ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 1034 สนทนากับชาฮัวเอียน
ตอนที่ 1034 สนทนากับชาฮัวเอียน
……….
เย่เชียนนั้นรู้ดีว่าในช่วงเวลานี้เขารู้ดีว่าควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไร ซึ่งในช่วงกลางวันหวงฟู่ชิงเตี๋ยนได้กำชับกับเย่เชียนแล้ว แต่ถึงแม้ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะไม่เตือนก็ตามถึงยังไงเย่เชียนก็รู้ชัดเจนมากเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันของเขา
ทำไมหูวหนานเจียนถึงต้องการให้เย่เชียนปกป้องหลี่ซือกัน? จุดประสงค์ก็เพียงเพื่อให้ตัวเองอยู่ในระเบียบและในสายตาของพวกเขาใช่ไหม? ในความเห็นของเย่เชียนมันไม่ใช่อย่างนั้นเพราะพวกเขาต้องการให้เย่เชียนอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาแต่ไมได้คุกคามแต่อันที่จริงเย่เชียนก็รู้ดีอยู่แล้วเพียงแต่เย่เชียนไม่อยากที่จะถกเถียงเท่านั้น ซึ่งพลังและอำนาจของเย่เชียนนั้นเติบโตอย่างรวดเร็วเกินไปและแน่นอนว่าประเทศจีนแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆเพราะถ้าเย่เชียนไม่ระวังเขาก็อาจจะสูญเสียทุกอย่างก็เป็นได้
แน่นอนว่าเย่เชียนสามารถถอนตัวออกจากประเทศจีนได้อย่างสมบูรณ์แบบและทำการกดดันรัฐบาลจีนด้วยการใช้เครือน่านฟ้ากรุ๊ปทำลายเศรษฐกิจของประเทศจีน แต่การทำแบบนี้ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเพราะตอนนี้สิ่งที่เย่เชียนต้องทำคืออดทนและแสดงจุดยืนของตัวเอง เพราะเมื่อสิ่งต่างๆถึงเวลาอันควรแล้วเขาจะมีอำนาจและเบื้องบนส่วนจะต้องฟังคำพูดของเขาอย่างแน่นอนและไม่มีใครสามารถควบคุมเขาได้อีกในเวลานั้น
เหมืองทองคำในจีนถูกควบคุมโดยรัฐมาโดยตลอดและไม่มีบุคคลใดทำอุตสาหกรรมเหมืองทองคำได้ ไม่เช่นนั้นจะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเย่เชียนก็เข้าใจเรื่องนี้ชัดเจนมาก แน่นอนว่าแต่ก่อนเย่เชียนอาจจะหวั่นเกรงกับกฎหมายเหล่านี้แต่ตอนนี้เขาไม่กลัวอีกต่อไป แต่เขาก็คงไม่โง่พอที่จะผลักดันตัวเองไปสู่จุดที่อันตรายและเสี่ยงแบบนั้น เพราะบางทีเบื้องบนก็แค่อยากจะควบคุมเขาแต่พวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถหาข้ออ้างใดๆได้ดังนั้นสิ่งต่างๆจึงดำเนินไปโดยมีผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายนั่นเอง
ตระกูลเย่กับตระกูลหม่านั้นเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณที่มีอิทธิพลอย่างมากในเขตทหารเสิ่นหยาง ปู่ของเย่เชียนหม่าเต๋อหงก็เป็นบุคคลระดับผู้บัญชาการของกองทัพเรือแห่งชาติด้วย หากเย่เชียนมีสิ่งที่ต้องทำเขาก็จะยืนเคียงข้างเย่เชียนอย่างแน่นอน ส่วนหยานตงผู้บัญชาการทหารสูงสุดนั้นก็อาจจะยืนเคียงข้างเย่เชียนเช่นกัน ในเชิงเศรษฐกิจเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็มีอิทธิพลอย่างมากในประเทศจีนและด้วยความเก่งของซ่งหลันแล้วมันก็สามารถทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเงินครั้งใหม่ได้อย่างแน่นอน ในแง่ของอำนาจใต้ดินและอำนาจมืดนั้นเขี้ยวหมาป่าก็ได้ควบคุมกององค์กรใต้ดินของหลายๆเมืองและสิ่งเหล่านี้ก็มีอิทธิพลอย่างมาก ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้หากเย่เชียนไม่ได้ทำอะไรจนเกินไปหรือคุกคามความมั่นคงของชาติล่ะก็ ก็สันนิษฐานได้ว่าเบื้องบนและรัฐบาลกลางจะไม่แตะต้องเขาเลยแม้แต่น้อยเพราะไม่มีใครกล้ารับผลที่จะตามมาได้
อย่างไรก็ตามเย่เชียนไม่ได้ต้องการขัดแย้งกับพวกเขาในตอนนี้เพราะโอกาสในการพัฒนาของเขาในประเทศจีนก็ยังพัฒนาได้อย่างน่าประทับใจมาก ซึ่งเย่เชียนยังจะต้องการสร้างพลังและอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในที่แห่งนี้อีกและบรรอำนาจอย่างที่ไม่มีใครกล้าท้าทายได้ ดังนั้นการกระทำของเย่เชียนจึงค่อนข้างที่จะยิ่งใหญ่แต่ก็มีความระมัดระวังและขอบเขตอยู่
เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอนว่าผมยินดีร่วมมือแต่เนื่องจากทุกคนให้ความร่วมมือกันมันก็ต้องยุติธรรมและโครงการนี้ก็ถูกค้นพบโดยนายน้อยโอ่วหยาง..เพราะงั้นถึงแม้ว่าผมกับเครือน่านฟ้ากรุ๊ปจะเสี่ยงมากกว่าแต่ก็รับผลประโยชน์เยอะกว่าพวกคุณไม่ได้หรอก..ไม่งั้นมันจะไม่ยุติธรรมเกินไป..ดังนั้นผมจะจ่าย 50 ล้านหยวนเหมือนกับทุกคนและแบ่งสัดส่วนหุ้นเท่าๆกัน..ส่วนเรื่องของการขนส่งเดี๋ยวผมจัดการเอง”
เมื่อได้ยินแบบนั้นโอ่วหยางหมิงซวนก็ถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่งและไม่ได้พูดอะไรใดๆ แต่ทำไมเย่เชียนถึงไม่ต้องการผลประโยชน์ใดๆเลย? แต่ท้ายที่สุดสิ่งนี้ก็ทำให้เขาสับสนเล็กน้อยแต่เขาก็เริ่มชื่นชมเย่เชียนจากก้นบึ้งของหัวใจที่ไม่โลภในผลกำไรเช่นนี้
“สมแล้วที่คุณเย่เป็นคนดังระดับโลก..ผมจะตั้งใจทำสิ่งต่างๆเพื่อผลประโยชน์ของเราในอนาคต..ตราบใดที่พวกเรายังมีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่ล่ะก็พูดได้คำเดียวเลยว่าผมยอมตายเพื่อพวกเรา!” โอ่วหยางหมิงซวนพูดอย่างประจบประแจง
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “นายน้อยโอ่วหยางเป็นคนจริงจังเกินไปแล้ว..เนื่องจากพวกเราเป็นหุ้นส่วนกันเพราะงั้นเราก็ต้องร่วมมือกันอยู่แล้ว..ผมเป็นที่รู้บุญคุณคนน่ะตราบใดที่ใครทำดีกับผมล่ะก็ผมจะตอบแทนให้เขาหลายเท่า..ถ้าใครปฏิบัติกับผมเหมือนพี่น้องล่ะก็ผมยินดีที่จะช่วยเหลือทุกอย่าง..แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมต้องพูดให้ชัดเจนก่อนว่าผมไม่ค่อยรู้อะไรที่เกี่ยวกับการจัดการธุรกิจเลย..ผมแค่ลงทุนเท่านั้นส่วนการดูแลจัดการนั้นผมไม่ถนัดเลย”
“เป็นเรื่องปกติครับ..นี่เป็นการร่วมมือเพราะงั้นก็ควรต้องมีการแบ่งงานที่ชัดเจน” โอ่วหยางหมิงซวนพูด “แน่นอนว่าคุณชากับผมจะรับผิดชอบในการดูแลจัดการเหมืองถ่านหินและการขุดเจาะการแปรรูป..ส่วนคุณดูแลเรื่องการขนส่ง..เหนือสิ่งอื่นใดถ้าพวกเราตั้งใจทำแล้วผมเชื่อว่าโลกในอนาคตจะต้องเป็นของเราอย่างแน่นอนหากพวกเรารวมพลังกันสามฝ่าย”
ชาฮัวเอียนก็ยิ้มเบาๆราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรมากแต่มีประกายแวววับขึ้นเล็กน้อยภายในดวงตาของเขา อันที่จริงผลกำไรของการลงทุนนี้ที่โอ่วหยางหมิงซวนพูดมานั้นมหาศาลอย่างมากและเงินก็สามารถทำได้หลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งชาฮัวเอียนก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องนี้และถ้าหากเขามีการลงทุนครั้งนี้ทรัพยากรทางการเงินของเขาที่หมุนเวียนในอนาคตจะมหาศาลและทำอะไรได้หลายๆอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามดูจากผิวเผินแล้วชาฮัวเอียนดูเหมือนจะสงบมากแต่เขาพยายามยับยั้งชั่งใจเอาไว้ “ผมขอพูดบางอย่างแบบตรงๆจะได้หรือเปล่า?” ชาฮัวเอียนพูด
“คุณชาคุณหมายความว่าไง?..ผมไม่เข้าใจ” โอ่วหยางหมิงซวนถามด้วยความประหลาดใจแต่เย่เชียนรู้ว่าเขาหมายถึงอะไรแต่เย่เชียนไม่ได้พูด
“เหลือเวลาอีกสองวันก่อนที่พวกเขาจะดวลกับอาจารย์ของผมและคุณเอวก็รู้ดีว่าฝีมือของอาจารย์เป็นยังไง..คุณคิดว่าพวกเขาจะสามารถชนะได้อย่างงั้นเหรอ?” ชาฮัวเอียนพูด
“ใช่!..ตัวต่อตัวเราอาจไม่มีโอกาสชนะแต่สำหรับสองต่อหนึ่งอย่างน้อยๆเราก็อาจจะสามารถเอาชนะได้” ม่อหลงพูด
“จริงเหรอ?” ชาฮัวเอียนหัวเราะอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า “เหอะๆ..ถ้าพวกต่อสู้กับอาจารย์ของผมด้วยความสามารถในปัจจุบันของคุณล่ะก็..คุณไม่มีโอกาสชนะเลย..ผมไม่รู้หรอกว่าพวกคุณมีฝีมือเก่งกาจแค่ไหนแต่ในวันนั้นตอนที่คุณเผชิญหน้ากับอาจารย์ของผม..อาจารย์บอกผมว่าเขาแทบไม่ได้พยายามอะไรเลยเพราะงั้นผมก็คิดว่าพวกคุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย”
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อคุณชารู้เรื่องนี้ดีเพราะงั้นคุณชามีวิธีที่ดีหรือคำแนะนำหรือเปล่าครับ?”
ชาฮัวเอียนก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและตกตะลึงไปกับคำพูดที่ตรงไปตรงมาและกล้าหาญของเย่เชียน เขาคือลูกศิษย์ของตู้ฟู่เหว่ยดังนั้นการที่เย่เชียนถามเขาแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? ความหมายของคำเหล่านี้ก็ชัดเจนอยู่แล้วเห็นได้ชัดว่าเย่เชียนบอกเป็นนัยๆว่าชาฮัวเอียนจะทรยศอาจารย์ของเขานั่นเอง
โอ่วหยางหมิงซวนก็ตกตะลึงและถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าชาฮัวเอียนกำลังคิดอะไรอยู่ก็ตามและนั่นเป็นเพราะเขาอยู่กับชาฮัวเอียนมานานแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เชียนได้พบกับชาฮัวเอียนแต่เย่เชียนกลับถามคำถามที่สุดโต่งแบบนี้ทำให้เขาต้องชื่นชมความกล้าหาญและสติปัญญาของเย่เชียนอย่างมาก เขาเชื่อว่าคำพูดของเย่เชียนนั้นมีเหตุผลเพราะเย่เชียนจะต้องเห็นอะไรบางอย่างอย่างแน่นอน
ม่อหลงเองก็ตกตะลึงและมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจเพราะเขาไม่อยากจะเชื่อในความตรงไปตรงมาของเย่เชียนเพราะนี่คือสิ่งที่ตัดสินอะไรหลายๆอย่างและถ้าหากชาฮัวเอียนไม่เห็นด้วยเขาก็จะเสียเปรียบอย่างมาก ส่วนจินเหว่ยห่าวเขาก็มีสีหน้าที่ดูสงบราวกับว่าเขารู้ว่าเย่เชียนจะพูดแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
ชาฮัวเอียนก็ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “คุณเย่กำลังยั่วยุให้ศิษย์กับอาจารย์แตกคอกันงั้นเหรอ?..ตู้ฟาเหว่ยเป็นอาจารย์ของผมและต่อให้ผมจะสามารถทำอะไรได้หรือมีอะไรแนะนำก็เถอะคุณคิดว่าผมจะช่วยคุณงั้นเหรอ?”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างมั่นใจแล้วพูดว่า “ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่แน่นอนและทุกสิ่งก็ล้วนเป็นไปได้เสมอ..เท่าที่ผมรู้ถึงแม้ว่าคุณชาจะเป็นลูกศิษย์ของตู้ฟู่หว่ยก็ตามแต่ก็มีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่คนไม่พอใจใช่หรือเปล่า?”
“หืม..ผมคิดว่าคุณเย่เข้าใจผิดไปนะ..ใครๆก็รู้ว่าสำนักม่อจื๊อคืออะไรและแข็งแกร่งแค่ไหน..เพราะงั้นทำไมผมถึงต้องร่วมมือกับคุณด้วยล่ะ?..ทำไมผมต้องทรยศต่อเจ้าสำนักด้วยล่ะ?” ชาฮัวเอียนพูด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชากำลังหลอกตัวเองอยู่งั้นเหรอ?..ถึงแม้ว่าเราจะพบกันเป็นครั้งแรกแต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมพบกับหยานซื่อฉุยศิษย์พี่ของคุณ..ผมคิดว่าเธอจะได้เป็นเจ้าสำนักคนต่อไปของสำนักม่อจื๊อเพราะผมรู้ว่าตู้ฟู่เหว่ยตั้งใจที่จะลงจากตำแหน่งและผู้สืบทอดคนต่อไปก็คือหยานซื่อฉุยอย่างแน่นอน..นอกจากนี้สำนักม่อจื๊อก็ปกครองแบบเผด็จการมาโดยตลอดและคุณจะไม่มีวันได้รับโอกาสใดๆทั้งสิ้น”
คิ้วของชาฮัวเอียนก็ขมวดเข้าหากันแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ดูเหมือนว่าคุณเย่จะรู้เรื่องสำนักม่อจื๊อมากมายจริงๆ..ว่าแต่คุณได้สืบข้อมูลและประวัติของผมบ้างหรือเปล่า?”
“ผมไม่ได้สืบหาแต่ผมพอจะรู้อะไรบางอย่าง” เย่เชียนพูด “เนื่องจากเราอยู่ในความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันแล้วเพราะงั้นผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณชาจะช่วยให้พวกเราชนะเพื่อในอนาคตพวกเราจะได้ร่วมมือกัน”
“ใช่แล้วคุณชา..ผมเองก็เห็นใจคุณมาโดยตลอด” โอ่วหยางหมิงซวนพูดพร้อมเติมเชื้อไฟในขณะที่ไฟยังร้อนอยู่ “หยานซื่อฉุยนั้นไม่ใช่ทั้งผู้ชายและผู้หญิงแต่ในแง่ของศิลปะการต่อสู้นั้นเธอมีพรสวรรค์มาก..แต่เธอนั้นก็ไม่ได้เก่งเท่าคุณแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตู้ฟู่เหว่ยเอาแต่สนับสนุนเธอไม่อย่างนั้นสำนักม่อจื๊อจะเป็นของเธอได้ยังไง?..ผมคิดว่าสิ่งที่คุณเย่พูดมานั้นสมเหตุสมผลเพราะเนื่องจากตอนนี้เราอยู่ในความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันแล้วเพราะงั้นเราก็หวังว่าคุณเย่จะชนะการต่อสู้ครั้งนี้ได้..ถ้าหากคุณเย่แพ้ล่ะก็สิ่งต่างๆจะเป็นอันตรายต่อเราใช่ไหมล่ะ?..ดังนั้นผมคิดว่าคุณควรเลือกโดยเร็วที่สุดเพราะมันจะสายเกินไปหากคุณยังลังเลอยู่แบบนี้..นี่คือโอกาสที่ดีเพราะงั้นอย่าพลาดเลย”
“มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ” ชาฮัวอันพูด “อาจารย์กีดกันผมมาโดยตลอดและจุดประสงค์ก็เพราะเขากลัวว่าวันหนึ่งผมจะไปแย่งตำแหน่งเจ้าสำนักจากหยานซื่อฉุย..ถึงแม้ว่าผมจะอยู่ในสำนักม่อจื๊อก็ตามแต่ผมไม่เคยมีสถานะใดๆเลย”
.
.
.
.
.