ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 1030 เป็นพันธมิตรทางผลประโยชน์หรือเป็นดั่งพี่น้อง?
ตอนที่ 1030 เป็นพันธมิตรทางผลประโยชน์หรือเป็นดั่งพี่น้อง?
……….
จินเหว่ยห่าวเป็นคนฉลาดเช่นเดียวกันกับเย่เชียนซึ่งเย่เชียนก็สามารถเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของจินเหว่ยห่าวได้และเย่เชียนเองก็ชื่นชมความกล้าหาญและไหวพริบของจินเหว่ยห่าวมากเพราะการสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆและเข้าใจอย่างละเอียดได้นั้นมักจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมี ซึ่งถ้าพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วเราจะสามารถวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้องและคิดแผนการขั้นต่อไปอย่างราบรื่นและนี่คือสิ่งที่จินเหว่ยห่าวทำ
เย่เชียนนั้นไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเมื่อเขาย่างก้าวเข้าไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่ตอนนั้นจินเหว่ยห่าวจะจับตาดูเขา ซึ่งตั้งแต่นั้นมาจินเหว่ยห่าวก็รับรู้เรื่องราวของเขามาโดยตลอดและประกอบกับสิ่งที่จินเหว่ยห่าวพูดเมื่อวานนี้แล้วดูเหมือนว่าเย่เชียนจะเริ่มเข้าใจสิ่งต่างๆมากขึ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เย่เชียนต้องการในตอนนี้ไม่ใช่การร่วมมือเพราะสิ่งที่เย่เชียนต้องการคือการดูว่าเขาจะได้รับผลตอบแทนจากการร่วมมือกับจินเหว่ยห่าวมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเย่เชียนกับจินเหว่ยห่าวยังไม่ได้บรรลุความสัมพันธ์แบบพวกพ้องดังนั้นเย่เชียนจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพยายามทำอะไร แน่นอนว่าจินเหว่ยห่าวเองก็ไม่ได้เห็นเขาเป็นพวกพ้องเช่นกัน ดังนั้นเย่เชียนต้องรู้ให้ได้ว่าจินเหว่ยห่าวมีความคิดอย่างไรในใจและมีจุดประสงค์แบบไหน
ส่วนหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและดวงตาของเขาก็จ้องมองไปที่จินเหว่ยห่าวเพราะชายหนุ่มคนนี้มีอะไรที่คล้ายๆกับเย่เชียนมากจนเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมจินเหว่ยห่าว ซึ่งหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็รู้เรื่องราวของตระกูลจินเป็นอย่างดี ถ้าหากโชคชะตาไม่เล่นตลกกับจินเหว่ยห่าวล่ะก็บางทีตระกูลจินอาจจะสนับสนุนเขาอย่างมากเพราะชายหนุ่มคนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถเติบโตและพัฒนาได้เป็นอย่างมากในอนาคตและความสำเร็จที่เขาสร้างขึ้นมานั้นอาจจะยิ่งใหญ่อย่างมากก็เป็นได้
อันที่จริงหลี่เหว่ยมักจะดูเหมือนคนงี่เง่าและเขาก็ไม่คิดให้รอบคอบในสิ่งที่เขาทำเพราะเขามักทำตามความประสงค์ของตัวเองและทำทุกอย่างที่เขาต้องการอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามก็มีอยู่หนึ่งอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้เพราะเขานั้นมักจะมีคำพูดที่สวยหรูและดึงดูดใจฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะศัตรูหรือมิตรก็ตาม
เมื่อวานที่หลี่เหว่ยสะกดรอยตามจินเหว่ยห่าวไปเขาจงใจเปิดเผยที่อยู่ของเขา ไม่อย่างนั้นด้วยทักษะการสะกดรอยตามที่ยอดเยี่ยมที่สุดในองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าของหลี่เหว่ยแล้วจินเหว่ยห่าวจะไม่มีทางค้นพบเขาหรือรู้ตัวได้เลย แน่นอนว่าเขาอยากที่จะช่วยจินเหว่ยห่าวสักครั้งและแน่นอนว่าเขาทำได้เพียงแค่พาจินเหว่ยห่าวมาหาเย่เชียนเท่านั้นส่วนการตัดสินใจและส่วนที่เหลือนั้นเย่เชียนจะเป็นคนตัดสินใจ
จินเหว่ยห่าวสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าคุณเย่น่าจะเข้าใจความรู้สึกของผมดีว่าใครๆเพราะผมเห็นว่าคุณเย่นั้นเห็นคุณค่าของความรักมาโดยตลอด..ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่เสี่ยงชีวิตไปช่วยแม่ม่ายดำจือเหวินแบบนั้นหรอก..ผมผู้หญิงที่ผมรักตายต่อหน้าต่อตาจนรู้สึกไร้อำนาจและเกือบจะหายใจไม่ออกและที่สำคัญกว่านั้นในฐานะทายาทของตระกูลจินแล้วผมรู้ดึกด้อยค่าและพวกเขาก็ไม่แยแสผมเลย..ซึ่งทำให้ผมโกรธแค้นมากและตั้งแต่นั้นมาผมก็ได้แต่พึ่งพาตัวเองและทำให้ผมเข้าใจว่ามีเพียงแค่ตัวเองเท่านั้นที่เชื่อถือได้แต่เมื่อผมเห็นคุณเย่ผมก็เชื่อมั่นในความคิดของผมและผมก็ยินดีที่จะเดิมพันหมดหน้าตักเพื่อร่วมมือกับคุณ..ข้อเท็จจริงนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าวิสัยทัศน์ของผมไม่ผิดเพราะในเวลาเพียงไม่กี่ปีการพัฒนาของคุณเย่เป็นไปได้อย่างน่าประหลาดใจ”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะจินเหว่ยห่าวก็พูดต่อ “พอผมมาที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือผมก็บังเอิญพบผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูคล้ายกับคนรักของผมมากและผมก็คิดว่ามันเป็นพรของพระเจ้าสำหรับผมเพื่อที่ผมจะได้ชดเชยความรักที่มีต่อเธออีกครั้ง..เธอคนนั้นเหมือนคนรักของผมเธอทั้งใสซื่อและใจดี..ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเพียงผู้หญิงจากครอบครัวธรรมดาๆแต่เธอก็ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน..ผมรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้านและผมก็สาบานว่าในชีวิตนี้ผมจะไม่ทำร้ายเธอและจะดูแลเธอให้ดี..แต่พอสิ่งต่างๆเริ่มจะไปด้วยดีก็ดูเหมือนพระเจ้าจะเล่นตลกกับผมอีกครั้งโดยการมอบโศกนาฏกรรมที่ซ้ำรอยอีกครั้งให้กับผมจนผมไม่มีวันลืมมันได้..ผมเฝ้าดูเธอหมดลมหายใจอยู่ในอ้อมแขนของผมจนรู้สึกเหมือนหัวใจของผมมันสลายไปแล้ว”
ดวงตาของจินเหว่ยห่าวดูเศร้ามากจนทำให้คนรอบข้างอดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดไปด้วย ดวงตาแบบนี้แทบจะทำลายหัวใจของผู้หญิงทุกคนได้และแม้แต่ผู้ชายเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าเมื่อเห็นมัน
“มันค่อนข้างที่จะโหดร้ายเพราะงั้นผมหวังว่าคุณเย่จะไม่เข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้” จินเหว่ยห่ายสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “เพราะงั้นผมถึงต้องการที่จะแก้แค้นโอ่วหยางหมิงซวนด้วยตัวเองและผมจะไม่ยืมมือของคุณเย่และไม่ทำให้มือคุณต้องเปื้อนเลือดเด็ดขาดเพราะงั้นคุณเย่สบายใจได้เลย”
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะเห็นอกเห็นใจต่อประสบการณ์และเรื่องราวที่เลวร้ายของจินเหว่ยห่าวมากแค่ไหนก็ตามแต่ความเห็นอกเห็นใจนั้นไม่สามารถใช้เป็นเงื่อนไขในการช่วยเหลือจินเหว่ยห่าวได้ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ต้องนึกถึงผลประโยชน์ขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าก่อนเสมอเพราะพี่น้องทุกคนต่างก็เสี่ยงชีวิตของพวกเขากว่าจะมีทุกวันนี้ได้ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องคำนึงสิ่งต่างๆสำหรับพี่น้องก่อนเสมอ
“ผมอยากรู้ว่าคุณมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง?..ผมควรจะเสี่ยงช่วยคุณงั้นเหรอ?” เย่เชียนพูด
“มันก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของคุณเย่” จินเหว่ยห่าวพูด “ตระกูลจินเป็นตระกูลใหญ่และเป็นทายาทของลัทธิเต๋าเพราะงั้นพวกเขาก็มีอำนาจเด็ดขาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจนเกือบไปถึงประเทศรัสเซีย..ผมคิดว่าสิ่งที่คุณเย่สนใจน่าจะเป็นประเทศจีนทั้งประเทศเพราะที่นี่มันแคบเกินไปที่จะกักขังมังกรอย่างคุณเย่ได้เพราะงั้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเองก็เป็นหนึ่งดินแดนที่คุณเย่อยากจะครอบครองเช่นกัน..ครั้งที่แล้วผมรู้ว่ามันน่าเสียดายที่ผลลัพธ์ออกมาไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่”
เย่เชียนก็แสยะยิ้มเพราะเขารู้ว่าสิ่งที่จินเหว่ยห่าวพูดหมายถึงอะไร ซึ่งจินเหว่ยห่าวกำลังบอกว่าเย่เชียนสามารถใช้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อขยายอำนาจและอิทธิพลขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าได้อย่างอิสระ ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้เย่เชียนจะมีพันธมิตรอย่างมาเฟียคลูลอฟส์ก็ตามแต่พลังของเขี้ยวหมาป่าในประเทศรัสเซียก็ยังน้อยอยู่มากแต่ถ้าหากอำนาจและอิทธิพลของเขี้ยวหมาป่าในประเทศรัสเซียมีมากกว่านี้ล่ะก็มันจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาของเขี้ยวหมาป่าและแม้กระทั่งเผชิญหน้ากับประเทศจีนได้
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ได้ยินอย่างชัดเจนว่าจินเหว่ยห่าวหมายถึงอะไรและเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เป็นความจริงที่ตระกูลจินนั้นมีอำนาจเด็ดขาดอย่างสมบูรณ์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเหตุผลที่จินเหว่ยห่าวไม่สามารถประสบความสำเร็จได้นั้นก็เป็นเพราะตระกูลจินขัดขวางและปิดกั้นสิ่งต่างๆ แต่ถ้าหากจินเหว่ยห่าวได้เป็นผู้นำตระกูลจินล่ะก็สถานการณ์ทั้งหมดจะแตกต่างไปอย่างมาก
ใช้ความจริงใจเป็นเกณฑ์และความสนใจเป็นเป้าหมายในการบรรลุความสัมพันธ์แบบร่วมมือกัน สิ่งหนึ่งขาดไม่ได้เลยก็คือถ้าหากไม่มีความจริงใจเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบล่ะก็ทั้งสองฝ่ายจะดูไม่ซื่อสัตย์ต่อกันและการร่วมมือในอนาคตก็จะตึงเครียดและมีแต่ความหวาดระแวง ดังนั้นความจริงใจและความเชื่อใจจึงเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดที่จะรับประกันความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายและถ้าหากไม่มีผลประโยชน์ล่ะก็การร่วมมือกันก็ไม่จำเป็นเลย ยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนและจินเหว่ยห่าวก็ไม่ใช่พี่น้องกันดังนั้นหากไม่มีความสนใจหรือผลประโยชน์ใดๆล่ะก็เย่เชียนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องร่วมมือกับเขาเลย แต่บางทีวันหนึ่งพวกเขาอาจจะกลายเป็นเหมือนพี่น้องกันก็ได้และถ้าหากเป็นแบบนั้นเย่เชียนก็จะได้รับผลประโยชน์มากขึ้นอย่างไม่ต้องหวาดระแวงใดๆ
หลังจากเงียบไปสักพักจู่ๆเย่เชียนก็ยืนขึ้นพร้อมกับยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า “ยินดีที่ได้ร่วมงานกัน!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจินเหว่ยห่าวก็ฉีกยิ้มแล้วจับมือกับเย่เชียนและพูดว่า “ยินดีที่ได้ร่วมมือเช่นกัน!”
“ผมหวังว่าเราจะไม่ใช่แค่ร่วมมือกันเท่านั้นแต่ในอนาคตเราจะกลายเป็นพวกพ้อง!” เย่เชียนพูด
“ผมเองก็ตั้งตารอวันนั้นเหมือนกัน” จินเหว่ยห่าวพูด
ทันทีที่ทั้งสองคนพูดจบจู่ๆโทรศัพท์มือถือของเย่เชียนก็ดังขึ้น จากนั้นเย่เชียนก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ขอโทษแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูแล้วปรากฏว่าเป็นโอ่วหยางหมิงซวนที่โทรมา เมื่อกดรับสายเสียงของโอ่วหยางหมิงซวนก็ดังขึ้น “คุณเย่ เรื่องที่คุณขอให้ผมช่วยเรียบร้อยแล้วครับ..คืนนี้เจอกันที่บ้านพักของผมตอนสองทุ่มตรงคุณสะดวกหรือเปล่า?”
“โอ้..ขอบคุณนายน้อยโอ่วหยางมากครับ..ถ้าไม่ใช่เพราะคุณผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน..ถ้างั้นคืนนี้สองทุ่มตรงเจอกันครับ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ยินดีครับเพราะนี่คือสิ่งที่ผมควรทำ..มันเป็นเกียรติของโอ่วหยางหมิงซวนคนนี้มากที่ได้ช่วยเหลือคุณเย่..นอกจากนี้ชาฮัวเอียนก็เป็นเพื่อนของผมเพราะงั้นถ้าเราได้พูดคุยกันบางทีเราอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดก็ได้..หากพวกเราสามคนร่วมมือกันได้ล่ะก็อนาคตของพวกเราจะยิ่งใหญ่มาก” โอ่วหยางหมิงซวนพูด
“ขอบคุณนายน้อยโอ่วหยางมากครับ..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็ต้องขอบคุณนายน้อยอยู่ดี..เอาไว้เจอกันคืนนี้ครับ” เย่เชียนพูดแล้ววางสายหลังจากพูดกันไม่กี่คำ
“บอสแล้วพวกเราควรเตรียมอะไรหรือเปล่า?” ม่อหลงถาม
“เตรียมอะไร?..ทำไมเราต้องเตรียม?” เย่เชียนฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนนี้โอ่วหยางหมิงซวนกำลังเข้าหาเราอย่างไม่ลดละเพราะงั้นเราไม่ควรแสดงความอ่อนข้อออกไปและไม่จำเป็นต้องเตรียมของขวัญใดๆทั้งนั้น..ไม่งั้นเขาจะได้ใจ”
“ไม่ใช่ของขวัญบอส!..โอ่วหยางหมิงซวนคนนี้ไม่ธรรมดาและเราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะวางแผนสกปรกอะไรเอาไว้หรือเปล่าและอีกอย่างชาฮัวเอียนก็เป็นลูกศิษย์ของตู้ฟู่เหว่ยเพราะงั้นถ้าหากโอ่วหยางหมิงซวนอยู่กับชาฮัวเอียนเราก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อม..อีกอย่างพวกเขาสนิทกันพอสมควรเพราะงั้นพวกเขาอาจจะหักหลังเราก็ได้..ฉันเกรงว่าโอ่วหยางหมิงซวนอาจจะช่วยชาฮัวเอียนอยู่ก็ได้เพราะงั้นเราต้องระมัดระวังตัวให้มากๆ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเพราะถ้าหากชาฮัวเอียนเล่นสกปรกกับพวกเราจริงๆล่ะก็มันจะละเมิดข้อตกลงระหว่างเรากับตู้ฟู่เหว่ย..จากนั้นพวกเขาจะถูกเยาะเย้ยและเสียศักดิ์ศรีอย่างมาก..ดีแล้วที่ชาฮัวเอียนเป็นลูกศิษย์ของตู้ฟู่เหว่ยเพราะเขาจะต้องรู้ว่าข้อตกลงของเรากับตู้ฟูเหว่ยเป็นยังไง..ดังนั้นเขาคงไม่โง่พอที่จะทำอย่างนั้นเพราะงั้นไม่ต้องกังวลไปหรอก”
“สมแล้วที่เป็นราชาหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่..ความกล้าหาญนี้เหนือคนธรรมดามากจริงๆ” จินเหว่ยห่าวพูด “ผมเองก็คิดว่าชาฮัวเอียนคงไม่โง่พอที่จะทำอะไรแบบนั้นหรอกเพราะเท่าที่รู้มาเขาไม่ใช่คนแบบนั้น”
เย่เชียนก็ตกตะลึงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณจินจะรู้เรื่องของชาฮัวเอียนดีเลยนะ”
คำพูดของจินเหว่ยห่าวนั้นทำให้เย่เชียนสนใจมากและทำให้เย่เชียนตระหนักถึงความสามารถของชายหนุ่มคนนี้มากขึ้นเพราะถ้าหากร่วมมือกันได้เป็นอย่างดีล่ะก็เขาจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าในอนาคตอย่างแน่นอน
.
.
.
.