ยูโตะผู้มีความฝันกับตำนานแชแนลยูจัง - ตอนที่ 27 มุมของทาโรมาโระ
ตอนที่ 27 มุมของทาโรมาโระ
ตอนที่ 27 มุมของทาโรมาโระ
──โฮ้ นั่นมันอาเจ๊โชคอันแรงกล้านี่นา? น่าคิดถึงจริงๆ เพราะตอนนี้เธอได้เลิกเป็นนักสำรวจแล้วหนีไปทำงานหน้าโต๊ะแทนเสียแล้วเลยไม่มีโอกาสได้เจอกัน
「จริงๆ เลยน้า ตอนนั้นลำบากเอา──」
ในระหว่างที่ฉันกำลังจะพูด มิโดริคาวะก็พุ่งเข้ามาปิดปากของฉันเอาไว้
「โอ้ คุณโทโรมาโระไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ!!」
──เอ่อ คือมันก็ไม่ได้เจอกันนานจริงๆ นั่นแหละ อาเจ๊โชคอันแรงกล้านี่ก็ดูร่าเริงดีนะ
น่าเสียดายที่ปากของฉันถูกปิดเอาไว้อยู่ ก็เลยได้แค่ส่งเสียงอู้อี้ออกมา
「ยังไงก็รบกวนมาด้วยกันตรงนี้หน่อยนะคะ (…หากคิดขัดขืนแม่เชือดคอทิ้งแน่) 」
จากนั้นฉันก็ถูกเธอลากไป พร้อมกับเสียงกระซิบอันน่าขนลุกช่วงท้าย
──ไม่เปลี่ยนไปเลยน้อ อาเจ๊ เอาเถอะฉันก็ยอมตามไปแต่โดยดี
แต่ฉันก็ไม่สามารถตอบอะไรเธอกลับไปได้ เพราะปากโดนปิดเอาไว้อยู่
เมื่อฉันถูกลากมาจนถึงมุมหนึ่งของดันเจี้ยน ที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ แล้วเธอก็ยอมปล่อยฉันสักที
「เฮ้อ แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน? คาดไม่ถึงเลยนะว่าจะโดนแบบนี้อีกทั้งที่ก็ผ่านมานานแล้ว นี่อาเจ๊โชคอันแรงกล้า มันยังไงกัน….……」
「ให้ตายสิ ทาโรมาโระ ถ้าจะบ่นก็ไปบ่นความโชคร้ายเองเอ็งที่ดันมาจังหวะนี้เถอะ….เคสสีดำ」
「──ถามจริง? 」
「ก็จริงน่ะสิ งานหยาบเลยขอบอก และทางดันเจี้ยนคอร์ปอเรชั่นของเราก็เซ็นสัญญากับทางนั้นแล้วด้วย ส่วนฉันทำหน้าที่ในการดูแลเขาเป็นการส่วนตัวน่ะ」
พอพูดจบ มิโดริคาวะก็แสดงการ์ดสีดำซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันเคสสีดำ
「อย่าบอกนะว่า เป็นเคสของยูจัง? 」
「โฮ่! สมกับที่เป็นหัวหน้าปาร์ตี้สำรวจดันเจี้ยนชั้นยอดของประเทศอย่าง【มิตรภาพและความเกลียดชังในวันวาน】เข้าใจอะไรเร็วดีนี่」
「ไม่ๆๆ เดี๋ยวก่อนนะ….เด็กคนนั้นน่ะเหรอ? 」
「ก็ใช่น่ะสิ ชื่อจริงของเขาคือยูโตะ ผู้เป็นเจ้าของดันเจี้ยนคุโระที่ 1 แล้วก็เป็นเจ้าของแชแนลยูจัง」
「ถามจริง…ดันเจี้ยนคุโระที่ 1 นั่นน่ะนะ」
「ก็ใช่สิยะ ทาโรมาโระนายเองก็เป็นนักสำรวจ คงเข้าใจความหมายของคุโระดีสินะ? 」
「แน่นอนสิ คุโระ คือชื่อที่จะมอบให้กับดันเจี้ยนที่มีสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอาศัยอยู่ และจำเป็นต้องถูกควบคุมโดยประเทศผ่านมาตรการพิเศษ แถมยังเป็นจุดที่คนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้เป็นอันขาด ดันเจี้ยนนั่นได้ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการแล้วสินะ? 」
「ตามนั้น」
「คงเหนื่อยน่าดู กว่าจะจัดการเรื่องได้」
「ก็ใช่น่ะสิ ต้องใช้เวลานานมากกว่าพวกเบื้องบนจะยอมกัน แต่มันก็ทำให้อีกฝ่ายได้เห็นถึงอิทธิพลของพวกเราจริงๆ นั่นแหละ」
「เหนื่อยหน่อยนะ ว่าแต่เจ้าหนูนั่น ฉันก็แค่อยากจะทักทายเองไม่เห็นจะเป็นไรเลย」
「เรื่องมันซับซ้อนกว่าที่นายคิดย่ะ」
มิโดริคาวะก็เลยได้อธิบายข้อมูลภายในองค์กรของเธอให้กับฉันรู้
「สรุปคือพวกฉันต้องเล่นบทเพื่อนบ้านที่แสนดีของเขาต่อไปน่ะ」
「ฉันละไม่อยากจะเชื่อ……」
「ทาโรมาโระ นายเองก็ผ่านดันเจี้ยนมามากในฐานะนักสำรวจก็คงจะเคยเห็นอะไรหลายๆ อย่างในนั้นมาแล้วสินะ」
「ก็แน่อยู่แล้ว」
「……ถ้างั้นดูนี่สิ นี่เป็นวิดีโอที่ยังไม่ถูกเผยแพร่ออกไปสู่โลกภายนอก」
หลังพูดจบ มิโดริคาวะก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาให้ฉันดู ในนั้นมีเด็กผู้หญิงผมสีดำคนหนึ่งกับยูโตะฉายออกมา พร้อมกับพวกมอนสเตอร์ที่แสนน่าสะพรึงกลัวจำนวนมากประกอบฉาก
「ห๊ะ นั่นมันมดล้างโคตรไม่ใช่เหรอ?!」
「ใช่แล้ว ยูโตะได้ทำการสังหารพวกมดล้างโคตรหลายร้อยตัวด้วยตัวคนเดียวในเวลาไม่นาน ตัวเขาในตอนนี้ได้ก้าวข้ามตรรกะและเหตุผลของมนุษย์ไปไกลมากแล้ว」
「เห็นแบบนี้แล้วยังไงก็ต้องเคสสีดำ….พวกเบื้องบนที่อยากจะจับกุม ควบคุม หรือสังหารเขาคงได้คิดหนักกันแน่ พลังมหาศาลขนาดนั้นในตัวของเจ้าหนูนี่ หากไปกระตุ้นเขาโดยไม่จำเป็นคงได้เกิดความวุ่นวายทั่วโลกแหง」
「ก็อย่างที่นายพูด」
「แล้วแนวทางรับมือล่ะ? 」
「เพราะว่าตอนนี้ ยูโตะยังคิดว่าตัวเองเป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง ทางเราก็เลยตัดสินใจว่าจะปล่อยให้เขาเข้าใจผิดแบบนี้ต่อไป เพื่อความสงบสุขของโลกใบนี้ และเพื่อสร้างสมดุลนี้ให้คงอยู่พวกเราก็เลยมีหน้าเป็นตัวแทนที่ในการดูแลมันน่ะ」
「ตัวแทนสินะ หื้ม」
「ดังนั้น ในเมื่อนายก็ฟังมาจนถึงขนาดนี้แล้ว คงจะเข้าใจดีสินะ ทาโรมาโระ มาช่วยฉันซะ นี่เป็นคำสั่ง」
หลังจากพูดจบ มิโดริคาวะก็ส่งการ์ดสีดำมาให้ฉัน ในฐานะนักสำรวจแล้วนี่คืองานบังคับที่ต้องทำให้สำเร็จ
ช่วยไม่ได้แต่คราวนี้คงต้องร่วมจมหัวลงท้ายไปด้วยกัน
「เอาเถอะ ช่วยไม่ได้สินะ อย่างน้อยก็มีค่าจ้างให้ใช่ไหม? 」
「มีอยู่แล้วสิ เพราะทางดันเจี้ยนคุโระที่ 1 ก็ทำการจัดส่งเรโซและเอย์เรโซมาให้กับทางเราเป็นประจำด้วย ทางรัฐก็เลยมีการจัดเรื่องงบประมาณขึ้นในบัญชีลับชื่อ “ยูโตะ” ซึ่งตัวตนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการบัญชีจะถูกปิดเป็นความลับเอาไว้เพื่อไม่ให้เจ้าตัวรู้ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน พวกฉันได้รับอนุญาตให้ทำการจัดการส่วนนี้ได้ ดังนั้นหลังจากหักค่าธรรมเนียมอะไรแล้วเดี๋ยวจะโอนไปให้」
「ทั้งเรโซแล้วก็เอย์เรโซเลยเหรอ พอเทียบกับผลที่ได้ในงานครั้งนี้แล้ว เงินสำหรับการจ้างฉันคงเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปเลยสินะ ได้สิยังไงก็เป็นหน้าที่อยู่แล้ว──นอกจากนี้ฉันก็มีความสุขนะที่ได้สู้เคียงข้างกับอาเจ๊อีกครั้ง」
「หยุดพูดได้แล้วย่ะ」
มิโดริคาวะเดินออกไป ก่อนจะหันหลังกลับมา
「….จริงสิคะ นี่ก็ได้เวลาที่พวกเราจะกลับกันแล้ว ──มาพยายามด้วยกันเธอค่ะ คุณทาโรมาโระ」
น้ำเสียงของมิโดริคาวะได้เปลี่ยนไปเป็นน้ำเสียงทางธุรกิจ ดูเหมือนพอเลิกเป็นนักสำรวจแล้วจะไปได้ดีด้านนี้แทนสินะ
ฉันก็เลยตอบมิโดริคาวะด้วยรอยยิ้ม
「อ้าได้สิ ทางฉันก็จะพยายามเป็นเพื่อนบ้านที่แสนดีให้แล้วกัน」
พอฉันบอกเธอเสร็จ ฉันก็เดินไปพร้อมกับเธอด้วยความมุ่งมั่น ไม่รู้ทำไมเธอถึงแสดงสีหน้าเหมือนรังเกียจฉันกันนะ