ยุคใหม่ของเหล่าผู้อัญเชิญ - บทที่ 132: รอบสุดท้าย

บทที่ 132: รอบสุดท้าย

 

 

“รอก่อน” เหมือนเมื่อก่อน อาแจ็คซ์ เลือกที่จะรอ

 

ชายชราตกใจที่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากสโนว์

 

‘เกิดอะไรขึ้นกับเหยี่ยวตัวนี้ แม้แต่อสูรระดับ 5 ก็จะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ตราบใดที่มันใช้อัญมณีแก่นแท้ของราชาอสูรวิญญาณเพียงชิ้นเดียว แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ สัตว์เดรัจฉานไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของมันได้ แม้ว่าจะกินแก่นแท้อัญมณีไปแล้วสองอนุภาคก็ตาม ‘ ชายชราพึมพำครู่หนึ่งและพูดต่อ “ ข้าจะให้มันกินแก่นแท้อัญมณีอีกหนึ่งครั้ง ถ้ามันไม่ได้รับการเพิ่มขึ้นเลย นี่เป็นอสูรวิญญาณที่แย่ที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา ” ชายผู้เฒ่ามนุษย์นกคิดในหัวของเขา เขาทำซ้ำขั้นตอนเดิมเป็นครั้งที่สอง

 

‘ติ้ง

 

ท่านต้องการปล่อยให้มันกินอนุภาคหรือรอ?

 

“รอก่อน” อาแจ็กซ์พูดในใจอย่างเงียบๆ

 

‘อัญมณีแก่นแท้ของข้า‘ อาแจ็กซ์ยังพูดซ้ำในสิ่งเดียวกันซึ่งทำให้ผู้เฒ่ามนุษย์นกร้องไห้เพราะการสูญเสียของเขา

 

อัญมณีแก่นแท้ของราชาอสูรวิญญาณไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับ แม้แต่สำหรับเขา ดังนั้นเมื่อเขาเห็นว่าไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย ชายชรานกร้องและสาปแช่งสโนว์เข้าข้างใน

 

ผู้ชมทุกคนงงงวยกับรางวัลที่เข้าสู่ร่างของสโนว์ และไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กับร่างของหลัง

 

“ เอาล่ะ มาสรุปการทดสอบด้วยการแข่งขันระหว่างผู้เข้าร่วม ” ชายชราผู้สูงวัยหมดความสนใจก่อนหน้านี้ทั้งหมดเมื่อไม่เห็นปฏิกิริยาใดๆ จากผู้เข้าร่วมคนโปรดของเขา เมื่อเขาใช้อัญมณีแก่นแท้ของราชาอสูรวิญญาณ

 

สมาชิกทุกคนงุนงงกับคำพูดของผู้เฒ่ามนุษย์นกอีกครั้ง

 

ทุกครั้งจะมีสามรอบพร้อมรางวัลในแต่ละรอบ

 

อย่างไรก็ตาม คราวนี้ พวกเขาข้ามรอบที่สองโดยตรงและเข้าสู่รอบสุดท้ายโดยตรง ทำให้เขางงงวยเพราะพวกเขาไม่ทราบเหตุผลเบื้องหลัง

 

“ ข้ารู้ว่าทำไมทุกคนถึงมองมาที่ข้าแบบนั้น จริงๆ แล้วข้าเข้าใจพลังการต่อสู้ของผู้เข้าร่วมแต่ละคนมาบ้างแล้วในรอบแรก ดังนั้นข้าจึงไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์อีกต่อไป รอบสุดท้ายข้าจะตัดสินผู้ชนะ ของเส้นทางและมอบมรดกให้กับผู้ชนะคนแรกของเผ่าของเขาโดยเฉพาะ ” เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของนกทั้งสามเผ่าทั้งหมดผู้เฒ่ามนุษย์นกก็อธิบาย

 

“ อะไรนะ ผู้ชนะคนแรกเพียงคนเดียวที่จะได้รับมรดก ? ”

 

สมาชิกของเผ่าอีกาเพลิงและเผ่าเหยี่ยวสายฟ้า ร้องอย่างช้าๆ

 

ตามการแข่งขันครั้งก่อน ผู้เข้าร่วมตำแหน่งที่หนึ่งและสองสามารถได้รับมรดก 100 เปอร์เซ็นต์และ 50 เปอร์เซ็นต์ของเผ่าเฉพาะของพวกเขา ตอนนี้เขาเปลี่ยนให้เป็นเพียงผู้เข้าร่วมคนเดียวในสามคนที่ได้รับมรดกจากเผ่าของเขาโดยเฉพาะ

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครถามผู้เฒ่ามนุษย์นกเพราะไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดโบราณอย่างเขา

 

” ฮะ ? ” แต่อาแจ็กซ์เข้าใจบางอย่างมากขึ้นจากคำพูดของผู้เฒ่ามนุษย์นก

 

“ ดังนั้น ในการแข่งขันครั้งก่อน เขากำลังทดสอบผู้เข้าร่วมที่มีปฏิกิริยาตอบสนองสูงสุดกับอัญมณีแก่นแท้ของราชาอสูรวิญญาณ แต่ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นล่ะ ” แม้ว่าเขาจะเข้าใจบ้าง เขาก็ไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลัง

 

“ แล้วทำไมผู้นำเผ่าของกระจอกน้ำแข็งถึงมองสโนว์อย่างเย็นชามากกว่าผู้นำเผ่าอีกาเพลิง ? ” อาแจ็คซ์ งงกับพฤติกรรมของ คีร่า ผู้นำเผ่ากระจอกน้ำแข็ง

 

“ ผู้เข้าร่วมทั้งหมด เข้าไปข้างในนี้ ” ชายสูงวัยชี้ไปที่ประตูมิติ ซึ่งปรากฏอยู่ข้างโลงศพพร้อมๆ กับที่เขาพูดอย่างแม่นยำ

 

ผู้เข้าร่วมทั้งหมดมองไปที่ผู้นำเผ่าของพวกเขา ยกเว้นสโนว์ที่มองไปที่อาแจ็กซ์

 

ผู้นำเผ่าทั้งสองพยักหน้าให้ผู้เข้าร่วม อนุญาตให้พวกเขาเข้าไปในพอร์ทัล

 

สำหรับ อาแจ็คซ์ เขาลังเลที่จะอนุญาตให้ สโนว์ เข้าสู่พอร์ทัลเนื่องจากผู้นำเผ่าเหยี่ยวไม่ได้กล่าวถึงส่วนนี้ของการแข่งขัน

 

แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็โบกมือให้เข้าไป

 

ผู้เฒ่ามนุษย์นกสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็กๆ นี้และมองไปที่อาแจ็กซ์ซึ่งอยู่ในร่างเหยี่ยวสายฟ้าแบบมนุษย์ (ในมุมมองของผู้เฒ่ามนุษย์นก)

 

‘ มีสมบัติบางอย่างบนตัวเขาที่ทำให้ข้าไม่สามารถตรวจสอบเขาได้อย่างชัดเจน ‘ ผู้เฒ่ามนุษย์นกคิดกับตัวเองเมื่อเขามองไปที่อาแจ็กซ์

 

แต่ผู้เฒ่ามนุษย์นกไม่สนใจเขาในตอนนี้ เนื่องจากงานหลักกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ดังนั้นเขาจึงมองไปยังผู้เข้าร่วมที่กำลังเข้าสู่พอร์ทัลอย่างช้าๆ

 

หลังจากที่ทุกคนเข้าไปในพอร์ทัลแล้ว นกอาวุโสก็ปิดประตูทางเข้า และกระจกบานใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในอากาศ

 

ในกระจก สมาชิกเผ่าทั้งหมดเห็นผู้เข้าร่วมทั้งสามคนในดินแดนกว้างใหญ่ที่มีแต่หญ้าและไม่มีต้นไม้

 

“ เอาล่ะ เอาชีวิตรอดในดินแดนนั้นเป็นเวลา 10 ชั่วโมง ” นายผู้เฒ่ามนุษย์นกที่ยืนอยู่ในโลงศพพูดกับผู้นำเผ่า แต่ผู้เข้าร่วมได้ยินคำพูดเหล่านั้นเมื่อพวกเขาพยักหน้าทันทีที่นกอาวุโสพูดจบ

 

“ ผู้ชนะจะถูกเลือกโดยขึ้นอยู่กับจำนวนศัตรูที่ผู้เข้าร่วมสามารถฆ่าได้ ตอนนี้รอบสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นแล้ว ” ชายชราผู้อาวุโสสรุปการประกาศทั้งหมดของเขาและดูรอบสุดท้าย

 

ทันทีที่พูดแบบนั้น พื้นหญ้าใต้ขาของผู้เข้าร่วมก็หายไปทันที และอสูรวิญญาณที่เหมือนนกแร้งจำนวนมากก็บินมาที่พวกเขาจากระยะไกล

 

เนื่องจากไม่มีแผ่นดิน ผู้เข้าร่วมทั้งหมดจึงเริ่มบินขึ้นไปในอากาศและเริ่มต่อสู้กับอีแร้งเหมือนอสูรวิญญาณ

 

“ ไครว์ พวกอสูรวิญญาณที่บินได้นั้นคืออะไร ? ” อาแจ็คซ์ ไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อนในเขต ซโลเชสเตอร์ ดังนั้นเขาจึงถาม ไครว์ เกี่ยวกับแร้งเหล่านั้นเช่นอสูรวิญญาณที่บินได้

 

“ พวกมันถูกเรียกว่าแร้งมีปีกปีศาจ พวกมันไม่มีสติปัญญาซึ่งทำให้สัตว์เหล่านั้นไม่พัฒนาและยังคงเป็นอสูรวิญญาณตลอดไป แต่พวกมันโหดร้ายมาก ดังนั้นเราจึงเริ่มเรียกพวกมันว่าแร้งมีปีกปีศาจ ” ไครว์ อธิบาย อาแจ็คซ์ เกี่ยวกับอสูรวิญญาณที่บินได้

 

อาแจ็กซ์พยักหน้าและดูการต่อสู้ระหว่างผู้เข้าร่วมและแร้งมีปีกปีศาจ

 

เหมือนเมื่อก่อน ราเวท ไม่ได้ใช้ทักษะขั้นสูงสุดของเขาตั้งแต่แรก เขาใช้ทักษะปกติของเขาและฆ่าพวกแร้งแทน

 

นกกระจอกน้ำแข็งและสโนว์ก็เริ่มฆ่าพวกแร้งโดยไม่เสียเวลา