ย้อนชีวิตพิชิตเซียน - ตอนที่ 69 : งูมังกร
นิยาย ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 69 : งูมังกร
บทที่ 69 : งูมังกร
“ทํายังไงดี? รีบๆคิดเร็วเข้า ไม่งั้นพวกเราต้องตายกันหมดแน่!”
“ฉันยังไม่อยากตาย ฉันยังเด็กอยู่เลย!”
เหอหลิงซียกมือขึ้นปาดน้ําตา พร้อมกับร้องตะโกนถามซูอานด้วยความหวาดกลัว เพราะหากเป็นเช่นนี้ไม่เพียงเธอจะไม่สามารถช่วยปู่ของเธอได้ แต่เธอเองกลับจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่อีกด้วย..
เมื่อเห็นทุกคนเริ่มตกอยู่ในความหวาดผวา ซูอานจึงได้แต่ร้องบอกออกไปว่า “พวกเจ้าทุกคนอย่างรีบท้อแท้สิ้นหวังนัก แม้ว่างูยักษ์ตนนี้จะมีพลังแข็งแกร่งยิ่งนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถสังหารมันได้!”
เหอหลิงซีหยุดร้องไห้ทันที พร้อมกับหันไปถามซูอานว่า “นี่คุณพูดจริงเหรอ?”
“จริง!”
“คุณสามารถเอาชนะเจ้างูยักษ์นี้ได้ จริงๆน่ะเหรอ?”
“หากเทียบกับเจ้างยักษ์ตนนี้แล้ว พลังของข้าอ่อนด้อยกว่ามันเพียงแค่เล็กน้อย เท่านั้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถเอาชนะมันได้เสียทีเดียว!”
“คุณหมายความว่ายังไง?”
เหอหลิงซีไม่เห็นหนทางที่จะสามารถเอาชนะเจ้างูยักษ์ได้เลย แต่เธอก็ไม่คิดว่าในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานจวนเจียนจะเอาชีวิตไม่รอดเช่นนี้ ซูอานจะยังกล้าพูดล้อเล่นกันเธอ!
ซูอานไม่ตอบเหอหลิงซี แต่หันไปทางซันกูพร้อมกับถามขึ้นว่า “เจ้าถ่ายเทกําลังภายในของเจ้าให้แก่ข้าจะได้หรือไม่?”
ซันกูพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายเช่นนี้ หากเขาถ่ายเทกําลังภายในของตัวเองให้กับซูอาน อาจจะยังพอมีหนทางรอดชีวิตได้
ในเวลาเดียวกันนั้น ซูอานก็หยิบเอาน้ําเต้าปีศาจออกมาจากกระเป๋าตนเอง และจัดการเรียกวิญญาณทั้งสองตนที่อยู่ในน้ําเต้าออกมาทันที
ภายในน้ําเต้าปีศาจนั้นมีวิญญาณผีสาวอยู่ตนหนึ่ง กับวิญญาณผีเด็กอีกตนหนึ่ง เมื่อวิญญาณทั้งสองดวงล่องลอยออกมาจากน้ําเต้า พวกมันก็ทําการคาราวะซูอานทันที นั่นเพราะวิชาที่ซูอานถ่ายทอดให้กับพวกมันทั้งสองนั้น ทําให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้นมาก เวลานี้ผีเด็กได้เข้าสู่ระดับกลางขั้นก่อสร้างรากฐานแล้ว ส่วนผีสาวได้เข้าสู่ระดับสูงสุดเช่นเดียวกับซูอาน..
“พวกเจ้าสองคนรีบถ่ายเทพลังของพวกเจ้าให้กับข้าเร็วเข้า ข้าต้องการพัฒนาความแข็งแกร่งโดยเร็วที่สุด!”
วิญญาณทั้งสองดวงพยักหน้า และจัดการถ่ายเทพลังภูติผีของตนให้กับซูอาน ทันที เวลานี้บริเวณรอบๆนั้น จึงได้เกิดเป็นไอสีดําปกคลุมอยู่เต็มไปหมด
เหอหลิงซีตกใจจนช็อคไปอีกครั้ง เพราะจู่ๆ ก็มีดวงวิญญาณสองดวงปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเธอเช่นนี้ ได้ทําให้โลกของเธอเปลี่ยนไปจากเดิมทันที!
“นี่.. นี่มันผีจริงๆเหรอ?!”
เหอหลิงซีถามขึ้นด้วยน้ําเสียงที่สั่นเพิ่มอีกครั้ง และเวลานี้สีหน้าและแววตาของเธอก็ดูเหมือนจะหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมเสียอีก..
เหอหลิงซีเริ่มรู้สึกว่าเธอไม่ควรมาที่นี่เลยจริงๆ!
เพราะไม่เพียงเธอจะต้องเผชิญหน้ากับงูยักษ์ที่คิดว่ามีแต่ในทีวีเท่านั้น แต่เธอกลับยังต้องมาพบเจอกับผีจริงๆอีกด้วย!
“แล้วเจ้าคิดเช่นใดเล่า?”
ซูอานจ้องมองเหอหลิงซีพร้อมกับยิ้มออกมา เขานั่งขัดสมาธิพร้อมกับดูดซับเอาพลังภูติผีซึ่งวิญญาณทั้งสองปลดปล่อยออกมา เข้าไปในร่างของตนเองอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ทั่วทั้งบ่อโลหิตมังกรมีคลื่นซัดรุนแรง และตอนนี้ทุกคนต่างก็ได้ล่าถอยขึ้นไปอยู่กลางเขาแล้ว แต่ถึงกระนั้นคลื่นรุนแรงภายในบ่อโลหิตมังกร ก็ยังคงเป็นอันตรายต่อทุกคนอยู่ดีหากไม่ระวังให้มาก
“คุณหนูเหอ.. อยู่ตรงนี้เองเหรอครับ?”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีเก้อเขิน เพราะเมื่อครู่ต่างคนต่างก็พากันหนีเอาตัวรอดจนพวกเขาเองก็ลืมเหอหลิงซีไปเช่นกัน ถึงอย่างไรชีวิตของตนเองก็สําคัญที่สุดเสมอ!
เหอหลิงซีเม้มริมฝีปากแน่น พร้อมกับจ้องมองบอดี้การ์ดของตนด้วยแววตาเกรี้ยวกราด แต่ก็พยักหน้าแทนคําตอบ..
ถึงแม้ทุกคนจะถอยร่นไปถึงที่หน้าผาแล้ว แต่ก็ไม่มีใครยอมจากไป และเฝ้าดูซูอานอยู่ห่างๆ
แต่เวลานี้ซันกูกลับมีท่าที่ละล้าละลัง และกําลังลังเลว่าจะอยู่กับซูอาน หรือจะหนีไปก่อนดี แต่แล้วก็คิดได้ว่า ต่อให้เขาหนีไปก็ไม่มีทางรอดชีวิตอยู่ดี เพราะ ซูอานได้ให้เขากินยาพิษไว้ก่อนแล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซันกจึงได้ตัดสินใจแน่วแน่ เขายืนอยู่ข้างกายซูอานด้วยสีหน้า และแววตาที่มั่นคง!
ซูอานยังคงดูดซับเอาพลังวิญญาณ เข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่อง และเวลานี้ร่างกายของเขาก็มีแสงสว่างสีขาวอ่อนโยนเปล่งประกายออกมาราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ดวงวิญญาณทั้งสองยังคงปลดปล่อยพลังภูติผีของตนออกมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ซูอานก็ดูดซับเข้าไปไม่หยุดหย่อนเช่นกัน และเวลานี้พลังในจุดตันเถียนของเขาก็เริ่มเต็มเปี่ยมแล้ว..
แต่เวลานี้เจ้างูยักษ์กลับดูเหมือนจะยิ่งคลุ้มคลั่งหนักกว่าเดิม เพราะไม่เพียงมนุษย์ตัวน้อยนั้นไม่หวาดกลัวจนหนีไป เหมือนคนอื่นๆ แต่กลับยังนั่งลงขัดสมาธิฝึกฝนราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เช่นนี้ แล้วงูยักษ์อย่างมันจะทนได้อย่างไรกันเล่า?
ความจริงแล้วงูยักษ์ตนนี้ก็คืองูมังกรที่ได้วิวัฒนาการร่างของมันมานานนับร้อยๆปี และมันได้จําศีลอยู่ภายใต้บ่อโลหิตมังกรแห่งนี้จนสามารถเข้าสู่ขั้นโฮ่วเทียนได้ และมีหน้าที่คอยเฝ้าขุมทรัพย์ที่อยู่ด้านล่าง
เวลานี้มันก็กําลังโกรธและคลุ้มคลั่งอย่างมาก จึงต้องการที่จะฆ่ามนุษย์ที่กล้ารบกวนความสงบของมัน และต้องการที่จะจับคนเหล่านี้กลืนลงท้องเป็นอาหาร
เจ้างูมังกรตัวยักษ์ได้พุ่งร่างอันใหญ่โตของมันคงเข้าใส่ซูอานอย่างรวดเร็ว ความเร็วของมันนั้นอาจเรียกได้ว่าเร็วเท่ากับแสงเลยก็ว่าได้ และร่างใหญ่โตของมันนั้นก็ได้บดบังแสงอาทิตย์ที่สาด ส่องลงมาจนมิด เมื่อเข้าใกล้ร่างของซูอานมันก็พ่นพิษออกจากปากใหญ่กว้างนั้นทันที..
ซูอานได้รับพิษของงูมังกรยักษ์เข้าไปเต็มๆ และเวลานี้ร่างของเขาถึงกับสั่นเทิ้มไปทั่วทั้งตัว ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง และได้แต่คิดในใจว่าตนเองคงไม่ได้ตายเพราะถูกงยักษ์นี่กินแน่ แต่คงจะต้องตายเพราะพิษของมัน
ปีกขนาดเล็กคู่หนึ่งของเจ้างูมังกรขยับพรึบๆขึ้นลงด้วยความดีใจ และหางของมันก็ตวัดเข้าใส่ร่างของซูอานอย่างรวดเร็ว
ซูอานลืมตาขึ้นทันที พร้อมกับกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาปรากฏแสงสว่างเจิดจ้าขึ้น และท่ามกลางความตกใจของซันกู ร่างของซูอานก็พุ่งทะยานเข้าใส่ร่างของงูมังกร พร้อมกับฟาดฝ่ามือที่มีแสงสว่างสีขาวนั้นเข้าใส่หางของเจ้างยักษ์ทันที!
เวลานี้การต่อสู้ระหว่างงูยักษ์กับมนุษย์ ตัวเล็กได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับทุกคนอย่างมาก
จากนั้นร่างของซูอานก็กระโดดขึ้นไป ยืนหลบอยู่บนหินก้อนหนึ่ง แต่หางของเจ้างูยักษ์ก็ยังคงตามมาตวัดฟาดใส่เช่นกัน!
ภาพที่เกิดขึ้นในเวลานี้สร้างความตระหนกตกใจให้กับซันกูและเหอหลิงซี อย่างมาก ทั้งคู่ต่างก็คิดไม่ถึงว่าซูอานจะมีพลังแกร่งกล้าถึงเพียงนี้
ความจริงแล้ว ทั้งคู่แอบคิดว่าจุดจบของซูอานคงจะน่าเศร้าไม่ต่างจากกองกระดูกเหล่านั้น เพราะซูอานคงต้องถูกเจ้างูยักษ์จับแยกร่างออกเป็นชิ้นๆแน่
ซันกูเริ่มรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งของซูอาน และกลับมาคิดว่าเจ้างูยักษ์ตนนี้อาจจะไม่สามารถทําอันตรายซูอานได้ และซูอานจะเป็นฝ่ายที่สามารถเอาชนะมันได้
การจู่โจมของซูอานเมื่อครู่นั้นเป็น เพียงแค่การทดสอบเท่านั้น และเกล็ดที่แข็งแกร่งอย่างมากของมัน ก็ทําให้ซูอานถึงกับหนักใจขึ้นมาทันที!
ซูอานที่เพิ่งสําเร็จขั้นก่อสร้างรากฐาน แต่เพราะได้พลังภูตผีของดวงวิญญาณทั้งสองตนมาช่วย จึงทําให้เขาเกือบจะเข้าสู่ขั้นโฮ่วเทียนได้แล้ว เวลานี้ผิวหนังของเขาจึงแข็งแกร่งราวกับเหล็ก..
เมื่อซูอานสามารถต้านทานการจู่โจมของเจ้างูมังกรได้ มันก็ยิ่งโมโหมากขึ้น และได้บิดร่างใหญ่ยักษ์นั้นไปมาพร้อมกับกรีดร้องออกมาเสียงดัง
ดวงตาของซูอานหรูเล็กลงอย่างระมัดระวังตัว ก่อนจะตัดสินใจกระโดดเข้าหา เจ้างูยักษ์อีกครั้ง พร้อมกับใช้ฝ่าเท้าลมปราณเตะเข้าใส่ร่างของมันอย่างแรง!
ทันทีที่ฝ่าเท้าของซูอานกระแทกเข้ากับหางของงูมังกร เขาก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปจนถึงกระดูก และรู้สึกประหนึ่งว่าขาของตนเองนั้นได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ซูอานรู้ได้ทันทีว่าร่างกายของตนนั้น ไม่แข็งแกร่งเท่ากับร่างของเจ้างูยักษ์ และได้แต่แอบคิดในใจว่างูมังกรตนนี้ น่าจะจําศีลบ่มเพาะพลังมานานมากกว่าสองร้อยปีเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นกายของมัน คงจะไม่แข็งแกร่งมากมายถึงเพียงนี้!
นี่คืองูมังกรน้ํา จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ซูอานจะเอาชนะมันได้หากยังต่อสู้ อยู่ในบ่อโลหิตมังกรเช่นนี้ เพราะเมื่ออยู่ในน้ําพลังของมันจะแข็งแกร่งมากกว่าอยู่บนดินหลายเท่า..
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูอานจึงเริ่มคิดหากลวิธีที่จะหลอกล่อให้เจ้างูยักษ์สูญเสียพลังให้มากที่สุด และให้ร่างของมันถูกแสงอาทิตย์แผดเผาอยู่สักระยะหนึ่ง
ดังนั้น ซูอานจึงได้ใช้วิธีหลบหลีกแทนการตอบโต้ และยิ่งซูอานหลบหนี เจ้างูยักษ์ก็ยิ่งพุ่งเข้าจู่โจมด้วยความโมโหมากยิ่งขึ้น แต่แล้วมันก็ทําให้ซูอานต้องตกอกตกใจอีกครั้ง
“แย่แล้ว! เจ้างมังกรตนนี้พ่นไฟ ได้ด้วยรึ?”
ซูอานร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เขาคิดไม่ถึงว่างูมังกรมีปีกตัวนี้ อาศัยอยู่ในน้ํา แต่กลับสามารถพ่นไฟได้ด้วย และนั่นจะยิ่งเป็นอันตรายต่อเขามากขึ้น
แต่ถึงแม้จะตกใจมากเพียงใด สีหน้าของซูอานกลับยังคงสงบนิ่ง และได้แต่นึกประหลาดใจ เพราะแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่เคยพบเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อนเลย และที่ผ่านมางูมังกรก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาด้วยซ้ําไป!
และเวลานี้ งูมังกรก็กําลังพ่นไฟออกจากปากของมันเข้าใส่ร่างของซูอานอย่างคลุ้มคลั่ง!
ซูอานได้แต่คิดว่า หากเขาตายไปตอนนี้คงอับอายขายหน้ามาก อีกทั้งเหอหลิงซีก็คงต้องสิ้นหวังท้อแท้ เพราะไม่สามารถนําสมบัติด้านล่างกลับไปได้ และ นั่นหมายถึงอาการป่วยของปู่เธอก็หมดทางรักษาด้วยเช่นกัน
“คุณหนูเหอ รีบหนีออกไปจากที่นี่ก่อนจะดีกว่า ที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว!”
เหอหลิงซีกัดริมฝีปากตนเองจนเลือดซึมออกมา และไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจเช่นใดดี?