ย้อนชีวิตพิชิตเซียน - ตอนที่ 49 : นายกับฉัน.. ไม่มีทางเป็นไปได้
บทที่ 49 : นายกับฉัน ไม่มีทางเป็นไปได้
ภายในคฤหาสน์หรูหราของผู้เฒ่าฮั่วเวลานี้ นอกจะเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างมากแล้ว ทุกคนยังตกอกตกใจอย่างมากด้วย
และแน่นอนว่าเรื่องสําคัญเช่นนี้ สํานักข่าวทุกสํานัก และสื่อต่างๆภายในเมือง ย่อมต้องรายงานเรื่องนี้กันถ้วนหน้า ข่าวเรื่องการหมั้นหมายระหว่างฮั่วว่านว่านกับซูอาน จะต้องแพร่สะพรัดไปทั่วทั้งเจียงโจวภายในวันพรุ่งนี้
ซูอานเป็นฝ่ายดึงมือของตนกลับทันที ก่อนหน้าที่ฮั๋วว่านว่านจะขับรถชนเขานั้น เขายังไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับเด็กสาวที่เอาแต่ใจคนนี้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งหลังจากที่ฮั๋วว่านว่านขับรถชนเขาแล้วล่ะก็ ยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึง!
ฮั๋วว่านว่านเจ็บปวดใจอย่างที่สุด เพราะนี่เป็นการประกาศต่อหน้าสาธารณชน จึงแทบไม่มีหนทางที่จะแก้ไขอะไรได้อีก เพราะหากทําเช่นนั้น ตระกูลฮั๋วย่อมต้องได้รับความอับอายขายหน้าอย่างมาก เพราะนี้ไม่ต่างจากการประกาศหมั่นหมายกันอย่างเป็นทางการระหว่างเธอกับซูอาน
จู่ๆดวงตาคู่งามของฮั่วว่านว่านก็แดงขึ้นมาทันที และน้ําตาของเธอก็เริ่มไหลอาบแก้มทั้งสองข้างอย่างไม่อาจที่จะสะกัดกั้นไว้ได้อีก เพราะเวลานี้เธอกําลังเสียใจอย่างที่สุด!
ผู้เฒ่าฮั๋วเห็นเช่นนั้น จึงได้พูดพร้อมกับหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆ ว่านว่านของปูตื่นเต้นจนน้ําตาไหลเลยหรือนี่? หลานคงจะมีความสุขจนพูดไม่ออกเลยสินะ..”
ซูอานนึกอย่างทําร้ายชายชราที่อยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก แต่เขาก็พยายามอดกลั้นต่อความรู้สึกของตนเองไว้ และพยายามรักษาสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติ จากนั้นจึงหันไปมองผู้เฒ่าฮั๋วพร้อมกับถามขึ้นว่า
“เหตุใดเจ้าจึงไม่บอกเรื่องนี้ให้ข้ารู้ล่วงหน้า?”
“ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ! อีกอย่าง.. ถ้าฉันบอกเธอก่อน คงจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายน่าดู!”
“ปูคะ เรื่องนี้หมายถึงความสุขของหนูทั้งชีวิตเลยนะคะ!” ฮั๋วว่านว่านรําพึงเบาๆพร้อมน้ําตา
“เพราะเห็นแก่ความสุขตลอดชีวิตของหลานน่ะสิว่านว่าน ปูถึงได้ทําแบบนี้! หลานจะไม่ผิดหวังเลยที่ได้แต่งงานกับคนอย่างซูอาน ในวันข้างหน้า หลานจะต้องกลับมาขอบคุณปูด้วยซ้ําไป!”
“เพ้อเจ้อ!”
ซูอานไม่อาจทนนิ่งเฉย หรือรักษามารยาทต่อไปได้อีก เหตุใดเขาต้องทําตามความต้องการของผู้เฒ่าฮั๋วด้วยเล่า อีกทั้งเขาก็ไม่เคยสนใจฮั๋วว่านว่านเลยแม้แต่น้อย
แต่ระหว่างที่ซูอานกําลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ และจบเรื่องบ้าบ้อนี้เสีย รถหรูอย่าง McLaren P1ก็ขับเข้ามาภายในสถานที่จัดงานอย่างรวดเร็ว!
รถหรูสวยงามราคาแพงนี้แล่นเข้ามาภายในงานด้วยความเร็ว และตรงเข้าไปจอดใกล้กับเวทีทันที
ประตูรถทั้งสองข้างที่ค่อยๆเปิดขึ้นอย่างช้าๆนั้นดูราวกับค้างคาวยักษ์ แต่ถึงกระนั้นก็สง่างามหรูหราจนคนในงานต่างก็พากันอิจฉาเจ้าของรถ เพราะ McLaren P1 นั้นนับเป็นที่หรูหราที่สุด และมีราคาแพงที่สุด ราคาของมันนั้นราวสามร้อยล้านหยวนเลยทีเดียว และมีเพียงแค่สองสามร้อยคันในโลกเท่านั้น เรียกได้ว่าต้องเป็นอภิมหาเศรษฐีอย่างแท้จริงเท่านั้น จึงจะสามารถมีสิทธิ์ครอบครองรถชนิดนี้ได้
ทันที่ที่ประตูเปิดออก ก็มีชายสองคนก้าวเดินลงมาจากรถคันหรูนั้นอย่างรวดเร็ว คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างลง พุ่ง สวมแว่นกันแดดที่กรอบทํามาจากทองคําแท้ ส่วนอีกคน เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ที่ทําให้สาวๆภายในงานต่างก็หันไปจ้องมองด้วยความตกตะลึง..
“นั่นมันพ่อลูกตระกูลหยวนที่มีธุรกิจมากมายไม่ใช่เหรอ?”
“จริงด้วย! แต่พวกเขามาร่วมงานนี้ก็ไม่แปลก!”
“ในเจียงโจว ถ้าตระกูลฮั่วอยู่ในอันดับสอง ตระกูลหยวนก็น่าจะอยู่อันดับสาม!”
หยวนเวิ่นเทียน ประธานบริษัทหยวนกรุ๊ปก้าวเดินขึ้นไปบนเวทีทันทีที่ออกจากรถ จากนั้นจึงหันไปยิ้มให้กับผู้เฒ่าฮั๋วพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“เหล่าฮั๋ว คุณทําเช่นนี้ไม่ถูกต้องนัก งานเลี้ยงครบรอบวันเกิดทั้งที ทําไมถึงไม่ส่งบัตรเชิญให้ผมด้วยเล่า?”
ผู้เฒ่าฮั๋วรีบแสดงสีหน้าขอโทษขอโพยพร้อมกับอธิบายว่า “ความผิดพลาดครั้งนี้น่าจะเกิดจากทีมผู้จัดงาน ผมจะไม่เชิญคนอย่างหยวนเวิ่นเทียนได้ยังไงกันเล่า?”
“ว่านว่าน.. นี่เธอร้องไห้ทําไมกัน?”
“ หรือมีความสุขจนน้ําตาไหลออกมา…”
“แต่ผมกลับไม่คิดแบบนั้น.. ผมว่าว่านว่านน่าจะร้องไห้เพราะความเสียใจมากกว่า!”
หยวนจิ่วซื่อที่เดินตามหยวนเวิ่นเทียนขึ้นไปบนเวทีนั้น พูดขึ้นด้วยน้ําเสียงที่ไม่พอใจนัก ในขณะที่มือก็สะกิดหยวนเวิ่นเทียนเป็นการเร่งเร้าให้เขาพูดธุระที่มาในวันนี้โดยเร็ว
เพราะเมื่อครู่ที่มาถึงหน้าบ้านนั้น หยวนจิ๋วซื้อก็ได้ยินผู้เฒ่าฮั๋วประกาศการหมั้นหมายระหว่างฮั๋วว่านว่านกับซูอานแล้ว เขาจึงรีบขับรถเข้ามาภายในลานจัดงานด้วยความร้อนอกร้อนใจเช่นนี้
และยิ่งได้เห็นฮั๋วว่านว่านร้องไห้ใกล้ๆเช่นนี้ ความโกรธของหยวนจิ่วซื่อก็ยิ่งพุ่งขึ้นกว่าเดิมมาก เขาจ้องมองซูอานด้วยความโกรธแค้น สายตาของเขานั้นบ่งบอกว่าต้องการจะฆ่าซูอานให้ตายกับมือ!
หยวนเวิ่นเทียนแตะมือลูกชายเบาๆ เพื่อให้เขาคลายความโมโห และสงบสติอารมณ์เสียก่อน จากนั้นจึงหันไปพูดกับผู้เฒ่าฮั๋วต่อ
“เหล่าฮั๋ว ผมว่าเป็นเพราะคุณไม่ได้สนใจพวกเราตระกูลหยวนมากพอต่างหากเล่า…”
แต่ผู้เฒ่าฮั๋วตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงเรียบเฉย “หึ ระหว่างเรายังต้องมีบัตรเชิญอีกรึ?”
“เหล่าฮั๋ว เรื่องเล็กน้อยแค่นั้น ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก!”
“แล้วเรื่องอะไรกันที่ประธานหยวนใส่ใจ?”
“ผมเกรงว่าเหล่าฮั่วจะลืมสัญญาที่เคยรับปากจะยกว่านว่านให้กับจิ่วซื่อไปแล้วน่ะสิ!”
ผู้เฒ่าฮั๋วย่อมจดจําเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน และเขาก็เคยครุ่นคิดถึงปัญหาเรื่องนี้มาก่อนหน้าแล้ว แต่ระหว่างหยวนจิ่วซื่อกับซูอาน เขาสามารถเลือกซูอานได้โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย..
ถึงแม้ว่าหยวนจิ๋วซื่อจะอยู่หน่วยรบพิเศษเจี้ยนเตา มีโอกาสที่จะได้เลื่อนตําแหน่ง และมีอนาคตที่สดใส แต่ก็ยังไม่อาจเทียบได้กับซูอาน
“เหล่าฮั่วเองก็พออยู่บ่อยๆไม่ใช่รีว่า เด็กสองคนนี้เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก!”
หยวนจิ๋วซ่อมีท่าที่กระวนกระวาย เขาพยายามอย่างมากที่จะเอาชนะใจฮั๋วว่านว่าน ส่วนหนึ่งก็เพื่อตัวเขาเองด้วย อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อปูทางสู่อํานาจในวันข้างหน้า
“ที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อที่จะมาสู่ของหนูว่านว่านให้กับลูกชาย ทั้งว่านว่านและหยวนจิ่วซื่อต่างก็เหมาะสมกันอย่างมาก!”
ตั้งแต่ก้าวเท้าขึ้นมายืนบนเวทีแห่งนี้ หยวนเวิ่นเทียนยังไม่เคยแม้แต่จะปรายตาไปมองซูอานเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาไม่ต้องการให้สายตาของตนเองต้องแปดเปื้อนกับการมองคนต่ําต้อยเช่นซูอาน
เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้เฒ่าฮั๋วจึงได้ชื่นชอบคนชั้นต่ําและยากจนอย่างซูอาน แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้ฮั๋วว่านว่านหลุดมือไปแน่นอน ฮั่วว่านว่านจะต้องมาเป็นลูกสะใภ้ตระกูลหยวนเท่านั้น!
หยวนจิ๋วซื้อเองก็ได้พูดขึ้นต่อจากนั้น “ปู่ฮั่วครับ คุณปู่เองก็ รู้ดีว่าผมกับว่านว่านรู้สึกต่อกันอย่างไร? ขอร้องเถิดนะครับ ได้โปรดอย่าแยกพวกเราสองคนออกจากกันเลย!”
เวลานี้ผู้เฒ่าฮั่วถึงกับหน้าเปลี่ยนสี และแทบทําหน้าไม่ถูก เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าตระกูลหยวนจะมาสู่ขอหลานสาวของตนอย่างเปิดเผยและเอิกเกริกเช่นนี้ อีกทั้งท่าทีของหยวนเวิ่นเทียนก็ดูคล้ายกับจะข่มขู่เสียมากกว่าจะมาเจรจา
คําพูดและน้ําเสียงของหยวนเวิ่นเทียนนั้นค่อนข้างที่จะแสดงเจตจํานงค์ออกมาอย่างชัดเจนว่า หากผู้เฒ่าฮั๋วไม่ยอมรับการสู่ขอจากตนในครั้งนี้ ตระกูลหยวนกับตระกูลฮั่วก็จะต้องเปลี่ยนจากมิตรมาเป็นศัตรูในทันที และนี่คือสิ่งที่ทั้งสองตระกูลต่างก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ฮั่วว่านว่านยืนอยู่ข้างหยวนจิ่วซื่อเวลานี้ เธอจ้องมองซูอานด้วยแววตาเคียดแค้น ราวกับว่าอยากจะฉีกเนื้อของเขาออกเป็นชิ้นๆ ในขณะเดียวกันก็พูดขึ้นว่า
“ซูอาน ฉันไม่รู้จริงๆว่าคนอย่างนายใช้กลวิธีอะไรหลอกล่อปู่ของฉันกันแน่? แต่ฉันขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าระหว่างนายกับฉัน มันไม่มีทางเป็นไปได้!”
หยวนจิ่วซื่อได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เพราะตราบใดที่ฮั๋วว่านว่านยังอยู่ข้างเขาเช่นนี้ ทุกอย่างก็จะยิ่งง่ายขึ้นไปอีก
“ว่านว่าน! นี่หลานกล้าพูดกับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตหลาน ด้วยคําพูดแบบนี้เชียว!”
ผู้เฒ่าฮั่วถึงกับตะโกนดุหลานสาวของตนเสียงดัง เวลานี้เขายิ่งโกรธมากกว่าเดิม และร่างกายก็สั่นสะท้านไปด้วยอารมณ์เดือดดาล
เวลานี้ผู้เฒ่าฮั๋วโกรธที่ฮั๋วว่านว่านหันไปเข้าข้างคนอื่นในช่วงเวลาเช่นนี้ อีกทั้งยังโกรธที่เธอกล้าพูดจาดูถูกและตําหนิซูอานเช่นนั้น และนี่เป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการที่จะให้เกิดขึ้น
“เร็วเข้า! รีบขอโทษผู้มีพระคุณเดี๋ยวนี้!” ผู้เฒ่าฮั๋วร้องตะโกนบอกหลานสาวด้วยน้ําเสียงที่สั่นสะท้าน
“ไม่ค่ะ! ทําไมหนูต้องขอโทษคนอย่างเขาด้วย เขาไม่คู่ควรเลยสักนิด!”
เวลานี้ฮั๋วว่านว่านเองก็กําลังโกรธแค้นซูอานมากเช่นกัน เธอไม่รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณที่ซูอานเคยช่วยเธออีกแล้ว มิหนําซ้ำ กลับกลายเป็นรังเกียจมากอีกด้วย!
ซูอานยืนอยู่บนเวทีพร้อมกับจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา แววตาของเขาบ่มบอกถึงความรู้สึกรังเกียจ เหยียดหยันไม่น้อยเช่นกัน เขาไม่คิดที่จะอธิบายอะไรทั้งนั้น และสิ่งที่เขาต้องการทํามากที่สุดในเวลานี้ คือการเดินออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด!
“เหล่าฮั๋ว ดูจากท่าทางของว่านว่านแล้ว ผมว่าการให้เธอแต่งงานกับซูอาน ก็ไม่ต่างจากการผลักเธอลงเหวนรกเลย!” หยวนเวิ่นเทียนเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นท่าที่เดือดดาล และสายตารังเกียจของฮั่วว่านว่านที่มองซูอาน
หยวนจิ่วซื่อจึงรีบเอ่ยสมทบขึ้น “ท่านปู่ฮั๋ว ผมรับปากว่าจะดีต่อว่านว่านให้มาก และจะไม่ทําอะไรให้ว่านว่านต้องเสียใจ หรือได้รับอันตรายแม้แต่น้อย ชีวิตของว่านว่านสําคัญกว่าชีวิตของผมนับร้อยนับพันเท่า!”
เวลานี้ผู้เฒ่าวยังคงโมโหหลานสาวของตนเองไม่น้อย เขาเองหาใช่ไม่รู้ว่าฮั๋วว่านว่านกับหยวนจิ่วซื่อนั้นชอบพอกัน แต่เขาก็ต้องการใช้วิธีนี้ยึดซูอานไว้กับตระกูลฮั่ว และที่สําคัญเขาประเมินความดื้อรั้นของหลานสาวตนเองต่ําจนเกินไป
“ซูอาน เรื่องนี้เป็นความผิดขอบฉันเอง ขอโทษที่ทําให้เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้!”
ผู้เฒ่าฮั๋วรีบเอ่ยขอโทษซูอานทันที เขาไม่รู้สึกเสียหน้าเลยแม้แต่น้อย เพราะรู้ดีว่าซูอานเป็นผู้ฝึกยุทธด้วยการบ่มเพาะพลังปราณ และเป็นคนที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง ในโลกของยุทธภพนั้น ผู้คนล้วนเคารพกันที่ความแข็งแกร่ง หาใช่อย่างอื่นไม่!
แต่ซูอานเพียงแค่ยิ้มหยันออกมา และไม่กล่าวอะไรแม้แต่คําเดียว จากนั้นจึงก้าวเท้าและกําลังจะเดินลงเวทีไป ที่เขาต้องการจะออกไปจากที่นี่โดยเร็วนั้น หาใช่เพราะรู้สึกเสียหน้า หรือหวาดกลัวไม่ แต่เขารู้สึกว่าตนเองได้เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระไปมากแล้ว!
แต่ในทันทีที่เขาก้าวเท้าออกไปนั้น หยวนจิ่วซื่อก็ก้าวเท้าออกมาขวางหน้าซูอานไว้เช่นกัน แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ซูอานกลับไปง่ายๆแบบนี้แน่ เพราะใครก็ตา มที่กล้าทําให้ผู้หญิงของเขาเสียน้ําตา มันจะต้องได้รับบทเรียน