รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 212 ลองพูดสตาร์ทไซโคลนดู
บทที่ 212 ลองพูดสตาร์ทไซโคลนดู
ผู้คนที่อยู่ในห้องรับรองต่างทำเสียงซุบซิบอย่างประหลาดใจ แถมยังเบิกตาโตไปตามๆ กัน
“ดูรถคันนี้สิโคตรสุดยอด”
“ตอนแรกคิดว่ารถของคุณชายซุนจะเป็นรถสปอร์ตที่สุดยอดที่สุดแล้ว แต่ภายนอกรถ หรือว่าเสียงก็เครื่องยนต์ตาม เมื่อเอามาเปรียบเทียบกันคันนี้ มันล้าหลังไปอีกขั้นเลย”
“ใช่ ตอนนี้ดูเหมือนว่า รถของคุณชายซุนตกรุ่นไปแล้ว”
……
เจียงฮุ่ยขมวดคิ้วพร้อมทั้งให้ข้อแนะนำกับคนท่าทางเงียบเฉย คุณชายซุนยังอยู่ที่อยู่เลย
การที่พวกเขามาลดระดับรถยนต์ของคุณชายซุนซะต่ำต้อย คุณชายซุนยังจะดีใจอยู่ได้ไหม?
ทว่าซุนเจี้ยนก็ไม่ได้โกรธเคืองเลยสักนิด เพราะว่ารถยนต์คันนี้ไม่ใช่ของเขา เขาก็ได้แต่มองรถสปอร์ตสีขาวคันนั้นอย่างอิจฉา พร้อมทั้งพูดงึมงำไปด้วย
“รถคันนี้สมรรถนะมันดีกว่ารถคันนั้นของฉันมาก คนที่สามารถขับรถคันนี้ได้ นั่นหมายถึงว่าเป็นคนที่ร่ำรวยมากกว่าคุณชายหยูหมิงซะอีก”
ซุนเจี้ยนพลันนึกขึ้นเรื่องอะไรบางอย่างได้ พร้อมทั้งพูดอย่างตกใจ “ทำไมรถคันนี้มันเหมือนกับรถยนต์คันนั้นล่ะ?”
“รถคันไหน?” เจียงฮุ่ยไม่เข้าใจความหมายพร้อมทั้งถามกลับ
“พวกแกเคยได้ยินข่าวไหมเมื่อหลายเดือนก่อน ว่าท่านประธานบริษัทเฟอร์รารี่มาส่งรถด้วยตนเอง พร้อมทั้งส่งมอบรถเฟอร์รารี่ที่แพงที่สุดเป็นประวัติการณ์ให้กับคุณชายผู้ลึกลับคนหนึ่งในเมืองจีนหลิง! เหมือนว่าจะเป็นคันนี้แหละ!” ซุนเจี้ยนท่าทางพูดอย่างตื่นเต้น
“ห๊ะ? เหมือนจะใช่จริงๆ ด้วย! ข่าวว่ากันว่าเป็นรถเฟอร์รารี่สีขาว”
“เวรเอ๊ย ไอ้คุณชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลย แถมยังทำตัวลึกลับอีก แต่ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าเขาต้องเป็นหนึ่งในบรรดาลูกคนรวยไฮโซที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกอย่างแน่นอน!”
……
ทุกคนในสนามต่างตกใจไปตามๆ กัน ตั้งแต่ที่มีรถเฟอร์รารี่สีขาวปรากฏตัวขึ้น ทุกคนก็เริ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วก็จัดการถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอกันอย่างบ้าคลั่ง
รอเวลาที่ความเร็วของรถเฟอร์รารี่ชะลอตัวลง ทุกคนต่างล้อมรถเอาไว้ พร้อมทั้งขยับตัวตามรถ ทุกคนต่างร้องเสียงหลงอย่างชื่นชม พร้อมทั้งมีเสียงพูดบ้างก็ว่า “ไอ้สัตว์” “โคตรเท่” “สุดยอด” “ยอดเยี่ยม” …
หลังจากที่รถเฟอร์รารี่จอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประตูรถก็เปิดออก สาวสวยสองคนเดินลงมาจากรถ คนหนึ่งก็ปล่อยผมสยาย ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำตัวแนบเนื้อ หน้าตาสะสวย สวยสง่ามาก เผิงเมิ่งนั่นเอง! ส่วนอีกคนเป็นนักศึกษาที่ผมหยักศกนั่นก็คือกู่ซาเพื่อนสนิทของเธอนั่นแหละ
ฉินหลั่งเห็นเผิงเมิ่ง อดแสดงความดีใจออกนอกหน้าไม่ได้ เมื่อคิดถึงเรื่องตอนที่ไปจากเมืองจีนหลิงในตอนนั้น ได้แต่คิดถึงเผิงเมิ่งอย่างอดไม่ได้
เผิงเมิ่งเดินมากับกู่ซา คนอื่นๆ ต่างส่งเสียงฮือฮา รถสปอร์ติดอันดับโคตรหรูขนาดนี้ เป็นผู้หญิงขับ เก่ง สุดยอดจริงๆ
เผิงเมิ่งมองรถก็เห็นว่าตนเองจอดอยู่ตรงกลางสนาม เลยคิดว่ารถของตนเองขวางทางเท้าคนเดินไปมา แล้วรู้สึกอยากจะจอดใหม่ให้ชิดทาง
เผิงเมิ่งเริ่มพูดกับเฟอร์รารี่อีกครั้ง “ไซโคลน สตาร์ทรถ! ไปหาที่จอดรถแล้วจอดซะ!”
คนอื่นต่างทำหน้าเจ๋อ ไม่เข้าใจว่าเผิงเมิ่งกำลังทำอะไรอยู่ ในรถเฟอร์รารี่ก็เห็นอยู่ว่าไม่มีคนอยู่ เผิงเมิ่งกำลังคุยอยู่กับใคร?
ตอนที่พวกเขากำลังสงสัยอยู่นั้น รถเฟอร์รารี่ก็ส่งเสียง “ฮึมๆ” ทุกคนต่างตกใจไปตามๆ กัน จากนั้นทุกคนต่างมองกันตาค้างกับเรื่องที่เกิดขึ้น รถเฟอร์รารี่มันสตาร์เอง
ทุกคนต่างขยี้ตาตนเอง ไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง
เมื่อเห็นว่ารถเฟอร์รารี่ขับโดยไม่มีคนขับ มันถอยหลัง จากนั้นก็เลี้ยวซ้าย แล้วก็เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง จากนั้นก็จอดด้านข้างสวนหย่อมตรงสนามกว้าง
“นี่มันเป็นเสียงคำสั่งขับเคลื่อนรถอัตโนมัติ!”
“เหี้ยเอ๊ย นี่มันทันสมัยเกินไปไหมเนี่ย ตามที่ฉันรู้ เทคโนโลยีอันนี้เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยสุดๆ และจะเอาเข้ามาใช้กับรถยนต์ เพิ่งจะคิดค้นได้ ยังไม่ได้เอาเทคโนโลยีอันนี้เข้าสู่ท้องตลาดเลย ทำไมรถคันนี้มันติดตั้งระบบนี้แล้วล่ะ?”
“มันสุดยอดมาก! รถยนต์คันนี้ถือว่าเป็นรถที่โคตรสุดยอดที่สุดในโลก!”
ทุกคนต่างชื่นชมไปตามๆ กัน
กู่ซากอดแขนเผิงเมิ่ง แถมดีใจอยู่ในใจ พร้อมทั้งพูดเสียงต่ำ “เผิงเมิ่ง วันนี้ได้นั่งรถแกออกมา มันสบายจริงๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เหมือนดาราไปเลย! แกดูแกสิ น่าจะเอารถคันนี้มาขับตั้งแต่แรก เอาไว้ที่บ้านให้ฝุ่นมันเกาะทำไม?”
เผิงเมิ่งได้แต่ยิ้มให้ “รถคันนี้มันเป็นของฉินหลั่ง ตอนที่ฉินหลั่งไปจากเมืองจีนหลิง ทางผู้จัดการชือของธนาคารซิตี้แบงก์ก็เอารถคันนี้มาจอดไว้ที่บ้านฉัน ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่ารถคันนี้ ฉันเอามาใช้ได้ตลอดเวลาก็ตาม แต่ยังไงก็เป็นรถของฉินหลั่ง อีกทั้งราคาแกก็รู้ดีว่า ถ้าฉันทำรถเขาพัง มันไม่ใช่เงินแค่ก่อนเล็กๆ แล้วจะสามารถจัดการได้”
กู่ซายิ้มแห้งๆ ให้ “ฉันคิดว่าถึงแม้ว่าแกทำพัง ฉินหลั่งก็ต้องจ่ายให้แกอยู่ดี”
“พูดมั่ว เขาก็คือเขา ฉันก็คือฉัน เราเป็นเพื่อนกัน ทำจนมันพังขนาดนี้ แล้วจะไม่ชดใช้เงินได้อย่างไร?” เผิงเมิ่งตอบ
“ฉันปากมากเอง ดูเหมือนว่าแกยอมปล่อยเขาไปจริงๆ แล้ว” กู่ซาเหลือบตามองเผิงเมิ่ง พร้อมทั้งพูดเสียงเบา “เผิงเมิ่ง ครั้งนี้แกมาดูแกมาการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมจริงๆ หรือว่ามาหาฉินหลั่งกันแน่?”
“แกนี่ ฉันพูดไปตั้งหลายรอบแล้ว ว่าฉันดูการแข่งขันจริงๆ ไม่เกี่ยวกับฉินหลั่ง” เผิงเมิ่งตอบ
กู่ซาได้แต่มองเผิงเมิ่งพร้อมทั้งยิ้มให้อย่างตลกขบขัน ในใจคิดว่า “ถ้าเป็นแบบนั้นจริง แกจะขับรถสปอร์ตออกมาจงใจแบบนี้ทำไมกัน? ไม่ใช่ว่าเพื่อต้องการโอกาสในการเจอกับฉินหลั่งหรอกเหรอ? แต่ว่าหลายวันมานี้เผิงเมิ่งคงพยายามในการลืมฉินหลั่ง ฉันคิดว่าเธอก็คงคิดได้แล้ว ว่าเธอกับฉินหลั่งไม่มีทางเป็นไปได้มั้ง”
เผิงเมิ่งกับกู่ซาเดินเข้าไปด้านในสนามกีฬา
ผู้คนที่เข้ามาล้อมวงมุงดูรถเฟอร์รารี่ยิ่งหนาตากว่าเก่า บางคนก็เปิดโปรแกรมHUYAในการถ่ายทอดสด เพื่อจะให้บรรดาFCแฟนคลับได้เห็นเหมือนๆ กัน บางคนก็ถ่ายรูปคู่กับรถเฟอร์รารี่ บางคนก็เดินวนรอบรถเฟอร์รารี่ไปมา วนแล้ววนอีก เพื่อจะได้ดูทุกซอกทุกมุมของรถยนต์คันนี้ให้ละเอียด ทว่าก็ไม่มีใครกล้ายืนมือออกไปคลำตัวรถ เพราะต่างรู้สึกว่าเดี๋ยวตัวรถจะเป็นรอยนิ้วมือ แล้วจะนำปัญหาใหญ่มาให้ตนเอง!
มีคนที่มุงดูขึ้นคำสั่งของเพิงเมิ่งขึ้นมา รถคันนี้มันเป็นรถที่ใช้เสียงในการควบคุมอัตโนมัติ เลยอยากให้ตนเองลองพูดดูสักครั้ง เพื่อจะให้รถคันนี้มันขยับขึ้นมาได้? จากนั้นก็มีคนเริ่มลองดู
“ไซโคลนสตาร์ทรถ! เปิดประตู”
“ไซโคลนสตาร์ทรถ! ถอยหลัง”
“ไซโคลนสตาร์ทรถ! เริ่มเปิดระบบการทำงาน!”
……
คนที่อยากจะลองยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนทำเหมือนเป็นเรื่องสนุกสนาน
บรรดาซุนเจี้ยนและพวกพ้องที่อยู่ในห้องรับรอง ในเวลานี้ยังไม่คิดที่จะลงมาดูรถเฟอร์รารี่ ทว่าทุกคนต่างชื่นชมกันไม่หยุดปาก ว่ารถเฟอร์รารี่สีขาวคันนี้มันสุดยอดจริงๆ!
“ใช่สิคุณหลง ผมรู้ว่าวันนี้จะออกมาเที่ยวกับคุณ ผมกับเพื่อนๆ ของผมได้ติดต่อไว้แล้ว พวกเราจะไปขี่ม้าที่ทุ่งหญ้ากัน วันนี้เพื่อนของผมได้นัดครูสอนขี่ม้าสองคนเอาไว้ให้โดยเฉพาะ พวกเราไปกันเลยไหม?” ซุนเจี้ยนพูดกับหลงเย้น เรื่องทุ่งหญ้าคุณชายหยูเป็นคนตระเตรียมให้เขาเอง พอถึงที่นั่น ยังมีคนอีกมากมายในคอยสร้างบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกให้เขา เพื่อจะได้ทำให้หลงเย้นรู้สึกดีกับเขา
หลงเย้นเอ่ยปากพูดตามปกติ “พวกคุณไปกันเถอะ ฉันกับฉินหลั่งที่ดูการแข่งขันที่อยู่นี่ก็พอแล้ว”
เจียงฮุ่ยเริ่มพูดเกลี้ยกล่อมต่อ “หลงเย้น อย่าทำแบบนี้สิ คุณชายซุนเขาลงทุนความคิดไปตั้งมากมายเลยนะ คุณดูเพื่อนของคุณชายซุนสิถึงกลับไปเชื้อเชิญอาจารย์สอนขี่ม้ามาให้เรียบร้อยแล้ว คุณไม่ไปยิ่งทำให้คุณชายซุนลำบากใจไปด้วยเหรอ?”
หลงเย้นครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ถอนหายใจ พร้อมกับพูดฉินหลั่ง “ได้ ฉินหลั่งจะไปกับพวกเราด้วย”
“งั้นดี พวกเราก็ออกไปตอนนี้เลย!” ซุนเจี้ยนทำหน้าดีใจ จากนั้นก็มีคนเดินกันเป็นแถวเดินออกจากสนามกีฬา
ก่อนเดินมาถึงรถสปอร์ตของซุนเจี้ยน ซุนเจี้ยนก็เริ่มคุยกับคนอื่นๆ “พวกแกไปเที่ยวที่อื่นเถอะ ฉันจะไปขี่ม้ากับหลงเย้น”
หลงเย้นอึ้ง พร้อมทั้งดึงเสื้อของฉินหลั่งเอาไว้ และมองไปทางซุนเจี้ยน “คุณพูดว่าอะไรนะ? คุณกับฉันงั้นเหรอ? ไม่ ฉันจะไปกับฉินหลั่ง”
ซุนเจี้ยนได้แต่แอบอิจฉาอยู่ในใจ แต่สีหน้าที่แสดงออกมายังคงยิ้มได้ “คุณหลง ผมพูดกับเพื่อนๆ ว่า จะมีแค่เราสองคนที่จะไป พวกเขาไม่ต้องไป”
เจียงฮุ่ยรีบเสนอความคิดอยู่ข้างๆ “ใช่สิ หลงเย้น แกก็ไปกับคุณชายซุนเถอะ ไปกับไอ้ขี้แพ้คนนี้มันมาอะไรน่าสนุก?”
“ถูกต้องแล้ว คุณหลง ไปกับคุณชายซุนเถอะ”
“ไอ้ขี้แพ้คนนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนคุณเลย”
“คุณชายซุนดีกว่าไอ้ขี้แพ้คนนี้เป็นไหนๆ”
……
ซุนเจี้ยนเดินมาทางด้านหน้าของฉินหลั่ง จากนั้นก็ผลักฉินหลั่ง “แกนี่ไม่มองสภาพตัวเองเอาซะเลย ไม่เห็นเหรอว่าฉันจะไปเที่ยวกับคุณหลง มาทางไหนก็ไปทางนั้นซะ!”
ฉินหลั่งก็อยากผลักซุนเจี้ยนออก แต่หลงเย้นผลักซุนเจี้ยนออกแทน หลงเย้นเอาตัวมาขวางด้านหน้าฉินหลั่งเอาไว้ พร้อมทั้งพูดตวาดใส่ “แกทำอะไร? ฉันไม่อยากไปกับแก แกรีบไปให้ไกลๆ เลย”
“คุณหลง ผม…” ซุนเจี้ยนถูกหลงเย้นผลักออกด้วยความโมโห พยายามเก็บงำความโกรธเอาไว้ก่อน พร้อมทั้งหันมามองหลงเย้นด้วยความอ่อนโยน ทำท่าเหมือนว่าไม่ต้องไปกับเขา ได้แต่พูดอย่างขอโทษ “ได้ ผมทำไม่ถูก คุณหลง อย่าโกรธผมเลย”
“ใช่ พวกเราทุกคนต่างเป็นเพื่อนกัน แขวะกันนิดหน่อยถือว่าเป็นเรื่องปกติ หลงเย้น คุณอย่าไปโกรธแค้นคุณชายซุนเขาเลย คุณชายซุนเขาเป็นคนนิสัยดี!” เจียงฮุ่ยเห็นว่าหลงเย้นโกรธจริงๆ เลยรีบพูดปัดไปให้ เธอชี้ไปที่รถเฟอร์รารี่สีขาวแล้วพูดว่า “พวกเราไปดูรถเฟอร์รารี่คันนั้นกัน ทุกคนไปมุงอยู่ตรงนั้น!”
หลงเย้นยังไว้หน้าเจียงฮุ่ยอยู่ คนกลุ่มนั้นก็เดินไปที่รถเฟอร์รารี่สีขาว ก็เห็นว่ามีคนมากมายที่กำลังลองใช้วิธีการพูดกับรถเฟอร์รารี่ “ไซโคลนสตาร์ท”
คำพูดนี้เป็นคำพูดติดปากกันไปแล้ว
“อันนี้น่าสนุก เมื่อครู่เจ้าของรถคันนี้ ใช้เสียงในการบังคับรถพวกเรามาลองดูไหม ดูซิว่าจะทำให้รถคันนี้มันขยับได้ไหม!” ซุนเจี้ยนพูดไป จากนั้นก็ทดลองก่อนใครเลย “ไซโคลนสตาร์ทรถ”
ก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่กำลังมุมดูอยู่ รถเฟอร์รารี่ไม่มีทีท่าขยับเลยสักนิด
“ฉันไม่ผ่าน แต่ฉันว่าคุณหลงต้องผ่านแน่” ซุนเจี้ยนมองมาทางหลงเย้น แล้วพูดว่า “คุณหลง คุณลองดูสิ ได้ชัวร์”
หลงเย้นเห็นว่าทุกคนต่างเล่นกันอย่างสนุกสนาน ก็รู้สึกแปลกใจตั้งแต่แรก เลยพูดกับรถเฟอร์รารี่ไป “ไซโคลนสตาร์ทรถ”
หลงเย้นได้แต่โบกมือไปมา อยากจะให้รถเฟอร์รารี่ขยับ แต่รถเฟอร์รารี่ก็ยังคงนิ่งจอดอยู่ตรงนั้น ทว่าหลงเย้นก็ยังสนุกสนานไปด้วย
“ไม่ใช่ว่าคุณหลงทำไม่ได้ ก็แค่รถเฟอร์รารี่มันหูหนวกเท่านั้นเอง!” ซุนเจี้ยนยิ้มให้
“ฉันเอาด้วย” เจียงฮุ่ยรู้สึกสนใจ พร้อมทั้งพูดกับเฟอร์รารี่เช่นเดียวกัน “ไซโคลนสตาร์ทรถ”
บรรดาเพื่อนๆ ของเจียงฮุ่ยก็สนุกกันใหญ่
“ฉันเอาด้วย ไซโคลนสตาร์ทรถ”
“ฉันไม่เชื่อ ไซโคลนสตาร์ทรถ”
“ฉันต้องได้ชัวร์ไซโคลนสตาร์ทรถ ฮัลโหล สตาร์ทรถสิ”
……
ทุกคนต่างแหกปากตะโกน เหลือแค่ฉินหลั่งที่ไม่ได้ลองดู
“นี่ ไอ้น้องคนชายนั้น แกก็มาลองด้วยสิ!” ซุนเจี้ยนมองไปทางฉินหลั่งแล้วพูดกับเขา
ฉินหลั่งทำท่าไม่สนใจเขา
“ฉินหลั่ง คุณมาลองด้วยกันสิ สนุกจะตาย! คุณดูคนอื่นๆ ต่างสนุกกันอยู่เนี่ย!” หลงเย้นเขยิบเข้าไปใกล้ฉินหลั่ง พร้อมทั้งพูดเสียงกระซิบ
“เอ่อ…ฉันไม่เอาดีกว่า” ฉินหลั่งยิ้มให้พร้อมทั้งส่ายหน้าปฏิเสธ ถ้าเขาพูดออกมา รถคันนี้มันต้องสตาร์ทติดจริงๆ รถคันนี้ตอนนี้มันเป็นของเผิงเมิ่ง แล้วตนเองจะทำไปใช้ยังไงล่ะ? อีกอย่างเดี๋ยวเผิงเมิ่งก็ออกมา เขาไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไรตอนที่เธอมาดี
เจียงฮุ่ยพร้อมทั้งคนอื่นๆ เริ่มพูดเหน็บเพื่อให้โอกาสฉินหลั่ง จนพูดกันไม่หยุด
“ไม่ไว้หน้าเลย”
“ใช่สิ ทุกคนออกมาเที่ยวเล่นสนุกๆ ไอ้ขี้แพ้อย่างแกแค่พูดออกมาประโยคเดียวยังพูดไม่ได้เลย หรือคิดว่าตนเองพูดแล้วดอกพิกุลทองจะร่วงหลุดออกมาจากปากหรือยังไง?”
“จริงๆ เลย ไม่ชอบเล่นกับคนพรรค์นี้จริงๆ”
ซุนเจี้ยนไม่ถูกชะตากับฉินหลั่งตั้งแต่แรก ถ้าไม่ติดว่าเขาอยู่ที่นี่ด้วย เขาคงต้องพูดเรื่องตลกของเขากับหลงเย้นแน่ ซุนเจี้ยนเดินมาทางด้านหน้าของฉินหลั่ง แล้วพูดกระแนะกระแหนอย่างเย็นชา
“ไอ้ขี้แพ้ แกก็ไม่ใช่คนใบ้สักหน่อย? หรือว่าแกไม่เห็นหัวคนอย่างพวกเรา? ให้แกพูดแกก็ไม่พูด! เศษสวะจริง! หรือว่าแกคิดว่า แกพูดออกมาแล้ว รถเฟอร์รารี่คันนี้มันจะสตาร์รถเองได้เลย?”
หลงเย้นเริ่มโมโหอีกครั้ง อยากจะด่าซุนเจี้ยนอีกรอบ แต่ว่าเธอกำลังมองไปทางซุนเจี้ยน ฉินหลั่งก็ใช้ฝ่ามือจับที่หัวไหล่ของเธอ หมายความว่าเธอไม่ต้องเข้ามายุ่งด้วย
“คุณชายซุน ถ้าฉันสามารถสตาร์ทรถเฟอร์รารี่ได้แล้วคุณจะเป็นยังไงเหรอ?” ฉินหลั่งเริ่มพูดอย่างเย็นชา
ซุนเจี้ยนกุมท้องแล้วหัวเราะใหญ่ คนอื่นๆ ต่างก็ขำตามๆ กัน ซุนเจี้ยนถึงกับอดขำตอนที่พูดไม่ได้ “พวกแกก็ได้ยินใช่ไหม ฮ่าๆ …แม่งขำซะจนท้องฉันแข็งเลยหวะ ไอ้ขี้แพ้นี้ มันบอกว่ามันจะทำให้รถเฟอร์รารี่สตาร์ทได้ ฉันเคยเจอคนบ้าโมโห เคยเจอพวกสมองพิการ แต่ยังไม่เคยเจอคนที่ทั้งสมองพิการทั้งโง่ดักดานเหมือนมันเลย ฮ่า ฮ่า… ฉันขำจนจะตายอยู่แล้ว….”