ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1606 โชคดี
ตอนที่ 1606 โชคดี
……….
เลือดสายสุดท้ายบนใบหน้าของผู้อาวุโสถงชวนซีดจางไปแล้ว!
ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึง ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกขมวดคิ้วแล้วสาวเท้าก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว
“ฝ่าบาท ท่าน…”
“ข้าไม่เป็นไร”
หรงซิวยิ้มออกมาพร้อมพูดเสียงเรียบ
“กลอุบายเช่นนี้ ข้าไม่เห็นมันอยู่ในสายตาหรอก”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเม้มริมฝีปาก ในแววตายังมีความรู้สึกผิดและละอายใจอยู่
“ผู้เฒ่าเช่นข้าไร้ความสามารถ ข้าไม่รู้เลยว่าฝ่าบาทกำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นนั้น…”
แม้ว่าหรงซิวจะไม่สนใจมัน แต่สิ่งที่เขาบรรยายมาเมื่อครู่นี้ก็จินตนาการได้ไม่ยากว่าผนึกนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด!
ตอนนี้เขาอาจจะพูดมันได้ แต่หากลองคิดดูก็จะรู้ว่าหรงซิวได้เผชิญอันตรายมานานับประการแล้ว!
อีกทั้งเรื่องเหล่านี้เขายังไม่รู้มาก่อนเลยแม้แต่น้อย!
ตั้งแต่ปีนั้นที่หรงซิวกลับพระราชวังเมฆาสวรรค์มา ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็ดูแลเขาเป็นอย่างดีมาโดยตลอด อีกฝ่ายแทบจะกลายเป็นลูกในไส้ของเขาไปแล้ว
แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรงขนาดนี้!
เหมือนว่าหรงซิวสามารถคาดเดาความคิดของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกได้ เขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า
“จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ข้าเพิ่งออกจากพระราชวังเมฆาสวรรค์ หากท่านไม่รู้ก็เป็นเรื่องปกติแล้ว”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเข้าใจได้ในทันที
…อย่างนี้นี่เอง!
ในตอนนั้นหรงซิวเพิ่งรับตำแหน่งได้ไม่นาน หากมองอย่างผิวเผินพระราชวังเมฆาสวรรค์ก็ดูสงบราบเรียบ แต่ความเป็นจริงแล้วกลับมีคลื่นใต้น้ำที่กำลังพลุ่งพล่าน
ตอนนั้นเขาอยู่ที่แห่งนี้เพื่อช่วยหรงซิวดูแล และเขาไม่ได้ติดตามหรงซิวออกไป
แต่ในเวลาหลังจากนั้น เขาก็มีการติดต่อกับหรงซิวอยู่เสมอ เขาอยู่ที่พระราชวังเมฆาสวรรค์อย่างสบายใจและไม่ได้คิดอันใดมาก
แต่ใครจะรู้เล่าว่า… มันจะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น
หรงซิวหันไปมองทางผู้อาวุโสถงชวนอีกครั้ง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น
สายตาราบเรียบที่เต็มไปด้วยความกดดันจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสถงชวน!
หนังตาของผู้อาวุโสถงชวนกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง
“ฝ่าบาทกำลังสงสัยว่า คนที่ลงมือกับท่านในครั้งนั้น คือข้าอย่างนั้นหรือ?”
เขาหัวเราะเสียงเย็นออกมาอย่างกะทันหัน
“ฝ่าบาท ข้าอยู่ในตำแหน่งของผู้อาวุโสแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์มาหลายร้อยปีแล้ว ซึ่งข้านั้นก็จงรักภักดีมาโดยตลอด! เรื่องนี้ผู้คนในพระราชวังเมฆาสวรรค์จำนวนไม่น้อยสามารถเป็นพยานให้กับข้าได้”
“ท่านสามารถพูดได้ว่าข้าเป็นคนที่ชอบยกตนข่มท่าน อารมณ์ร้อน แต่มีเพียงอย่างเดียว… ที่ท่านไม่สามารถพูดได้!”
“ท่านคือโอรสสวรรค์แห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์ อีกทั้งยังเป็นสายเลือดที่มีพรสวรรค์เหนือกว่าคนในใต้หล้า! ข้าจะลอบสังหารท่านไปเหตุใด! แล้วยังจะใช้… วิชาของถ้ำปีศาจทมิฬอีก!”
ผู้อาวุโสถงชวนมีสีหน้ากรุ่นโกรธ เหมือนกับไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างใหญ่หลวงจนทำให้เขารู้สึกโมโหอย่างยิ่ง
“ท่านใส่ร้ายผู้เฒ่าอย่างข้าเช่นนี้ หากท่านไม่เอาหลักฐานออกมา ข้าไม่มีทางยินยอมอย่างแน่นอน!”
น้ำเสียงที่เจือความโกรธและตื่นตระหนกดังก้องไปทั่วห้อง
สีหน้าของคนจำนวนไม่น้อยที่อยู่รอบข้างก็หวั่นไหวไปเช่นกัน
หากพูดตามตรงแล้ว ผู้อาวุโสถงชวนอาจจะดูไม่ค่อยเคารพโอรสสวรรค์ และต้องการจะแย่งชิงอำนาจของเขามา
แต่สำหรับพระราชวังเมฆาสวรรค์เขาไม่มีทางทำเช่นนั้น
แต่เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนของถ้ำปีศาจทมิฬได้อย่างใด?
ยิ่งไปกว่านั้นความหมายของหรงซิวในตอนนี้ เขากำลังหมายถึงผู้อาวุโสถงชวนเป็นหนึ่งในแปดหัวหน้าพรรคถ้ำปีศาจทมิฬ?
เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้ช่างไร้สาระ
หรงซิวเหลือบสายตามามองทางเขาเล็กน้อย พร้อมกับพยักหน้าแล้วยิ้มบางๆ
“ได้เลย”
ผู้อาวุโสถงชวนชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักได้ถึงคำพูดของหรงซิว นี่หมายความว่าเขามีหลักฐานจริงๆ ใช่หรือไม่
หลังจากนั้นเขาก็เชิดคางแล้วหันไปมองทางเสวี่ยเสวี่ย น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง
“ป้ายไม้ซาจี๋ของหัวหน้าถ้ำปีศาจทมิฬนั้นล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง หากใช้ฟันของสัตว์อสูรบดลงไป มันจะต้องได้ผลดีอย่างแน่นอน”
โฮก!
เสวี่ยเสวี่ยคำรามต่ำในลำคอ ก่อนจะสาวเท้าไปด้านหน้าหนึ่งก้าว จากนั้นก็คาบป้ายไม้แผ่นนั้นเอาไว้!
ฟันที่ขาวและแหลมคมของมันกัดเข้าที่ป้ายไม้แผ่นนั้นอย่างแรง ประกายความเย็นชาพวยพุ่งออกมา
หัวใจของผู้อาวุโสถงชวนเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง จากนั้นเขาก็บังคับตัวเองให้สงบจิตใจลง
มันเป็นเพียงแค่อสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่ง หากต้องการทำลายป้ายไม้แผ่นนี้เกรงว่า…
กร๊อบ!
เมื่อเห็นว่าเสวี่ยเสวี่ยกัดลงอย่างแรง บนป้ายไม้แผ่นนั้นมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้น!
ผู้อาวุโสถงชวนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
นี่… มันจะเป็นไปได้อย่างใด?
อสูรตัวนี้มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด!
เขายังไม่ทันคิดอย่างชัดเจน แต่เสียงสายที่สองก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง!
กร๊อบ!
เสียงแตกร้าวของแผ่นไม้ ดังขึ้นมาในโสตประสาทของผู้อาวุโสถงชวน ซึ่งมันเป็นเหมือนกับเครื่องเตือนใจ!
เขารีบลงมืออย่างไม่คิด พร้อมแย่งของสิ่งนั้นจากปากของเสวี่ยเสวี่ย!
พรึ่บ!
ทันทีที่เขาเคลื่อนที่ ตรงหน้าของเขาก็มีเงาวูบไหว ทันใดนั้นหรงซิวก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ซึ่งสามารถขวางกั้นการกระทำของเขาอย่างไร้เสียง
“ผู้อาวุโสถงชวน ท่านจะทำอันใดกันแน่? ในเมื่อป้ายไม้แผ่นนั้นเป็นของหนึ่งในแปดหัวหน้าถ้ำปีศาจทมิฬ ขอเพียงแค่ทำลายมัน ต่อให้เจ้าของป้ายไม้แผ่นนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ก็ต้องได้รับผลสะท้อนกลับอย่างรุนแรงแน่นอน แล้ว… ท่านจะร้อนรนอันใด?”
ผู้อาวุโสถงชวนใบหน้าซีดขาว หน้าผากมีเหงื่อผุดพราย
เขาเงยหน้าขึ้นมอง หรงซิวกำลังมองหน้าเขาด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
แย่แล้ว!
หัวใจของผู้อาวุโสถงชวนจมดิ่งลงในทันที!
ไม่ว่าก่อนหน้านี้เขาจะพูดไปมากมายเท่าใด แต่ในเมื่อเขาลงมือเช่นนี้ ก็หมายความว่าเขายอมรับข้อกล่าวหาที่หรงซิวพูดมาทั้งหมด!
ผู้อาวุโสถงชวนกัดฟันกรอด ดวงตาลึกล้ำ ทันใดนั้นเองหมอกสีดำก็พวยพุ่งออกมา!
ทันใดนั้นลมปราณที่เย็นชาและน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา!
หรงซิวหรี่ตาลงเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเหมือนถูกน้ำแข็งฉาบเอาไว้หนึ่งชั้น ซึ่งหนาวเย็นอย่างมาก!
หึ!
ทันใดนั้นเองลมปราณของผู้อาวุโสถงชวนก็พวยพุ่งขึ้นมารอบกาย!
จากนั้นเขาก็ยกแขนขึ้นมา!
ดาบยาวสีดำปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของเขาอย่างกะทันหัน!
วินาทีถัดมาเขาก็แทงดาบนั้นมาทางหรงซิวทันที!
ระยะห่างของทั้งสองคนนั้นใกล้มาก การโจมตีของผู้อาวุโสถงชวนกะทันหันอย่างมาก ทันใดนั้นเองดาบอันแหลมคมของเขากำลังฟันเข้าที่ไหล่ของหรงซิว!
“ฝ่าบาทระวัง!”
ทุกคนล้วนตกใจเป็นอย่างมาก!
ใครจะคิดเล่าว่าผู้อาวุโสถงชวนบอกว่าจะลงมือก็ลงมือในทันที อีกทั้งกระบวนท่าของเขานั้นยังร้ายกาจอย่างยิ่ง!
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกสะบัดชายเสื้อขึ้น พลังแห่งสวรรค์และโลกสายหนึ่งพุ่งตรงออกไปยังหน้าอกของผู้อาวุโสถงชวน!
อย่างใดก็ตามในตอนนั้นเองหมอกดำชั้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นรอบกายของหรงซิวและผู้อาวุโสถงชวน ทันใดนั้นมันก็ควบรวมกลายเป็นม่านพลัง พร้อมผนึกพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้!
พรึ่บ!
จากนั้นก็กระทบเข้ากับม่านพลังของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกจนเกิดเสียงดังสนั่น!
ม่านพลังสั่นสะเทือน ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นแผ่กระจายออกมา แต่ก็ยังไม่พังทลาย!
สีหน้าของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกและคนอื่นๆ เปลี่ยนสีไปในทันที
ฝีมือของเขาแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสถงชวนเล็กน้อย แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ของม่านพลังนี้ เหมือนว่าผู้อาวุโสถงชวนจะสามารถสู้กับเขาได้อย่างสูสี!
และในตอนนั้นเอง!
เมื่อผู้อาวุโสถงชวนมาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาก็ฟันลงอย่างรุนแรง!
ทุกคนกลั้นลมหายใจอย่างไม่รู้ตัว!
แต่หรงซิวกลับก้าวเท้าพลาดเพียงเล็กน้อยทำให้หลบการโจมตีที่แสนอันตรายนี้ได้!
คาดไม่ถึงว่าพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างของเขาจะถูกดาบสีดำฉีกออกอย่างรุนแรง!
เปลวเพลิงสีทองสายหนึ่งพวยพุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของหรงซิว!
แม้การโจมตีจะผิดพลาด แต่ผู้อาวุโสถงชวนก็ไม่แยแสสนใจ เขาหันกลับมาแล้วฟันดาบไปทางเสวี่ยเสวี่ย!
เขารีบแย่งป้ายไม้นั้นกลับมาด้วยความรีบร้อน!
เสวี่ยเสวี่ยกระโดดขึ้นแล้วรีบหลบอย่างรวดเร็ว!
ผู้อาวุโสถงชวนตกใจเป็นอย่างยิ่งจนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
ความเร็วของอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้… สูงกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด!
เสวี่ยเสวี่ยกัดป้ายไม้แผ่นนั้น และรู้สึกโชคดีอย่างมากที่ก่อนหน้านี้นายท่านส่งมันไปที่ทะเลทรายจันทราสีชาด
มันหมุนตัวแล้วกระโจนออกจากหน้าต่างไปในทันที!
……….