ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 663 ต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยหรือ
ตอนที่ 663 ต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยหรือ
ซุนฉีมองไปที่คราบเลือดกระดำกระด่างบนตัวของเจียงอวี่เฉิงแล้วพูดขึ้นอย่างลังเลว่า
“แต่คุณชายใหญ่ท่าน…”
“รีบไป!”
เจียงอวี่เฉิงโมโหจวนจะระเบิดแล้ว!
ซุนฉีชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า
“ขอรับ!”
เขารีบหันไปพูดกับองครักษ์ทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังของเขาว่า
“เจ้ารีบไปตามจับเซี่ยมู่มา! ส่วนเจ้า รีบส่งคนไปปิดล้อมจวนตระกูลเจียงเดี๋ยวนี้! ห้ามคนเข้าออกโดยเด็ดขาด!”
องครักษ์ทั้งสองคนรีบขานรับทันที จากนั้นก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง
ส่วนซุนฉีเองก็กระโดดออกทางหน้าต่าง พร้อมมองไปทางที่เซี่ยมู่หนีไป
ในตอนนั้นเอง เขาก็หยิบกระบอกไม้ไผ่ออกมาจากสาบเสื้อ แล้วดึงอย่างแรง!
ตู้ม!
ชั่วพริบตาดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้า
มีแต่เรื่องเร่งด่วนเท่านั้นที่จะสามารถใช้ของสิ่งนี้ ซุนฉีที่ติดตามเจียงอวี่เฉิงอยู่ตลอด จึงไม่ค่อยได้มีโอกาสใช้ของสิ่งนี้
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า วันนี้เขาจะได้ใช้งานมันแล้ว หนำซ้ำยังใช้ในจวนตระกูลเจียงอีก!
หลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์ของตระกูลเจียงมารวมตัวกันมากกว่าร้อยนาย อีกทั้งฝีมือของพวกเขาเหล่านั้นยังไม่ธรรมดาอีกด้วย!
ซุนฉีรีบพูดขึ้นว่า
“เมื่อครู่มีคนลอบโจมตีคุณชายใหญ่ ตอนนี้มันกำลังหนีออกไปที่ด้านนอก! ทุกคนรีบตามข้าออกไปหาตัวมันเดี๋ยวนี้!”
ทุกคนล้วนรู้สึกตกใจอย่างมาก
คาดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าลอบทำร้ายคุณชายใหญ่ในจวนตระกูลเจียงเช่นนี้?
นี่เขาใจกล้าขนาดไหนกันเนี่ย? ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?
“คนคนนั้นมีรูปร่างผอมตัวเล็ก สวมชุดสีดำเทา หน้ากากเหล็ก ใบหน้าถูกไฟคลอกจนเสียโฉม! หากใครพบเจอคนผู้นี้ ให้รีบจับตัวกลับมาทันที!”
“ขอรับ!”
พวกเขาทุกคนทยอยออกไป ภายใต้คำสั่งของซุนฉี
ส่วนคนอื่นๆ ที่รออยู่ในเรือนหวู่ถงต่างมีสีหน้าตกใจอย่างมาก
เซี่ยมู่คิดอันใดอยู่กันแน่ คาดไม่ถึงว่าเขาจะทำร้ายคุณชายใหญ่เช่นนี้?
ฉีต้าเหอรู้สึกสับสนอย่างมาก
“เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด…”
ด้วยความกล้าและฝีมือของเซี่ยมู่แล้ว เขาไม่น่าจะทำเรื่องเช่นนี้ได้!
และในตอนนี้องครักษ์ก็ได้นำกำลังปิดล้อมเรือนหวู่ถงอย่างรวดเร็ว!
ห้ามทุกคนเข้าออกตามอำเภอใจอย่างเด็ดขาด!
ทันใดนั้นก็มีชายชราคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา
เมื่อเห็นเขา องครักษ์เหล่านั้นก็หลีกทางให้เขาโดยทันที
“ผู้อาวุโสเฟิง!”
คนผู้นี้คือเซียนหมอที่อาศัยอยู่ในจวนตระกูลเจียงโดยเฉพาะ และยังเป็นคนสนิทของคุณชายใหญ่อีกด้วย…เฟิงซานหยวน
เฟิงซานหยวนรีบวิ่งเข้าไปในเรือนด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เห็นเจียงอวี่เฉิงที่มีใบหน้าซีดขาวระคนโกรธแค้นอยู่
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบเข้าไปด้วยความเร็ว
“คุณชายใหญ่! ท่านเป็นอย่างใดบ้าง?”
เจียงอวี่เฉิงเอามือออก เฟิงซานหยวนจึงเห็นรูที่ชุ่มเลือดตรงท้องน้อย และตรงข้างเท้าของเจียงอวี่เฉิง ก็ยังมีพู่กันชุ่มเลือดหล่นอยู่ด้วย
นี่เป็นฝีมือของคนเมื่อครู่นี้แน่นอน
เฟิงซานหยวนรู้สึกตกใจอย่างมาก รีบหยิบโอสถออกมาให้เจียงอวี่เฉิง ในขณะเดียวกันก็ช่วยเขาจัดการแผลอย่างระมัดระวัง
“คุณชายใหญ่ร่างกายของท่านเพิ่งฟื้นตัวขึ้นมา ข้าเกรงว่าแผลนี้ต้องใช้เวลารักษาสักระยะ…คนผู้นั้นโจมตีได้แม่นยำมาก คาดไม่ถึงว่าจะโจมตีตำแหน่งตรงนี้…หากเขาออกแรงมากกว่านี้อีกนิด เกรงว่าอาจจะทำร้ายตันเถียนของท่านแล้ว…”
สีหน้าของเจียงอวี่เฉิงย่ำแย่อย่างมาก
ระดับฝีมือของฝ่ายตรงข้ามนั้นต่ำกว่าเขามาก แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะลอบโจมตีสำเร็จ!
ส่วนหนึ่งเพราะตอนนั้นเขาไม่ได้ระวังตัว แต่อีกส่วนหนึ่งเพราะคนคนนั้นเคลื่อนตัวได้เร็วมาก!
หลังจากเฟิงซานหยวนช่วยเขาทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจียงอวี่เฉิงก็เตรียมตัวเดินออกไป เพื่อที่จะไล่ล่าอีกฝ่าย
“คุณชายใหญ่! ตอนนี้ท่านห้ามขยับตัวมากนะขอรับ ท่านพักผ่อนก่อนดีกว่า! พวกซุนฉีกำลังตามจับคนคนนั้นกลับมาแล้ว!”
เฟิงซานหยวนพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“ตอนนี้ร่างกายของท่านอ่อนแออย่างมาก ไม่สามารถออกแรงมากได้ ไม่เช่นนั้น…”
เหมือนว่าในดวงตาของเจียงอวี่เฉิงมีประกายไฟลุกโชนขึ้นมา
“ร่างกายของข้า ข้ารู้ดีที่สุด! วันนี้ข้าจะต้องจับเซี่ยมู่กลับมาให้ได้!”
บาดแผลในวันนี้ สร้างความอัปยศอดสูให้เขาอย่างมาก!
เขาสาวเท้าก้าวเดินไปด้านหน้า แล้วพูดกับองครักษ์เฝ้าหน้าประตูอย่างเคร่งเครียดว่า
“จับตาดูฉีต้าเหอให้ดี!”
“ขอรับ!”
เหมือนว่าฉีต้าเหอจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเซี่ยมู่ ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉีต้า
เหอหรือไม่?
ฉีต้าเหออยากจะพูดอธิบายออกไป แต่ก็โดนปิดปากอย่างรวดเร็ว
เจียงอวี่เฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้โอสถได้ออกฤทธิ์แล้ว ความเจ็บที่มีค่อยๆ สลายไป รวมถึงเลือดที่ซึมออกมาจากปากแผลด้วย
เขาจึงเดินออกไปด้านนอกอย่างไม่ลังเล
เขาจะต้องฉีกเซี่ยมู่เป็นหมื่นๆ ชิ้นด้วยมือของเขาเอง!
“คุณชายใหญ่…” เฟิงซานหยวนคิดจะห้ามเขาอีกสองสามคำ
แต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดที่มาจากบาดแผลก็เริ่มแผดเผาเขา จึงทำให้ด้านหน้าของเจียงอวี่เฉิงมืดสนิท! จนแทบจะยืนไม่อยู่แล้ว!
เขารีบชะงักฝีเท้าทันที ก่อนจะกัดฟันแล้วก้มมองท้องน้อยของตนเอง
ความรู้สึกเหมือนโดนแผดเผานั้นหายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“คุณชายใหญ่ เป็นอันใดไปหรือ?”
เฟิงซานหยวนเห็นท่าทีผิดปกติของเขา จึงรีบถามขึ้น
เจียงอวี่เฉิงนิ่งเงียบสักครู่หนึ่ง และพบว่าความรู้สึกเช่นนั้นมันไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก ในใจของเขาก็รู้สึกสงบมากขึ้น
น่าจะเป็นฤทธิ์ของโอสถละมั้ง…
“ไม่เป็นไร”
เขาพูดขึ้น และเดินจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนคำทัดทาน
แม้ว่าในใจของเฟิงซานหยวนจะรู้สึกเป็นห่วง แต่เขาก็รู้ดีว่าสิ่งที่เจียงอวี่เฉิงตัดสินใจไปแล้ว มักจะไม่มีทางเปลี่ยนใจกันง่ายๆ
ตอนนี้เขาถูกคนไร้นามลอบโจมตีจนเกิดบาดแผล เกรงว่ามีแต่ต้องทำลายอีกฝ่ายเป็นผุยผงเท่านั้น ถึงจะสามารถลดความเกลียดชังในใจของเขาได้!
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังที่ค่อยๆ จากไปของเจียงอวี่เฉิง เฟิงซานหยวนก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น
ร่างกายของคุณชายใหญ่…ไม่สามารถทนต่อการกระแทกได้แล้ว…
…
อีกด้านหนึ่ง ซุนฉีได้นำคนไปรวมตัวกับองครักษ์ที่เขาสั่งให้ไล่ตามเซี่ยมู่
“เซี่ยมู่ล่ะ?”
ซุนฉีมองไปรอบๆ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาคน เขาจึงรีบถามขึ้นด้วยความร้อนรน
“ข้า..ข้าน้อยคลาดกับเขาแล้ว…”
“คลาดกัน!?”
ซุนฉีตบหน้าขององครักษ์คนนั้นอย่างหมดความอดทน
เพี้ยะ!
“แค่เรื่องง่ายๆ แค่นี้เจ้ายังทำไม่ได้! เจ้านี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ! คนคนนั้นยังกล้าที่จะคลาดสายตา เจ้าอยากตายมากใช่หรือไม่!?”
องครักษ์ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง แต่ในใจของเขาก็รู้สึกจนปัญญาเช่นกัน
“…ใต้…ใต้เท้าซุน เซี่ยมู่คนนั้นปราดเปรียวว่องไว…ข้าน้อยเห็นเพียงเขากระโดดข้ามกำแพงแล้วหายตัวไป…”
ซุนฉีเหลือบสายตามองไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายนั้นชี้ เป็นอันรู้กันว่าเซี่ยมู่ได้ออกจากจวนตระกูลเจียงไปแล้ว
เดิมทีเรือนหวู่ถงก็อยู่ใกล้ประตูหลังมากอยู่แล้ว อีกทั้งคนที่เฝ้าประตูก็มีจำนวนน้อย การที่คนคนนั้นจะหนีออกไปได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“แยกย้ายกันออกตามหา! ตอนนี้ที่ถนนเต็มไปด้วยหิมะ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย!”
“ขอรับ!”
…
อีกด้านหนึ่ง เซี่ยมู่ที่กระโดดออกจากจวนตระกูลมู่ด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เดินออกไปตามตรอกเล็กๆ
ตอนนี้ในเมืองมีหิมะลงหนา และชุดนี้ก็โดดเด่นอย่างมาก
เขาจึงต้องอาศัยความเร็วและทักษะในการซ่อนตัว การซ่อนตัวสักระยะหนึ่งนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่คนของตระกูลเจียงจะต้องไม่ยอมปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงต้องคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา…
ในตอนนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงรถม้ามาจากทางด้านหลัง
เซี่ยมู่ตกตะลึงอย่างมาก จึงรีบหันกลับไปมอง ‘ในเวลาแบบนี้ จะมีรถม้าได้อย่างใด? หรือว่าจะเป็นรถม้าที่ไม่มีคนบังคับ’
ฮี้!
มีอีกเสียงหนึ่งที่ดังตามมา!
เงาร่างคนจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังวิ่งมาทางนี้ด้วยความเร็ว!
“เขาต้องหนีไปได้ไม่ไกลแน่ รีบปิดล้อมทางนี้เอาไว้ให้หมด! แล้วค้นให้ละเอียด! แม้ว่าจะต้องขุดดินลึกลงไปสามจั้ง ก็ต้องหาคนออกมาให้ได้!”
“ขอรับ!”
เจียงอวี่เฉิงนั่นเอง!
คาดไม่ถึงว่าเขาจะตามมาด้วยเมื่อได้ยินเสียงที่ใกล้เข้ามา หัวใจของเซี่ยมู่ก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เขาหมุนตัวแล้วกระโดดไปที่รถม้าคันนั้น
แต่เมื่อถึงที่ด้านหน้าของรถม้าคันนั้น คาดไม่ถึงว่าจะมีคนแหวกผ้าม่านขึ้น แขนข้างหนึ่งยื่นออกมา แล้วคว้าตัวของเซี่ยมู่เอาไว้ทันที
ตึง!
เซี่ยมู่ถลาเข้าไปในอ้อมกอดอันอบอุ่นของคนคนหนึ่ง
เซี่ยมู่รีบกระโดดออก แล้วคว้าข้อมือของอีกฝ่ายกระแทกเข้าที่ผนังรถม้า! แล้วกดเอาไว้จนแน่น!
“เจ้ากล้า…”
เขายังพูดไม่ทันจบ ทันใดนั้นปลายจมูกก็ได้กลิ่นหอมเย็นที่คุ้นเคย
ชายคนที่โดนกดข้อมือเอาไว้ก็หัวเราะเสียงทุ้มขึ้น
“เยว่เอ๋อร์ ต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยหรือ?”