ให้แกปล่อยพวกเราไปจากที่นี่”
หลงเย้นไม่เคยอยู่กับพวกอันธพาลนักเลงในห้องเดียวกันมากมายขนาดนี้ รู้สึกได้ว่าไม่สบายใจเลย ตอนนี้เธออยากจะออกไปจากที่นี่
“เหอะ แกคิดว่าพวกเราซื้อตัวง่ายหรือไง ที่ใครจ่ายเยอะกว่าแล้วจะไปทำเรื่องให้?” เฝิงหรุงพูดไป ก็พูดกับลูกน้องสองคนนั้นทันที “พวกมึงยังยืนบื้อทำไม? จัดการไอ้ขี้แพ้นี้ก่อนเลย!”
“ครับ!” ลูกน้องสองคนขายรับคำสั่ง ทั้งสองคนยืนมือออกไปคว้าผมของฉินหลั่ง อีกคนก็คว้าไปที่เสื้อผ้าของเขา จากนั้นก็ลากตัวเขาออกมาตรงกลางแล้วก็จัดการต่อยเขาทันที
ฉินหลั่งเห็นว่าสองคนนี้ตัดสินใจที่จะทำร้ายเขาแล้ว เลยผลักหลงเย้นไปทางด้านหลังอย่างแผ่วเบา เพื่อจะให้หลีกเลี่ยงเมื่อเธอโดนลูกหลงไปด้วย
ฉินหลั่งจัดการปัดมือของนักเลงสองคนทันที นักเลงสองคนนั้นไม่คิดว่าฉินหลั่งจะกล้าลงมือ ยิ่งทำให้โมโหหนักกว่าเดิม ตอนที่กำลังชูมือเตรียมต่อยฉินหลั่งกลับนั้น หมัดยังไม่ทันได้ต่อยออกไปเลย ทั้งสองคนก็กรีดร้องพร้อมกัน “ไอ้หยา” “ไอ้เหี้ย”
คนหนึ่งถูกฉินหลั่งต่อยเข้าจมูก อีกคนต่อยเข้าที่เบ้าตา
ฉินหลั่งลงมือไม่เคยไว้หน้าใคร ใช้โอกาสตอนที่นักเลงสองคนเอามือกุมหน้าพร้อมทั้งกรีดร้องอยู่นั้น ก็ใช้เท้าทั้งสองถีบไปที่หน้าท้องของทั้งสองคน นักเลงทั้งสองคนมีเสียง “ผลั่ก ผลั่ก” แล้วก็ล้มตัวลงกองอยู่ที่พื้น แล้วก็เอามือกุมท้องกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ฉินหลั่งเตะนักเลงสองคนจนสิ้นท่า ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังเฝิงหรุงรีบเข้ามาทันที “แม่งเอ๊ย” “คนของเฝิงหรุงมึงยังกล้าลงมือ!” “เหี้ย ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือยังไง ฉันจะจัดการไอ้เหี้ยนี่เอง! …”
เฝิงหรุงชูมือขึ้น บรรดาลูกน้องต่างปิดปากเงียบ ทำได้แค่จ้องมองฉินหลั่งอย่างโกรธแค้น
เฝิงหรุงยิ้มให้ “ไอ้เวรมีฝีมือ มึงคิดว่าแค่มึงคนเดียว ก็สามารถจัดการพวกกูสิบกว่าคนงั้นสิ?”
“ฉันต่อยชนะพวกแกสิบกว่าคนไม่ได้หรอก แต่ฉันอยู่ที่นี่ พวกแกก็อย่าคิดเอาตัวหลงเย้นไป! พี่เฝิง พวกเราพูดดีๆ กันก็ได้ แกคิดว่าไง?” ฉินหลั่งพูดต่อ
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินหลั่ง ที่ยังเป็นห่วงหลงเย้นอย่างมาก ถึงกับใจอ่อนทันที
“หึ ไอ้เด็กนี่มันกล้าดี แต่โง่ฉิบหาย มาคุยกับพวกนักเลงเรื่องหลักการบ้าบอนี่ แกคิดว่าตัวเองมีสิทธิไหมวะ? ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย แกหลีกทางให้พวกฉัน ไม่งั้น ฉันจะให้แกลิ้มรสรสชาติของการฆ่าคน มีดที่มีเลือดสีแดงออกมาด้วยมันมีรสชาติยังไง”
เฝิงหรุงพูดจบ ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังของเขาคนหนึ่งก็หยิบมีดสั้นออกมาจากเอว เสียง “ครืด” ดังออกมา เขามองไปที่ฉินหลั่งอย่างเย็นชา พร้อมทั้งใช้ปลายลิ้นเตะที่ปลายมีด จากนั้นก็ถุยน้ำลายลงพื้น แล้วมองมาทางฉินหลั่งเอาโหดร้าย
ฉินหลั่งใจเต้นโครมคราม แต่ว่ายังคงเอาตัวเองขวางหลงเย้นไว้ด้านหน้า
หลงเย้นเห็นว่าอีกฝ่ายเอามีดขึ้นมาโชว์แล้ว ฉินหลั่งตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ความคิดในใจที่สับสนต่างๆ นานาก็เริ่มสงบลง ไม่มีทางที่จะให้ฉินหลั่งบาดเจ็บได้ เธอเลยยืนแล้วพูดทันที “พวกแกไม่ต้องไปทำให้เขาลำบากใจ ฉันจะไปกับพวกแก!”
เฝิงหรงยิ้มให้แล้วพูดว่า “คุณเย้นทำแบบนี้ตั้งแต่แรก เรื่องก็คงไม่ยุ่งยากแบบนี้”
“หลงเย้นคุณ….” ฉินหลั่งมองมาทางหลงเย้น ก็เห็นแววตาอันอบอุ่นของหลงเย้นที่กำลังยิ้มให้เขา “ไม่เป็นไร นายไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันก็แค่ไปดูซุนเจี้ยนที่โรงพยาบาลเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรหรอก”
ไม่รอให้ฉินหลั่งตอบ หลงเย้นก็มองที่เฝิงหรุง พร้อมทั้งพูดอย่างหนักแน่น “ฉันไปกับพวกแก แต่ว่าพวกแกห้ามทำให้เขาลำบากใจไปด้วย ฉันขอเตือนพวกแก ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ตระกูลหลงจะไม่มีวันปล่อยพวกแกไปแน่ๆ”
เฝิงหรุงพ่นก้นบุหรี่ออกมาจากปาก แล้วพูดว่า “ได้ ฉันตกลงคุณ” แต่ในใจของเฝิงหรุงคิดว่า “ต้องหลอกเอาตัวหลงเย้นให้ได้ซะก่อน จากนั้นค่อยจัดการไอ้ขี้แพ้คนนี้เป็นพิเศษ สั่งสอนมันให้หนัก จะปล่อยไปง่ายๆ ได้ไง เหลือคนของเขาไว้สองสามคน เพื่อจะได้จัดการไอ้เด็กนี้ให้หนัก”
เฝิงหุรงมองมาที่หลงเย้น ในใจได้แต่ยิ้มให้อย่างเย็นชา
“คุณหลง คุณหลง คุณคิดว่าพวกเราจะพาคุณไปหาคุณชายซุนจริงๆ เหรอ?
หึ คุณนี่คิดอะไรที่มันธรรมดาง่ายๆ เสียจริง รอจนคุณยอมขึ้นรถไปกับพวกเราแล้ว พวกเราจะจัดการโปะยาสลบ จากนั้นก็พาคุณไปที่โรงแรม ถึงเวลานั้นคุณชายหยูหมิงก็จะมาที่ห้องแล้วแสดงบทรักกับคุณ พอพรุ่งนี้เช้าตอนที่คุณตื่นขึ้นมา ตนเองก็ต้องนอนอยู่บนเตียง เสื้อผ้าถูกถอดหมดทุกชิ้น คุณคงนึกว่าคุณชายซุนเป็นคนทำละสิ? ฮ่าๆ คุณชายหยูนี่คิดแผนได้อย่างแยบยลจริงๆ!”
หลงเย้นมองไปทางฉินหลั่ง พร้อมทั้งพูดอย่างอ่อนโยน “วันนี้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันทั้งวัน ฉันสบายใจมาก อีกเดี๋ยวคุณรีบกลับไปที่มหาวิทยาลัยเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันกลับไปแล้วจะโทรศัพท์หาคุณเอง”
พูดจบ หลงเย้นก็ยิ้มให้ แล้วก็มุ่งหน้าเดินไปทางเฝิงหรุง
ในหัวสมองฉินหลั่งสับสน หลงเย้นพูดก็มีหลักการอยู่ ก็แค่ไปเยี่ยมซุนเจี้ยนที่โรงพยาบาลเอง ไม่น่ามีปัญหาใหญ่อะไร แต่ในใจเขาก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจ เวลานั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงล่องลอยมาแต่ไกล “อย่าให้เธอไป จะเกิดเรื่องขึ้น!”
ฉินหลั่งตะลึง เขาไม่รู้ว่าเสียงนั่นมันมาจากไหน แต่ก็รีบก้าวเท้า ไปคว้าแขนหลงเย้นเอาไว้ แล้วดึงเธอให้มาหลบด้านหลังของตนเอง
“ฉินหลั่งนายทำอะไร…” หลงเย้นถามอย่างไม่เข้าใจ
“คุณไปกับเขาไม่ได้ จะต้องมีเรื่องเกิดขึ้น” ฉินหลั่งพูดอย่างหนักแน่น
“แกอยากตายหรือไง!” เฝิงหรุงมองแผนการที่ใกล้จะสำเร็จอยู่แล้ว แต่ฉินหลั่งดันเปลี่ยนใจขึ้นมาทันที เลยระเบิดอารมณ์ทันควัน ลูกน้องด้านหลังของเขาสิบกว่าคนเริ่มขยับตัวด้วยความกระหาย หลายคนก็หยิบมีดสั้นขึ้นมาแล้ว
มือของฉินหลั่งไร้อาวุธใดๆ การที่ต้องมาเผชิญหน้ากับนักเลงอันธพาลที่ในมือถือมีดสิบกว่าด้ามนั้น ถ้าไม่ระวังตัวก็จะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ ได้แต่วิตกกังวลอยู่ใจ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
“แกใช้วรยุทธ์เป็นไหม?” เวลานั้นเอง เสียงลึกลับก็เริ่มถามอีกครั้ง
“ไม่เป็น!” ฉินหลั่งรู้ว่าเธอกำลังคุยอยู่กับตนเอง เลยตอบทันที
หลงเย้นมองมาทางฉินหลั่ง พร้อมทั้งถามด้วยความสงสัย “นายพูดว่าอะไรไม่เป็นนะ?”
“เธอถามฉันว่าฉันมีวร…” ฉินหลั่งมองมาทางหลงเย้นและกำลังจะตอบ เวลานั้นเองเสียงลึกลับก็ดังขึ้นอีกครั้ง “พื้นฐานง่ายๆ ไม่เคยเรียนเลยหรือยังไง? พวกมวยไทเก๊ก หรือมวยธงเป้ย”
ฉินหลั่งตะลึง เขาได้ยินเสียงนี้พูดขึ้นมา หลงเย้นไม่ได้ยินสักนิด ยามเมื่อเขามองไปทางพวกเฝิงหรุงอีกครั้ง พวกเขาก็จ้องมองตนเองตาถนน เหมือนว่ากำลังด่าเขาอยู่ ทำเหมือนว่าไม่ได้ยินเสียงนี้กันเลย
ฉินหลั่งทั้งตกใจและประหลาดใจ ทำไมตนเองถึงได้ยินเสียงนี้คนเดียว? เสียงนี้เป็นเสียงของใคร เทวดาเหรอ? หรือว่าดวงวิญญาณของผีกัน?
“เด็กหนุ่ม ฉันถามแกทำไมแกไม่ตอบฉัน?” เสียงนั่นเริ่มถามอีกครั้ง
ในเวลานี้ฉินหลั่งทั้งเคารพทั้งหวาดกลัวกับเสียงนี้ ไม่กล้าแม่แต่ปิดบังสักนิด แล้วพูดว่า “ตอนเด็กๆ ฉันเคยเรียนมวย ฉางเฉวียน มวยหวิงชุ ยังมีพื้นฐานกงฟูอื่นๆ อยู่บ้าง”
คนอื่นๆ ได้ยินที่เขาพูดกับตนเอง รู้สึกประหลาดใจและสงสัยกันทุกคน
“ไอ้เวรนี่มันคุยกับใคร?”
“มันคงถูกพวกเราทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปแล้วมั้ง?”
“แม่งเอ๊ย มึงพูดว่ามึงเคยเรียนฉางเฉวียนมาเพื่อต้องการจะข่มขู่พวกกูว่างั้นสิ?”
……
ฉินหลั่งพูดต่อ “แต่ว่าเรียนตั้งแต่เด็กๆแล้ว ตอนนี้จำได้แค่ท่าเดียว พวกกระบวนท่าต่างๆ ก็ลืมไปหมดแล้ว”
เสียงนั่นเริ่มพูดอีกครั้ง “เคยเรียนก็ดีแล้ว อีกเดี๋ยวฉันจะคอยเตือนเจ้าเอง มันพอแล้วสำหรับไอ้พวกอันธพาลสิบคนนี้!”
“ห๊ะ…พี่นางฟ้า ในมือของพวกเขามีมีดอยู่นะ ฉันจะไปสู้รบตบมือกับพวกเขายังไง?” ฉินหลั่งถามด้วยความสงสัย
เฝิงหรุงเห็นว่าฉินหลั่งกำลังพูดกับตนเองไปเรื่อย ท่าทางสติหลุดลอย เลยรู้สึกว่าดูถูกตนเองซะงั้น เขาเลยพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “ไอ้กระจอกแอบทำตัวเป็นคนบ้า พูดออกมาเองว่าจะลงมือกับพวกเรา งั้นยังจะพูดอะไรกันอีก พวกแกระวังไว้ให้ดี อย่าทำร้ายคุณหลง ไม่งั้นฉันจะจัดการแล้วเอาไปให้หมากินซะ คุณหลง พวกเราจะจัดการไอ้โง่นี่ ทางที่ดีคุณหลบไปหน่อย เพราะยังไงทั้งมือทั้งเท้าจัดเต็มจนมองไม่ทันอยู่แล้ว”
เฝิงหรุงหันหน้าไปหาลูกน้องพร้อมทั้งคำสั่ง “เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าเข้าไปสู้ทีละคนยังร้องเสียงหลง ตอนนี้พวกแกลงมือพร้อมกัน ใครที่เป็นคนแทงไอ้เด็กนี่เข้าแผลหนึ่ง ฉันจะเอาแฟนที่หมดสนุกแล้วยกให้สามเดือน แถมเงินให้อีกสองหมื่นหยวน!”
บรรดานักเลงหัวไม้ที่ได้ยินคำสั่งของเฝิงหรุง พวกเขาไม่ถูกชะตาฉินหลั่งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อีกอย่างยังได้แฟนเขาไปเล่นสนุกๆ ด้วย แถมยังได้เงินอีก ทุกคนก็เหมือนกระต่าย ที่พุ่งหน้าไปทางฉินหลั่งทันที!
“ห๊ะ…” ฉินหลั่งตกใจ จนรีบผลักหลงเย้นไปอีกทางหนึ่ง เพื่อให้เธอไม่โดนลูกหลงไปด้วย การเผชิญหน้าคนสิบคนที่พุ่งมานั้น หัวใจของฉินหลั่งกระโดดจนเกือบจะหลุดออกมา ในเวลานั้นเขาก็ได้ยินเสียงลึกลับอีกครั้ง “ใช้เท้าเจ้ากวาดขาไปที่คนที่มาเป็นกลุ่มแรก แรงต้องให้แม่นยำ ทั้งดุดัน รวดเร็ว เท้าห้ามแตะพื้น….”