ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 505 อาณาจักรเทพเทียนลิ่ง [รีไรท์]
ตอนที่ 505 อาณาจักรเทพเทียนลิ่ง [รีไรท์]
ซย่าโหวถิงอันตัวสั่นไปเล็กน้อยแล้วก้าวเท้าถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
ซย่าโหวหรงพูดออกมาด้วยเสียงโกรธเคือง
“ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ พ่อพูดกับเจ้าว่าอย่างใด เจ้าลืมไปหมดแล้วหรือ? เจียงอวี่เฉิงมีน้องสาวแท้ๆ เพียงคนเดียว ขอเพียงเจ้าทำให้นางดีใจ ตอนนี้กำลังจะได้หมั้นกันอยู่แล้ว แต่เจ้ากลับจะมายอมแพ้ตอนนี้เนี่ยนะ? เจ้าต้องรู้เอาไว้เลยว่า ด้วยฐานะของนางก็ทำให้เจ้ามีกินมีใช้ไปทั้งปีแล้ว เจ้าไม่อยากดูแลนาง! ก็มีคนอื่นอยากมาทำหน้าที่แทนตั้งมากมาย”
ไม่ใช่ว่าซย่าโหวถิงอันไม่รู้เรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นเขาไม่มีทางทนเจียงอวี่จือมาได้นานขนาดนี้หรอก
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป เหมือนว่าเขายิ่งต่อต้านเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
เจียงอวี่จือเย่อหยิ่งและกำเริบเสิบสานมาตั้งแต่เล็ก หลังจากเจียงอวี่เฉิงได้ครองตำแหน่ง นางก็อาศัยฐานะนี้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น
เรื่องที่เกิดภายในหอร้อยโอสถนั้น ความจริงแล้วไม่ใช่แค่เรื่องแรก
แต่เขาไม่ต้องมองหน้าที่หยิ่งยโสของเจียงอวี่จืออีกต่อไปแล้ว
ซย่าโหวถิงอันไม่พูดไม่จา ซย่าโหวหรงก็กลัวว่าเขาจะตัดสินใจโดยไม่คำนึงถึงอย่างอื่นอีก จนอาจจะทำให้เรื่องราวทั้งหมด ไม่สามารถหยุดยั้งได้ เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงและจริงจังว่า
“ลูกผู้ชายที่ดี ต้องยืดได้งอได้ ขอเพียงเจ้าสามารถอดทนเจียงอวี่จือได้ วันที่รุ่งเรืองจะรอพวกเราอยู่ แต่เจ้าต้องรู้ก่อนว่า ในตระกูลเรามีพี่น้องตั้งหลายคน แต่พ่อให้ความสำคัญกับเจ้ามากที่สุด เรื่องในตระกูลไม่ช้าก็เร็วต้องในมือของเจ้าแน่นอน เจ้าต้องทำให้พ่อวางใจนะ…”
คำพูดนี้กระทบจิตใจของซย่าโหวถิงอันอย่างแรง
พี่น้องของเขาทั้งหลาย ต่างมีจุดแข็งเป็นของตนเอง
ความจริงแล้วเขาไม่นับว่าโดดเด่นที่สุด
ไพ่ไม้ตายที่ใหญ่ที่สุดคือเจียงอวี่เฉิง ที่อยู่เบื้องหลังของเจียงอวี่จือ
แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้แต่งงานกับองค์หญิงสาม แต่มีใครไม่รู้บ้างว่าตอนนี้เจียงอวี่เฉิงคือคนหนึ่งที่อยู่ในราชสำนักของราชวงศ์เทียนลิ่งแล้ว
“…ลูกเข้าใจแล้ว ลูกจะไปขอโทษตระกูลเจียง” เขาพูดออกมาเสียงเบา
ซย่าโหวหรงถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ใบหน้าของเขาก็ผ่อนคลายลงมาหลายส่วน จากนั้นเขาก็ก้าวไปด้านหน้าเพื่อตบบ่าของซย่าโหวถิงอัน
“ถูกต้อง! ไม่เสียแรงที่พ่อให้ความสำคัญกับเจ้ามาหลายปี”
ซย่าโหวถิงอันฝืนยิ้มให้อีกฝ่าย
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่หลิวเยว่พาเชียงหว่านโจวมาที่จัตุรัสเสวียนจีพร้อมกัน ส่วนต้วนจืออวี่ก็ตามเขามาตลอดทาง
เมื่อเทียบกับวันแรกแล้ว คนที่เดินทางมาที่นี่นั้นเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก ในสนามก็คึกคักมากยิ่งขึ้น
ผู้อาวุโสชิวซีและผู้อาวุโสตวนมู่ฉุนก็รออยู่ที่กลางสนามประลองแล้ว
นอกจากพวกเขาทั้งสองคน และยังมีชายชราอีกหกคนที่ยืนอยู่ด้านข้างของพวกเขา
ผู้อาวุโสทั้งแปดคน ยืนอยู่สี่มุม มุมละสองคน
และเว้นพื้นที่ตรงกลางเอาไว้
ตอนนี้ผู้แข่งขันที่ผ่านการคัดเลือกเมื่อวานก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่ด้านข้างของสนามหมดแล้ว
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองอย่างรวดเร็ว พร้อมขมวดคิ้วแน่นขึ้น
งานหมื่นทูรนี้จัดตั้งเพื่ออันใดกันแน่ คาดไม่ถึงว่าจะมีผู้อาวุโสในราชสำนักมาอยู่ในงานนี้ถึงแปดคน…
ระดับงานใหญ่ขนาดนี้ หาได้น้อยมากจริงๆ
อีกไม่นาน ก็ใกล้ถึงเวลาฤกษ์งามยามดีแล้ว
ผู้อาวุโสชิวซีและคนอื่นๆ สบสายตากัน จากนั้นก็พยักหน้า
หลังจากนั้นพวกเขาก็ลงมือพร้อมกัน
พริบตาเดียวพลังดั้งเดิมที่ทรงพลังทั้งแปดก็มารวมตัวกัน!
ทันใดนั้นระลอกคลื่นก็เกิดขึ้นอย่างรุนแรง พลังดั้งเดิมทั้งแปดสายก็รวมตัวกันเป็นกระแสน้ำวนที่ลึกล้ำอย่างมาก และม่านพลังโปรงแสงรูปแปดเหลี่ยมก็ปรากฏขึ้น!
ที่ส่วนกลางของม่านพลังนั้นก็มีลวดลายแปลกๆ ปรากฏออกมาด้วย
ทันใดนั้นแรงกดดันที่แข็งแกร่ง ก็ปรากฏขึ้นเหนือม่านพลังแล้วขยายออกไปทันที
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจอย่างมาก!
พลังกดดันนี้…
“อย่างที่ทุกท่านเห็นอยู่ตอนนี้ นี่คือม่านพลังและในขณะเดียวกันมันก็คือเขตอาคมส่งตัวด้วย!”
ผู้อาวุโสชิวซีหันไปมองม่านพลังโปร่งแสงแปดเหลี่ยมผืนนั้น ด้วยสีหน้าที่ยากจะซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้
“ส่วนปลายทางของเขตอาคมนี้ก็คืออาณาจักรเทพเทียนลิ่ง!”
หลังจากที่เสียงเงียบลงไปสักครู่ จากนั้นทั่วทั้งจัตุรัสก็มีเสียงโหวกเหวกดังขึ้น!
“อาณาจักรเทพเทียนลิ่ง? นั่นคือที่ปฐมกษัตริย์ที่เสียชีวิตใช่หรือไม่?”
“ในปีนั้นปฐมกษัตริย์เรียกกฎแห่งสวรรค์ออกมา เพราะต้องการจะเลื่อนขั้นเป็นระดับเก้า แต่ด้วย เหตุหลายๆ อย่างจึงทำให้ไม่สำเร็จ และต้องทิ้งกฎสวรรค์นั้นเอาไว้ ดินแดนลึกลับแห่งนั้นจึงถูกขนานนามว่า อาณาเทพเทียนลิ่ง!”
“แต่ที่นั่นมีเพียงคนราชสำนักเท่านั้นที่จะเข้าไปได้ไม่ใช่หรือ? เหตุใดตอนนี้ถึง…”
ผู้อาวุโสชิวซีเอาแขนทั้งสองข้างไพล่หลัง หลังจากรอในเสียงซุบซิบในสนามเงียบเสียงลง จากนั้นเขาจึงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจว่า
“ดูเหมือนว่าทุกคนจะรู้จักอาณาจักรเทพเทียนลิ่งไม่น้อยเลยทีเดียว ถูกต้อง ก่อนหน้านี้อาณาจักรเทพเทียนลิ่งมีเพียงสายเลือดของราชวงศ์เทียนลิ่งเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ แต่ตอนนี้หลังจากที่องค์หญิงสามครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน ก็คิดว่าต้องการเปิดอาณาจักรเทพแห่งนี้ ให้ผู้บำเพ็ญเพียรมีโอกาสแข็งแกร่งมากขึ้น ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ดังนั้น! งานหมื่นทูรครั้งนี้จะจัดขึ้นที่อาณาจักรเทพเทียนลิ่ง!”
สีหน้าของฉู่หลิวเยว่เย็นชาอย่างมาก มือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของนางก็กำหมัดกร๊อด จนข้อนิ้วกลายเป็นสีขาว
อาณาจักรเทพเทียนลิ่งเป็นสถานที่ที่บรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ให้ คาดไม่ถึงว่าซั่งกวนหว่านจะกล้าทำเช่นนี้ด้วยตัวของตนเอง! นี่ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกันอย่างยิ่ง!
ที่แห่งนั้น ขนาดนางก็ยังไม่เข้าไป!
เดิมทีนางวางแผนว่าหลังจากที่นางเป็นนักรบระดับเก้าแล้วก็ค่อยเข้าไปที่นั่น แต่ว่ามันก็ไม่ทัน นางโดนซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิงลอบฆ่าเสียก่อน
นางคิดไม่ถึงว่าซั่งกวนหว่านจะปกปิดตัวตนที่เป็นปีศาจร้ายไว้ได้นานขนาดนี้!
เมื่อครู่ตอนที่ผู้อาวุโสชิวซีพูดคำพูดนั้น มันไม่มีอันใดเลยนอกเสียจากคำพูดสวยหรู!
อาณาจักรเทพเทียนลิ่งอันตรายอย่างมาก คนที่อยู่ในระดับต่ำมีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่!
ซั่งกวนหว่านจะทำอันใดกันแน่ เกรงว่าจะมีแต่นางเท่านั้นที่รู้!
ไม่ บางทีอาจจะมีเจียงอวี่เฉิงด้วย!
ในใจของฉู่หลิวเยว่เต็มไปด้วยความแค้น แต่เห็นได้ชัดว่าคนอื่นๆ ไม่ได้คิดแบบนั้น
“อาณาจักรเทพเทียนลิ่ง! คิดไม่ถึงว่าจะเป็นอาณาจักรเทพเทียนลิ่งจริงๆ! สามารถเข้าไปที่นั้นได้ ก็ไม่มีอันใดที่ต้องเสียใจอีกแล้ว!”
“ได้ยินมาว่าปฐมกษัตริย์เก็บสมบัติไว้ที่นั่นมากมาย การได้เข้าไปครั้งนี้อาจจะได้อันใดกลับมาบ้างก็ได้!”
“องค์หญิงสามเป็นคนที่ใจกว้างมากจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะเปิดอาณาจักรเทพเทียนลิ่งด้วย! จิตใจที่ดีงามเช่นนี้ หาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ…”
ผู้บำเพ็ญเพียรที่อยู่รอบๆ ต่างก็ตื่นเต้นกันอย่างมาก
พวกเขาต่างเป็นอัจฉริยะที่มีชีพจรตี้จิง มีความมั่นใจในฝีมือที่แข็งแกร่งของตัวเองอย่างมาก ในครั้งนี้ก็เช่นกัน
แล้วอีกอย่าง มีใครบ้างที่ไม่อยากแข็งแกร่งขึ้น?
โอกาสที่ดีแบบนี้ พวกเขาต้องคว้าเอาไว้อย่างแน่นอน
ผู้อาวุโสชิวซีพูดต่อว่า
“การแข่งขันครั้งนี้ ไม่มีเวลากำหนด! ใครสามารถอยู่ด้านในได้นานที่สุด ถือว่าเป็นผู้ชนะไป!”
ทุกคนต่างมองหน้ากันอยู่สักพัก
กฎในการแข่งขันครั้งนี้มันแปลกๆ นะ…
เมื่อเห็นว่าคนหลายคนสงสัย ผู้อาวุโสชิวซีจึงอธิบายว่า
“ภายในอาณาเทพเทียนลิ่งมีแรงกดดันที่เข้มข้นมาก หากเป็นคนที่มีฝีมือและความสามารถมากเท่าไร ก็จะสามารถอดทนต่อแรงกดดันนั้นได้มากเท่านั้น ดังนั้นเจ้าอยู่ด้านในได้นาน ก็ถือว่ามีประโยชน์สำหรับผู้บำเพ็ญเพียรอย่างพวกเจ้ามาก”
พวกเขาค่อยพยักหน้าขึ้น แววตาของทุกคนเปล่งประกายขึ้น อยากจะเข้าไปด้านในอย่างอดใจไม่ไหวแล้ว
ผู้อาวุโสชิวซีสะบัดมือขึ้น จากนั้นกระดานหยกสีดำก็ลอยขึ้นกลางอากาศ
“ด้านในนี้จะบันทึกชื่อของพวกเจ้าทุกคนเอาไว้แล้ว เมื่อออกมาจากด้านในแล้ว รายชื่อเหล่านั้นก็จะหายไป! เหลือเพียงคนที่อยู่เป็นคนสุดท้าย และคนคนนั้นคือผู้ชนะ!”
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนตื่นเต้นอย่างมาก
แต่สายตาของฉู่หลิวเยว่กลับเย็นชาอย่างมาก
หากเป็นไปได้ นางอยากจะให้หยุดการประลองที่อันตรายนี้ซะ แต่นางก็รู้ว่านางไม่สามารถทำได้
สิ่งเดียวที่นางทำได้คือ เข่าร่วมการแข่งขันต่อไปแล้วเข้าไปดูด้วยตนเอง ว่านี่มันคือเรื่องบ้าอันใดกันแน่!