ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่644 ฮองเฮาเข้าวัง
ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 644
ภรรยาท่านแม่ทัพยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“และรีบกำหนดงานแต่งงานซะ จวนแม่ทัพของพวกข้าจะได้เป็นสถานที่จัดงานที่ดีและยิ่งใหญ่!”
อะไรนะ?!
พาหนานหว่านเยียนเข้าวัง?!
นี่มิเท่ากับกลับไปในดงหมาป่าหรือ
เสียงในลำคอของหยุนเหิงแทบจะกระโดดออกมา รีบเอ่ยว่า“ท่านแม่ เหตุการณ์เช่นนี้ ถึงเวลานั้นล้วนเป็นผู้หญิง ข้าเป็นบุรุษเพียงผู้เดียว เกรงว่าจะมิเหมาะสม”
“และอีกอย่าง พวกข้ามีเวลาส่วนตัวอีกมากที่จะพานางไปให้ไทเฮาได้เชยชม เหตุใดถึงจะต้องไปในวันรุ่งขึ้นด้วย นางก็ยังมิได้เตรียมตัว เมื่อถึงเวลานั้นได้ทำให้ไทเฮาขุ่นเคือง จะมิเป็นการดีนัก”
ภรรยาท่านแม่ทัพเถียงกลับมาว่า“มิได้ เจ้าต้องไปในวันรุ่งขึ้นเท่านั้น”
“เจ้ามิรู้หรือ ฮองเฮาตายไปสองเดือนแล้ว วันรุ่งขึ้นเป็นงานเลี้ยงชมดอกไม้ มิใช่เพราะจะให้ฮ่องเต้เลือกนางสนม แต่เป็นการแต่งตั้งโหรวเฟยนั่น”
“เจ้าเป็นแม่ทำน้อยมิเข้าวังเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หาต่อไปเกิดเรื่องอันใดขึ้นมา จะถูกลงโทษเอาได้! และอีกอย่าง หายังมิรีบกำหนดงานแต่งกับหญิงในใจเจ้า ก็จะปิดมิอยู่แล้ว”
ท้องก็ใหญ่เยี่ยงนี้แล้ว ยังจะประวิงเวลามิยอมไปสู่ขอ เจ้าเด็กโง่หยุนเหิงนี่กำลังรอสิ่งใดอยู่?
เรื่องราวก็พูดมาจนถึงขั้นนี้แล้ว หากหยุนเหิงจะยังคงปฏิเสธต่อไป มันก็จะดูแปลก
“ก็ได้ ข้าเข้าใจแล้วท่านแม่ วันรุ่งขึ้นข้าจะพานางเข้าวัง”
ภรรยาท่านแม่ทัพเผยรอยยิ้มทันที“เจ้าทำถูกแล้ว นี่สิถึงจะเป็นลักษณะที่บุตรของจวนแม่ทัพควรจะเป็น”
หลังจากนั้น นางก็หันไปยิ้มให้หนานหว่านเยียน“แม่นาง พวกเจ้าคุยกันไปเถิด แม่ขอตัวก่อน”
“ฮูหยินเดินทางดีๆ”หนานหว่านเยียนยิ้มตอบรับ แต่ก็ยังคงมิเงยหน้าขึ้นมา
รอจนกระทั่งภรรยาท่านแม่ทัพเดินหายไปสุดสายตา หยุนเหิงจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฟิงยางมองไปที่หนานหว่านเยียนด้วยสายตาที่จริงจัง“จวิ้นจู่ ตอนนี้ควรทำเช่นไรดี?”
“มิง่ายเลยที่ท่านจะหนีออกมาจากวังได้ หาว่ากลับเข้าวังแล้วถูกคนจำได้ นั่นก็ยุ่งยากแล้ว”
ความรับผิดชอบของนางคือคอยปกป้องจวิ้นจู่ เพื่อความปลอดภัยของอนาคตฮองเฮาของแคว้นต้าเซี่ย จะมิยอมให้เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นกับจวิ้นจู่เป็นแน่
แต่สถานการณ์ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเกินจากที่นางคาดการณ์ไว้มาก
หยุนเหิงกระโดดออกมาอย่างกระวนกระวาย อธิบายต่อหนานหว่านเยียนไปว่า“ขออภัยขออภัย ฮองเฮาเหนียงเหนียง ข้าคิดมิถึงจริงๆ ว่าท่านแม่ข้าจะมา”
“ข้าก็มิอยากทำให้ท่านตกอยู่ในอันตราย แต่ว่า หากข้ามิได้ใช้กลอุบายหลอกแม่ข้าไปนั้น นางจะต้องสงสัยเป็นแน่…”
หนานหว่านเยียนฟังความวิตกและความกังวลของสองคนที่อยู่ด้านข้าง ในใจกลับเกิดความคิดที่ต่างกันออกไป
บางทีการเข้าวังครานี้ อาจจะเป็นโอกาส
เพราะตอนนั้นนางก็มิเข้าใจ ว่าทำไมเกี๊ยวน้อยจู่ๆ ถึงได้สะบัดมือออกและวิ่งกลับไป เป็นเพราะนางมิอยู่ หรือเป็นเพราะเหตุผลอื่น?
เข้าวังครานี้ นางมิเพียงจะเข้าใจความคิดของลูก และยังมีโอกาสได้พาลูกออกมาด้วย
“เฟิงยาง แม่ทัพน้อย มิเป็นไร วันรุ่งขึ้นข้าจะจัดการตนเอง มิทำให้ผู้อื่นจำได้เป็นแน่”
เมื่อได้ยินหนานหว่านเยียนรับปากเช่นนี้ เฟิงยางก็ยังรู้สึกว่ามิเหมาะสม“จวิ้นจู่ ท่านเข้าวังคนเดียวอันตรายเกินไป ขอให้ท่านพาบ่าวไปด้วย”
หนานหว่านเยียนมิมีข้อโต้แย้ง“ได้ งั้นวันรุ่งขึ้น เจ้าก็เข้าวังไปพร้อมข้าเถิด”
จู่ๆ หยุนเหิงก็ก้มหัวลงอย่างเกรงใจ“ฮองเฮาเหนียงเหนียง มีเรื่องหนึ่ง ที่ข้าอยากขอร้องท่าน”
“ท่านแม่ข้าคงมิหลงกลง่ายๆ ก่อนที่จะไปรับองค์หญิงใหญ่นั้น ท่านช่วยทนอยู่กับข้าที่นี่ก่อนได้หรือไม่ รอท่านเสร็จเรื่องแล้ว ข้าจะบอกท่านแม่ว่าพวกข้ามิได้รักกันแล้ว ท่านค่อยจากไป…”
หนานหว่านเยียนเอ่ยขอโทษ“อย่าเอ่ยเยี่ยงนี้ เดิมทีเป็นข้าที่มาหาเจ้า กลับทำให้เจ้าขึ้นหลังเสือยากจะลง ท่านวางใจเถิด มิว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าจะมิให้เกิดเรื่องอันใดกับเจ้าเป็นอันขาด”
หยุนเหิงกลับมีความรู้สึกมีความสุขและยิ้มออกมา“ท่านเกรงใจข้าทำไมกัน ท่านสามารถอยู่ที่นี่ได้ กลับเป็นการทำให้ข้ารอดพ้นจากวิกฤต ท่านคงมิรู้ ท่านแม่อยากให้ข้าแต่งงานตั้งนานแล้ว ลากข้าไปเจอกับหญิงอื่นครั้งแล้วครั้งเล่า”
หนานหว่านเยียนยิ้ม มิได้เอ่ยสิ่งใดเยอะ หยุนเหิงไปจัดห้องให้หนานหว่านเยียนด้วยตนเอง เพื่อให้หนานหว่านเยียนและเฟิงยางได้เข้าพัก
รอจนจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หยุนเหิงถึงได้กลับเข้าห้องตน เขานั่งลงดื่มชา มิรู้ว่าทำไมถึงได้นึกถึงใบหน้าหล่อเหลาที่เย็นชาของกู้โม่หาน
หากฮ่องเต้รู้นั้น ว่าเขาแอบซ่อนฮองเฮาเหนียงเหนียงไว้ ท่านแม่ของเขายังคิดที่จะให้เขาแต่งงานกับฮองเฮาเหนียงเหนียง ให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงกลายมาเป็นภรรยาของเขา คงจะโกรธจนตัดหัวของเขาทิ้งเป็นแน่…
คิดถึงตรงนี้ หยุนเหิงก็เกิดอาการสั่น รีบปลอบใจตนเองทันทีว่ามิใช่หรอกมิใช่หรอก ในหัวใจและสายตาของฮ่องเต้ตอนนี้เต็มไปด้วยหยุนอี่ว์โหรว ยังมิมาใส่ใจฮองเฮาเหนียงเหนียง…
เช้าวันรุ่งขึ้น หยุนเหิงเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และมาที่หน้าห้องของหนานหว่านเยียน ตั้งใจจะพานางเข้าวัง
เขาจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมมากเป็นพิเศษ กระแอมเบาๆ แล้วเคาะเบาๆ ไปที่ประตูห้องของหนานหว่านเยียน“เหนียงเหนียง ท่านเตรียมตัวเสร็จหรือยัง?”
จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากคนด้านใน แต่ผู้ที่หยุนเหิงได้เห็นนั้น ทำให้เขาตกตะลึงไปชั่วขณะ
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ามิใช่หนานหว่านเยียน และมิใช่เฟิงยางคนที่เขาเห็นเมื่อคืน แต่เป็นหญิงที่หน้าตาธรรมดา มิมีสิ่งใดที่สะดุดตาเลย
นางสวมเสื้อผ้าที่แสนจะธรรมดา หยุนเหิงถามอย่างสงสัยว่า“ท่านเป็นใคร ฮองเฮาเหนียงเหนียงเล่า?”
สาวใช้หัวเราะเบาๆ และพึงพอใจกับการตอบสนองของหยุนเหิงมาก“เป็นข้านี่แหละ”
อะไรนะ?!
หยุนเหิงมองหนานหว่านเยียนที่อยู่ตรงหน้าเขาที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างตกใจ ตกตะลึงจะพูดมิออก“ท่านคือฮองเฮาเหนียงเหนียง?!”
เปลี่ยนหน้าได้ภายในคืนเดียว หาว่านางมิพูด เขาก็มิอาจจะมองออกได้!
“ฝีมือการแต่งหน้าของเฟิงยางยอดเยี่ยมแท้ แม้กระทั่งเจ้ายังจำมิได้ นั่นแปลว่ามิมีปัญหาใด”หนานหว่านเยียนจะเข้าวัง แน่นอนว่านางจะไม่เข้าไปแบบซึ่งๆ หน้า นางได้เตรียมการไว้แล้ว ตั้งใจเลือกเสื้อผ้าที่หลวงเป็นพิเศษ เพื่อปกปิดท้องน้อยที่กำลังตั้งครรภ์ของนาง“เรื่องมิควรช้า พวกข้าเข้าวังเถิด”
หยุนเหิงยังคงชื่นชมฝีมือการแต่งหน้าของเฟิงยาง“พะยะค่ะ”
ก่อนออกจากประตู หนานหว่านเยียนได้กันไปกำชับกับหยุนเหิงอีกครา“ท่านแม่ทัพน้อย วันนี้ข้าและเฟิงยางเป็นคนรับใช้ของท่าน ข้าจะพยายามสุดความสามารถที่จะมิสร้างปัญหาให้ท่าน”
หยุนเหิงกลับมิสนใจสิ่งนี้“มิเป็นไร ทำตามที่ฮองเฮาเหนียงเหนียงสั่งเลย ถูกแล้ว หลังจากเข้าวัง ข้าจะเรียกท่านว่าไป๋จื่อแล้วกัน แม่นางเฟิงยางก็ยังเป็นเฟิงยาง”
“อืม”หนานหว่านเยียนพยักหน้าอย่างยิ้มแย้ม ชื่อไป๋จื่อนี้ นางกลับชอบเสียจริง
สามคนได้เข้าไปที่ประตูวัง หนานหว่านเยียนก็ได้เห็นใบหน้าที่นางคุ้นเคย
ดวงตาสีเข้มของนางเกิดการสั่นไหว รีบก้มหัวลงทันที…