ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 547 ศิลปะการต่อสู้โบราณ
ตอนที่ 547 ศิลปะการต่อสู้โบราณ
คำสารภาพที่ชัดเจนของหูวเค่อนั้นเกินความคาดหมายของเย่เชียนอย่างมากและมันก็สะเทือนใจมากเพราะมันยากมากที่ผู้หญิงอย่างหูวเค่อจะพูดสิ่งเหล่านี้ออกมาและเมื่อเห็นความหนักแน่นและอ่อนโยนของหูวเค่อเมื่อเธอพูดคำเหล่านี้แล้วเย่เชียนก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการคนปกป้องและต้องการคนดูแลและไม่ว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหนแต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่ต้องการรับการเอาใจใส่จากผู้ชาย
เดิมทีเย่เชียนต้องการที่จะแกล้งหูวเค่ออีกสักหน่อยแต่หลังจากที่หูวเค่อพูดจบบางทีเธออาจจะเขินเกินไปเธอจึงบอกลาเย่เชียนอย่างห้วนๆ และปิดการสนทนาออนไลน์ทางวิดีโอไปและหลังจากนั้นหูวเค่อก็นึกถึงสิ่งที่เธอเพิ่งจะพูดออกไป ซึ่งแม้แต่ตัวเธอเองก็ยังประหลาดใจและเธอก็ไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นและอะไรถึงทำให้เธอพูดแบบนั้นออกมา
ส่วนเย่เชียนก็ปิดคอมพิวเตอร์แล้วเดินออกจากห้อง
เมื่อเห็นเย่เชียนเดินออกมาชิงเฟิงก็หัวเราะอย่างสมเพชและพูดว่า “บอสทำไมหัวเราะดังจัง..ทั้งสองคนไม่ได้คุยกันเรื่องนั้นจริงๆ ใช่มั้ย? ”
“ฮ่าๆ! ” เย่เชียนหัวเราะเบาๆ และไม่ได้พูดอะไรใดๆ ซึ่งเมื่อชิงเฟิงเห็นท่าทางของเย่เชียนเขาก็รู้ว่าเขาเดาถูกและสีหน้าของเขาก็ประหลาดใจเล็กน้อยเพราะชิงเฟิงได้พบกับหูวเค่อมาก่อนหน้านี้และเขารู้เล็กน้อยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนแบบไหนและเขาก็ไม่คาดคิดว่าเธอจะคุยเรื่องแบบนั้นได้
เย่เชียนก็นั่งลงข้างชิงเฟิงแล้วพูดว่า “เอาล่ะมาคุยกันเถอะ..ชิงเฟิงนายคิดยังไงกับทักษะการต่อสู้ในปัจจุบันของนาย”
“ทำไมจู่ๆ บอสถึงถามแบบนี้ล่ะ?” ชิงเฟิงถึงกับผงะไปชั่วขณะและพูดว่า “แน่นอนว่าทักษะของผมต้องแย่กว่าของบอสมาก..แต่มันก็เกินพอที่จะจัดการกับคนธรรมดาได้”
“ถ้าอย่างนั้นนายคิดว่าถ้านายสู้กับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและหูวเค่อนายจะโจมตีพวกเขาได้ไหม?” เย่เชียนถาม
“ต่อสู้กับพวกเขาหรอ..ผมไม่รู้ว่าทักษะการต่อสู้ของพวกเขาเป็นแขนงไหน..แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเก่งแค่ไหนแต่อย่างน้อยๆ ผมก็สามารถโจมตีพวกเขาได้เป็นร้อยๆ ครั้งใช่ไหม?” ชิงเฟิงพูด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเองยังไม่สามารถโจมตีหวงฟู่ชิงเตี๋ยนได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวแล้วนับประสาอะไรกับหูวเค่อผู้หญิงคนนั้น”
“ฟู่ว…” ชิงเฟิงพ่นน้ำชาในปากของเขาออกมาอย่างรุนแรงและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “บอสล้อผมเล่นฉันหรือเปล่าเนี่ย..ถ้าบอสว่าบอสสู้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนไม่ได้มันก็น่าเชื่ออยู่หรอกเพราะเขาเป็นถึงผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติดังนั้นเขาต้องไม่อ่อนแออย่างแน่นอน..แต่บอสบอกว่าหูวเค่อเก่งกว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนอีกหรอ..บอสพูดเกินจริงไปหน่อยหรือเปล่าและนอกจากนี้ถึงแม้ว่าเธอจะเก่งแต่ก็ไม่ได้มีพลังอะไรแบบนั้นหรอกใช่ไหม?”
“ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อแต่ฉันได้เห็นพลังของหูวเค่อด้วยตาของฉันเองแล้ว” เย่เชียนพูดต่อ “ในประเทศจีนมีศิลปะการต่อสู้โบราณมาโดยตลอด..ซึ่งหูวเค่อและหวงฟู่ชิงเตี๋ยนต่างก็เป็นผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณ..แต่สิ่งที่พวกเราฝึกและได้เรียนรู้นั้นเป็นเพียงศิลปะการต่อสู้ธรรมดาๆ ..ซึ่งการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณนั้นมีการบ่มเพาะพลังชี่และพลังลมปราณเป็นพิเศษและพวกเขาจะใช้พลังปราณเพื่อเพิ่มศักกายภาพให้กับทุกการเคลื่อนไหว..เพราะงั้นฉันจึงต้องการให้พี่น้องเขี้ยวหมาป่าทุกคนฝึกฝนมันเพราะคู่ต่อสู้ของเราในอนาคตจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราจึงต้องพัฒนาตัวให้แข็งแกร่งมากขึ้น”
“มันมีแบบนั้นด้วยเหรอ..เอาเลยบอสแสดงให้ผมดูหน่อย” ชิงเฟิงพูดด้วยความตื่นเต้นและถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วชิงเฟิงจะขี้เกียจอยู่ตลอดเวลาแต่เขาก็ไม่เคยละทิ้งการฝึกฝนทักษะการต่อสู้เลย ดังนั้นเมื่อเผชิญกับการยั่วยวนของศิลปะการต่อสู้โบราณที่เย่เชียนพูดออกมาเช่นนี้ชิงเฟิงจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร
“จะมาเร่งได้ไงมันไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ในชั่วข้ามคืนนะ..เดี๋ยวฉันขอโทรหาแจ็คก่อนแล้วบอกให้เขาติดต่อพี่น้องเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดและเริ่มประชุมสนทนาทางวิดีโอทันทีแล้วฉันจะเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟังพร้อมๆ กัน” เย่เชียนพูด ซึ่งหลังจากพูดจบเย่เชียนก็โทรไปหาแจ็คและบอกให้เขาติดต่อหัวหน้าทีมและหัวหน้าหน่วยของเขี้ยวหมาป่าและเริ่มประชุมทางวิดีโอในอีกสิบนาทีต่อมา
“ว้าว..ถ้าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของเราได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณทั้งหมดล่ะในโลกนี้พวกเราคงไร้เทียมทานและจะไม่มีองค์กรทหารรับจ้างไหนสามารถเทียบเคียงกับพวกเราในอนาคตได้เลย” ชิงเฟิงพูดอย่างตื่นเต้น
เย่เชียนก็เหลือบมองไปที่ชิงเฟิงแล้วพูดว่า “ไอบ้านี่ทหารรับจ้างแบบพวกเราไม่ได้พึ่งพาทักษะการต่อสู้เพียงอย่างเดียวเพื่อเอาชนะหรอกนะ..เพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือความเข้าใจและการใช้กลยุทธ์..ซึ่งไม่ว่าทักษะการต่อสู้ของนายจะดีแค่ไหนแต่ถึงยังไงนายก็ไม่สามารถใช้ร่างกายของนายเพื่อเผชิญหน้ากับกระสุนและลูกตะกั่วพวกนั้นได้ใช่ไหมล่ะ?”
“หือ..ทำไม่ได้หรอกเหรอ..มันน่าจะปัดเป่ากระสุนพวกนั้นได้ด้วยกระบวนท่ามังกรสิบแปดฝ่ามือสิ!” ชิงเฟิงพูดต่อ “ผมเคยจินตนาการว่าถ้าผมมีพลังแบบนั้นมันจะดีมาก..ผมไม่เองก็ไม่คิดว่ามันจะมีแบบนั้นจริงๆ ”
เย่เชียนก็ตกตะลึงไปกับคำพูดของชิงเฟิงแล้วเขาก็พูดว่า “น้ำท่วมสมองของนายรึไง..มันก็เป็นแค่นวนิยายศิลปะการต่อสู้เท่านั้นชีวิตจริงใครจะไปทำกระบวนท่ามังกรสิบแปดฝ่ามือได้ล่ะ..ฉันจะบอกว่าศิลปะการต่อสู้โบราณนะใช้เน้นใช้พลังปราณมากกว่าทักษะการต่อสู้ธรรมดาเท่านั้นแต่มันก็ไม่ได้เกินจริงอย่างที่นายพูดมาหรอก..ศิลปะการต่อสู้โบราณใช้พลังลมปราณเพื่อเพิ่มพลังโจมตีและป้องกันของตัวเองเท่านั้นส่วนพลังชี่และความแข็งแกร่งมันก็เสริมซึ่งกันและกัน..แต่แน่นอนว่าเพียงแค่การฝึกพลังลมปราณมันก็ยังไม่เพียงพอเพราะนายต้องฝึกฝนความแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของทักษะการต่อสู้ควบคู่ไปด้วยและนี่คือแบบฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้แขนงทั่วไปของพวกเรา”
“โถ่แค่นี้เองหรอ..ผมคิดว่าผมจะสามารถบินขึ้นไปบนฟ้าและหายตัวได้เสียอีก” ชิงเฟิงเบะปากและพูด
“อะไรนายรู้สึกผิดหวังงั้นเหรอ?” เย่เชียนฉีกยิ้มและพูด “ฉันเองก็เพิ่งจะฝึกมาได้สักพักและถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะยังไม่ถูกนับว่าเป็นมือใหม่ก็เถอะแต่เรามาลองฝึกกันเลยดีกว่า”
“ได้” ทันทีที่เสียงของชิงเฟิงจบลงเขาก็ย่อตัวลงและยันพื้นด้วยมือข้างเดียวแล้วใช้ขาเตะข้างไปที่เย่เชียนอย่างกะทันหัน
“ไอ้บ้านี่เล่นทีเผลอนี่หว่า!” เย่เชียนถึงกับผงะและปัดลูกเตะของชิงเฟิงด้วยมือข้างเดียวเพื่อหยุดการเตะของชิงเฟิงและในเวลาเดียวกันเย่เชียนก็สวนกลับชิงเฟิง
เห็นได้ชัดว่าชิงเฟิงนั้นรู้สึกประหลาดใจมากเพราะถ้าเป็นปกติเย่เชียนจะไม่ใช้แขนของเขาเพื่อขัดขวางการเตะของตนแบบนี้เพราะการใช้มือนั้นจะไม่สามารถป้องกันลูกเตะที่รุนแรงเช่นนี้ได้ แต่ทว่าเย่เชียนกับป้องกันลูกเตะของชิงเฟิงได้อย่างง่ายดายและยิ่งไปกว่านั้นชิงเฟิงกลับรู้สึกเจ็บที่ขาของเขาอย่างชัดเจนซึ่งมันไม่น่าเชื่อเลยสักนิด
เมื่อเห็นหมัดของเย่เชียนแล้วชิงเฟิงก็ตกใจและกระโดดข้ามโซฟาและยืนขึ้นแล้วรีบพูดว่า “บอสใช้ศิลปะการต่อสู้แบบโบราณตอนที่บอสป้องกันการเตะด้านข้างของผมเมื่อกี้นี้ใช่มั้ย? ”
“จับตาดูซะ” ทันทีที่เสียงของเย่เชียนจงลงเขาก็กระทืบเท้าลงบนโซฟาและกระโดดขึ้นไปในอากาศและใช้เท้าเตะไปที่ชิงเฟิงจนชิงเฟิงถึงกับผงะและรีบยื่นมือออกไปเพื่อป้องกัน ‘ปัก’ เย่เชียนโจมตีชิงเฟิงด้วยการเตะอย่างรุนแรงและกระแทกแขนของชิงเฟิงไปโดนใบหน้าของชิงเฟิงโดยตรงจนชิงเฟิงเซถอยกลับไปสองสามก้าวและล้มลงกับพื้น
เย่เชียนก็เดินไปและยื่นมือออกมาพยุงชิงเฟิงพร้อมกับรอยยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นยังไงบ้าง? ”
ชิงเฟิงก็ส่ายหัวและยื่นมือออกไปให้เย่เชียนช่วยดึงตัวเองขึ้นมาและถอนหายใจแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าศิลปะการต่อสู้โบราณนี้จะไม่เกินจริงแต่มันก็มีพลังอย่างมาก” จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ผมรู้สึกถึงบางอย่างที่ขาของบอส..มันทำให้แขนทั้งสองข้างของผมชาและไม่มีกำลังเลย..ผมถามหน่อยว่าบอสไปเอาทักษะพวกนี้มาจากไหน?”
“เรื่องนี้มันยาวเดี๋ยวฉันจะเล่าให้นายฟังทีหลัง..ไปกันเถอะจะถึงเวลานัดประชุมทางวิดีโอแล้ว” เมื่อเย่เชียนนึกถึงอันซือแล้วคิ้วของเขาก็ขมวดชั่วขณะและก็คลายออก ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้เย่เชียนจะสงสัยในความถูกต้องของอันซือและเย่เหวินในฐานะแม่และน้องสาวของเขาก็ตามแต่มันก็ยังไม่มีหลักฐานใดๆ เลยและมันก็ไม่ดีที่จะพูดตอนนี้
เมื่อเขามาถึงห้องเย่เชียนก็เปิดโปรแกรมประชุมทางวิดีโอและใช้เวลาไม่นานนักเหล่าหัวหน้าทีมและหัวหน้าชุดปฏิบัติการของเขี้ยวหมาป่าก็มากันครบโดยมีหมาป่าหิมะแจ็ค,หมาป่าพายุหลี่เหว่ย,หมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉิน,หมาป่าเหินเวหาอู๋หวนเฟิงและหมาป่าพงไพรเท่านั้นส่วนหมาป่าเขี้ยวมังกรม่อหลงเขามีคำแนะนำพิเศษของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนอยู่แล้วโดยธรรมชาติเขาจึงไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในการประชุมนี้ ส่วนสมาชิกเขี้ยวหมาป่าคนอื่นๆ ก็รอให้การประชุมทางวิดีโอครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้วแจ็คจะส่งต่อไปยังพวกเขา
นี่เป็นการประชุมใหญ่ที่ไม่ได้มีมานานแล้วเพราะในช่วงเวลานี้ทุกคนต่างยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเองและนอกเหนือจากรายงานความคืบหน้าตามปกติแล้วก็แทบไม่มีการติดต่อกันเลย แต่ทว่าพวกเขาเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากแจ็คโดยบอกว่าเย่เชียนกำลังจะจัดการประชุมทางวิดีโอ อย่างไรก็ตามโดยปกติเย่เชียนก็แทบจะไม่ได้มีการประชุมแบบนี้เพราะโดยทั่วไปแล้วเมื่อมีการประชุมเช่นนี้มันจะมีเหตุการณ์สำคัญที่ต้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการในเวลาเดียวกันดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะละเลยและพวกเขาต่างก็พากันละทิ้งสิ่งต่างๆ และรีบเร่งให้ความสนใจกับการประชุมทางวิดีโอครั้งนี้อย่างมาก
หลังจากทักทายกันแล้วเย่เชียนก็อธิบายถึงสิ่งที่เขาพูดกับชิงเฟิงเมื่อครู่นี้และทุกคนก็ประหลาดใจอย่างมาก อย่างไรก็ตามยกเว้นคนงี่เง่าของหลี่เหว่ยและชิงเฟิงที่มีความคิดไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เพราะพวกเขายังมีข้อสงสัยเช่นเดียวกับชิงเฟิงโดยหลี่เหว่ยเอ่ยปากถามว่าเย่เชียนได้สิ่งเหล่านั้นมาจากไหนและคำตอบของเย่เชียนก็เหมือนกันว่าเขาจะเล่าให้ฟังในภายหลัง
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “ถึงแม้ว่าศิลปะการต่อสู้โบราณจะไม่ได้มีอำนาจเหนือทุกสิ่งทุกอย่างแต่มันก็เป็นประโยชน์ในการต่อสู้ของเราเองและนอกจากนี้ในประเทศจีนก็ยังมีคนประเภทนี้อีกมากมายรวมไปถึงคนในสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติด้วย..องค์กรที่เป็นเหมือนมังกรซ่อนเขี้ยวเหล่านั้นทุกคนล้วนเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้โบราณและนอกจากนี้ผมเองก็ยังรู้มาจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนโดยตรงว่ามันยังมีองค์กรแบบนี้ในเมืองปักกิ่งและอิทธิพลของพวกเขาก็ไม่ธรรมดา..ดังนั้นเพื่อเขี้ยวหมาป่าของพวกเราในอนาคตแล้วเราต้องพัฒนาและทุกคนต้องฝึกฝนกันอย่างหนักหน่วงมากกว่าเดิม!”
“บอส! ..มีกฎและข้อห้ามในศิลปะการต่อสู้โบราณเหล่านี้หรือเปล่า?” เฟิงหลานหยุดและถาม
“พูดตามตรงผมเองก็ไม่เข้าใจจริงๆ แต่ผมก็คิดว่าศิลปะการต่อสู้โบราณและศิลปะการต่อสู้ธรรมดาน่ะเหมือนกัน..แต่ทว่าศิลปะการต่อสู้โบราณจะเพิ่มการฝึกฝนพลังลมปราณบนพื้นฐานของพละกำลังธรรมดา..เพราะงั้นผมจึงคิดว่าพวกเราไม่ควรใจร้อนจนเกินไปในการฝึกฝนพลังลมปราณซึ่งเราควรให้ความสนใจทีละขั้นตอนจะดีกว่า” เย่เชียนพูด
“ตอนนี้อะไรๆ มันก็เป็นอันตรายได้ทั้งนั้นเพราะงั้นผมจึงคิดว่าศิลปะการต่อสู้โบราณมันก็อันตรายเช่นเดียวกัน..ซึ่งถ้าหากใครพบปัญหาอะไรใดๆ โปรดติดต่อม่อหลงได้เลยเพราะผมเชื่อว่าเขาจะสามารถช่วยทุกคนแก้ปัญหาได้” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ
.
.
.
.
.
.
.