ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1521 ส่งดอกไม้ไฟให้
ตอนที่ 1521 ส่งดอกไม้ไฟให้
…………….
โหมวเหยาลงมือกะทันหัน ซึ่งเกินความคาดหมายของทุกคนอย่างมาก!
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะไร้ยางอายขนาดนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ถึงกลับยอมคดโกงเช่นนี้เลยหรือ!
ใบหน้าของเมิ้งเหล่าอึมครึมลงเรื่อยๆ อยากก้าวเท้าออกไปจัดการให้รู้แล้วรู้รอด!
“โหมวเหยา!”
โหมวเหยาพลันเยาะเย้ยออกมาอย่างเย็นชา
“เมิ้งเซียน หากเจ้ายื่นมือเข้ามาสอด เดิมพันในครานี้ ซั่งกวนเยว่จักถูกปรับแพ้ทันที!”
ก่อนหน้านี้พวกเขาตกลงกันชัดเจนแล้วว่า ซั่งกวนเยว่จะต้องรับมือกับสามกระบวนท่านี้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง!
กระบวนท่าที่สามของมันเมื่อครู่ก่อน จริงๆ แล้วได้ใช้พลังไปเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
และตอนนี้มันจะเค้นพลังออกมาทั้งหมด แล้วลงมือเสีย เพื่อมิให้ถูกผู้ใดตำหนิได้!
“เจ้า…”
เมิ้งเหล่าสบถเสียงต่ำ และโกรธเสียจนสีดวงหน้าซีดขาว
หากแต่มือของชายชรานั้น ยังคงบีบกำแลคลายออกอยู่เช่นนั้นพักหนึ่งราวลังเลใจ
แน่นอนว่าเขาไม่อยากให้โหมวเหยาเข้าไปขัดนังหนูเยว่เออร์ตอนกำลังทะลวง
แต่… เขารู้ดีว่าเพื่อชนะเดิมพันนี้ นางจำต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมากเท่าใด
ถ้าเขาลงมือตอนนี้ ความเจ็บปวดทรมานก่อนหน้านี้ ที่นางต้องประสบพบเจอ ก็จะสูญเปล่าทั้งสิ้น!
“เมิ้งเหล่า”
ทันใดนั้นก็มีน้ำเสียงอันราบเรียบและสงบนิ่ง ดังมาจากด้านหลัง
เมิ้งเหล่าค่อยๆ หันหน้ากลับไปมอง
ก่อนจะเห็นฉู่หลิวเยว่ที่ลืมตาขึ้นมองเขาตั้งแต่ยามใดก็ไม่รู้
ดวงตาของนางมืดมน และสงบนิ่งไร้คลื่นอารมณ์
เสมือนจักรวาลที่ห้อมล้อมสวรรค์และโลกไว้ กว้างใหญ่ไพศาลไร้ที่สิ้นสุด แต่ลึกล้ำดำดิ่งและสงบเงียบ
หัวใจที่ร้อนรนของเมิ้งเหล่า พลันสงบลงราวได้รับการบรรเทาด้วยบางสิ่ง
“นี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับผู้อาวุโสโหมวเหยา โปรดให้ข้าจัดการเถิด”
ฉู่หลิวเยว่กล่าวพลางยกมุมปาก ดวงตากลมและเรียวขนงงามปรากฏรอยยิ้มพิมพ์ใจ
เมิ้งเหล่าลังเลต้องการเอ่ยแย้ง แต่สุดท้ายก็จำต้องพยักหน้ายินยอม
“ตกลง!”
เมื่อนางกล่าวเช่นนี้ ก็ยืนยันได้ว่านางคิดแผนไว้แล้ว
เขาขยับฝ่าเท้า แล้วก้าวถอยหลัง
ฉู่หลิวเยว่พลันผินสายตาเล็กน้อย
ลิ่มน้ำแข็งนั้นกำลังพุ่งเข้ามาหานาง!
ใบหน้าของนางเรียบนิ่ง ดูสงบราวไม่รับรู้ถึงอันตรายใดๆ
หรือในสายตาของนางแล้ว การโจมตีครั้งนี้ มิควรค่าแก่การพูดถึง!
ทันใดนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็ยกมือขึ้น
ทะเลดาวสีเงินเหลือบแดงบนท้องฟ้า พลันปั่นป่วนพลุ่งพล่าน
ครู่ต่อมา กลุ่มแสงที่อยู่ตรงหน้านางก็เริ่มควบแน่นอย่างรวดเร็ว!
กลุ่มแสงกระจ้อยร่อยรวมตัวกันหนาแน่นขึ้น ราวกับแม้แต่ห้วงอากาศรอบด้านเองก็ถูกกลืนกินไปด้วย
ครั้นลิ่มน้ำแข็งพุ่งเข้ามาใกล้ ความเร็วของมันก็เริ่มช้าลงจนมองเห็นได้ถนัดตา
และสุดท้ายมันก็แน่นิ่ง ราวกับทะลุเข้าไปติดอยู่ในหล่ม!
ยามนี้มันหยุดอยู่ห่างจากฉู่หลิวเยว่เพียงไม่กี่ก้าว
แต่ระยะทางสั้นๆ นี้ กลับแลดูเป็นช่องว่างที่ไม่ว่ามันจะทำอย่างใด ก็มิอาจข้ามผ่านได้แน่ๆ!
ร่องรอยความตกใจแวบผ่านขึ้นมาในดวงตาของโหมวเหยา
“เหตุใด …”
ก่อนหน้านี้มันเองก็เดาออกว่าอาณาเขตเซียนเทพของซั่งกวนเยว่นั้น มิใช่ของกระจอกงอกง่อยอย่างที่คิด และเผลอๆ อาจจะแข็งแกร่งกว่าของมันอีกด้วย
แต่มันคิดไม่ถึงว่าจะทรงพลังถึงขนาดบดขยี้กันได้ราบคราบเพียงนี้!
เมื่ออาณาเขตทั้งสองปะทะกัน กลายเป็นว่าอาณาเขตเซียนเทพของมันเสียเปรียบโดยสิ้นเชิง!
ลิ่มน้ำแข็งที่ควบแน่นจากพลังปราณอันมหาศาลของมันแท่งนั้น ไม่สามารถเจาะเข้าไปในอาณาเขตของคู่ต่อสู้ได้เลย!
โหมวเหยารู้สึกอับอายอย่างยิ่ง ไรฟันขบกันด้วยความโกรธแค้น
ขณะเดียวกัน ดวงตาของฉู่หลิวเยว่ก็มองข้ามลิ่มน้ำแข็งแท่งนั้นไป แล้วเหลือบมองโหมวเหยาเล็กน้อย
โหมวเหยาไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกใครมองมันด้วยสายตาสมเพชเช่นนี้!
“ผู้อาวุโสโหมวเหยา”
จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็เอ่ยปาก พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและตรงไปตรงมาว่า
“ท่านทำให้ข้าเสียเวลาในการทะลวง”
สายลมอ่อนๆ พัดผ่านร่างของนาง ปั้นม้วนชายผ้าให้โบกสะบัดพริ้วไหว
นางหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงหน้าที่เคยงดงามสะอาดตา เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด
หากแต่ริมฝีปากบางกลับระบายยิ้ม ราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานท่ามกลางความเงียบ ในช่วงเช้าของฤดูใบไม้ผลิอันหนาวเย็น
ไม่รู้เพราะอันใด จู่ๆ โหมวเหยาก็พลันใจ “กระตุก” วูบ
เห็นได้ชัดว่าพลังของมันแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายมาก
แม้นว่าซั่งกวนเยว่จะบุกทะลวงขึ้นสู่ระดับเทพขั้นสูงได้สำเร็จ แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน
คนสามารถต่อสู้กับมันได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์!
แต่ในยามนี้ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของฉู่หลิวเยว่ ก็ถึงกับหนาวสั่นไปทั้งตัว!
ฉู่หลิวเยว่ขยับปลายนิ้วเบาๆ
ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สีทองที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ก็ตกไปอยู่ในมือของนาง!
ฉู่หลิวเยว่จับมันไว้แน่น!
“และข้าเกลียดเรื่องแบบนี้ที่สุด”
นางโคลงศีรษะแล้วเอ่ยเน้นทีละคำ
ทุกคำพูดนั้นเย็นชาและทิ่มแทงราวสะเก็ดน้ำแข็ง
เย็นยะเยือกจนสั่นสะท้านไปทั้งใจ!
ก่อนจะมีเสียงเค้งดังขึ้นในหัวของโหมวเหยา
“เจ้าคิดจะทำอันใดแน่!?”
“ข้าไม่ได้คิดจะทำอันใดเสียหน่อย แต่เป็นท่าน ที่อยากจบเรื่องทั้งหมดโดยเร็วมิใช่หรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ลั่นวาจาอย่างอ้อยอิ่ง ข้อนิ้วเรียวยาวสีขาวของนางบีบกำทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สีทองไว้แน่น!
จนสามารถมองเห็นประกายไฟที่กระเด็นออกมารอบๆ ตัวมัน!
ทุกคนต่างอ้าปากค้างตาถลนด้วยความตกตะลึง
บ้าไปแล้ว!
นี่ซั่งกวนเยว่กำทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สายนั้นไว้ในมือจริงๆ หรือ!?
สรุปแล้วนางเห็นค่าทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สีทองสายนั้นบ้างหรือไม่?
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็เลิกคิ้วขึ้น แล้วตะโกนเสียงดัง!
“เช่นนั้นข้าจะช่วยท่านเอง!”
สิ้นเสียง ฉู่หลิวเยว่ก็ออกแรงบีบมือ!
ปัง!
ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สีทองครึ่งสาย พลันแตกสลายในกำมือของฉู่หลิวเยว่!
จุดแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายไปทุกสารทิศ และครู่ต่อมาพวกมันก็พุ่งเข้าหาร่างของฉู่หลิวเยว่อย่างบ้าคลั่ง ราวกับตามเสียงเรียกของบางสิ่งไป!
มีแสงสว่างวาบขึ้นตรงหว่างคิ้วของฉู่หลิวเยว่ และหายไปอย่างรวดเร็ว!
ขณะนี้ทั่วทั้งร่างกายของนางถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มแสงที่ระยิบระยับนั่น คนอื่นๆ มองเห็นเพียงเงาเลือนรางของนางเท่านั้น แต่ไม่อาจมองเห็นการเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่มากไปกว่านี้
แวบหนึ่ง ฉู่หลิวเยว่รู้สึกราวมีเปลวไฟลุกโชนขึ้นตรงหว่างคิ้ว มันแผดเผาแลร้อนจัด
แต่ทันทีที่รู้สึกเช่นนั้น มันก็บรรเทาลงอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้นางกำลังง่วนอยู่กับการกลืนกินพลังแห่งทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ และแปลงมันให้กลายเป็นพลังของตัวเอง และเตรียมพร้อมสำหรับการทะลวงครั้งสุดท้าย ดังนั้นนางจึงไม่ได้สนใจความเจ็บปวดเสียเท่าใด
และเหมือนว่าอาณาเขตเซียนเทพจะรับรู้ถึงมวลพลังปราณที่เปลี่ยนไปในกายของนาง พลันพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
แกร๊ก!
เสียงแตกระแหงดังขึ้นชัดเจน มันคือเสียงลิ่มน้ำแข็งของโหยวเหยา ที่ถูกอาณาเขตเซียนเทพของฉู่หลิวเยว่ข่มไว้ บีบรัดด้วยพลังที่ไหลเวียนอยู่ในกายของนางอย่างสมบูรณ์!
ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉู่หลิวเยว่ยังไม่ได้ลงมือเลยด้วยซ้ำ!
โหมวเหยาหน้าถอดสีทันที!
ลมปราณบนกายของนางเองก็ลดลงตามไปด้วย!
พลังปราณของมันอันแน่นอยู่ในลิ่มน้ำแข็งนั่น หากถูกทำลายลงฉับพลัน ย่อมเกิดการต่อต้านและสะท้อนกลับมา
ความวิตกกังวลในใจโหมวเหยาพุ่งสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง!
ครู่หนึ่งมันคิดจะล่าถอย
แต่ก็ปัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
… ถ้าถอยหนีและแสดงความอ่อนแอในเวลาแบบนี้ มันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!? ไหนจะชื่อเสียงของเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงอีก!
โหมวเหยารีบสงบจิตสงบใจลงอย่างว่องไว ก่อนจะหันไปมองฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง!
มันไม่เชื่อว่าความสามารถระดับนาง จะสร้างความโกลาหลได้จริงๆ!
แค่นางคนเดียว ไม่มีทางเจาะทะลุเกร็ดอันแข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าได้หรอก!
ขณะเดียวกัน จุดแสงสีทองดวงสุดท้าย ก็ได้หายวับเข้าไปอยู่ในกายของฉู่หลิวเยว่
แกร๊ก!
เสียงแตกเบาๆ ทว่าชัดเจนดังออกมาจากร่างของนาง!
ไข่มุกธาราในจุดตันเถียนหยุดหมุนกะทันหัน
ลายเส้นอันเจิดจรัสทั้งเก้าหายวับไปจากพื้นผิว!
สีสันอันเจิดจ้าแพร่กระจายแล่นฉิวไปทั่วไข่มุกธารา!
และในที่สุด อักขระทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่ศูนย์กลางของไข่มุกธารา แล้วแปลงรูปกลายเป็นสัญลักษณ์อันคุ้นเคย!
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ฉู่หลิวเยว่ก็ยกมือขึ้น
อาณาเขตเซียนเทพกลืนกินผืนฟ้า!
ภาพทุกอย่างนิ่งสนิทราวกับถูกหยุดเวลา
ฉู่หลิวเยว่พลันยกยิ้มมุมปาก
“ผู้อาวุโสโหมวเหยา วันนี้ข้ารู้สึกซาบซึ้งอย่างท่วมท้น จนไม่อาจบรรยายได้! ข้าจึงขอมอบดอกไม้ไฟให้ท่านเป็นการตอบแทน!”
ทันใดนั้น นางก็หมุนข้อมือคราหนึ่ง พลังของอาณาเขตเซียนเทพบนท้องฟ้า พลันกระหน่ำลงมาใส่โหมวเหยาอย่างดุเดือด!
“ตูม ตูม ตูม”!
ขณะเดียวกัน จุดแสงทั้งหมดก็ระเบิดและกลายเป็นลูกไฟทรงกลม!
เปลวเพลิงร้อนเผาไหม้ลุกโชติช่วง!