รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 165 สองการนัดเจอกัน
บทที่ 165 สองการนัดเจอกัน
“อะไรนะ” ฉินหลั่งมองอย่างดีใจ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาโข่งลิ่งเสียน “คุณโข่ง ได้เบาะแสของจงยู่แล้วเหรอครับ”
“อืม”โข่งลิ่งเสียนพยักหน้ารับ เขากดเปิดโทรศัพท์ ก่อนจะยื่นมาตรงหน้าฉินหลั่ง รูปภาพบนหน้าจอโทรศัพท์เป็นรูปมือข้างหนึ่งกำลังจับโทรศัพท์ไว้ ฉินหลั่งเห็นก็รู้ทันที ว่าเป็นโทรศัพท์ของจงยู่ เขาดีใจจนพูดอะไรไม่ออก ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างดีใจ กดจะใช้นิ้วกดไปที่หน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะพูดติดอ่าง “นี่ นี่มัน เป็น เป็นโทรศัพท์ของจงยู่นี่นา”
“อืม ใช่ครับคุณชายใหญ่ พวกเราพบโทรศัพท์เครื่องนี้ที่เมืองหลินอาน จากการตรวจรอยนิ้วมือบนโทรศัพท์ทำให้เราแน่ใจว่าเป็นโทรศัพท์ของคุณหนูจงยู่แน่นอน ตอนนี้คุณชายยังมองออก ทำให้ยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่”โข่งลิ่งเสียนพูดยิ้มๆ “ตอนนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าคุณหนูจงยู่จะอยู่ที่เมืองหลินอาน ผมเตรียมจะกำหนดให้เมืองหลินอานเป็นจุดค้นหาหลัก ผมเชื่อว่าเราจะต้องได้เบาะแสในเร็วๆนี้แน่ๆครับ”
“ดีมากครับ รบกวนพวกคุณแล้ว รอผมหาตัวจงยู่กลับมาได้ ผมจะให้รางวัลพวกคุณอย่างดีเลย”ฉินหลั่งพูดอย่างอารมณ์ดี
“คุณชายใหญ่อย่าพูดแบบนี้สิครับ เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องทำงานรับใช้ตระกูลอยู่แล้วครับ”โข่งลิ่งเสียนรีบพูดอย่างตกใจ
“จริงสิครับคุณชทยใหญ่ ตอนนี้เบาะแสของคุณหนูจงยู่เริ่มชัดเจนขึ้นแล้ว คุณชายไม่ต้องออกตามหาด้วยตัวเองหรอกครับ ยกให้เป็นหน้าที่ของพวกเราก็พอแล้ว”
“ไม่ครับ ผมตัดสินใจแล้ว ก่อนหน้านี้ผมยังไม่รู้ว่าจะไปตามหาเธอที่ไหน แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ผมจะไปตามหาเธอที่เมืองหลินอาน” ฉินหลั่งส่ายหน้าแล้วพูด โข่งลิ่งเสียนกับเสิ่นวั่นเชียนพยายามพูดเกลี้ยกล่อม แต่ฉินหลั่งมีความคิดแน่วแน่ที่จะออกตามหาจงยู่ด้วยตัวเอง พวกเขาจึงได้แต่ยอมแพ้ไป
หลังจากคุยกับพวกโข่งลิ่งเสียนได้สักพัก ฉินหลั่งเห็นว่าเป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว จึงตัดสินใจจะออกเดินทางวันพรุ่งนี้แทน เขากลับขึ้นมาบนห้อง ก่อนจะจองตั๋วรถไฟฟ้ารอบสิบเอ็ดโมงของวันพรุ่งนี้ ในขณะที่คิดว่าจะไปกินข้าวกลับมารีบพักผ่อน จะได้มีเรี่ยวแรง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาซะก่อน สายเรียกเข้าเป็นเบอร์แปลก พอกดรับสายฉินหลั่งถึงได้รู้ ว่าอีกฝ่ายคือกู่ซาเพื่อนสนิทของเผิงเมิ่งนั่นเอง
“คุณฉินคะ สวัสดีค่ะ ต้องขอโทษที่ต้องโทรมารบกวนคุณในเวลานี้ด้วยค่ะ” กู่ซาพูดอย่างระมัดระวัง ตอนงานเลี้ยงประจำตระกูลของเผิงเมิ่ง ตอนที่เธอเห็นฉินหลั่งขับรถเฟอร์รารี่ราคาแพงมาที่งาน แล้วยังเผารถจนเป็นตอตะโกเธอก็ตกใจมาก ฉินหลั่งถึงขนาดทำให้ประธานบริษัทยกรถเฟอร์รารี่ราคาแพงให้แบบนี้ พอคิดถึงสิ่งที่ตนเองทำกับฉินหลั่งก่อนหน้านี้ กู่ซาก็กลัวจนตัวสั่น
“มีอะไร คุณพูดมาเถอะ”ฉินหลั่งตอบเสียงเรียบ
“คืออย่างนี้ค่ะ ฉันติดต่อมาหาคุณเพราะเรื่องของเผิงเมิ่งค่ะ หลังจากจบงานเลี้ยงของตระกูลพวกเธอ เผิงเมิ่งก็กลายเป็นคนนิ่งเงียบ ซึมเศร้า ไม่ยอมออกไปไหน เอาแต่ของตัวเองอยู่ในห้อง ทุกเช้า ฉันมักจะเห็นเธอตาบวมแดง ฉันเป็นห่วงเธอมาก”
พอได้ยินกู่ซาพูดถึงเผิงเมิ่ง ฉินหลั่งก็ใจกระตุก ก่อนจะนึกภาพเด็กสาวที่สดใสร่าเริงคนนั้นขึ้นมาในสมอง
“ฉันรู้ว่าเธอยังลืมคุณไม่ลง ฉันอยากจะขอร้องให้คุณหาเวลามาเจอหน้าเธอสักครั้งได้ไหมคะ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เธอจะต้องทรุดโทรมแน่ๆค่ะ”กู่ซาพูดอย่างเป็นห่วง
“ได้ คุณบอกกับเธอ พรุ่งนี้เก้าโมง ผมจะรอเธออยู่ทะเลสาบยุ่นซีในมหาวิทยาลัย
จีนหลิง ให้เธอไปเจอผมที่นั่น”ฉินหลั่งเริ่มใจอ่อน สุดท้านจึงตอบรับคำขอร้องของกู่ซาไป กู่ซ่ากล่าวขอบคุณก่อนจะกดวางสายไป
ในขณะที่ฉินหลั่งกดวางสายจากกู่ซา ส้งเส่นเอ๋อเองก็กำลังคุยโทรศัพท์กับซุนเยว่ และได้รู้จากปากซุนเยว่ ว่าฉินหลั่งกำลังจะเดินทางไปจากจีนหลิง ทำให้เธอตกใจมาก
หลังจากที่เธอมั่นใจว่าคนที่ฉินหลั่งชอบคือตนเอง ส้งเส่นเอ๋อก็เอาแต่จินตนาการถึงตอนที่ตัวเองกลายเป็นแฟนของฉินหลั่ง เธอรอคอยมาโดยตลอด รอว่าเมื่อไหร่ฉินหลั่งจะมาสารภาพรักกับตนเอง ขอแค่ฉินหลั่งมีท่าทีจะเข้ามาจีบเธอ ส้งเส่นเอ๋อก็จะรีบตอบรับทันที
แต่สองวันมานี้ ส้งเส่นเอ๋อไม่ได้รับข่าวคราวของฉินหลั่งเลย ถึงแม้เธอจะร้อนใจ แต่พอคิดถึงเรื่องที่ฉินหลั่งหลงรักเธอหักปักหัวปำ ส้งเส่นเอ๋อก็ใจเย็นลง เธอคิดมาเสมอว่าจะต้องเป็นตัวเองแน่นอน ในตอนนี้พอได้ข่าวว่าฉินหลั่งกำลังจะเดินทางไปจากเมืองจีนหลิง ส้งเส่นเอ๋อจึงเริ่มร้อนใจขึ้นมา ถ้าฉินหลั่งไปเจอผู้หญิงคนอื่น แล้วไม่ชอบเธออีก เธอจะทำยังไง
เธอยิ่งคิดยิ่งร้อนใจ เธอคิดว่าตัวเองควรจะลงมือก่อนซะแล้ว ก่อนที่ฉินหลั่งจะเดินทางไปจากจีนหลิง เธอจะต้องเป็นแฟนของฉินหลั่งให้ได้ ถึงแม้จะเป็นแฟนเขาไม่ได้ อย่างน้อยๆเธอก็ต้องมีความสัมพันธ์ที่แนบชิดกับฉินหลั่งให้ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ ถึงแม้ฉินหลั่งจะเดินทางไปจากจีนหลิง เธอก็สามารถใช้ข้ออ้างเพื่อจะเดินทางไปกับฉินหลั่งด้วยได้
หลังจากวางแผนไว้ในใจ ส้งเส่นเอ๋อก็กดโทรหาฉินหลั่งทันที
พอเห็นส้งเส่นเอ๋อโทรมา ฉินหลั่งก็รู้สึกแปลกใจมาก แต่ก็ยังกดรับสายเธอ
“ฉินหลั่งคะ หลังจากปิดเทอมฤดูร้อน ฉันก็อยู่แต่บ้าน เบื่อมากเลย พวกเพื่อนๆก็กลับบ้านไปกันหมด ฉันอยาก… ฉันอยากให้คุณออกไปเที่ยวกับฉันพรุ่งนี้ได้ไหมคะ”ส้งเส่นเอ๋อพูดอย่างเอียงอาย
“ขอโทษด้วย พรุ่งนี้ผมจะเดินทางไปจากจีนหลิงแล้ว” ฉินหลั่งพูดเสียงเรียบนิ่ง ส้งเส่นเอ๋อตกตะลึง ก่อนจะรู้สึกดีใจมากที่ตนเองโทรมาหาเขาก่อน ไม่อย่างนั้นฉินหลั่งเดินทางไปตอนไหนเธอคงไม่รู้
“คุณจะไปแล้วเหรอคะ ไปไหนคะ ให้ฉันไปด้วยได้ไหมคะ ยังไงฉันก็อยู่บ้านไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว” ถึงแม้ส้งเส่นเอ๋อจะพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้ว แต่คำพูดของเธอก็เปิดเผยออกมาว่สเธอกำลังร้อนใจแค่ไหน
“ไม่ต้องหรอก ผมไปเองดีกว่า ผมจะเดินทางพรุ่งนี้ตอนสิบเอ็ดโมง ผมมีธุระต้องไปที่เมืองหลินอาน”ฉินหลั่งจะไปตามหาจงยู่ที่เมืองหลินอาน จะพาส้งเส่นเอ๋อได้ด้วยเพื่ออะไรกัน
ส้งเส่นเอ๋อรีบพูด “สิบเอ็ดโมงยังพอจะมีเวลานี่คะ คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนสิคะ ถึงจะแค่เดินเล่นเดินเล่นที่ทะเลสาบยุ่นซี แค่นั้นฉันก็ดีใจแล้ว นะคะ”
ฉินหลั่งไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
“คุณยังคงไม่ยกโทษให้กับเรื่องที่ฉันเคยทำกับคุณสินะคะ”ส้งเส่นเอ๋อพูดขึ้นมา น้ำเสียงของเธอสะอึกสะอื้นเล็กน้อย “ฉันก็รู้ว่าที่คุณพูดที่บ้านพัก ว่าคุณยกโทษให้ฉันแล้ว คุณแค่พูดโกหกฉัน เมื่อก่อนฉันทั้งด่าทั้งเหยียดหยามคุณ คุณคงจะรู้สึกผิดหวังในตัวฉันแล้ว”
“คุณอย่าคิดอะไรบ้าๆ ผมบอกว่ายกโทษให้คุณแล้ว แน่นอนว่าเป็นความจริง คุณไม่ต้องเสียใจแล้ว” ฉินหลั่งได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของส้งเส่นเอ๋อ จึงเริ่มใจอ่อน “คุณบอกว่าเดินเล่นที่ทะเลสาบยุ่นซีใช่ไหม แต่ผมบอกไว้ก่อนนะ ผมมีเวลาอยู่ด้วยไม่มาก คงจะเดินเล่นกับคุณได้แค่รอบเดียว”
“อืม แค่มีคนเดินเล่นด้วย ถึงจะแค่ห้านาทีฉันก็ดีใจแล้วค่ะ” ส้งเส่นเอ๋อพูดอย่างดีใจ “งั้นพรุ่งนี้เก้าโมงเช้าเราเจอกันที่ทะเลสาบยุ่นซีนะคะ”
“ไม่… สิบโมงดีกว่า เก้าโมงผมตื่นไม่ไหว”ฉินหลั่งนิ่งคิด ตนเองนัดเจอกับเผิงเมิ่งตอนเก้าโมงไปแล้ว จะให้ชนกับนัดขอวส้งเส่นเอ๋อไม่ได้ จึงต้องพูดโกหกออกไป เขาคิดว่าเวลาหนึ่งชั่วโมงน่าจะคุยกับเผิงเมิ่งเสร็จ แล้วเดินเล่นกับส้งเส่นเอ๋อ ก่อนจะเดินทางไปที่สถานีรถไฟฟ้า เพื่อเดินทางไปที่เมืองหลินอาน
“ได้ค่ะ คุณบอกว่ากี่โมงก็กี่โมง งั้นพรุ่งนี้สิบโมงเจอกันนะคะ”ส้งเส่นเอ๋อพูดจบก็กดวางสายไป
ส้งเส่นเอ๋อหมุนโทรศัพท์ในมืออย่างดีใจ เธอคิดว่าฉินหลั่งเดินทางตอนสิบเอ็ดโมง แต่กลับยอมมาเดินเล่นกับตนเองตอนสิบโมง นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาชอบเธอ พรุ่งนี้เธอจะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้ เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินหลั่งจะได้แนบแน่นขึ้นไปอีก
วันต่อมา ส้งเส่นเอ๋อเดินทางมาถึงทะเลสาบยุ่นซีตั้งแต่แปดโมงเช้า ข้างกายเธอยังมีชายร่างใหญ่ยืนอยู่ด้วย
เมื่อวานส้งเส่นเอ๋อคิดอยู่นานมาก ว่าเธอจะทำยังไงให้ฉินหลั่งที่เป็นคนเย็นชา ยอมสารภาพรักกับตนเองในช่วงเวลาสั้นๆ
ส้งเส่นเอ๋อเค้นสมองคิดอยู่นาน จนในที่สุดก็คิดแผนนี้ขึ้นมาได้
ตอนที่เธอเดินเล่นกับฉินหลั่งอยู่ ให้คนแสดงตัวเป็นคนร้ายเข้ามาจู่โจมเธอ ให้ฉินหลั่งทำหน้าที่เป็นฮีโร่เข้ามาช่วยสาวงาม
ระหว่างนั้น ฉินหลั่งอาจจะยิ่งรู้สึกลึกซึ้งมากขึ้น จนสารภาพความรู้สึกกับเธอก็ได้ ถึงแม้ฉินหลั่งจะไม่พูด หลังจากที่ช่วยเธอจากอันตรายได้ เธอจะยอมพลีกายตอบแทนบุญคุณเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนี่นา จริงไหม
พอคิดว่าฉินหลั่งเองก็ชอบเธอมากถึงขนาดนั้น ส้งเส่นเอ๋อคิดว่า ขอแค่เธอสารภาพรักออกไป ฉินหลั่งจะต้องตอบรับเธอแน่ๆ
“ของที่ฉันสั่งให้นายซื้อมา เอามาด้วยหรือเปล่า”ส้งเส่นเอ๋อถามชายหนุ่มร่างใหญ่ข้างๆ
“วางใจได้เลย เตรียมไว้แล้วเรียบร้อย ดูสิ ทั้งหน้ากากไอ้โม่ง หรือก็คือถุงน่องสีดำ มีดปลอมที่ใบมีดมุดเข้าไปได้ รวมถึงเลือดปลอม”ชายร่างใหญ่เอาอุปกรณ์ทั้งหมดออกมาให้ส้งเส่นเอ๋อดู
“ห้ามให้เขามองออกเด็ดขาด เขาเข้ามาสู้ด้วยแค่สองสามหมัดนายก็รีบวิ่งหนีไปซะ ห้ามใจเขาจับตัวไว้ได้เด็ดขาด เข้าใจไหม”ส้งเส่นเอ๋อพูดสั่ง
“วางใจได้เลย ผมจะไม่ทำให้แผนคุณพังลงแน่นอน ถึงยังไง ผมก็เป็นถึงนักแสดงตัวประกอบเลยนะ”ชายร่างใหญ่พูดอย่างภาคภูมิใจ
“เอาล่ะ ถือโอกาสตอนที่เขายังมาไม่ถึง เรามาลองแสดงดูสักรอบ จะได้ไม่เสียแผน” ส้งเส่นเอ๋อพูดจบ ก็เดินตรงไปที่ข้างทะเลสาบ ก่อนจะนั่งหันเข้าหาทะเลสาบ
“ผมจะเริ่มแล้วนะ”ชายร่างใหญ่เอาถุงน่องครอบศีรษะ ในมือถือมีดไว้ แล้วเดินเข้าไปหาส้งเส่นเอ๋อ
พอเดินเข้าไป เขาก็รัดคอของส้งเส่นเอ๋อไว้ แล้วจ่อมีดไปที่คอของส้งเส่นเอ๋อ
“จะทำอะไร ปล่อยฉันนะ ฉินหลั่งคะ ช่วยฉันด้วย” ส้งเส่นเอ๋อตะโกนอย่างตกใจกลัว
“กรี๊ด… คุณ… คุณจะทำอะไร รีบปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันโทรเรียกตำรวจจริงๆด้วย”ในขณะนั้นเอง มีเสียงร้องดังขึ้นมาข้างๆทะเลสาบ
ส้งเส่นเอ๋อหันไปมอง จึงเห็นหญิงสาวสองคนยืนอยู่ห่างออกไปยี่สิบกว่าเมตร
หญิงสาวที่เดินเข้ามาคือเผิงเมิ่งกับกู่ซานั่นเอง พวกเธอเดินเข้ามาก็เจกเข้ากับเหตุการณ์ตรงหน้าพอดี จึงกรีดร้องอย่างตกใจ ถึงแม้เผิงเม่งจะกลัว แต่คนร้ายเอามีดจี้คอของส้งเส่นเอ๋ออยู่ แต่อาจจะปากคอส้งเส่นเอ๋อได้ตลอดเวลา เธอไม่ทันได้คิดอะไรมาก ก็รีบตะโกนออกมาซะก่อน
กู่ซาจับโทรศัพท์ด้วยมือสั่นเทา เตรียมจะโทรเรียกตำรวจ
“เฮ้ คุณคนสวยทั้งสอง อย่าโทรหาตำรวจนะ”ส้งเส่นเอ๋อรีบห้ามไว้ ก่อนจะหันไปพูดกับชายร่างใหญ่ข้างหลัง “ปล่อยก่อนสิ โง่หรือไง”
หลังจากที่ชายร่างใหญ่ปล่อยมือออก ส้งเส่นเอ๋อก็รีบเดินมาหยุดตรงหน้าเผิงเมิ่งกับกู่ซา ก่อนจะพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “พวกเธอเข้าใจผิดแล้ว เขาไม่ใช่คนร้าย ฉันกับเขากำลังล้อเล่นกันอยู่น่ะ”
เดิมทีส้งเส่นเอ๋อคิดว่ามหาวิทยาลัยจีนหลิงปิดเทอมแล้ว คงจะไม่ค่อยมีคนมาเดินเล่นที่นี่ จึงไม่ทันระวังตัว คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ผู้หญิงทั้งสองคนเข้าใจผิดไปได้
“ล้อเล่นเหรอคะ”เผิงเมิ่งกับกู่ซาเกาท้ายทอย สองคนนี้มาล้อเล่นแบบนี้ในมหาวิทยาลัย มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ แต่พวกเธอไม่รู้จักส้งเส่นเอ๋อ อีกฝ่ายจะล้อเล่นกันยังไงก็ตามใจเธอก็แล้วกัน เผิงเมิ่งยิ้มบาง “งั้นก็ดีแล้วค่ะ พวกเราเข้าใจผิดกันไปเอง เชิญพวกคุณตามสบายเลยค่ะ”
พอพูดเสร็จ เผิงเมิ่งกับกู่ซาก็เดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ข้างทะเลสาบ
ส้งเส่นเอ๋อเดินกลับไป แล้วฝึกซ้อมกับชายร่างใหญ่ต่ออีกหลายรอบ จนใกล้จะเก้าโมง เธอเห็นว่าผู้หญิงทั้งสองคนยังคงนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ ไม่มีท่าทางจะจากไป ถ้าฉินหลั่งมาถึง ผู้หญิงสองคนนี้บอกความจริงกับฉินหลั่งขึ้นมาจะทำยังไง
ส้งเส่นเอ๋อกังวลใจ เธอเดินมาหยุดตรงหน้าเผิงเมิ่ง “พวกคุณสองคนนั่งอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว ไม่ไปเดินที่อื่นบ้างเหรอคะ”
“พวกเรากำลังนั่งรอคนอยู่ค่ะ”เผิงเมิ่งตอบ ก่อนจะยิ้มละไม
ส้งเส่นเอ๋อพูดว่าแย่แล้วในใจ พอเห็นว่าผู้หญิงทั้งสองคนนั่งอยู่ที่นี่นานมากแล้ว ถ้าฉินหลั่งมาถึงแล้ว เธอจะทำยังไงดี
“คุณคะ เดี๋ยวตอนที่พวกเราแสดงละคร ถ้ามีคนอื่นเข้าใจผิด พวกคุณไม่ต้องบอกความจริงเขาได้ไหมคะ” ส้งเส่นเอ๋อพูดกับสองสาว
“หมายความว่ายังไงคะ พวกคุณคิดจะทำอะไรเหรอคะ”เผิงเมิ่งฟังไม่เข้าใจ
“โธ่” ส้งเส่นเอ๋อถอนหายใจอย่างจนใจ ดูท่าทางคงต้องยอมบอกความจริงกับเผิงเมิ่งและกู่ซาซะแล้ว ส้งเส่นเอ๋อจึงรีบพูดอธิบาย “คืออย่างนี้นะคะ…”